ก่อนอื่นต้องบอกว่านี้คือการตั้งกระทู้แรกของเรา เพราะเราไม่รู้จะเอาเรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ไปปรึกษาใครดี เริ่มเลยแล้วกันนะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 10ปีที่แล้ว ตอนเราเข้าเรียนมหาลัยปี1 ตอนช่วงรับน้องเราได้เจอกับผู้หญิงคนนี้เป็นครั้งแรก เราจับฉลากได้เป็นบัดดี้กันเราก็แลกเบอร์มือถือกัน ก็เริ่มคุยกันเพราะตอนนั้นเราเองก็ยังไม่ค่อยมีเพื่อน ก็คุยกัน นัดไปเรียนพร้อมกัน ไปทานข้าวกัน จนความสัมพันธ์ค่อยๆมากขึ้นๆจนเราตกลงคบกัน เรารักเขามากและเขาก็รักเรามากเช่นกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ความรักมันเพิ่มมากขึ้นๆ สมัยเรียนเราเป็นคนค่อนข้างเกเร ก็ได้เธอคนนี้คอยเขี้ยวเข็น ติวให้จนเราสอบผ่าน ระหว่างที่คบกันก็มีทะเลาะกันบ้างส่วนมากเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ลึกๆในใจเราตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วว่าถ้าเรียนจบมีงานทำผู้หญิงคนนี้แหละคือคนที่เราจะแต่งงานด้วย จนผ่านปี1 ปี2 ปี3 จนปี4 เราก็ยังคบกันเหมือนเดิม จนเราทั้งคู่เรียนจบ เธอได้งานทำก่อนเรา ช่วงที่เรายังไปได้งานเราก็จะนัดกันไปเดินเล่น ไปทานข้าวกันตามปกติ จนเราหางานได้ ก็ยังเจอกันแต่น้อยลงเพราะวันหยุดและเวลาทำงานเราไม่ค่อยตรงกัน แต่มันเริ่มแย่เพราะช่วงนั้นเราติดเพื่อนมาก เพื่อนที่ทำงานที่เดียวกัน อายุเท่าๆกัน ช่วงนั้นเราติดเที่ยวผับมาก เที่ยวกันทุกคืน ทุกคืนจริงๆ จนทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่เราเป็นคนไม่เจ้าชู้นะ แต่ชอบเที่ยว ช่วงนั้นเราทำตัวแย่มากเงินเดือนใช้ไปครึ่งเดือนก็หมดแล้ว จนคนที่บ้านบอกว่าทำงานเงินไม่พอใช้ก็กลับมาอยู่บ้านเถอะ พอดีเพื่อนสนิทเรากำลังจะลาออก เราก็เลยตัดสินใจลาออกมาอยู่บ้าน กำลังคิดว่าจะสมัครเรียนต่อ ระหว่างรอเปิดเรียนเราก็ยังเจอกัน ไปเที่ยวกันตามปกติ แต่พอมาถึงช่วง 2 3 เดือนหลังก่อนที่จะเลิกกันเราเริ่มคุยกันน้อยลง ทะเลาะกันมากขึ้น จนมาถึงเดือนตุลา เมื่อ6 ปีที่แล้ว เราก็ตัดสินใจเลิกกัน ตอนนั้นเสียใจมาก ร้องไห้ฟูมฟายจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เคยแม้กระทั่งคิดสั้น แต่เราก็ผ่านมาได้ จนผ่านมาประมาณ 2 3เดือนจู่ๆเธอก็โทรมาหา บอกกับเราว่าเธอกำลังจะไปต่างประเทศ เธอจะไปเรียนและทำงานอยู่ที่นั่นเลย เรารู้สึกหน้าชา บอกไม่ถูกว่ามันเป็นยังไง เราก็คุยกันสักพักนึง เราก็อวยพรขอให้เธอเดินทางปลอดภัย แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไหร่เพราะช่วงนั้นเราเริ่มมีคนเข้ามาคุยบ้าง เราคิดเสมอว่าถ้าเรามีแฟนใหม่เราคงจะลืมความเจ็บปวดที่เคยมีมาได้ เราก็เลยตัดสินใจคบกับแฟนใหม่ ช่วงแรกบอกเลยว่าชีวิตกลับมามีความสุขอีกครั้ง แต่พอผ่านไปได้สักพักเราเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเรามันมีอะไรบางอย่างที่มันยังขาดหายไป เหมือนมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่เราไม่สามารถให้กับแฟนใหม่เราได้ และเขาก็ไม่สามารถเติมในส่วนที่เราขาดหายไปได้ แต่ตอนนั้นเราก็บอกกับตัวเองว่าเรารักเขา เขาคือปัจจุบัน ลืมบอกไปว่าแฟนคนนี้ของเราก็รู้ว่าใครคือแฟนเก่าของเรา และไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอจะคอยระแวงแฟนเก่าเรามากทั้งๆที่เราไม่เคยพูดถึงหรือไม่เคยติดต่อกับแฟนเก่าเราเลย จนผ่านไปได้ประมาณ 2ปี แฟนเก่าเราแชทมาในเฟสบุ๊ค บอกว่ากำลังจะกลับมาเมืองไทย ถามเราว่าอยากได้อะไรไหม แล้วก็ฝากถามแม่เราด้วยว่าอยากได้อะไร ตอนนั้นเราก็บอกว่าไม่เป็นไร เราเกรงใจ จนมาถึงวันที่เธอกลับมา เธอก็แชทมาชวนเราไปเที่ยวสวนสนุก ไปกันหลายคนเพราะเธอชวนเพื่อนสนิทสมัยเรียนไปด้วย เราก็ตกลงไป พอไปถึงเพื่อนที่นัดไว้ไม่ได้มา ก็เลยเหลือเรากับแฟนเก่าแล้วก็น้องชายของเขาที่มากับแฟน