What's up!?
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสสอนนักเรียนหลายคนก็พบว่าปัญหาหลัก ๆ ของคนไทยเลยคือการใช้ verb เลย หลายคนอาจจะสับสนว่า 'สรุปแล้วเราต้องใช้ Verb to be หรือ verb to do กันแน่ จะถามว่า Do you happy? หรือ Are you happy? ดี'
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Verb สองตัวนี้กันครับ เอาแบบจบกระทู้นี้แล้วใช้ Verb ได้แบบเป๊ะเว่อร์เลยย!
Verb to be และ Verb to do ต่างกันอย่างไร
ก่อนคือผมขอ
เมคชัวร์ก่อนว่าทุกคนเข้าใจว่า Verb ทั้งสองตัวนี้คืออะไร
Verb to be แปลว่า
เป็น, อยู่, คือ (หรือบางครั้งก็แปลว่า มี ก็ได้ แต่ไม่ใช่ มี แบบ Have นะ ประมาณว่า มีความสุข (I am happy) หรือ มีความหมาย (Your love is meaningful))
ได้แก่
am, are, is, was, were, been ซึ่งจะแบ่งออกตาม Tense ได้ดังนี้
Present (ปัจจุบัน) จะใช้ am, are, is
Past (อดีต) จะใช้ was, were
ในส่วนของคำว่า been นั้นก็จะเจออยู่ใน Perfect tense นั่นเอง (I have been to London. ฉันเคยไปลอนดอน) ซึ่งตอนนี้ก็อย่าเพิ่งไปสนใจมันเลยครับ ไว้ว่ากันทีหลัง
Verb to do แปลว่า
ทำ แต่จริง ๆ แล้ว
เรามักจะเจอ Verb to do ในประโยคคำถามซะมากกว่า ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องไปแปลมันครับ มันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก แค่ทำให้ประโยคปกติกลายเป็นประโยคคำถามเท่านั้น
ได้แก่
do, does, did, done ซึ่งจะแบ่งตาม Tense เช่นกัน
Present (ปัจจุบัน) จะใช้ do, does
Past (อดีต) จะใช้ did
ส่วนของคำว่า done นั้นก็จะเจอใน Perfect tense เหมือนเคยครับ วางไว้หลัง have เหมือนกัน (I have done my homework. ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)
โอเคพอเราเข้าใจการแบ่ง Verb to be และ Verb to do ตาม Tense แล้ว
เรามาทำความเข้าใจกับ
การแบ่ง Verb สองตัวนี้ตามประธาน (Subject) กัน
หลายคนอาจจะเริ่มเบื่อว่า อีกแล้วเหรอ ทำไมมันแบ่งนู่นนี้เยอะจัง ไม่เยอะครับเอาจริง ๆ เดี๋ยวพอชินกับมัน มันจะง่ายมาก ๆ
การแบ่ง Verb ตามประธานก็ง่าย ๆ เลย
Verb to be
ประธานคือ I ใช้
am ถ้าในอดีตใช้
was
ประธานคือ You, we, they ใช้
are ถ้าในอดีตใช้
were
ประธานคือ
, she, it ใช้
is ถ้าในอดีตใช้
was
Verb to do
ประธานคือ
I, you, we, they ใช้
do
ประธานคือ
he, she, it ใช้
does
ในส่วนของ Verb to do ทุกตัวจะใช้ did เหมือนกันในรูปอดีตเลยครับง่าย ๆ
ก่อนที่เราจะใช้ Verb ทั้งสองตัวนี้ได้ถูกต้องเนี่ยเราต้องทำความรู้จักกับ Adjective ก่อนนะ หรือพูดง่าย ๆ คือเราต้องรู้ก่อนว่าคำไหนคือ
Verbทั่วไป คำไหนคือ
Adjective คำไหนคือ
Noun และคำไหนคือ
Preposition
ซึ่งผมเขียนกระทู้เรื่องพวกนี้ไปแล้วเนาะใครยังไม่เข้าใจก็แวะไปอ่านก่อนนะครับ
http://ppantip.com/topic/35540914
โอเค หลายคนอาจสะดุดกับคำว่า
Verb ทั่วไป!!? มันคืออะไรร
