ทริปที่1 ภูกระดึง,เชียงคาน,ภูทอก Ep.1
สวัสดีครับเพื่อนๆนี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรกของผม คืออยากจะลองทำรีวิวการทท่องเที่ยวแบบประหยัดๆดูครับ ซึ่งผมตั้งงบในทริปนี้ใว้ที่ 1,500 บาทครับแผนคือ
1.ไปรถไฟฟรี สาย กรุงเทพ-หนองคาย
2.ค่ารถสองแถวจากชานชาลาขอนแก่นไปลง บขส9บาท
3.ค่ารถ บขส.ขอนแก่น-เมืองเลย83บาท
4.ค่ารถจากผานกเค้าไปตีนภู30บาท
5.ค่ารถ บขส.จากผานกเค้าไปเชียงคาน101บาท
6.ค่ารถสามล้อสกายแล็ป100บาท
7.ค่าที่พักที่เชียงคาน 500 บาท/คืน ขากลับทำสลับกัน รวมค่าใช้จ่าย 1,046 บาท เหลือใว้กิน อีก 454 บาท
มาดูกันครับว่าผมจะทำได้อย่างที่คิดใว้รึป่าว
คืนวันศุกร์ที่21ตุลาคม2559
รุ่นพี่ผมขับรถมาส่งที่สถานีขนส่งหัวลำโพงเวลาประมาณ19.30น. ภาพแรกที่เห็นตอนเดินเข้ามาครับ
พระเจ้า !!! คนเยอะมว๊ากกกก คนพวกนี้คือประชาชนที่มาร่วมถวายความอาลัยแด่พ่อหลวงของเราครับ (ตอนนี้ใจผมเริ่มไม่ดีแล้ว กลัวรถไฟฟรีจะเต็ม กลัวจะตกรถ) ผมลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปได้ยังไง ?
ในที่สุดผมก็ได้ตั๋วครับ
ทันทีที่ได้ตั๋วผมไม่รอช้ารีบขึ้นไปจับจองที่นั่งทันที โชคดีที่ผมมาถึงก่อนรถไฟจะออกเกือบ1ชม. ทำให้ได้ที่นั่งริมหน้าต่าง แบบสบายๆ(รู้สึกโล่งใจแล้วครับตอนนี้)
มานั่งได้ไม่นานก็มีคนที่เอาของมาบริจาคผู้โดยสารที่ตกค้างที่หัวลำโพงขึ้นมาแจกข้าวแจกน้ำ
ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะเจาะซะจริงๆ เพราะผมไม่กล้าวัดดวงสละที่นั่งเพื่อลงไปซื้ออะไรกิน(กลัวเสียม้า)เพราะคนเยอะมาก
สักพักมีมนุษย์ป้า2คนมานั่งกับผม(ผมนึกในใจทำไมไม่เป็นสาวๆสวยๆเหมือนในหนังว้าาา)หลังจากที่ป้ากินข้าวฟรีเสร็จก็ไม่เอาใส่ถุงทิ้งให้ดีกับเอามาวางที่เบาะฝั่งที่ผมนั้ง เท่านั้นยังไม่พอ พาดตีนมาอีกผมได้แต่ทำใจ(เห้อออ!! นี่แหละวะของฟรี) แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอครับ ผ่านไป2-3สถานีก็มี ผ็หญิง2คนเดินมาบอกป้า2คนนั้นว่าตรงนั้นเป็นที่ของเขา (ผมรู้สึกสะใจมากๆ 555)
(ตั๋วรถไฟของป้าทั้ง2คนไม่มีหมายเลขที่นั่งเพราะผู้โดยสารตกค้างเยอะครับ ใครอยากจะไปก็ไปได้แต่ต้องวัดดวงเอาว่าจะมีที่นั่งหรือเปล่า ผมเห็นหลายคนยืนตั้งแต่ กทม-ขอนแก่น) ผมนี่ยิ้มกลุ้มกลิ่มเลยครับ เริ่มรู้สึกว่าเหมือนในหนังขึ้นมาแล้ว 555
