คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
ความคิดเห็นที่ 23
และข้อห้ามที่คุณยกมาเป็นเรื่องของภิกษุเท่านั้น
ทีข้อห้าม เลิกเสพกาม คุณยังงดไม่ได้เลย
ยังกินข้างหลังเที่ยง แบบนี้ ถือว่า ผิดวินัยได้ไหม
ถ้าผิด ก็สมควรประนาม ใช่ไหม
เลือกคำตอบนี้ ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 3362963
4 ชั่วโมงที่แล้ว [IP: 107.167.116.86]
ตรรกะ วิบัติ นะครับท่าน
1 ผมร้องขอว่า ฆราวาสชาวพุทธ ต้องมาถือศีลอย่างพระ ตั้งแต่เมื่อใดกันครับ ?
กรุณา ชึ้ให้ดูหน่อยสิครับ ...... ว่าท่าน ไม่ได้ มโน ไปเอง
ผมแค่ถามว่า การกราบไหว้ ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ อะไรพวกนี้ เป็น ดิรัจฉานวิชา ไม่ใช่หรือ ?
พวกท่าน จะกลัว ความจริง ไปทำไมกันครับ ?
2 ท่านคิดว่า พระพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงห้าม หรือ ติเตียน ความเชื่อถือ งมงาย นอกพระพุทธศาสนา พวกนี้ เหรอครับ ?
แต่เท่าที่ผมทราบ พระพุทธเจ้าตรัสเรียก กลุ่มคน ที่มีความเชื่องมงาย ถือมงคลตื่นข่าว
แสวงหา และสนับสนุนสิ่งภายนอกพระศาสนา ว่าเป็น อุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด นะครับ
คำถาม ก็คือ พระพุทธเจ้า สนับสนุน ยกย่อง คนกราบศาลพระภูมิ หรือ ศาลพระพรหม ฯลฯ จริงๆ เหรอครับ ?
v
v
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๕. จัณฑาลสูตร
[๑๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อม
เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือ อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคล
ไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนในที่นอก
ศาสนานั้น ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็น
อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
อุบาสกย่อมเป็นผู้มีศรัทธา ๑ เป็นผู้มีศีล ๑ เป็นผู้ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรม
ไม่เชื่อมงคล ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนใน
ศาสนา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็น
อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=4798&Z=4811
และข้อห้ามที่คุณยกมาเป็นเรื่องของภิกษุเท่านั้น
ทีข้อห้าม เลิกเสพกาม คุณยังงดไม่ได้เลย
ยังกินข้างหลังเที่ยง แบบนี้ ถือว่า ผิดวินัยได้ไหม
ถ้าผิด ก็สมควรประนาม ใช่ไหม
เลือกคำตอบนี้ ตอบกลับ
0 0
สมาชิกหมายเลข 3362963
4 ชั่วโมงที่แล้ว [IP: 107.167.116.86]
ตรรกะ วิบัติ นะครับท่าน
1 ผมร้องขอว่า ฆราวาสชาวพุทธ ต้องมาถือศีลอย่างพระ ตั้งแต่เมื่อใดกันครับ ?
กรุณา ชึ้ให้ดูหน่อยสิครับ ...... ว่าท่าน ไม่ได้ มโน ไปเอง
ผมแค่ถามว่า การกราบไหว้ ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ อะไรพวกนี้ เป็น ดิรัจฉานวิชา ไม่ใช่หรือ ?
พวกท่าน จะกลัว ความจริง ไปทำไมกันครับ ?
2 ท่านคิดว่า พระพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงห้าม หรือ ติเตียน ความเชื่อถือ งมงาย นอกพระพุทธศาสนา พวกนี้ เหรอครับ ?
แต่เท่าที่ผมทราบ พระพุทธเจ้าตรัสเรียก กลุ่มคน ที่มีความเชื่องมงาย ถือมงคลตื่นข่าว
แสวงหา และสนับสนุนสิ่งภายนอกพระศาสนา ว่าเป็น อุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด นะครับ
คำถาม ก็คือ พระพุทธเจ้า สนับสนุน ยกย่อง คนกราบศาลพระภูมิ หรือ ศาลพระพรหม ฯลฯ จริงๆ เหรอครับ ?