ตรงนี้ผมขออธิบายก่อนว่าในภาษาอังกฤษอังกฤษจะแบ่ง Verb ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ นะครับ
ได้แก่ "
Verb ช่วย" และ "
Verb ทั่วไป"
Verb ช่วย (Auxiliary verb) ก็จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อย
กลุ่มแรกคือ Primary auxiliary verb ซึ่งก็คือ Verb to do กับ Verb to be เรานี่เอง (จริง ๆ มี Verb to have อีกตัวแต่เรายังไม่ต้องพูดถึงมัน) หน้าที่ของมันคือ
เป็น Verb ที่ช่วยในการตั้งประโยคคำถาม
กลุ่มที่สองคือ Modal verb ซึ่งก็ได้แก่ Can, could, shall, should, will, would, might, may, must
กลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มความหมายของกริยา ส่วนมากจะเป็นเรื่องของ possibility (ความเป็นไปได้) เช่น Can, could หรือใช้เพิ่มความหมายในเรื่องของความเป็นอนาคต (Futurity) เช่น will, would, might หรือจะใช้เพื่อขออนุญาตเช่น may บอกให้ใครทำอะไรสักอย่าง เช่น must, should, หรือเป็นการเชิญชวน เช่น shall
ทีนี้เวลาผมพูดคำว่า
Verb ทั่วไป ผมก็จะหมายถึง Verb อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Verb สองกลุ่มนี้นะครับ ซึ่งก็คือพวก
Run, walk, talk, want, sleep, eat, speak อะไรก็ว่ากันไป
โอเคเรากับมาเข้าเรื่องกัน
หลักในการใช้ Verb to be หรือ Verb to do นั้นสรุปได้ดังนี้ครับ
-
Verb to be จะใช้กับ
adjective, noun, preposition, และ
verb continuous (v-ing นั่นเองครับ)
แล้วก็
อย่าลืมใช้ให้ถูกกับประธานและ Tense ด้วยนะครับ มาดูตัวอย่างกันครับ
1.
Verb to be กับ Adjective
He is
nice. (เขานิสัยดี/เขาเป็นคนดี)
(วิธีคิด: เริ่มจาก Nice เป็น adj. เราจึงต้องใช้ verb to be และมี
เป็นประธานเราจึงต้องใช้ verb to be 'is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
My mother is
happy.
Jennifer is
beautiful.
Sue and Tina are
not hungry.
I am not
crazy.
John was
sad last night.
ส่วนวิธีตั้งคำถามก็ง่าย ๆ ครับแค่สลับที่ Verb to be กับประธานก็จะได้ประโยคคำถามแล้ว
ตัวอย่างจากประโยคข้างบน (เปลี่ยนจากบอกเล่าเป็นคำถาม)
Is my mother happy?
Is Jennifer beautiful?
Are Sue and Tina hungry?
Am I crazy?
Was John sad last night?
นี่คือคำถามแบบ Yes/no นะครับ แต่ถ้าอยากได้คำถามแบบ WH - Question เราก็แค่เติมพวก What, when, where, why ไว้ข้างหน้าก็จะได้ประโยคคำถามแบบ WH - question ครับ
เช่น
Why is my mother happy?
2.
Verb to be กับ Preposition
The kids are
in the kitchen. (เด็ก ๆ อยู่ในห้องครัว)
(วิธีคิด: in เป็น preposition เราจึงต้องใช้ verb to be แล้ว the kids เป็นประธาน (ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็น pronoun ก็คือ they นั่นเองใช่ไหมครับ) เราจึงต้องใช้ verb to be '
are')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
I
am at the market.
