สวัสดีเพื่อนๆ หลายบทความที่นำเสนอมาเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตสมัยรัชกาลที่ ๕ ทั้งยังเรื่องราวภายในของพระราชฐานชั้นในดังเช่นเรื่องเจ้าจอม อีกทั้งเรื่องลี้ลับในวังที่เล่าสืบต่อกันมา วันนี้เรามารู้จักพระราชฐานชั้นในกันบ้างว่าพระราชฐานชั้นนี้มีกฎเกณฑ์อะไรบ้าง และเป็นที่ประทับหรือตำหนักใดให้ได้รู้จักกันพอสังเขป ลองมาติดตามด้วยกันนะ
(กดฟังเพลงประกอบไปด้วยจะได้อรรถรสเพิ่ม)
พระราชฐานชั้นใน มีบริเวณอยู่ทางด้านทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับพระราชฐานชั้นกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระมหาปราสาทและพระราชมณเฑียรสถาน ด้านหลัง และด้านข้างของพระราชฐานชั้นใน โอบล้อมด้วยอาคารสูง 2 ชั้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นกำแพงพระราชวังชั้นในไปด้วยในตัว กำแพงดังกล่าวนี้
ด้านนอกไม่มีหน้าต่างหรือช่องเิปิดใดๆทั้งสิ้น พระราชฐานชั้นในเป็นเขตหวงห้ามสำหรับสำหรับบุคคลภายนอก โดยเฉพาะบุรุษเพศ ยกเว้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชโอรสที่ยังไม่ได้โสกันต์(ตัดจุก) หรือเด็กชายที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี
และถ้ามีธุระจำเป็นต้องขออนุญาตไปตามลำดับขั้นตอน จึงมีสิทธิ์เข้าได้ ปัจจุบันข้อห้ามเหล่านั้นได้ผ่อนคลายลง แต่ยังเป็นเขตหวงห้ามทีมีระเบียบแบบแผนใช้ปฎิบัติต่อไป
บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระมเหสี เทวี พระธิดา ตลอดจนเป็นที่อยู่ของพระสนมกำนัล เจ้าจอม ข้าหลวงและข้าราชการที่เป็นหญิงล้วน นอกจากนั้นยังมีเด็กหญิงวัยต่างๆกัน มีทั้งหม่อมเจ้าซึ่งเป็นพระธิดาในเจ้านายพระองค์ชาย และธิดาในเชื้อพระวงศ์หลายระดับ ตลอดจนธิดาของขุนนางและข้าราชการที่นิยมส่งบุตรีเข้ามารับการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่าน รวมทั้งรับการอบรมเรื่องการบ้านการเรือน ฝึกหัดกริยามารยาทเพื่อเป็นกุลสตรีที่งามพร้อม พระราชฐานชั้นในก็เปรียบเสมือนเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่พลเมืองเป็นหญิงล้วน มีระเบียบแบบแผนและความเป็นอยู่ของตนเอง ที่กลายเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมประเพณียุคหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์
น่าเสียดาย...เค้าไม่ให้เราเข้าไป..ก็ได้แต่ชะแง้มอง.. และจินตนาการไปว่าข้างในเป็นอย่างไร....
ประตูทางด้านทิศเหนือ ที่เชื่อมกับพระราชฐานชั้นในก็คือประตูราชกิจ..ประตูนี่แหละ...ใครบางคนชะเง้อ...คอสั้นๆ..แอบดู.. จนน้องทหารเหล่...ก็ชั้นอยากเข้ามากกกกก......อ่านนิยายของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ซะ....จนอยากฝันว่าได้เข้าไปเดินในนั้น.....
เกร็ดประวัติศาสตร์...ประตูนี้ชาววังเรียกประตูยามค่ำหรือประตูย่ำค่ำ เปิดปิดเวลา 6.00 น. – 22 .000 น. ในการเดินผ่านเข้า-ออกประตูนี้ในอดีต จะต้องระมัดระวังการต่างกายให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ใช้สีฉูดฉาด แบบกรุยกรายหรือสกปรกซอมซ่อ ทั้งจะต้องไม่ลากจูงหรือแบกหามอะไรที่หนักหรือใหญ่โตจนเกินกำลัง หรือส่งเสียงดังโครมครามหรือนำสัตว์เลี้ยงเข้าไป ห้ามสวมร้องเท้าแตะ มิฉะนั้นจะถูกพนักงานกรมโขลนผู้เฝ้าประตู...ซึ่งเป็นผู้หญิงไปสั่งสอน
ประตูช่องกุด เรียกกันว่า "ท้ายวัง" ประวัติศาสตร์ กล่าวถึงในชื่อ ประตูดิน เป็นประตูที่ชาววังใช้กัน... สาวชาววัง..จะออกมาทางประตูนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า"เจ้าชู้ประตูดิน"....หนุ่มๆมาแอบดูสาวชาววังกัน
เข้าประตูเลี้ยวซ้าย ด้านขวามือ คือ ประตูศรีสุดาวงศ์
การแต่งกายของเจ้านายฝ่ายใน....สมัยรัชกาลที่ 5
ตำหนักเขียว ที่ประทับของสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี พระพี่นางในรัชกาลที่ 1 ปัจจุบันรื้อแล้วไปปลูกเป็นกุฏิสงฆ์วัดอมรินราราม
พระตำหนักแดง ที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนบรมราชินี ปัจจุบันอยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ลักษณะของพระบัญชร ประกอบฐานสิงห์ตอนล่าง เป็นลักษณะนี้มักจะไม่ปรากฏในเรือนสามัญ
ซุ้มประตูทางเข้าเรือนแถวบางหลัง
ตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ตำหนักหมายเลข 11.....
ตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมี
พระราชายา เจ้าดารารัศมี(แถวหลังองค์ที่ 4 จากซ้าย) และข้าหลวง
ทางเข้าตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมี
เรือนเจ้าจอมเอี่ยม เอิบ อาบ เอื้อน
สะพานเชื่อมระหว่างตำหนักและเรือนทั้งสองหลัง
เรือนเจ้าจอมเอี่ยม เอิบ อาบ เอื้อน
แถวเต๊งทางด้านทิศตะวันตก ลักษณะแบบดั้งเดิม ดูแล้ว....คิดถึงแม่ช้อยกับแม่พลอย
ความสวยงามของสถาปัตยกรรมของเต๊งแดง
แถวเต๊งเป็นอาคารสูง 2 ชั้น เป็นที่อยู่ของคุณข้าหลวงผู้ปฎิบัติงานตามตำหนักต่างๆ
ห้องพระเครื่องต้นหรือห้องเครื่องพระวิมาดา
ภายในห้องพระเครื่อง
ตำหนักเจ้าจอมมารดาชุ่ม
ตำหนักเจ้าจอมมารดาอ่อน
ตำหนักเจ้าจอมมารดาแส..... ตำหนักบางตำหนักเก่าแก่..และทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่แค่มองผ่านรูป...ฉันเห็นถึง...ภาพในอดีต...ที่คนในฝ่ายใน ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างๆจากคนทั่วไป....รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะมหัศจรรย์.....อยากเกิดร่วมชาติกับหญิงสาวเหล่านั้นจัง
งานดอกไม้สดชาววัง..ที่แสนละเอียดอ่อน..น่าทึ่ง (พวงมาลัยที่แสนงดงาม)
ขนมช่อม่วงสูตรชาววัง
ไข่แมงดาแปลง....ขนมที่พลอยกินวันแรกที่เข้าวัง...
พานขันหมาก
เขี้ยวกระแต
เอาไปติดผมเจ้าสาว..งดงามเหลือเกิน..
อยากเข้าไปพระราชฐานฝ่ายใน....ก็เป็นเพราะอ่านสี่แผ่นดิน......แม่พลอย....จนมาถึงร่มฉัตร..แม่วาด....ผู้หญิงชาววัง...คงจะสวย.....เรียบร้อย.....พูดเสียงเบาเบา.....งามทั้งรูปงามกริยามารยาท ประดิษฐ์ของสวยงามน่าทึ่ง...........น่ารัก....น่าถนอมจริงๆๆสาวชาววัง....
ที่มา:
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=calalily&month=12-10-2012&group=18&gblog=8
ปล.รูปที่นำมาลงบางตำหนักได้รับการบูรณะแล้วคะในปัจจุบัน ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความคิดเห็นกันเป็นความรู้มากๆ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "พระราชฐานชั้นใน" ของพระบรมมหาราชวัง
พระราชฐานชั้นใน มีบริเวณอยู่ทางด้านทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับพระราชฐานชั้นกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระมหาปราสาทและพระราชมณเฑียรสถาน ด้านหลัง และด้านข้างของพระราชฐานชั้นใน โอบล้อมด้วยอาคารสูง 2 ชั้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นกำแพงพระราชวังชั้นในไปด้วยในตัว กำแพงดังกล่าวนี้
ด้านนอกไม่มีหน้าต่างหรือช่องเิปิดใดๆทั้งสิ้น พระราชฐานชั้นในเป็นเขตหวงห้ามสำหรับสำหรับบุคคลภายนอก โดยเฉพาะบุรุษเพศ ยกเว้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชโอรสที่ยังไม่ได้โสกันต์(ตัดจุก) หรือเด็กชายที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี
และถ้ามีธุระจำเป็นต้องขออนุญาตไปตามลำดับขั้นตอน จึงมีสิทธิ์เข้าได้ ปัจจุบันข้อห้ามเหล่านั้นได้ผ่อนคลายลง แต่ยังเป็นเขตหวงห้ามทีมีระเบียบแบบแผนใช้ปฎิบัติต่อไป
บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระมเหสี เทวี พระธิดา ตลอดจนเป็นที่อยู่ของพระสนมกำนัล เจ้าจอม ข้าหลวงและข้าราชการที่เป็นหญิงล้วน นอกจากนั้นยังมีเด็กหญิงวัยต่างๆกัน มีทั้งหม่อมเจ้าซึ่งเป็นพระธิดาในเจ้านายพระองค์ชาย และธิดาในเชื้อพระวงศ์หลายระดับ ตลอดจนธิดาของขุนนางและข้าราชการที่นิยมส่งบุตรีเข้ามารับการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่าน รวมทั้งรับการอบรมเรื่องการบ้านการเรือน ฝึกหัดกริยามารยาทเพื่อเป็นกุลสตรีที่งามพร้อม พระราชฐานชั้นในก็เปรียบเสมือนเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่พลเมืองเป็นหญิงล้วน มีระเบียบแบบแผนและความเป็นอยู่ของตนเอง ที่กลายเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมประเพณียุคหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์
น่าเสียดาย...เค้าไม่ให้เราเข้าไป..ก็ได้แต่ชะแง้มอง.. และจินตนาการไปว่าข้างในเป็นอย่างไร....
