http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1477753742
updated: 30 ต.ค. 2559 เวลา 08:15:00 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ศึกช้างชนช้าง "เซเว่นฯ" งัดไม้แข็งชน "เอไอเอส"
จู่ ๆ ร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ขึ้นป้ายว่า "สินค้าวัน-ทู-คอล หมดสต๊อก" นั่นทำให้ลูกค้า "เอไอเอส" ที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน (พรีเพด) ไม่สามารถเติมเงินผ่านช่องทางนี้อีกต่อไป
ปัญหานี้ได้รับการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่า สืบเนื่องจาก "ซีพี ออลล์" และ "เอไอเอส" ตกลงเรื่องส่วนแบ่งรายได้ไม่ลงตัว โดยเซเว่นฯขอขึ้นส่วนแบ่งจากเดิม 5% เป็น 7% ให้อยู่ในอัตราใกล้เคียงกับ "ดีแทค และทรูมูฟ เอช" จ่ายอยู่ แต่เอไอเอสไม่ยินยอม เพราะเคยจ่าย 5% จะขึ้นเป็น 7% ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้ามากเป็นอันดับ 1 ดังนั้นแม้จะจ่ายน้อยกว่า แต่ทำรายได้ให้มากกว่าอีกสองเจ้าที่เหลือด้วยซ้ำ
ปัญหาดังกล่าวดูผิวเผินไม่น่ามีผลกระทบกับลูกค้า "วัน-ทู-คอล" ที่มี 33.5 ล้านราย (ข้อมูล ณ ไตรมาส 2/2559) มากนัก เพราะถึงจะเติมเงินผ่านเซเว่นฯไม่ได้ "เอไอเอส" ก็มีจุดบริการอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 5 แสนจุดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเติมผ่านตู้เอทีเอ็ม, ตัวแทนเติมเงิน, ผ่านระบบอีเพย์เมนต์ "เอ็มเปย์", เคาน์เตอร์บิ๊กซี, โลตัส และอื่น ๆ อีกมากมาย
ขณะที่ "เซเว่นอีเลฟเว่น" มีสาขาทั่วประเทศอยู่ ประมาณ 9 พันแห่ง 9 พันแห่งเทียบกับ 5 แสนแห่ง จึงน้อยนิดมาก
แต่ถ้าคิดถึงรายได้เฉลี่ยปีละพันกว่าล้านบาทที่ "เซเว่นฯ" ได้จากการเติมเงิน "วัน-ทู-คอล" ต้องถือว่า "ไม่น้อย" หรือในมุมของเอไอเอสต้องยอมรับว่า ในบรรดาช่องทางการเติมเงินที่มีอยู่ เซเว่นฯถือเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับเอไอเอส
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น "เอไอเอส" แก้เกมด้วยการไปจับมือกับตู้เติมเงิน "บุญเติม" ที่ตั้งอยู่หน้าร้านเซเว่นฯ โดยมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมให้ลูกค้า "วัน-ทู-คอล" จากปกติที่ลูกค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมตรงนี้เอง เรียกว่ายอมจ่ายส่วนต่างตรงนี้ไว้เองเพื่อลูกค้า
แต่ปัญหาของเอไอเอสกับเซเว่นฯไม่ใช่แค่ "จุดเติมเงิน" หากแต่ "เซเว่นฯ" ยังเป็นช่องทางการขาย "ซิมการ์ด" ของเอไอเอสด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงทำให้ช่องทางการขายซิมหายไปร่วมหมื่นจุดทันที
แหล่งข่าวในธุรกิจโทรศัพท์มือถือกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เทียบ 9 พันแห่ง กับ 5 แสนแห่ง ในแง่จำนวนเหมือนน้อย แต่ไม่น้อย ถ้าคิดว่าเซเว่นฯเป็นจุดบริการและจุดขายที่มีคุณภาพ แม้ในเบื้องต้นอาจไม่เห็นผลกระทบมากนัก แต่จะค่อย ๆ กระทบ เพราะจุดขายซิมหายไป 9 พันแห่ง เท่ากับยอดขายมีโอกาสหายไปเป็นหลายแสน "ซิม" ต่อปี
