สวัสดีครับ พี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิป คือผมต้องการความคิดเห็นจากพี่ๆครับ คือว่าตอนม.ปลายผมต้องพาเเม่ไปรพ.ตลอดเนื่องจากเเม่ผมมีโรคประจำตัวหลายโรค เเล้วผมก็เห็นการทำงานของหมอ บางทีเเม่ผมปวดหัวใจต้องไปรพ.บ่อยๆหลายๆครั้ง ทำให้ผมเห็นวิถีการทำงานของเเพทย์มาหลายปี จนทำให้ผมมีเเนวคิดที่จะสอบเข้าคณะเเพทย์ เเต่ด้วยความขี้เกียจ เเละยังไม่ค่อยรู้จักโต ทำให้ผมไม่ค่อยตั้งใจเตรียมตัวสอบเข้าซึ่งทำให้ผมฝังใจเเละถือเป็นตราบาปมาจนถึงทุกวันนี้ เเน่นอนว่าผมไม่สามารถสอบเข้าคณะเเพทย์ เเต่ก็ติดคณะวิทยาศาสตร์ ม.รัฐในกทม. เเห่งหนึ่ง เเต่ด้วยฐานะทางบ้านของผมที่ไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับสุขภาพของเเม่ผมที่ไม่ดี ไม่มีใครดูเเลเเละพาไปรพ.ผมจึงสละสิทธิ์ไป เเละไปเรียนคณะรัฐศาสตร์ ที่ม.เปิดในกทม. เเละทำงานparttime ประกอบกับดูเเลเเม่ไปด้วย เเต่ความรู้สึกเหรอครับ มันไม่ดีเอาเสียเลย ผมกลายเป็นคนซึมเศร้า โทษตัวเองว่าเป็นเพราะความไม่ตั้งใจพอจนทำให้ไม้ได้เรียนหมออย่างที่ต้องการ ผมก็แบกความรู้สึกผิดนี้มาโดยตลอด บ่อยครั้งผมสับสนว่าผมคงไม่ได้อยากเรียนหมอจริงๆหรอก ไม่อย่างนั้นผมก็ต้องพยายามมากกว่านี้สิ เเต่ผมก็ไม่ค่อยชอบการเรียนในม.เปิด คือตอนนั้นผมเครียดมากว่าสิ่งที่ผมวาดฝันไว้ มันพังทลายไปหมด ผมต้องอ่านหนังสืออยู่กับบ้าน ชีวิตการเรียนของผมมันช่างทรมานเหลือเกินเเละพยายามลืมเรื่องราวในอดีต เเล้วปลอบใจตัวเองว่ามาเริ่มต้นกันใหม่ จนผมเรียนปีที่3 ผมก็ไปadmission เข้าคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รัฐในกทม.เพราะว่าอยากเรียนในม.ปิดมากเเล้วคิดว่าความฝันเรื่องการเรียนหมอของผมคงต้องรอชาติหน้า ผมไปเรียนได้ประมาณเดือนเดียว ด้วยเหตุผลทางการเงินเเละทางบ้านก็ไม่สนับสนุนนัก ผมจึงลาออกมาเเละเก็บหน่วยกิตที่ม.เปิดที่เหลืออยู่ ตอนนั้นผมต้องพบจิตเเพทย์ ทำร้ายตัววเอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เเต่ก็ทำหน้าที่ในการดูเเลเเม่ไม่บกพร่อง บางครั้งต้องนอนรพ.เป็นเดือน เเละต้องไปพบเเพทย์หลายครั้ง เเต่ปฏกิริยาของผมทำให้เเม่สังเกตุได้ เเละเเม่คงคิดว่าเป็นเพราะเเม่ที่เป็นสาเหตุ เเม่ผมจึงกินยานอนหลับทั้งขวด เเต่ผมไปเห็นในถังขยะเเละช่วยไว้ได้ทัน เเต่เเม่ต้องรักษาทั้งโรคทางกายเเละทางใจในคราวเดียว ผมรู้สึกผิด ตอนนั้นโลกมันมืดมน ทำไมเราไม่ได้เรียนเหมือนคนอื่นบ้าง วันๆก็เอาเเต่โทษตัวเอง ต่อมาผมก็ดูเเลเเม่กับอ่านหนังสือสอบเเละทำงานเป็นผู้ช่วยในรร.กวดวิชา เเต่ทุกวินาทีผมก็จินตนาการว่าตัวเองได้เรียนหมอ ได้ใส่เสื้อกราวน์ มันทำให้ผมมีความสุขดี เเต่ก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมใช้ชีวิตเเละเเบกความรู้สึกนี้ตามลำพัง จนกระทั่งเรียนจบเเละได้งานทำที่บริษัทหลักทรัพย์เเห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกขแงผมมาก เพราะสิ่งที่เรียนกับงานที่ได้ไๆม่ตรงกันเลย เเต่ผมก็ทำงานได้โโยไม่ได้ฝืนใจหรือกดดันอะไร เเละเรียนรู้งานได้พอสมควร รวมทั้งเพื่อนร่วมงานก็ดี เเต่ทุกวันก็อยากจะไปเรียนเเพทย์ เเล้วก็ทุกข์ใจทุกเวลาว่าถ้าเราพยายามมากกว่านี้ก็คงสมหวังเเล้ว ฐาานะทางการเงินของผมก็ดีขึ้นบ้าง จนผมสานฝันโดยการกู้ซื้อคอนโดเล็กๆย่านชานเมือง ด้วยตัวเองในวัย23ปี ด้วยเหตุผลคืออยากให้เเม่สบายขึ้น ไม่ถูกดูถูก ถึงว่าผมจะต้องใช้เงินอย่างประหยัดมากๆๆ ก็ตาม เเต่เมื่อปลายปีที่เเล้วเเม่ผมก็จากผมไปด้วยโรคไตวายระยะสุดท้าย ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวที่คอนโดห้องเล็กๆ จนตอนนี้ผมอายุ25ปี ซึ่งระยะเวลามันก็ผ่านมา7-8ปีเเล้ว เเต่ในหัวผมมันก็อยากจะไปเรียนหมอเหลือเกิน เเต่คิดเสมอว่ามันไม่ไมีทางเป็นไปได้ เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปเเล้ว ผมควรทำยังไงดีครับ ระหว่างให้เวลาทำให้ผมลืมเเต่ตั้งใจทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อไป หรือขายคอนโดเพื่อรวบรวมเงินที่มีเเล้วตั้งใจสอบเข้าคณะเเพทย์อย่างเต็มที่ในวัย25-26 ปี มันสายเกินไปมั้ยครับ ผมควรทำยังไงดี...
อยากเรียนหมอตอนนี้ถือว่าสายไปไหมครับ?