ประตูทางด้านทิศเหนือ ที่เชื่อมกับพระราชฐานชั้นในก็คือประตูราชกิจ..ประตูนี่แหละ...ใครบางคนชะเง้อ...คอสั้นๆ..แอบดู.. จนน้องทหารเหล่...ก็ชั้นอยากเข้ามากกกกก......อ่านนิยายของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ซะ....จนอยากฝันว่าได้เข้าไปเดินในนั้น.....
เกร็ดประวัติศาสตร์...ประตูนี้ชาววังเรียกประตูยามค่ำหรือประตูย่ำค่ำ เปิดปิดเวลา 6.00 น. – 22 .000 น. ในการเดินผ่านเข้า-ออกประตูนี้ในอดีต จะต้องระมัดระวังการต่างกายให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ใช้สีฉูดฉาด แบบกรุยกรายหรือสกปรกซอมซ่อ ทั้งจะต้องไม่ลากจูงหรือแบกหามอะไรที่หนักหรือใหญ่โตจนเกินกำลัง หรือส่งเสียงดังโครมครามหรือนำสัตว์เลี้ยงเข้าไป ห้ามสวมร้องเท้าแตะ มิฉะนั้นจะถูกพนักงานกรมโขลนผู้เฝ้าประตู...ซึ่งเป็นผู้หญิงไปสั่งสอน
ประตูช่องกุด เรียกกันว่า "ท้ายวัง" ประวัติศาสตร์ กล่าวถึงในชื่อ ประตูดิน เป็นประตูที่ชาววังใช้กัน... สาวชาววัง..จะออกมาทางประตูนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า"เจ้าชู้ประตูดิน"....หนุ่มๆมาแอบดูสาวชาววังกัน
แถวเต๊งเป็นอาคารสูง 2 ชั้น เป็นที่อยู่ของคุณข้าหลวงผู้ปฎิบัติงานตามตำหนักต่างๆ
ตำหนักเจ้าจอมมารดาอ่อน
ตำหนักเจ้าจอมมารดาแส..... ตำหนักบางตำหนักเก่าแก่..และทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่แค่มองผ่านรูป...ฉันเห็นถึง...ภาพในอดีต...ที่คนในฝ่ายใน ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างๆจากคนทั่วไป....รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะมหัศจรรย์.....อยากเกิดร่วมชาติกับหญิงสาวเหล่านั้นจัง
งานดอกไม้สดชาววัง..ที่แสนละเอียดอ่อน..น่าทึ่ง (พวงมาลัยที่แสนงดงาม)
ขนมช่อม่วงสูตรชาววัง
ไข่แมงดาแปลง....ขนมที่พลอยกินวันแรกที่เข้าวัง...
พานขันหมาก
เขี้ยวกระแต
เอาไปติดผมเจ้าสาว..งดงามเหลือเกิน..
อยากเข้าไปพระราชฐานฝ่ายใน....ก็เป็นเพราะอ่านสี่แผ่นดิน......แม่พลอย....จนมาถึงร่มฉัตร..แม่วาด....ผู้หญิงชาววัง...คงจะสวย.....เรียบร้อย.....พูดเสียงเบาเบา.....งามทั้งรูปงามกริยามารยาท ประดิษฐ์ของสวยงามน่าทึ่ง...........น่ารัก....น่าถนอมจริงๆๆสาวชาววัง....
ที่มา: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=calalily&month=12-10-2012&group=18&gblog=8
ปล.รูปที่นำมาลงบางตำหนักได้รับการบูรณะแล้วคะในปัจจุบัน ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความคิดเห็นกันเป็นความรู้มากๆ