"ถ้าเซเว่นฯมีรายได้ปีละพันล้านบาทจากการเติมเงินให้วัน-ทู-คอล หมายความว่ายอดการเติมเงินผ่านเซเว่นฯมีมูลค่ามหาศาล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งคู่น่าจะมีการเจรจากันอีกเพื่อประโยชน์ของทั้งคู่ เพราะต้องยอมรับว่า การเติมผ่านเซเว่นฯสะดวกจริง ยกตัวอย่างคนสูงอายุที่พนักงานเซเว่นฯช่วยดูแลให้หมด กดเติมเงินให้ จะมีที่ไหนบริการให้แบบนี้ ต่างจากตู้บุญเติมที่ยุ่งยากกว่า ทำให้บางคนก็ไม่กล้า"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาปัญหาระหว่างเซเว่นฯกับเอไอเอสมีอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กรณีการเปิดบริการย้ายค่ายเบอร์เดิมผ่านร้านเซเว่นฯได้ แต่ปรากฏว่าลูกค้าที่ต้องการย้ายค่ายมา "เอไอเอส" กลับไม่ได้รับความสะดวกเมื่อเทียบกับ "ทรูมูฟ เอช" จนมาถึงกรณีนี้ แม้เซเว่นฯกับทรูมูฟ เอช จะเป็นคนละบริษัท แต่ก็เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน
"การเติมเงินผ่านเซเว่นฯของเอไอเอสต่างจากค่ายอื่น คือจะมีสลิป เพราะเอไอเอสไม่ต้องการให้เซเว่นฯรู้ข้อมูลลูกค้า จึงไม่ต่อระบบของตนเองเข้ากับระบบของเซเว่นฯ แต่ส่งข้อมูลเป็นโค้ดให้ เพราะไม่อยากให้เซเว่นฯรู้ว่าลูกค้าเบอร์ไหนเติมเงินเท่าไร ต่างจากดีแทคและทรูที่เชื่อมระบบกับระบบของเซเว่นฯ เมื่อลูกค้ามาเติมเงิน ระบบของเซเว่นฯจะยิงข้อมูลไปยังโอเปอเรเตอร์รายนั้น ๆ ว่าเติมเงินให้เบอร์นี้เท่าไร โอเปอเรเตอร์ก็จะเติมให้เบอร์นั้น ๆ"
จากที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีว่า ทรูมูฟและเอไอเอสคือคู่แข่งขันที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดในยุค 4G
ด้าน นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนการตลาดและการขาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ลูกค้าที่ใช้บริการ "วัน-ทู-คอล" สามารถเติมเงินผ่านช่องทางอื่น ๆ แทนร้านเซเว่นฯ ซึ่งมีอยู่แล้วเป็นจำนวนมากได้ จึงเชื่อว่าลูกค้าและบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว แต่บริษัทพร้อมเปิดการเจรจากับซีพี ออลล์ตลอด หลังจากเจรจากันไปแล้วรอบหนึ่ง
"ที่เรารู้คือเซเว่นฯไม่สั่งของเพิ่มเข้ามา แต่ในส่วนของเราเปิดกว้างพร้อมเจรจาเสมอ"
ส่วนแหล่งข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กรณีวัน-ทู-คอลกับเซเว่นฯไม่เกี่ยวกับบริษัทแต่อย่างใด ถือเป็นการดีลธุรกิจระหว่างกันของทั้งสองบริษัท แม้ทรูจะอยู่ในเครือซีพีเช่นเดียวกันกับเซเว่นฯ ก็ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้เซเว่นฯเช่นกัน เมื่อนำสินค้าและบริการไปวางขายภายในร้าน ไม่ได้รับการยกเว้นหรือสิทธิพิเศษใด ๆ และปัจจุบัน 30-40% ของยอดการเติมเงินของลูกค้าทรูมูฟ เอช จะเติมผ่านเซเว่นฯ
"ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามไปยัง นายบัญญัติ คำนูญวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคำชี้แจงสั้น ๆ ว่า
"ช่วงนี้ไม่เหมาะกับการพูดหรือให้สัมภาษณ์เรื่องการเจรจาทางธุรกิจ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการแสดงความไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างที่ไม่มีสินค้าของเอไอเอสขาย ผู้บริโภคหรือลูกค้าคงจะได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับรายได้ของบริษัท ได้คำตอบว่า "เซเว่นฯถือเป็นเพียงจุดจำหน่ายเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับจุดจำหน่ายของเอไอเอสที่มีหลายหมื่นแห่ง เซเว่นฯมีสาขาเพียงประมาณ 9,000 แห่ง ถือว่าเล็กมาก ลูกค้าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ คงต้องไปถามเอไอเอส ส่วนเรื่องรายได้คงพูดอะไรไม่ได้"
เมื่อถามต่อว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาหรือไม่ นายบัญญัติตอบว่า "ก็คงต้องคุยกัน"
ศึกยักษ์ชนยักษ์ครั้งนี้จึงยังคงยืดเยื้อ...ต่อไป
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
https://www.facebook.com/intuchinvestor/ << Page คลับน้าอิน << อันนี้โฆษณาแฝงครับ
