โดย MGR Online
26 ตุลาคม 2559 11:43 น.
รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีผู้สมัครชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ออกมาโจมตีนโยบายยุติสงครามซีเรียของ
ฮิลลารี คลินตัน ว่าอาจนำไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” เพราะอาจยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจ
นิวเคลียร์เช่นกัน
ภาพจาก MGR Online
ในการให้สัมภาษณ์ที่เน้นเรื่องนโยบายต่างประเทศ ทรัมป์ ระบุว่า การปราบกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้สิ้นซากเป็น
เรื่องสำคัญกว่าการกดดันให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ยอมสละอำนาจ อย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดเป็นเป้าหมายมาโดยตลอด
ทรัมป์ วัย 70 ปี ยังตั้งคำถามว่า คลินตัน จะกลับไปคืนดีกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้อย่างไร หลังจากที่
ปรามาสด่าทอผู้นำหมีขาวราวกับเป็นยักษ์เป็นมาร
มหาเศรษฐีปากเปราะตำหนิประธานาธิบดี บารัค โอบามา ว่าเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ โรดริโก ดูเตอร์เต
ผู้นำคนใหม่ของฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งโอดครวญว่าคนในพรรครีพับลิกันขาดความเป็นเอกภาพ และตนคงจะชนะศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
ได้ไม่ยากหากแกนนำพรรคพร้อมใจกันสนับสนุน
“ถ้าพรรคเรามีความเป็นเอกภาพ เราจะไม่มีวันแพ้ให้กับ ฮิลลารี คลินตัน” ทรัมป์ กล่าว
ในเรื่องของสงครามกลางเมืองซีเรีย ทรัมป์ ชี้ว่า แนวทางยุติความขัดแย้งอย่างแข็งกร้าวที่ คลินตัน เสนออาจทำให้สหรัฐฯ
ต้องเดินเข้าสู่ “สงครามโลก” ครั้งใหม่
คลินตัน ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน (no-fly zone) และ “เขตปลอดภัย” (safe zones)
เพื่อปกป้องพลเรือนซีเรียที่ไม่มีส่วนในการสู้รบ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเกรงว่า การประกาศพื้นที่คุ้มกันเช่นนี้เสี่ยงที่จะทำให้สหรัฐฯ
ต้องขัดแย้งโดยตรงกับฝูงบินขับไล่ของรัสเซีย
“สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือปราบปรามไอเอส เราไม่ควรเน้นปัญหาภายในซีเรียมากเกินไป” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ขณะกำลัง
รับประทานไข่ดาวและไส้กรอกอยู่ที่สนามกอล์ฟ ทรัมป์ เนชันแนล ดอรัล
“ปัญหาซีเรียจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ถ้าคุณเชื่อคำพูด ฮิลลารี คลินตัน”
“เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะไม่ได้รบกับซีเรียอีกต่อไป แต่จะต้องรบกับทั้งซีเรีย รัสเซีย และอิหร่านพร้อมกัน เข้าใจไหม? รัสเซีย
เป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นประเทศที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ ในขณะที่บางประเทศดีแต่พูด”
ทีมหาเสียงของ คลินตัน ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์นี้ โดยระบุว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นพ้องต้องกันว่า
ทรัมป์ ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำสูงสุดของอเมริกา
“นี่เป็นอีกครั้งที่เขาหยิบยกคำพูดของ ปูติน มาผลิตซ้ำ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวอเมริกัน แต่กลับไม่ชี้แจงว่าตัวเอง
มีแผนอย่างไรที่จะปราบไอเอส หรือจะบรรเทาความทุกข์ทรมานให้แก่ประชาชนในซีเรียได้อย่างไร” เจสส์ เลห์ริช โฆษกของคลินตัน
ระบุในคำแถลง
ทรัมป์ เตือนว่า เวลานี้รัฐบาลอัสซาดเข้มแข็งยิ่งกว่าเมื่อ 3 ปีก่อน และการจะบีบ อัสซาด ให้ลงจากเก้าอี้นั้นไม่สำคัญเท่ากับการ