v
v
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๕. จัณฑาลสูตร
[๑๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อม
เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือ อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคล
ไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนในที่นอก
ศาสนานั้น ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็น
อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
อุบาสกย่อมเป็นผู้มีศรัทธา ๑ เป็นผู้มีศีล ๑ เป็นผู้ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรม
ไม่เชื่อมงคล ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนใน
ศาสนา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็น
อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=4798&Z=4811
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ก็ไหว้แบบระลึกว่าท่านดีไง
ท่านดี จึงไปเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหมได้
ระลึกแบบเทวตานุสสติ
ผมไหว้คนนั้นคนนี้มากมายครับ แต่ผมยังไม่รู้ว่าเขาดีหรือไม่ดียังไงนะ
ไหว้ด้วยกาลเทศะบ้าง ด้วยวุฒิต่างๆบ้าง
แต่เทวดาและพรหมนี่ต้องดีจริงนะ ถึงจะได้ไป เรื่องนี้ไม่มีตุกติกหรือใต้โต๊ะ
คุณแน่ใจมั้ยครับ ว่าคุณตายไปแล้วจะไปไหน นรกหรือสวรรค์
ท่านดี จึงไปเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหมได้
ระลึกแบบเทวตานุสสติ
ผมไหว้คนนั้นคนนี้มากมายครับ แต่ผมยังไม่รู้ว่าเขาดีหรือไม่ดียังไงนะ
ไหว้ด้วยกาลเทศะบ้าง ด้วยวุฒิต่างๆบ้าง
แต่เทวดาและพรหมนี่ต้องดีจริงนะ ถึงจะได้ไป เรื่องนี้ไม่มีตุกติกหรือใต้โต๊ะ
คุณแน่ใจมั้ยครับ ว่าคุณตายไปแล้วจะไปไหน นรกหรือสวรรค์
ความคิดเห็นที่ 5
การระลึกถึงเทวดา คือ เทวตานุสติ เป็นอนุสติอย่างหนึ่งมีผลให้เกิดสมาธิ เป็นสิ่งดี
การได้เห็นสัญลักษณ์ของเทวดา เช่นศาลพระภูมิ ต้นไม้ ย่อมเป็นเครื่องเหนี่ยวนำให้ระลึกถึงเทวดา และคุณธรรมแห่งเทวดา
การเอาเครื่องเซ่นสรวงไปบูชา เทวดา ก็ไม่ใช่การทำบาปกรรม หากไม่ได้ด้วยการทำผิดศีลธรรม แต่ก็ยังไม่ใช่ทางพ้นจากทุกข์เท่านั้น
การเคารพนับถือ เอาเทวดาเป็นที่พึ่ง ก็ยังไม่ใช่ที่พึ่งที่ดี เพราะเทวดาก็มีกิเลส เช่นเดียวกับมนุษย์ ท่านจึงให้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
การได้เห็นสัญลักษณ์ของเทวดา เช่นศาลพระภูมิ ต้นไม้ ย่อมเป็นเครื่องเหนี่ยวนำให้ระลึกถึงเทวดา และคุณธรรมแห่งเทวดา
การเอาเครื่องเซ่นสรวงไปบูชา เทวดา ก็ไม่ใช่การทำบาปกรรม หากไม่ได้ด้วยการทำผิดศีลธรรม แต่ก็ยังไม่ใช่ทางพ้นจากทุกข์เท่านั้น
การเคารพนับถือ เอาเทวดาเป็นที่พึ่ง ก็ยังไม่ใช่ที่พึ่งที่ดี เพราะเทวดาก็มีกิเลส เช่นเดียวกับมนุษย์ ท่านจึงให้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
แสดงความคิดเห็น
กราบไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลพระพรหม ฯลฯ จะไม่เป็น ดิรัจฉานวิชา ได้อย่างไรครับ ?
ไปพบ บางเรื่อง ที่น่าสงสัย และไม่เห็นด้วยเลย น่ะครับ
คิอ เขาพยายามจะบอกว่า การกราบไหว้ ศาลเจ้า ศาลพระภูมิ อะไรพวกนี้ ไม่ผิด ไม่ใช่ ดิรัจฉานวิชา
แต่ข้อความจากพระสูตร มีที่ระบุเอาไว้ตรงๆ เลยนี่ครับ ว่าเรื่องพวกนี้เป็นดิรัจฉานวิชา
ดังนั้น ไม่ว่า พวกท่านจะยกพระสูตรอะไรมาอ้างก็ตาม ก็ไม่ควร "ตีความ" ให้ พระพุทธดำรัส "ขัดแย้ง" กันเอง ไม่ใช่หริอครับ ?
เป็นเพราะ มีความงมงายอยู่เป็นทุนเดิม แล้วหรือเปล่า ?
จึงได้พยายาม "ลาก" เอาพระสูตร มา "ตีความ" ให้เข้ากับ ทิฐิความเห็นผิด ของตน
ท่านผู้รู้ ช่วยพิจารณา ด้วยครับ
อนุโมทนา ครับ
v
v
[๒๔] ๖. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น
อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน
ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์
ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง
เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้า บวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวง
ท้าวมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ.
[๒๕] ๗. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น
อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน
บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี
บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษ
เบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์
ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัดรักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ปุถุชนกล่าวชมตถาคต จะพึงกล่าวด้วยประการใด ซึ่งมีประมาณ
น้อย ยังต่ำนัก เป็นเพียงศีลนั้นเท่านี้แล
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=0&Z=1071
v
v