ผมชอบหลายๆคนนะ
1. อย่างของเจ๊จง หมูทอด >>>> มีคนถามเจ๊แกว่า ถ้ามีคนมาขอคำแนะนำค้าขาย เจ๊จะแนะนำอย่างไง เจ๊แกว่า ทำซิ ทำเลย อยากทำอะไรละทำเลย อยากขายส้มตำ ทำเลย ทำแล้วจะได้รู้ ได้ไม่ได้จะได้รู้
2. จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ (มอไซย์มือสอง jpw) >>> ผมชอบความคิดเขาหลายๆอย่าง ตอนเรียนจบ มีเงิน 3-4 แสน เขาว่ามันน้อยมากสำหรับ กทม เลยกลับบ้านที่ ตจว แล้วไปเริ่มเก็บเงินจากตรงนั้นก่อนกลับมากทม
*** ธุรกิจที่เขาประสบความสำเร็จที่พริกชีวิต คือ โรงงานผลิตน้ำดืม เก็บเงินได้ ก็ยกให้ญาติทำต่อ ส่วนตัวเองมาทำ ธุรกิจใหม่ ที่ กทม พิธีกร ถามอ้าว ในเมื่อ น้ำดื่ม มันกำไรยังดีอยู่ ทำไม ถึงยกให้ญาติกันไปทำละ ทำไม ไม่ทำต่อ เขาตอบว่า ก็เพราะว่าธุรกิจ นั้นมันทำให้เขารวยไม่ได้ เลยเลิกแล้วไปหาธุริกจอื่นที่มันทำให้เขารวยได้ ไม่ใช่เพราะเลิกเพราะมันเจ๊ง หรือขาดทุน (ณ ตอนนั้นเขาว่าเดือนๆ ก็กำไรหลายหมื่นบาทต่อเดือนนะ) พอได้เงินมา ก็ขยายธุรกิจต่อเนื่องไปเรื่อย
3. เลนนี่ลิ้ม (เจ้าของธุรกิจอาหารไทย ในอเมริกา) >>> พิธีกรถาม ทำอย่างไง ให้คนที่กำลังจะตัดสินใจทำธุรกิจอยู่ให้เขากล้า เขาตอบว่า ผมจน ไม่มีอะไรจะต้องเสีย ทำเลย
4. อีกคน จำไม่ได้แหละ แต่จำได้แค่ว่า >>>> พิธีกรถามว่า ถ้าคนที่คิดจะเริ่มธุรกิจ แต่เขากลัวที่จะเริ่มละ คุณจะแนะนำเขาว่าอย่างไง คนนั้นตอบว่า การมีชีวิตอยู่กับความกลัว มันไม่มีความสุขนะ ฉนั้นผมจะเลือกที่ไม่อยู่กับความกลัว ยิ่งเรากลัวไม่กล้านานเท่าไร ในใจก็คิดแต่จะทำ ไม่ทำ จะทำไม่ทำ อยู่อย่างนั้น มันทรมานนะ ผมเลิอกที่จะอยู่กับมันไม่นาน ถ้าตัดสินใจแล้ว ทำเลย ถ้าเราทำ ความกลัวจะหมดไป ผลเป็นอย่างไง มันจะบอกเอง
หลักๆ ก็มีเท่านี้แหละ ที่ผมว่า เออเขาแชร์แนวความคิดได้ดีนะ อีกอย่างแต่ละคนเริ่มจาก 0 จริงๆ ไม่ใช่พ่อแม่รวยอยู่แล้ว อย่างเจ๊จง ถ้าไม่ทำ ก็ไม่รู้ ทำซิ รอดไม่รอด จะได้รู้
หรืออย่าง jpw ก็เหมือนกัน ผมฟังครั้งแรก ใช้เลย เลิกไม่ใช่เพราะมันขาดทุน แต่เลิกเพราะมันทำให้เรารวยไม่ได้
คนอื่นละครับ ชอบแนวความคิดของนักธุรกิจอะไร ที่เราน่าจะนำมาใช้ในการทำธุรกิจหรือเริ่มทำธุรกิจครับ
