เนื่องจากเป็นบ้านเช่าที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย จึงทำให้ผู้เช่าค่อนข้างเป็นกันเองและถูกมากถ้าเทียบกับค่าเช่าในบริเวณเดียวกัน เนื่องจากไม่เคยขึ้นค่าเช่าเลย และไม่ได้ทำสัญญาเช่าในแต่ละบ้าน มีแค่เพียงออกใบเสร็จให้กับผู้เช่าเพื่อยืนยันการจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือน และผมเก็บต้นขั้วใช้เป็นหลักฐานเพื่อจะนำไปใช้ยื่นภาษีโรงเรือนในแต่ละปีด้วย (เทศบาลไม่เชื่อว่าค่าเช่าจะถูกขนาดนั้น จนต้องนำต้นขั้วของใบเสร็จไปยืนยันด้วยทุกปี)

ต่อมามีบ้านหนึ่งโอนสิทธิให้กับคนอื่นเพื่อมาเช่าแทน ซึ่งผม (สมมุติเป็น A) ได้คุยกับผู้เช่าคนใหม่ (สมมุติเป็น B) และเปลี่ยนชื่อในใบเสร็จเป็น (B) เพื่อที่จะมาเก็บเงินในแต่ละเดือน แต่ปรากฏว่า ผู้เช่าคนใหม่ ไม่ได้เช่าเพื่ออยู่อาศัย แต่ทำการให้เช่าช่วงต่อ ให้กับผู้เช่าอีกคนหนึ่ง (สมมุติเป็น C) โดยที่ (B) มีการทำสัญญาเช่ากับ (C) เป็นราย 6 เดือน และแพงกว่าค่าเช่าปกติมากกว่า 3 เท่า โดยที่ (C) รับรู้ว่า มี (A) เป็นเจ้าของบ้าน โดย (B) เป็นคนบอกตอนทำสัญญา และ (C) จะจ่ายค่าเช่าให้กับ (B) เท่านั้น ส่วน (A) ต้องเก็บค่าเช่ากับ (B) ตามปกติ

เนื่องจากบ้านเช่าเหล่านี้ ผมต้องเดินทางเพื่อไปเก็บค่าเช่าเอง เดือนละครั้ง ทำให้บ่อยครั้งที่ผมไปแล้วไม่เจอผู้เช่า โดยเฉพาะบ้าน (B) ที่ผมไม่เคยเจอตัวอีกเลย (ไปก็เจอแต่ C แต่เขาไม่ยอมจ่ายผมโดยตรง) และ (B) ยังเคยติดค้างค่าเช่าถึง 5 เดือน แต่ล่าสุดก็โอนย้อนหลังมาให้ผม (โดยลูกสาวของ B) และตอนนี้เริ่มติดค้างใหม่แล้วเป็นเดือนที่สอง

คำถามดังนี้ครับ
1. ถ้าผมไม่เห็นด้วยกับการเช่าช่วงแบบนี้ ผมสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้างครับ (เบื้องต้นผมแค่ต้องการเงินค่าเช่าตามปกติของผมที่ควรจะได้ทุกๆ เดือนอย่างสม่ำเสมอ)
2. ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ภาษีโรงเรือน จะคำนวณอย่างไร สมมุติว่า (A) ให้ (B) เช่าในราคา 1000 บาท และ (B) ให้ (C) เช่าช่วงต่อในราคา 3000 บาท ค่าภาษีโรงเรือนสำหรับบ้านนี้ จะเป็น 1000x12x12.5% = 1500 บาท หรือ 3000x12x12.5% = 4500 บาท?
3. สามารถร่างสัญญาขึ้นมาใหม่กับผู้เช่าทุกบ้าน ได้หรือไม่อย่างไรครับ