ตามธรรมชาติของเส้นผมแล้ว ในคนเอเชียจะเป็นเส้นผมประมาณ 1 แสนเส้น ใครมีเยอะกอาจจะเยอะกว่านี้หรอใครที่ผมน้อยก็อาจไม่ถึงแสนเส้น ตามลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกกำหนดไว้ ทีนี้ บนหัวเรามีผมประมาณ 10%ของผมบนหัว ที่อยู่ในระยะพักพร้อมที่จะร่วง และจะร่วงประมาณวันละ 1 % ของผมระยะพัก ตัวอย่างเช่น ผมบนหัวมี 1 เเสนเส้น มี 10000 เส้นที่อยู่ในระยะพัก และแต่ละวัน จะร่วงวันละ 100 เส้น ซึ่งเป็นไปตามวงจรเส้นผม เมื่อผมร่วงออกไปก็จะมีเส้นผมใหม่เกิดขึ้นมาทดแทนที่ร่วงไป โดยผมจะมาอายุการงอก ประมาณ 2-6 ปี และจะอยู่ในระยะพักพร้อมร่วง ประมาณ 100วัน ดังนั้น เมื่อเอา 10000/100 =100 ก็เท่ากับจำนวนที่ผมจะร่วงต่อวัน
แต่ถ้าใครผมเยอะก็อาจจะร่วงเยอะ ตามจำนวน %
ทีนี้ คือเราเป็นคนนึงที่เป็นผมร่วง จากกรรมพันธ์และฮอร์โมน บอกเลยว่าโรคเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่มีวันหาย เพราะเป็นโรคที่เกิดจากยีน และฮอร์โมน ของเราทั้งพ่อ ทั้งแม่เป็น เลยรุนแรงเป็นตั้งแต่อายุ 18 ตอนนี้รักษามา 6 ปีกว่า เดี๋ยวดีบ้าง แย่บ้างตามที่มันจะเป็น ของเรา เราไปรักษาที่ศิริราชกับคุณหมอผิวหนัง หมอก็ให้กินยา ฟินาสเตอรรายด์ กับทายาไมน็อกซิดิล ช่วงแรกคือผมจะร่วงเยอะมาก เพราะเป็นการผลัดผมที่อ่อนแอออก แต่มันก็จะมีผมเกิดขึ้นมาใหม่ที่ดีกว่า แต่แต่สิ่งที่คนผมร่วงแบบนี้ต่างจากผมร่วงทั่วไปคือ คนที่ร่วงจากกรรมพันธ์ คือ เมื่อร่วงแล้ว เส้น จะงอกขึ้นมาเส้นเล็กกว่าเดิม และสั้นลงเรื่อยๆ แต่คนผมร่วงปกติ ผมจะงอกขึ้นมาทดแทนเส้นใหญ่เท่าเดิม ถ้าร่งแบบพันธุกรรมของผู้ชายจะเริ่มเถิก และเป็นไข่ดาวตรงกลาง ส่วนผมหญิงรอยแสกกลางจะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ทีนี้เรามาดูว่าคุณหมอเช็คยังไง ตามรูป ที่เราวาดขึ้นมา
จุดที่หมอวัด มี 4 จุด คือ
1 จาก หัวคิ้ว ไปยังตีนผม ซึ่งค่าปกติในคนไทย อยู่ที่ 6.5 ซม ใครหน้าผากกว้างอาจจะ 7 ซม
2 จากหัวคิ้วไปยังง่ามซ้ายขวา โดยปกติ ค่าของผู้ชายจะอยู่ที่ 8.5 ซม และข้าง ขวาจะมากกว่าข้างซ้าย 1 ซม แต่ของผู้หญิงอยู่ที่ 6 ซม
3 ตรงรอบขวัญ ไอที่เราเห็นสีขาวๆ นั้นแหละไม่ควรกว้างเกิน 2 ซม
4 รอยแสก เมื่อคุณหมอ แสกกลาง รอยแสกกลาง วัดๆด้ไม่ควรเกิน 1 ซม
หลายคนอาจจะยังงง ว่าวัดยังไง ตรงหน้าผากอาจจะวัดง่าย แต่ตรง ขวัญ กับรอยแสก อาจจจะวัดยาก เรามีรูปตัวอย่าง
แรกแสกกลาง หมอจะวัดจาก ส่วนที่เริ่มเห็นหนังหัวจากซ้ายไปขวา ในค่าของคนปกติ ไม่เกิน 1 เซน
และรอบขวัญ จะวัดจาก ส่วนที่เห็นเป็นหนังหัว แบบที่เราขีดไว้ ไม่เกิน 2 ซม
ถ้าใครเกินจากค่าพวกนี้คือเริ่มเป็นโรคผมบางกันแล้ว ถ้าใคร เป็นจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่กรรมพันธ์ถือว่าโชคดี แต่ถ้าใครเป็น เตรียมตัวเสียเงิน และทำใจไว้ได้เลย เพราะมันต้องใช้เงินรักษาซื้อยาทุกเดือน และบางทีพอรักษา บางคนก็ได้ผล ไม่ได้ผล บางคนต้องเสียเงินเป็นแสน ไปปลูกผมอีก บางทีบางคนปลูกไปผมไม่ขึ้นก็มี
ยังไงก็สู้ๆ กันนะ อีกหน่อยคงมีวิทยาการ ให้เรา คนผมน้อยได้ดีใจ
จะมาบอกวิธี ที่หมอตรวจว่าเป็นโรคผมร่วง จากกรรมพันธ์และฮอร์โมนมั๊ย?