คุณชอบแนวความคิดของนักธุรกิจ คนไหน อย่างไง
1. อย่างของเจ๊จง หมูทอด >>>> มีคนถามเจ๊แกว่า ถ้ามีคนมาขอคำแนะนำค้าขาย เจ๊จะแนะนำอย่างไง เจ๊แกว่า ทำซิ ทำเลย อยากทำอะไรละทำเลย อยากขายส้มตำ ทำเลย ทำแล้วจะได้รู้ ได้ไม่ได้จะได้รู้
2. จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ (มอไซย์มือสอง jpw) >>> ผมชอบความคิดเขาหลายๆอย่าง ตอนเรียนจบ มีเงิน 3-4 แสน เขาว่ามันน้อยมากสำหรับ กทม เลยกลับบ้านที่ ตจว แล้วไปเริ่มเก็บเงินจากตรงนั้นก่อนกลับมากทม
*** ธุรกิจที่เขาประสบความสำเร็จที่พริกชีวิต คือ โรงงานผลิตน้ำดืม เก็บเงินได้ ก็ยกให้ญาติทำต่อ ส่วนตัวเองมาทำ ธุรกิจใหม่ ที่ กทม พิธีกร ถามอ้าว ในเมื่อ น้ำดื่ม มันกำไรยังดีอยู่ ทำไม ถึงยกให้ญาติกันไปทำละ ทำไม ไม่ทำต่อ เขาตอบว่า ก็เพราะว่าธุรกิจ นั้นมันทำให้เขารวยไม่ได้ เลยเลิกแล้วไปหาธุริกจอื่นที่มันทำให้เขารวยได้ ไม่ใช่เพราะเลิกเพราะมันเจ๊ง หรือขาดทุน (ณ ตอนนั้นเขาว่าเดือนๆ ก็กำไรหลายหมื่นบาทต่อเดือนนะ) พอได้เงินมา ก็ขยายธุรกิจต่อเนื่องไปเรื่อย
3. เลนนี่ลิ้ม (เจ้าของธุรกิจอาหารไทย ในอเมริกา) >>> พิธีกรถาม ทำอย่างไง ให้คนที่กำลังจะตัดสินใจทำธุรกิจอยู่ให้เขากล้า เขาตอบว่า ผมจน ไม่มีอะไรจะต้องเสีย ทำเลย
4. อีกคน จำไม่ได้แหละ แต่จำได้แค่ว่า >>>> พิธีกรถามว่า ถ้าคนที่คิดจะเริ่มธุรกิจ แต่เขากลัวที่จะเริ่มละ คุณจะแนะนำเขาว่าอย่างไง คนนั้นตอบว่า การมีชีวิตอยู่กับความกลัว มันไม่มีความสุขนะ ฉนั้นผมจะเลือกที่ไม่อยู่กับความกลัว ยิ่งเรากลัวไม่กล้านานเท่าไร ในใจก็คิดแต่จะทำ ไม่ทำ จะทำไม่ทำ อยู่อย่างนั้น มันทรมานนะ ผมเลิอกที่จะอยู่กับมันไม่นาน ถ้าตัดสินใจแล้ว ทำเลย ถ้าเราทำ ความกลัวจะหมดไป ผลเป็นอย่างไง มันจะบอกเอง
หลักๆ ก็มีเท่านี้แหละ ที่ผมว่า เออเขาแชร์แนวความคิดได้ดีนะ อีกอย่างแต่ละคนเริ่มจาก 0 จริงๆ ไม่ใช่พ่อแม่รวยอยู่แล้ว อย่างเจ๊จง ถ้าไม่ทำ ก็ไม่รู้ ทำซิ รอดไม่รอด จะได้รู้
หรืออย่าง jpw ก็เหมือนกัน ผมฟังครั้งแรก ใช้เลย เลิกไม่ใช่เพราะมันขาดทุน แต่เลิกเพราะมันทำให้เรารวยไม่ได้
คนอื่นละครับ ชอบแนวความคิดของนักธุรกิจอะไร ที่เราน่าจะนำมาใช้ในการทำธุรกิจหรือเริ่มทำธุรกิจครับ