The apples
were on the table this morning.
Everybody
is in the room.
Jane
is at her office.
3.
Verb to be กับ Noun
He
is a doctor.
(วิธีคิด: doctor คือคำนาม (คำนามต้องขึ้นต้นด้วย articles ก่อนนะครับ ยกเว้นนามพหูพจน์ และนามนับไม่ได้) เราจึงต้องใช้ Verb to be แล้วประธานคือ
เราจึงต้องใช้ Verb to be '
is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
They
are my students.
Tim
is an engineer.
My brother
was an actor.
John and Bob
are friends.
4.
Verb to be กับ V-ing (อันนี้จะแปลว่า'กำลังทำ'นะครับ)
He
is listening to music.
(วิธีคิด: listening มี -ing เราจึงต้องใช้ Verb to be แล้วประธานคือ
เราจึงต้องใช้ Verb to be '
is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
They
are playing football.
Jack
is sleeping.
Her sister
is making dinner.
I
am watching television.
โอเคนะครับ จบ Verb to be ไปละ มาต่อกันที่
Verb to do
อย่างที่บอกไปนะครับ
Verb to do มักจะเจอในประโยคคำถามซะมากกว่า ซึ่งมีหลักง่าย ๆ คือ
Verb to do จะใช้กับ Verb ทั่วไปครับ (หรือพูดแบบยาก ๆ คือจะไม่ใช้กับ adjective, preposition, noun และ v-ing นั่นเอง)
ตัวอย่างนะครับ
Do you
want to eat? (ไม่ใช้ Do you hungry?)
(วิธีคิด: Want เป็น verb ทั่วไป เราจึงใช้ verb to do ประธานคือ you เราจึงใช้ verb to do '
do')
Does he
look good? (ไม่ใช้ Does he handsome?)
Did you
meet Tim yesterday? (ไม่ใช้ Are you meet him yesterday?)
Do you
know him? (ไม่ใช้ Are you know him?)
สุดท้ายคือการใช้ Verb ทั่วไป และ Verb to be กับ Modal verb (Can, could, shall, should, will, would, might, may, must)
ตรงนี้ง่าย ๆ เลยครับ จำไว้ว่า Verb ที่อยู่หลัง modal verb จะไม่เติม s หรือเปลี่ยนตาม tense ใด ๆ ทั้งสิ้น มายังไงก็เขียนอย่างนั้น
ตัวอย่างการใช้กับ verb ทั่วไป
He
can swim very fast. (ไม่ต้อง He can swims...)
She
should arrive by now! (ไม่ใช่ She should arrive...)
หรือถ้าเราจะใช้กับ Verb to be ก็จะเป็น be กับทุกประธานเลยครับ
They
can be rude sometimes.
He
will be late as always.
อ่านเพิ่มเติมเรื่องชนิดของคำ (คำไหน Adj. คำไหน N. คำไหน Preposition) ที่กระทู้
http://ppantip.com/topic/35540914
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการสร้างประโยคคำถามในภาษาอังกฤษที่กระทู้ h
ttp://ppantip.com/topic/35623201
ง่าย ๆ แค่นี้แหละครับสำหรับหลักการใช้ Verb to do กับ verb to be ทีนี้ก็อย่าใช้ผิดกันอีกนะคร้าบบ
ใครมีข้อสงสัย หรือไม่เข้าใจ หรืออยากเสริมเพิ่มเติม หรืออยากให้ผมแก้ไขตรงไหนก็บอกได้นะครับ บางทีเบลอ ๆ ก็พิมพ์ผิดกันไป 5555
ไม่จำเป็นต้องรู้หมดทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้มากขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ก็พอแล้วครับ
รู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวันที่:
www.facebook.com/MyFathersAnEnglishMan/ (FB Page:
พ่อผมเป็นคนอังกฤษ)
Stay tuned.