ทริปที่1 ภูกระดึง,เชียงคาน,ภูทอก Ep.1
สวัสดีครับเพื่อนๆนี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรกของผม คืออยากจะลองทำรีวิวการทท่องเที่ยวแบบประหยัดๆดูครับ ซึ่งผมตั้งงบในทริปนี้ใว้ที่ 1,500 บาทครับแผนคือ
1.ไปรถไฟฟรี สาย กรุงเทพ-หนองคาย
2.ค่ารถสองแถวจากชานชาลาขอนแก่นไปลง บขส9บาท
3.ค่ารถ บขส.ขอนแก่น-เมืองเลย83บาท
4.ค่ารถจากผานกเค้าไปตีนภู30บาท
5.ค่ารถ บขส.จากผานกเค้าไปเชียงคาน101บาท
6.ค่ารถสามล้อสกายแล็ป100บาท
7.ค่าที่พักที่เชียงคาน 500 บาท/คืน ขากลับทำสลับกัน รวมค่าใช้จ่าย 1,046 บาท เหลือใว้กิน อีก 454 บาท
มาดูกันครับว่าผมจะทำได้อย่างที่คิดใว้รึป่าว
คืนวันศุกร์ที่21ตุลาคม2559
รุ่นพี่ผมขับรถมาส่งที่สถานีขนส่งหัวลำโพงเวลาประมาณ19.30น. ภาพแรกที่เห็นตอนเดินเข้ามาครับ
พระเจ้า !!! คนเยอะมว๊ากกกก คนพวกนี้คือประชาชนที่มาร่วมถวายความอาลัยแด่พ่อหลวงของเราครับ (ตอนนี้ใจผมเริ่มไม่ดีแล้ว กลัวรถไฟฟรีจะเต็ม กลัวจะตกรถ) ผมลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปได้ยังไง ?
ในที่สุดผมก็ได้ตั๋วครับ
ทันทีที่ได้ตั๋วผมไม่รอช้ารีบขึ้นไปจับจองที่นั่งทันที โชคดีที่ผมมาถึงก่อนรถไฟจะออกเกือบ1ชม. ทำให้ได้ที่นั่งริมหน้าต่าง แบบสบายๆ(รู้สึกโล่งใจแล้วครับตอนนี้)
มานั่งได้ไม่นานก็มีคนที่เอาของมาบริจาคผู้โดยสารที่ตกค้างที่หัวลำโพงขึ้นมาแจกข้าวแจกน้ำ
ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะเจาะซะจริงๆ เพราะผมไม่กล้าวัดดวงสละที่นั่งเพื่อลงไปซื้ออะไรกิน(กลัวเสียม้า)เพราะคนเยอะมาก
สักพักมีมนุษย์ป้า2คนมานั่งกับผม(ผมนึกในใจทำไมไม่เป็นสาวๆสวยๆเหมือนในหนังว้าาา)หลังจากที่ป้ากินข้าวฟรีเสร็จก็ไม่เอาใส่ถุงทิ้งให้ดีกับเอามาวางที่เบาะฝั่งที่ผมนั้ง เท่านั้นยังไม่พอ พาดตีนมาอีกผมได้แต่ทำใจ(เห้อออ!! นี่แหละวะของฟรี) แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอครับ ผ่านไป2-3สถานีก็มี ผ็หญิง2คนเดินมาบอกป้า2คนนั้นว่าตรงนั้นเป็นที่ของเขา (ผมรู้สึกสะใจมากๆ 555)
(ตั๋วรถไฟของป้าทั้ง2คนไม่มีหมายเลขที่นั่งเพราะผู้โดยสารตกค้างเยอะครับ ใครอยากจะไปก็ไปได้แต่ต้องวัดดวงเอาว่าจะมีที่นั่งหรือเปล่า ผมเห็นหลายคนยืนตั้งแต่ กทม-ขอนแก่น) ผมนี่ยิ้มกลุ้มกลิ่มเลยครับ เริ่มรู้สึกว่าเหมือนในหนังขึ้นมาแล้ว 555