แต่ถ้าใครผมเยอะก็อาจจะร่วงเยอะ ตามจำนวน %
ทีนี้ คือเราเป็นคนนึงที่เป็นผมร่วง จากกรรมพันธ์และฮอร์โมน บอกเลยว่าโรคเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่มีวันหาย เพราะเป็นโรคที่เกิดจากยีน และฮอร์โมน ของเราทั้งพ่อ ทั้งแม่เป็น เลยรุนแรงเป็นตั้งแต่อายุ 18 ตอนนี้รักษามา 6 ปีกว่า เดี๋ยวดีบ้าง แย่บ้างตามที่มันจะเป็น ของเรา เราไปรักษาที่ศิริราชกับคุณหมอผิวหนัง หมอก็ให้กินยา ฟินาสเตอรรายด์ กับทายาไมน็อกซิดิล ช่วงแรกคือผมจะร่วงเยอะมาก เพราะเป็นการผลัดผมที่อ่อนแอออก แต่มันก็จะมีผมเกิดขึ้นมาใหม่ที่ดีกว่า แต่แต่สิ่งที่คนผมร่วงแบบนี้ต่างจากผมร่วงทั่วไปคือ คนที่ร่วงจากกรรมพันธ์ คือ เมื่อร่วงแล้ว เส้น จะงอกขึ้นมาเส้นเล็กกว่าเดิม และสั้นลงเรื่อยๆ แต่คนผมร่วงปกติ ผมจะงอกขึ้นมาทดแทนเส้นใหญ่เท่าเดิม ถ้าร่งแบบพันธุกรรมของผู้ชายจะเริ่มเถิก และเป็นไข่ดาวตรงกลาง ส่วนผมหญิงรอยแสกกลางจะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ทีนี้เรามาดูว่าคุณหมอเช็คยังไง ตามรูป ที่เราวาดขึ้นมา
จุดที่หมอวัด มี 4 จุด คือ
1 จาก หัวคิ้ว ไปยังตีนผม ซึ่งค่าปกติในคนไทย อยู่ที่ 6.5 ซม ใครหน้าผากกว้างอาจจะ 7 ซม
2 จากหัวคิ้วไปยังง่ามซ้ายขวา โดยปกติ ค่าของผู้ชายจะอยู่ที่ 8.5 ซม และข้าง ขวาจะมากกว่าข้างซ้าย 1 ซม แต่ของผู้หญิงอยู่ที่ 6 ซม
3 ตรงรอบขวัญ ไอที่เราเห็นสีขาวๆ นั้นแหละไม่ควรกว้างเกิน 2 ซม
4 รอยแสก เมื่อคุณหมอ แสกกลาง รอยแสกกลาง วัดๆด้ไม่ควรเกิน 1 ซม
หลายคนอาจจะยังงง ว่าวัดยังไง ตรงหน้าผากอาจจะวัดง่าย แต่ตรง ขวัญ กับรอยแสก อาจจจะวัดยาก เรามีรูปตัวอย่าง
แรกแสกกลาง หมอจะวัดจาก ส่วนที่เริ่มเห็นหนังหัวจากซ้ายไปขวา ในค่าของคนปกติ ไม่เกิน 1 เซน
และรอบขวัญ จะวัดจาก ส่วนที่เห็นเป็นหนังหัว แบบที่เราขีดไว้ ไม่เกิน 2 ซม
ถ้าใครเกินจากค่าพวกนี้คือเริ่มเป็นโรคผมบางกันแล้ว ถ้าใคร เป็นจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่กรรมพันธ์ถือว่าโชคดี แต่ถ้าใครเป็น เตรียมตัวเสียเงิน และทำใจไว้ได้เลย เพราะมันต้องใช้เงินรักษาซื้อยาทุกเดือน และบางทีพอรักษา บางคนก็ได้ผล ไม่ได้ผล บางคนต้องเสียเงินเป็นแสน ไปปลูกผมอีก บางทีบางคนปลูกไปผมไม่ขึ้นก็มี
ยังไงก็สู้ๆ กันนะ อีกหน่อยคงมีวิทยาการ ให้เรา คนผมน้อยได้ดีใจ