JGC
พอกันทีกับการใช้ Verb แบบผิด ๆ ! (ทำความเข้าใจการใช้ Verb สำหรับ Beginners)
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสสอนนักเรียนหลายคนก็พบว่าปัญหาหลัก ๆ ของคนไทยเลยคือการใช้ verb เลย หลายคนอาจจะสับสนว่า 'สรุปแล้วเราต้องใช้ Verb to be หรือ verb to do กันแน่ จะถามว่า Do you happy? หรือ Are you happy? ดี'
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Verb สองตัวนี้กันครับ เอาแบบจบกระทู้นี้แล้วใช้ Verb ได้แบบเป๊ะเว่อร์เลยย!
Verb to be และ Verb to do ต่างกันอย่างไร
ก่อนคือผมขอเมคชัวร์ก่อนว่าทุกคนเข้าใจว่า Verb ทั้งสองตัวนี้คืออะไร
Verb to be แปลว่า เป็น, อยู่, คือ (หรือบางครั้งก็แปลว่า มี ก็ได้ แต่ไม่ใช่ มี แบบ Have นะ ประมาณว่า มีความสุข (I am happy) หรือ มีความหมาย (Your love is meaningful))
ได้แก่ am, are, is, was, were, been ซึ่งจะแบ่งออกตาม Tense ได้ดังนี้
Present (ปัจจุบัน) จะใช้ am, are, is
Past (อดีต) จะใช้ was, were
ในส่วนของคำว่า been นั้นก็จะเจออยู่ใน Perfect tense นั่นเอง (I have been to London. ฉันเคยไปลอนดอน) ซึ่งตอนนี้ก็อย่าเพิ่งไปสนใจมันเลยครับ ไว้ว่ากันทีหลัง
Verb to do แปลว่า ทำ แต่จริง ๆ แล้วเรามักจะเจอ Verb to do ในประโยคคำถามซะมากกว่า ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องไปแปลมันครับ มันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก แค่ทำให้ประโยคปกติกลายเป็นประโยคคำถามเท่านั้น
ได้แก่ do, does, did, done ซึ่งจะแบ่งตาม Tense เช่นกัน
Present (ปัจจุบัน) จะใช้ do, does
Past (อดีต) จะใช้ did
ส่วนของคำว่า done นั้นก็จะเจอใน Perfect tense เหมือนเคยครับ วางไว้หลัง have เหมือนกัน (I have done my homework. ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)
โอเคพอเราเข้าใจการแบ่ง Verb to be และ Verb to do ตาม Tense แล้ว
เรามาทำความเข้าใจกับ การแบ่ง Verb สองตัวนี้ตามประธาน (Subject) กัน
หลายคนอาจจะเริ่มเบื่อว่า อีกแล้วเหรอ ทำไมมันแบ่งนู่นนี้เยอะจัง ไม่เยอะครับเอาจริง ๆ เดี๋ยวพอชินกับมัน มันจะง่ายมาก ๆ
การแบ่ง Verb ตามประธานก็ง่าย ๆ เลย
Verb to be
ประธานคือ I ใช้ am ถ้าในอดีตใช้ was
ประธานคือ You, we, they ใช้ are ถ้าในอดีตใช้ were
ประธานคือ , she, it ใช้ is ถ้าในอดีตใช้ was
Verb to do
ประธานคือ I, you, we, they ใช้ do
ประธานคือ he, she, it ใช้ does
ในส่วนของ Verb to do ทุกตัวจะใช้ did เหมือนกันในรูปอดีตเลยครับง่าย ๆ
ก่อนที่เราจะใช้ Verb ทั้งสองตัวนี้ได้ถูกต้องเนี่ยเราต้องทำความรู้จักกับ Adjective ก่อนนะ หรือพูดง่าย ๆ คือเราต้องรู้ก่อนว่าคำไหนคือ Verbทั่วไป คำไหนคือ Adjective คำไหนคือ Noun และคำไหนคือ Preposition
ซึ่งผมเขียนกระทู้เรื่องพวกนี้ไปแล้วเนาะใครยังไม่เข้าใจก็แวะไปอ่านก่อนนะครับ http://ppantip.com/topic/35540914
โอเค หลายคนอาจสะดุดกับคำว่า Verb ทั่วไป!!? มันคืออะไรร
