คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
>>> 1_คมชัดแบบปืนยิงบาร์โค้ดอ่านออก
จริง ๆ แล้ว Inkjet ก็ใช้ได้ครับ
แต่ถ้าจะให้เหมาะ ก็เลือก Laser จึงจะตรงกับงานที่สุดครับ
>>> 3_ไม่ตันง่ายเพราะ 1ปี ใช้งานอยู่แค่2-3เดือนเช่น ใช้ พ.ย.-ม.ค. แล้วก็เก็บไว้ใช้อีกทีก็พ.ย. ล้างหัวพิมพ์เองได้ยิ่งดี
ถ้าเป็น Laser ก็ไม่มีเรื่องหัวพิมพ์ตันครับ เพราะไม่ได้ใช้ระบบหมึกน้ำ
>>> 5_ต้องการเครื่องที่ กระดาษไม่ติดเครื่อง
ไม่ว่าจะยี่ห้อใด รุ่นใด ระบบใด
หากเลือกกระดาษผิด
หรือเก็บกระดาษไม่ดี (ที่เกฺ็บ มีความชื้น)
ก็เกิดปัญหา ได้ทั้งนั้น ครับ
ผมเคยใช้ Laser มา ก็เจอเรื่องกระดาษติด ไม่ต่างกับ INkjet ครับ
>>> 4_กระดาษที่ใช้เป็น A4 แล้วเอามาตัดเป็นเครื่องหมาย+
>>> 6_ใส่กระดาษได้เยอะ (โดยเป็นกระดาษตัดเองแบบข้อ4) หรือสามารถใส่กระดาษได้ทั้งบนและล่าง
>>> 7_ปรับขนาดช่องใส่กระดาษให้พอดีกับข้อ4ได้
สามข้อนี้ คุณควรถ่ายรูป กระดาษ มาดูสักหน่อยครับ
แต่ว่า หากกระดาษเป็นขนาด A4
ควร Print ให้เสร็จ แล้วค่อยตัด ครับ
ไม่ควรตัด แล้วค่อยใส่เข้าไป Print
>>> 8_หมึกเติมหรือเปลี่ยนง่าย ไม่เกิน1000
ข้อนี้ คุณต้องทำใจ สักหน่อยครับ
Laser = ต้นทุนสูงครับ
ค่าหมึก คำนวณแล้วแผ่นละประมาณ 1 บาท
(ยกเว้น จะหาหมึกเทียบเท่าได้ ในราคาถูก)
>>> 9-ไม่กินไฟมาก
ข้อนี้ เลี่ยงไม่ได้ครับ
Laser ใช้ระบบความร้อนในการทำงาน ครับ
หากไม่ได้ยึดติด ว่า จะต้องใช้หมึกแท้
พอ ดู ๆ เลือก ๆ แล้วว่า จะซื้อรุ่นใด
ก็ควรดูในนี้ ครับ
ว่า รุ่นดังกล่าว มีหมึกเทียบเท่า ขายหรือไม่
รวมถึง Drum ด้วยครับ
เพราะนี่คือค่าใช้จ่ายที่จะบานปลาย
https://www.advice.co.th/product/toner-remanu-and-refill
จริง ๆ แล้ว Inkjet ก็ใช้ได้ครับ
แต่ถ้าจะให้เหมาะ ก็เลือก Laser จึงจะตรงกับงานที่สุดครับ
>>> 3_ไม่ตันง่ายเพราะ 1ปี ใช้งานอยู่แค่2-3เดือนเช่น ใช้ พ.ย.-ม.ค. แล้วก็เก็บไว้ใช้อีกทีก็พ.ย. ล้างหัวพิมพ์เองได้ยิ่งดี
ถ้าเป็น Laser ก็ไม่มีเรื่องหัวพิมพ์ตันครับ เพราะไม่ได้ใช้ระบบหมึกน้ำ
>>> 5_ต้องการเครื่องที่ กระดาษไม่ติดเครื่อง
ไม่ว่าจะยี่ห้อใด รุ่นใด ระบบใด
หากเลือกกระดาษผิด
หรือเก็บกระดาษไม่ดี (ที่เกฺ็บ มีความชื้น)
ก็เกิดปัญหา ได้ทั้งนั้น ครับ
ผมเคยใช้ Laser มา ก็เจอเรื่องกระดาษติด ไม่ต่างกับ INkjet ครับ
>>> 4_กระดาษที่ใช้เป็น A4 แล้วเอามาตัดเป็นเครื่องหมาย+
>>> 6_ใส่กระดาษได้เยอะ (โดยเป็นกระดาษตัดเองแบบข้อ4) หรือสามารถใส่กระดาษได้ทั้งบนและล่าง
>>> 7_ปรับขนาดช่องใส่กระดาษให้พอดีกับข้อ4ได้
สามข้อนี้ คุณควรถ่ายรูป กระดาษ มาดูสักหน่อยครับ
แต่ว่า หากกระดาษเป็นขนาด A4
ควร Print ให้เสร็จ แล้วค่อยตัด ครับ
ไม่ควรตัด แล้วค่อยใส่เข้าไป Print
>>> 8_หมึกเติมหรือเปลี่ยนง่าย ไม่เกิน1000
ข้อนี้ คุณต้องทำใจ สักหน่อยครับ
Laser = ต้นทุนสูงครับ
ค่าหมึก คำนวณแล้วแผ่นละประมาณ 1 บาท
(ยกเว้น จะหาหมึกเทียบเท่าได้ ในราคาถูก)
>>> 9-ไม่กินไฟมาก
ข้อนี้ เลี่ยงไม่ได้ครับ
Laser ใช้ระบบความร้อนในการทำงาน ครับ
หากไม่ได้ยึดติด ว่า จะต้องใช้หมึกแท้
พอ ดู ๆ เลือก ๆ แล้วว่า จะซื้อรุ่นใด
ก็ควรดูในนี้ ครับ
ว่า รุ่นดังกล่าว มีหมึกเทียบเท่า ขายหรือไม่
รวมถึง Drum ด้วยครับ
เพราะนี่คือค่าใช้จ่ายที่จะบานปลาย
https://www.advice.co.th/product/toner-remanu-and-refill
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแนะนำปริ้นเตอร์ตามลักษณะงานแบบนี้ด้วยครับ
เลยต้องการปริ้นเตอร์ที่มีคุณสมบัติ
1_คมชัดแบบปืนยิงบาร์โค้ดอ่านออก
2_ความเร็วในการปริ้นไม่น้อยกว่า24แผ่นต่อนาที
3_ไม่ตันง่ายเพราะ 1ปี ใช้งานอยู่แค่2-3เดือนเช่น ใช้ พ.ย.-ม.ค. แล้วก็เก็บไว้ใช้อีกทีก็พ.ย. ล้างหัวพิมพ์เองได้ยิ่งดี
4_กระดาษที่ใช้เป็น A4 แล้วเอามาตัดเป็นเครื่องหมาย+
5_ต้องการเครื่องที่ กระดาษไม่ติดเครื่อง
6_ใส่กระดาษได้เยอะ (โดยเป็นกระดาษตัดเองแบบข้อ4) หรือสามารถใส่กระดาษได้ทั้งบนและล่าง
7_ปรับขนาดช่องใส่กระดาษให้พอดีกับข้อ4ได้
8_หมึกเติมหรือเปลี่ยนง่าย ไม่เกิน1000
9-ไม่กินไฟมาก
งบไม่เกิน5000ครับ