ศึกช้างชนช้าง "เซเว่นฯ" งัดไม้แข็งชน "เอไอเอส"
updated: 30 ต.ค. 2559 เวลา 08:15:00 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ศึกช้างชนช้าง "เซเว่นฯ" งัดไม้แข็งชน "เอไอเอส"
จู่ ๆ ร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ขึ้นป้ายว่า "สินค้าวัน-ทู-คอล หมดสต๊อก" นั่นทำให้ลูกค้า "เอไอเอส" ที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน (พรีเพด) ไม่สามารถเติมเงินผ่านช่องทางนี้อีกต่อไป
ปัญหานี้ได้รับการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่า สืบเนื่องจาก "ซีพี ออลล์" และ "เอไอเอส" ตกลงเรื่องส่วนแบ่งรายได้ไม่ลงตัว โดยเซเว่นฯขอขึ้นส่วนแบ่งจากเดิม 5% เป็น 7% ให้อยู่ในอัตราใกล้เคียงกับ "ดีแทค และทรูมูฟ เอช" จ่ายอยู่ แต่เอไอเอสไม่ยินยอม เพราะเคยจ่าย 5% จะขึ้นเป็น 7% ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้ามากเป็นอันดับ 1 ดังนั้นแม้จะจ่ายน้อยกว่า แต่ทำรายได้ให้มากกว่าอีกสองเจ้าที่เหลือด้วยซ้ำ
ปัญหาดังกล่าวดูผิวเผินไม่น่ามีผลกระทบกับลูกค้า "วัน-ทู-คอล" ที่มี 33.5 ล้านราย (ข้อมูล ณ ไตรมาส 2/2559) มากนัก เพราะถึงจะเติมเงินผ่านเซเว่นฯไม่ได้ "เอไอเอส" ก็มีจุดบริการอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 5 แสนจุดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเติมผ่านตู้เอทีเอ็ม, ตัวแทนเติมเงิน, ผ่านระบบอีเพย์เมนต์ "เอ็มเปย์", เคาน์เตอร์บิ๊กซี, โลตัส และอื่น ๆ อีกมากมาย
ขณะที่ "เซเว่นอีเลฟเว่น" มีสาขาทั่วประเทศอยู่ ประมาณ 9 พันแห่ง 9 พันแห่งเทียบกับ 5 แสนแห่ง จึงน้อยนิดมาก
แต่ถ้าคิดถึงรายได้เฉลี่ยปีละพันกว่าล้านบาทที่ "เซเว่นฯ" ได้จากการเติมเงิน "วัน-ทู-คอล" ต้องถือว่า "ไม่น้อย" หรือในมุมของเอไอเอสต้องยอมรับว่า ในบรรดาช่องทางการเติมเงินที่มีอยู่ เซเว่นฯถือเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับเอไอเอส
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น "เอไอเอส" แก้เกมด้วยการไปจับมือกับตู้เติมเงิน "บุญเติม" ที่ตั้งอยู่หน้าร้านเซเว่นฯ โดยมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมให้ลูกค้า "วัน-ทู-คอล" จากปกติที่ลูกค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมตรงนี้เอง เรียกว่ายอมจ่ายส่วนต่างตรงนี้ไว้เองเพื่อลูกค้า
แต่ปัญหาของเอไอเอสกับเซเว่นฯไม่ใช่แค่ "จุดเติมเงิน" หากแต่ "เซเว่นฯ" ยังเป็นช่องทางการขาย "ซิมการ์ด" ของเอไอเอสด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงทำให้ช่องทางการขายซิมหายไปร่วมหมื่นจุดทันที
แหล่งข่าวในธุรกิจโทรศัพท์มือถือกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เทียบ 9 พันแห่ง กับ 5 แสนแห่ง ในแง่จำนวนเหมือนน้อย แต่ไม่น้อย ถ้าคิดว่าเซเว่นฯเป็นจุดบริการและจุดขายที่มีคุณภาพ แม้ในเบื้องต้นอาจไม่เห็นผลกระทบมากนัก แต่จะค่อย ๆ กระทบ เพราะจุดขายซิมหายไป 9 พันแห่ง เท่ากับยอดขายมีโอกาสหายไปเป็นหลายแสน "ซิม" ต่อปี
"ถ้าเซเว่นฯมีรายได้ปีละพันล้านบาทจากการเติมเงินให้วัน-ทู-คอล หมายความว่ายอดการเติมเงินผ่านเซเว่นฯมีมูลค่ามหาศาล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งคู่น่าจะมีการเจรจากันอีกเพื่อประโยชน์ของทั้งคู่ เพราะต้องยอมรับว่า การเติมผ่านเซเว่นฯสะดวกจริง ยกตัวอย่างคนสูงอายุที่พนักงานเซเว่นฯช่วยดูแลให้หมด กดเติมเงินให้ จะมีที่ไหนบริการให้แบบนี้ ต่างจากตู้บุญเติมที่ยุ่งยากกว่า ทำให้บางคนก็ไม่กล้า"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาปัญหาระหว่างเซเว่นฯกับเอไอเอสมีอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กรณีการเปิดบริการย้ายค่ายเบอร์เดิมผ่านร้านเซเว่นฯได้ แต่ปรากฏว่าลูกค้าที่ต้องการย้ายค่ายมา "เอไอเอส" กลับไม่ได้รับความสะดวกเมื่อเทียบกับ "ทรูมูฟ เอช" จนมาถึงกรณีนี้ แม้เซเว่นฯกับทรูมูฟ เอช จะเป็นคนละบริษัท แต่ก็เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน
"การเติมเงินผ่านเซเว่นฯของเอไอเอสต่างจากค่ายอื่น คือจะมีสลิป เพราะเอไอเอสไม่ต้องการให้เซเว่นฯรู้ข้อมูลลูกค้า จึงไม่ต่อระบบของตนเองเข้ากับระบบของเซเว่นฯ แต่ส่งข้อมูลเป็นโค้ดให้ เพราะไม่อยากให้เซเว่นฯรู้ว่าลูกค้าเบอร์ไหนเติมเงินเท่าไร ต่างจากดีแทคและทรูที่เชื่อมระบบกับระบบของเซเว่นฯ เมื่อลูกค้ามาเติมเงิน ระบบของเซเว่นฯจะยิงข้อมูลไปยังโอเปอเรเตอร์รายนั้น ๆ ว่าเติมเงินให้เบอร์นี้เท่าไร โอเปอเรเตอร์ก็จะเติมให้เบอร์นั้น ๆ"
จากที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีว่า ทรูมูฟและเอไอเอสคือคู่แข่งขันที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดในยุค 4G
ด้าน นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนการตลาดและการขาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ลูกค้าที่ใช้บริการ "วัน-ทู-คอล" สามารถเติมเงินผ่านช่องทางอื่น ๆ แทนร้านเซเว่นฯ ซึ่งมีอยู่แล้วเป็นจำนวนมากได้ จึงเชื่อว่าลูกค้าและบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว แต่บริษัทพร้อมเปิดการเจรจากับซีพี ออลล์ตลอด หลังจากเจรจากันไปแล้วรอบหนึ่ง
"ที่เรารู้คือเซเว่นฯไม่สั่งของเพิ่มเข้ามา แต่ในส่วนของเราเปิดกว้างพร้อมเจรจาเสมอ"
ส่วนแหล่งข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กรณีวัน-ทู-คอลกับเซเว่นฯไม่เกี่ยวกับบริษัทแต่อย่างใด ถือเป็นการดีลธุรกิจระหว่างกันของทั้งสองบริษัท แม้ทรูจะอยู่ในเครือซีพีเช่นเดียวกันกับเซเว่นฯ ก็ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้เซเว่นฯเช่นกัน เมื่อนำสินค้าและบริการไปวางขายภายในร้าน ไม่ได้รับการยกเว้นหรือสิทธิพิเศษใด ๆ และปัจจุบัน 30-40% ของยอดการเติมเงินของลูกค้าทรูมูฟ เอช จะเติมผ่านเซเว่นฯ
"ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามไปยัง นายบัญญัติ คำนูญวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคำชี้แจงสั้น ๆ ว่า
"ช่วงนี้ไม่เหมาะกับการพูดหรือให้สัมภาษณ์เรื่องการเจรจาทางธุรกิจ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการแสดงความไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างที่ไม่มีสินค้าของเอไอเอสขาย ผู้บริโภคหรือลูกค้าคงจะได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับรายได้ของบริษัท ได้คำตอบว่า "เซเว่นฯถือเป็นเพียงจุดจำหน่ายเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับจุดจำหน่ายของเอไอเอสที่มีหลายหมื่นแห่ง เซเว่นฯมีสาขาเพียงประมาณ 9,000 แห่ง ถือว่าเล็กมาก ลูกค้าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ คงต้องไปถามเอไอเอส ส่วนเรื่องรายได้คงพูดอะไรไม่ได้"
เมื่อถามต่อว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาหรือไม่ นายบัญญัติตอบว่า "ก็คงต้องคุยกัน"
ศึกยักษ์ชนยักษ์ครั้งนี้จึงยังคงยืดเยื้อ...ต่อไป
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
https://www.facebook.com/intuchinvestor/ << Page คลับน้าอิน << อันนี้โฆษณาแฝงครับ