เราจำความรู้สึกแรกที่ได้เจอหน้าเขาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมา2ปีได้ดี เรารู้เลยว่าสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของเรากลับมาแล้ว เราคุยกันเหมือนเมื่อครั้งตอนที่เรายังคบกัน เรามีความสุขมาก เดินเล่นกันถ่ายรูปให้เธอ เธอก็บอกให้เรามาถ่ายรูปด้วยกัน แต่เราก็ไม่ได้ถ่ายเพราะเราเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป เราเดินเล่นกันจนเย็น เราก็ขับรถไปส่งเธอกับน้องที่บ้าน และก็นัดกันว่าวันพรุ่งนี้จะไปทานข้าวกัน วันรุ่งขึ้นเราก็ไปตามนัด เรานัดเจอกันที่ห้างที่เรานัดกันประจำ เราไม่กล้ามาเดินห้างนี้เป็นปีๆ เพราะเรากลัว ทุกครั้งที่ขับรถผ่านน้ำตาก็ไหลแล้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่เราเหยียบห้างนี้อีกครั้ง รุ่งขึ้นเราก็มาตามนัด พอดีน้องชายเรามาทำธุระเลยแวะมาทักทายแฟนเก่า และทานข้าวกัน เราก็คุยกันไปทานกันไปเธอก็เล่าเรื่องต่างๆที่ได้เจอมาให้เราฟัง เราก็ตักของที่เธอชอบในจานเราให้เธอ เธอเองก็จำได้ว่าเราชอบทานอะไร ทานกันไปสักพักแฟนเราก็โทรเข้ามาตอนแรกเราไม่อยากรับสาย แต่สุดท้ายก็รับเธอก็ถามว่าเราทำอะไร เราก็อั้มๆอึ้งบอกว่าออกมาข้างนอกกับน้องชายแล้วบอกว่ากำลังยุ่งอยู่เดี๋ยวโทรกลับ เรารู้สึกแย่นะที่ต้องโกหก แต่ไม่รู้จะทำยังไง จนเราทานข้าวเสร็จพี่สาวของแฟนเก่าเราโทรมาถามเธอว่าจะกลับหรือยังจะได้กลับพร้อมกัน เราก็เดินเล่นกันสักพัก เราก็เดินไปส่งเธอที่ลานจอดรถ เราก็หยุดยืนคุยร่ำลากันสักพัก เธอก็ยื่นถุงของฝากให้เราพร้อมกับบอกด้วยว่าชิ้นนี้ฝากเรา ชิ้นนี้ฝากแม่ ชิ้นนี้ของน้องเรา เราโบกมือบ๊ายบายกันทั้งที่ใจตอนนั้นอยากจะกอดเธอสักครั้งแต่ก็ทำได้แค่คิด เรามองเธอเดินออกไปจนลับตา แล้วเราก็รีบหันหลังเดินออกมาเพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าเรากำลังร้องไห้ นั้นคือครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน เราก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ จนถึงตอนหัวค่ำเราก็บอกกับน้องว่าอยากดื่มเบียร์ ก็เลยชวนกันไป ก็นั่งคุย ดื่มกันปกติ เรากับน้องชายสนิทกันมากคุยกันได้ทุกเรื่อง เราก็ถามน้องชายเราว่าแฟนเก่าเราเหมือนเดิมไหม น้องชายตอบว่าถ้าไม่รู้ว่าเรา2คนเลิกกันไปนานแล้ว ถ้าดูจากกริยา ท่าทางการคุยของเราทั้งคู่ก็ยังคิดว่ายังคงรักกันเหมือนเดิม เราก็เงียบแล้วอยู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาไม่รู้เราก็ขว้ามือถือขึ้นมา แล้วพิมพ์ก็ความไปบอกกับเธอประมาณว่า เรายังรัก และรอเธออยู่เสมอนะ ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ สักพักเธอก็พิมพ์ตอบกับมาว่าสำหรับเราตอนนี้เธอคิดกับเราแค่เป็นเพื่อนกัน อีกอย่างเธอเองก็ไม่ได้คิดจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วไม่อยากให้เราเสียเวลา เราก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ตอนนั้นจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมากนัก แต่ที่แย่คือหลังจากวันนั้น วันที่เรากลับมาใช้ชีวิตปกติกับแฟนคนปัจจุบันของเราแต่ความสัมพันธ์มันเริ่มไม่ปกติเสียแล้ว อยู่ดีๆเราเริ่มมีความรู้สึกเหนื่อยที่จะไปหา ไม่ค่อยอยากจะไปเจอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยทำกับเรามันดูขัดหูขัดตาไปหมด แต่เราก็พยายามทำให้ทุกอย่างเป็นปกติ เพราะเธอเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ส่วนแฟนเก่าหลังจากที่แชทคุยกันเราก็ไม่ได้คุยกันอีก ผ่านมาจนถึงนะวันนี้ความรู้สึกแบบนี้ก็ยังเป็นอยู่จนบางครั้งเราคิดว่าเราจะผิดไหมถ้าเราเลือกที่จะเดินออกมาจากเธอเพราะเรายังไม่สามารถลืมแฟนเก่าได้เลย แต่ถ้าถามว่ารักแฟนคนนี้ไหม๊เราก็รักนะแต่มันเหมือนว่าชีวิตเรามันมีอะไรยังขาดหายไป แล้วมันจะเป็นการทำร้ายตัวเองเกินไปหรือป่าวถ้าเลือกที่จะจมอยู่กับอดีต....
ความจริงในใจ