กำจัดไอเอส
“อัสซาด เป็นแค่เรื่องรอง สำหรับผมไอเอสต้องมาก่อน” ทรัมป์ กล่าว
อดีตดาราเรียลลิตีโชว์ผู้นี้ยังเอ่ยถึงเรื่องที่ คลินตัน วิจารณ์ผู้นำรัสเซียอย่างรุนแรง และตั้งคำถามว่า “เธอจะกลับลำไปขอเจรจา
กับชายที่เธอประณามว่าเลวทรามนักหนาได้อย่างไร” หากเธอได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ที่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ นั้น ทรัมป์ ได้ติเตียน โอบามา ว่า “มัวแต่เอาเวลาไปตีกอล์ฟ”
มากกว่าผูกสัมพันธ์กับผู้นำต่างประเทศ
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดูเตอร์เต ก็แสดงจุดยืนไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ มาตลอด โดย
ปฏิเสธเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับสงครามยาเสพติดที่ทำให้มีคนถูกสังหารไปกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ยังใช้วาทกรรม “ลูก
” กับ
โอบามา และขอร้องสหรัฐฯ ว่าอย่าปฏิบัติต่อฟิลิปปินส์เหมือน “สุนัขที่ถูกปลิงเกาะ”
ทรัมป์ ชี้ว่าคำพูดของ ดูเตอร์เต แสดงให้เห็นว่าเขา “ไม่มีความเคารพต่อประเทศของเราเลย”
เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. นี้ ทว่าคะแนนนิยมของ
ทรัมป์ ยังคงตามหลัง คลินตัน อยู่ห่างพอสมควร
ทรัมป์ กล่าวหาสื่อมวลชนว่า “แทรกแซงผลการเลือกตั้ง” และเตือนว่าประชาชนที่เป็นฐานเสียงของเขารู้สึกผิดหวังกับท่าที
ของผู้นำพรรครีพับลิกัน
“ประชาชนกำลังโกรธแค้นผู้นำเหล่านี้ เพราะนี่คือการเลือกตั้ง และเราจะชนะแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าได้รับการสนับสนุน
จากในคนพรรคตั้งแต่ระดับบนลงมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เชื่อว่าเราจะชนะอยู่ดี” ทรัมป์
“ทรัมป์” ชี้แผนการในซีเรียของ “คลินตัน” จะก่อ “สงครามโลกครั้งที่ 3”
26 ตุลาคม 2559 11:43 น.
รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีผู้สมัครชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ออกมาโจมตีนโยบายยุติสงครามซีเรียของ
ฮิลลารี คลินตัน ว่าอาจนำไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” เพราะอาจยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจ
นิวเคลียร์เช่นกัน
ภาพจาก MGR Online
ในการให้สัมภาษณ์ที่เน้นเรื่องนโยบายต่างประเทศ ทรัมป์ ระบุว่า การปราบกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้สิ้นซากเป็น
เรื่องสำคัญกว่าการกดดันให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ยอมสละอำนาจ อย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดเป็นเป้าหมายมาโดยตลอด
ทรัมป์ วัย 70 ปี ยังตั้งคำถามว่า คลินตัน จะกลับไปคืนดีกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้อย่างไร หลังจากที่
ปรามาสด่าทอผู้นำหมีขาวราวกับเป็นยักษ์เป็นมาร
มหาเศรษฐีปากเปราะตำหนิประธานาธิบดี บารัค โอบามา ว่าเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ โรดริโก ดูเตอร์เต
ผู้นำคนใหม่ของฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งโอดครวญว่าคนในพรรครีพับลิกันขาดความเป็นเอกภาพ และตนคงจะชนะศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
ได้ไม่ยากหากแกนนำพรรคพร้อมใจกันสนับสนุน
“ถ้าพรรคเรามีความเป็นเอกภาพ เราจะไม่มีวันแพ้ให้กับ ฮิลลารี คลินตัน” ทรัมป์ กล่าว
ในเรื่องของสงครามกลางเมืองซีเรีย ทรัมป์ ชี้ว่า แนวทางยุติความขัดแย้งอย่างแข็งกร้าวที่ คลินตัน เสนออาจทำให้สหรัฐฯ
ต้องเดินเข้าสู่ “สงครามโลก” ครั้งใหม่
