"กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมประกาศหาผู้อุปการะลูกผ่านเว็บไซต์ ขอค่าทำคลอดและค่ารักษาพยาบาล พร้อมยินดีให้ ‘สวมสิทธิ์’ ในใบแจ้งเกิด..."
เราคงไม่ตราหน้าผู้หญิงกลุ่มนี้เป็นจำเลย แต่น่าสนใจว่าทำไมทั้งพวกเธอและกลุ่มผู้อุปการะเด็กถึงต้องเลือกทางออกแบบนี้?



ท้องไม่พร้อม หาคน ‘สวมสิทธิ์’ ลูกในครรภ์ผ่านเว็บ ละเมิดสิทธิเด็ก ผิดทั้งแม่และผู้อุปการะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมประกาศหาผู้อุปการะลูกผ่านเว็บไซต์ ขอค่าทำคลอดและค่ารักษาพยาบาล พร้อมยินดีให้ ‘สวมสิทธิ์’ ในใบแจ้งเกิด นักสิทธิมนุษยชนเตือนละเมิดสิทธิเด็ก ผิดกฎหมายปลอมแปลงเอกสาร สถานสงเคราะห์รับขั้นตอนเยอะแต่พร้อมเป็นทางออก ไอซีที แจงไม่ผิด พ.ร.บ. คอมฯ เอาผิดยาก

ผู้สื่อข่าว ‘กำแพงแดง’ พบประกาศหาผู้อุปการะเด็กกว่า 200 กระทู้ แฝงอยู่เว็บไซต์ให้คำแนะนำเรื่องครอบครัวและการมีบุตร โดยเป็นประกาศจากผู้ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น มีปัญหาทางการเงิน ยังเรียนไม่จบ ถูกฝ่ายชายทิ้งไปไม่รับผิดชอบ ซึ่งระบุว่าจะยกลูกของตนให้แก่ผู้มีบุตรยาก หวังให้ได้เจอครอบครัวที่ดีกว่า ขอเพียงค่าทำคลอดและค่ารักษาพยาบาล เมื่อคลอดแล้วจะยกลูกให้โดยไม่เรียกค่าใช้จ่ายใดๆ อีก พร้อมระบุอายุครรภ์ เพศของเด็ก และข้อมูลสำหรับการติดต่อไว้

จากเบาะแสดังกล่าว ‘กำแพงแดง’ จึงติดต่อไปยัง นางสาว เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้ลงประกาศหาผู้อุปการะลูกในครรภ์ โดยนางสาว เอ เผยว่า ตนไม่พร้อมจะดูแลลูกเนื่องจากตอนนี้ยังเรียนหนังสือและไม่ต้องการให้ผู้ปกครองทราบ ตอนแรกตนคิดจะทำแท้งแต่อายุครรภ์เกินกว่าจะทำได้จึงหาทางออกโดยประกาศหาคนรับเด็กไปอุปการะในเว็บไซต์ดังกล่าว สำหรับเหตุที่ไม่คิดจะฝากลูกไว้ที่สถานสงเคราะห์เป็นเพราะมีขั้นตอนต้องทำเอกสารหลักฐานต่างๆ

นางสาว บี (นามสมมติ) ผู้เคยยกลูกให้กับผู้อุปการะโดยติดต่อผ่านเว็บไซต์ข้างต้นเล่าถึงกระบวนการว่า ตนลงประกาศหาผู้อุปการะลูกเพราะมีปัญหาทางการเงิน ไม่นานก็มีผู้ที่สนใจติดต่อเข้ามา โดยตนพิจารณาจากลักษณะการพูดคุยจนได้คู่สามีภรรยาที่จะมาอุปการะลูกและติดต่อนัดพบกัน จากนั้นได้พากันไปตรวจครรภ์ดูการเจริญเติบโตและสุขภาพของเด็ก ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งหมดตั้งแต่วันที่ตกลงกันจนถึงวันคลอดผู้อุปการะจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยมีเงื่อนไขว่าเด็กต้องไม่พิการ เมื่อถึงวันคลอดจะไม่มีการจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมแต่จะใช้วิธีสวมสิทธิ์ในใบแจ้งเกิดและใช้นามสกุลสามีของผู้รับเด็กไปเลย

จากนั้น ‘กำแพงแดง’ ได้สืบหาข้อมูลและติดต่อไปยัง นางสาว ซี (นามสมมติ) ผู้รับอุปการะเด็กจากเว็บไซต์ดังกล่าวโดย นางสาว ซี เล่าว่า สามีของตนเป็นผู้มีบุตรยากจึงตัดสินใจติดต่อขอรับอุปการะเด็กมาเลี้ยงผ่านเว็บไซต์โดยนัดพบทำความรู้จักกับผู้ลงประกาศตั้งแต่ช่วงฝากครรภ์ "ค่าใช้จ่ายเราออกบ้าง เขาออกบ้างแล้วแต่แม่เด็ก ก่อนจะตกลงรับเด็ก เราก็กลัวๆ ว่าจะโดนหลอก แต่เราใช้เวลาทำความรู้จักกันเกือบครึ่งปีจึงไว้ใจกันได้ พอเขาคลอดลูก เราก็รับเด็กมาเลี้ยง รับมาแบบตัดขาดเลยไม่ให้ติดต่อกันอีก"...

ที่มา: http://www.sunandhanews.com/2011-10-14-04-41-27/society-a-environment/2079-2016-10-29-12-17-57.html