ตรงนี้ผมขออธิบายก่อนว่าในภาษาอังกฤษอังกฤษจะแบ่ง Verb ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ นะครับ
ได้แก่ "Verb ช่วย" และ "Verb ทั่วไป"
Verb ช่วย (Auxiliary verb) ก็จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อย
กลุ่มแรกคือ Primary auxiliary verb ซึ่งก็คือ Verb to do กับ Verb to be เรานี่เอง (จริง ๆ มี Verb to have อีกตัวแต่เรายังไม่ต้องพูดถึงมัน) หน้าที่ของมันคือ เป็น Verb ที่ช่วยในการตั้งประโยคคำถาม
กลุ่มที่สองคือ Modal verb ซึ่งก็ได้แก่ Can, could, shall, should, will, would, might, may, must
กลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มความหมายของกริยา ส่วนมากจะเป็นเรื่องของ possibility (ความเป็นไปได้) เช่น Can, could หรือใช้เพิ่มความหมายในเรื่องของความเป็นอนาคต (Futurity) เช่น will, would, might หรือจะใช้เพื่อขออนุญาตเช่น may บอกให้ใครทำอะไรสักอย่าง เช่น must, should, หรือเป็นการเชิญชวน เช่น shall
ทีนี้เวลาผมพูดคำว่า Verb ทั่วไป ผมก็จะหมายถึง Verb อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Verb สองกลุ่มนี้นะครับ ซึ่งก็คือพวก Run, walk, talk, want, sleep, eat, speak อะไรก็ว่ากันไป
โอเคเรากับมาเข้าเรื่องกัน
หลักในการใช้ Verb to be หรือ Verb to do นั้นสรุปได้ดังนี้ครับ
- Verb to be จะใช้กับ adjective, noun, preposition, และ verb continuous (v-ing นั่นเองครับ)
แล้วก็อย่าลืมใช้ให้ถูกกับประธานและ Tense ด้วยนะครับ มาดูตัวอย่างกันครับ
1. Verb to be กับ Adjective
He is nice. (เขานิสัยดี/เขาเป็นคนดี)
(วิธีคิด: เริ่มจาก Nice เป็น adj. เราจึงต้องใช้ verb to be และมี เป็นประธานเราจึงต้องใช้ verb to be 'is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
My mother is happy.
Jennifer is beautiful.
Sue and Tina are not hungry.
I am not crazy.
John was sad last night.
ส่วนวิธีตั้งคำถามก็ง่าย ๆ ครับแค่สลับที่ Verb to be กับประธานก็จะได้ประโยคคำถามแล้ว
ตัวอย่างจากประโยคข้างบน (เปลี่ยนจากบอกเล่าเป็นคำถาม)
Is my mother happy?
Is Jennifer beautiful?
Are Sue and Tina hungry?
Am I crazy?
Was John sad last night?
นี่คือคำถามแบบ Yes/no นะครับ แต่ถ้าอยากได้คำถามแบบ WH - Question เราก็แค่เติมพวก What, when, where, why ไว้ข้างหน้าก็จะได้ประโยคคำถามแบบ WH - question ครับ
เช่น
Why is my mother happy?
2. Verb to be กับ Preposition
The kids are in the kitchen. (เด็ก ๆ อยู่ในห้องครัว)
(วิธีคิด: in เป็น preposition เราจึงต้องใช้ verb to be แล้ว the kids เป็นประธาน (ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็น pronoun ก็คือ they นั่นเองใช่ไหมครับ) เราจึงต้องใช้ verb to be 'are')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
I am at the market.