คลินตัน ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน (no-fly zone) และ “เขตปลอดภัย” (safe zones)
เพื่อปกป้องพลเรือนซีเรียที่ไม่มีส่วนในการสู้รบ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเกรงว่า การประกาศพื้นที่คุ้มกันเช่นนี้เสี่ยงที่จะทำให้สหรัฐฯ
ต้องขัดแย้งโดยตรงกับฝูงบินขับไล่ของรัสเซีย
“สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือปราบปรามไอเอส เราไม่ควรเน้นปัญหาภายในซีเรียมากเกินไป” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ขณะกำลัง
รับประทานไข่ดาวและไส้กรอกอยู่ที่สนามกอล์ฟ ทรัมป์ เนชันแนล ดอรัล
“ปัญหาซีเรียจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ถ้าคุณเชื่อคำพูด ฮิลลารี คลินตัน”
“เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะไม่ได้รบกับซีเรียอีกต่อไป แต่จะต้องรบกับทั้งซีเรีย รัสเซีย และอิหร่านพร้อมกัน เข้าใจไหม? รัสเซีย
เป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นประเทศที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ ในขณะที่บางประเทศดีแต่พูด”
ทีมหาเสียงของ คลินตัน ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์นี้ โดยระบุว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นพ้องต้องกันว่า
ทรัมป์ ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำสูงสุดของอเมริกา
“นี่เป็นอีกครั้งที่เขาหยิบยกคำพูดของ ปูติน มาผลิตซ้ำ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวอเมริกัน แต่กลับไม่ชี้แจงว่าตัวเอง
มีแผนอย่างไรที่จะปราบไอเอส หรือจะบรรเทาความทุกข์ทรมานให้แก่ประชาชนในซีเรียได้อย่างไร” เจสส์ เลห์ริช โฆษกของคลินตัน
ระบุในคำแถลง
ทรัมป์ เตือนว่า เวลานี้รัฐบาลอัสซาดเข้มแข็งยิ่งกว่าเมื่อ 3 ปีก่อน และการจะบีบ อัสซาด ให้ลงจากเก้าอี้นั้นไม่สำคัญเท่ากับการ
กำจัดไอเอส
“อัสซาด เป็นแค่เรื่องรอง สำหรับผมไอเอสต้องมาก่อน” ทรัมป์ กล่าว
อดีตดาราเรียลลิตีโชว์ผู้นี้ยังเอ่ยถึงเรื่องที่ คลินตัน วิจารณ์ผู้นำรัสเซียอย่างรุนแรง และตั้งคำถามว่า “เธอจะกลับลำไปขอเจรจา
กับชายที่เธอประณามว่าเลวทรามนักหนาได้อย่างไร” หากเธอได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ที่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ นั้น ทรัมป์ ได้ติเตียน โอบามา ว่า “มัวแต่เอาเวลาไปตีกอล์ฟ”
มากกว่าผูกสัมพันธ์กับผู้นำต่างประเทศ
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดูเตอร์เต ก็แสดงจุดยืนไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ มาตลอด โดย
ปฏิเสธเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับสงครามยาเสพติดที่ทำให้มีคนถูกสังหารไปกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ยังใช้วาทกรรม “ลูก” กับ
โอบามา และขอร้องสหรัฐฯ ว่าอย่าปฏิบัติต่อฟิลิปปินส์เหมือน “สุนัขที่ถูกปลิงเกาะ”
ทรัมป์ ชี้ว่าคำพูดของ ดูเตอร์เต แสดงให้เห็นว่าเขา “ไม่มีความเคารพต่อประเทศของเราเลย”
เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. นี้ ทว่าคะแนนนิยมของ
ทรัมป์ ยังคงตามหลัง คลินตัน อยู่ห่างพอสมควร
ทรัมป์ กล่าวหาสื่อมวลชนว่า “แทรกแซงผลการเลือกตั้ง” และเตือนว่าประชาชนที่เป็นฐานเสียงของเขารู้สึกผิดหวังกับท่าที
ของผู้นำพรรครีพับลิกัน
“ประชาชนกำลังโกรธแค้นผู้นำเหล่านี้ เพราะนี่คือการเลือกตั้ง และเราจะชนะแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าได้รับการสนับสนุน
จากในคนพรรคตั้งแต่ระดับบนลงมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เชื่อว่าเราจะชนะอยู่ดี” ทรัมป์