The apples were on the table this morning.
Everybody is in the room.
Jane is at her office.
3. Verb to be กับ Noun
He is a doctor.
(วิธีคิด: doctor คือคำนาม (คำนามต้องขึ้นต้นด้วย articles ก่อนนะครับ ยกเว้นนามพหูพจน์ และนามนับไม่ได้) เราจึงต้องใช้ Verb to be แล้วประธานคือ เราจึงต้องใช้ Verb to be 'is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
They are my students.
Tim is an engineer.
My brother was an actor.
John and Bob are friends.
4. Verb to be กับ V-ing (อันนี้จะแปลว่า'กำลังทำ'นะครับ)
He is listening to music.
(วิธีคิด: listening มี -ing เราจึงต้องใช้ Verb to be แล้วประธานคือ เราจึงต้องใช้ Verb to be 'is')
ตัวอย่างเพิ่มเติม
They are playing football.
Jack is sleeping.
Her sister is making dinner.
I am watching television.
โอเคนะครับ จบ Verb to be ไปละ มาต่อกันที่ Verb to do
อย่างที่บอกไปนะครับ Verb to do มักจะเจอในประโยคคำถามซะมากกว่า ซึ่งมีหลักง่าย ๆ คือ Verb to do จะใช้กับ Verb ทั่วไปครับ (หรือพูดแบบยาก ๆ คือจะไม่ใช้กับ adjective, preposition, noun และ v-ing นั่นเอง)
ตัวอย่างนะครับ
Do you want to eat? (ไม่ใช้ Do you hungry?)
(วิธีคิด: Want เป็น verb ทั่วไป เราจึงใช้ verb to do ประธานคือ you เราจึงใช้ verb to do 'do')
Does he look good? (ไม่ใช้ Does he handsome?)
Did you meet Tim yesterday? (ไม่ใช้ Are you meet him yesterday?)
Do you know him? (ไม่ใช้ Are you know him?)
สุดท้ายคือการใช้ Verb ทั่วไป และ Verb to be กับ Modal verb (Can, could, shall, should, will, would, might, may, must)
ตรงนี้ง่าย ๆ เลยครับ จำไว้ว่า Verb ที่อยู่หลัง modal verb จะไม่เติม s หรือเปลี่ยนตาม tense ใด ๆ ทั้งสิ้น มายังไงก็เขียนอย่างนั้น
ตัวอย่างการใช้กับ verb ทั่วไป
He can swim very fast. (ไม่ต้อง He can swims...)
She should arrive by now! (ไม่ใช่ She should arrive...)
หรือถ้าเราจะใช้กับ Verb to be ก็จะเป็น be กับทุกประธานเลยครับ
They can be rude sometimes.
He will be late as always.
อ่านเพิ่มเติมเรื่องชนิดของคำ (คำไหน Adj. คำไหน N. คำไหน Preposition) ที่กระทู้ http://ppantip.com/topic/35540914
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการสร้างประโยคคำถามในภาษาอังกฤษที่กระทู้ http://ppantip.com/topic/35623201
ง่าย ๆ แค่นี้แหละครับสำหรับหลักการใช้ Verb to do กับ verb to be ทีนี้ก็อย่าใช้ผิดกันอีกนะคร้าบบ
ใครมีข้อสงสัย หรือไม่เข้าใจ หรืออยากเสริมเพิ่มเติม หรืออยากให้ผมแก้ไขตรงไหนก็บอกได้นะครับ บางทีเบลอ ๆ ก็พิมพ์ผิดกันไป 5555
ไม่จำเป็นต้องรู้หมดทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้มากขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ก็พอแล้วครับ
รู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวันที่: www.facebook.com/MyFathersAnEnglishMan/ (FB Page: พ่อผมเป็นคนอังกฤษ)
Stay tuned.
JGC