ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่ารีวิวนี้เป็นการบันทึกการเดินทางของผมและเพื่อนๆ ภาพถ่ายอาจไม่สวยนะครับเพราะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพอะไร และอยากให้รีวิวนี้เป็นแนวทางการท่องเที่ยวสำหรับใครที่ต้องการท่องเที่ยวเหมือนกลุ่มพวกผม
ทริปนี้เป็นทริปที่ 2 ของปีของพวกเราแต่มีสมาชิกเพิ่มมาในทริปด้วยทำให้ความสนุกสนานเพิ่มขึ้นเช่นกัน สมาชิกการเดินทางมี 7 คน ณ วันออกเดินทาง ทริปครั้งนี้เราคิดว่าจะไปนอนภูกระดึง 2 คืน และไปนอนเชียงคาน 1 คืน ตอนเช้าไปดูทะเลหมอกที่ภูทอก แล้วเดินทางกลับสายๆ แต่แผลนได้เปลี่ยนไปจากเดิมหมด มาดูว่าเพราะอะไรนะครับ
เราออกเดิน เช้าวันพุธ ที่ 24 ธ.ค. 58  เวลา 07.40 น. จาก บขส.กาฬสินธุ์ด้วยรถตู้เพื่อไปต่อรถที่ บขส.ขอนแก่น พอมาถึง บขส.ขอนแก่นเราก็รีบมาซื้อตั๋วเพื่อไปจังหวัดเลยต่อครับ

ระหว่างทางมีเพื่อนไม่สบายต้องกลับก่อน สมาชิกจึงเหลือในทริปแค่ 5 คน เราคิดว่าไปคงไม่ทันขึ้นภูกระดึงแน่เพราะทางอุทยานให้ขึ้นได้ไม่เกินบ่าย 2 โมง ดังนั้นเราจึงเปลี่ยนแผนไปเชียงคานและภูทอกก่อนแล้วค่อยไปภูกระดึง เราจึงออกเดินทางต่อ

ที่พักรถ ผานกเค้า
เรามาถึงเชียงคานก็ประมาณ 5 โมงเย็นเลยเดินหาที่พักซึ่งเพื่อนที่มาด้วยกันเคยมาแล้ว เลยได้ที่พักหลักร้อยสบายกระเป๋าหน่อย เราไม่รอช้า เก็บข้าวของสัมภาระเข้าที่พักออกไปเดิน ชิมชิว ที่ถนนคนเดินต่อเลย


เราเดินหาของกินเสร็จเลยแวะออกไปชมบรรยากาศริมโขง บรรยากาศดีมากๆครับ


ในถนนคนเดินยังมีกิจกรรมให้ทำนะครับ ผมเห็นแว็บๆ ว่ามีการให้ทำโคมไฟเองด้วยแต่ไม่รู้จริงๆว่าราคาเท่าไหร่

หลังจากนั้นเราก็เดินกลับที่พักครับ เหนื่อยนั่งรถทั้งวัน เตรียมตัวไปภูทอกแต่เช้า พรุ่งนี้
ที่พักของเราในคืนนี้ครับ
ตอนมาถึงเชียงคาน ลงรถมาจะเจอพี่ๆรถสามล้อ มาคอยเสนอบริการต่างๆให้ครับ  พร้อมให้นามบัตรพี่เค้าไว้ แล้วพวกเราก็โทรติดต่อพี่เค้าไว้หลังกลับจากถนนคนเดิน โดยพี่เค้าคิดราคาคนละ 100 บาท
เช้าวันที่ 25 ธ.ค. 59  เราขึ้นมาถึงภูทอกเกือบตีห้าครึ่ง คนยังขึ้นมาไม่เยอะครับ เลยจับจองที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนเลยย
รอจนเริ่มสว่างครับ แสงเริ่มมา
หมอกก็เริ่มมาฟุ้งเลยย

และนี้ก็บรรยากาศบนภูทอกครับ





คนรอคิวเพื่อขึ้นรถรอลงจากภูทอกครับ


สามารถชมวิวได้ 360 องศา เลยนะครับ บนภูทอก
หลังจากชมวิว แดดเริ่มแรงเราก็กลับลงมาและกลับที่พักครับ
ค่ารถขึ้นภูทอกคนละ 20 บาท ซื้อบัตรครั้งเดียว ทั้งขึ้นและลงครับ

มีแวะถ่ายที่ไร่ณัชชากันนิดหน่อยครับโดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 20 บาท


เรากลับถึงที่พักก็รีบอาบน้ำ แล้วเก็บข้าวของออกเดินทางต่อเลยครับ เพื่อไปขึ้นภูกระดึง เรานั่งรถสองต่อโดยมีสองแถวคือด่านสุดท้าย

ในที่สุดเราก็มาถึง ตื่นเต้นๆ

ลูกหาบหมดครับ สัมภาระเลยตกเป็นของใครของมันรับไปเต็มๆเลยครับแต่ก็ลุยๆๆ
แผนที่เส้นทางที่เราต้องผ่านซำต่างๆ รวมบรรยากาศการขึ้นภูกระดึงเลยครับ






สมาชิกร่วมทริปเพิ่มมา ฮ่าๆๆ

ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงข้างบนครับ สูดหายใจเข้าเต็มปอดเลยทีเนี๊ยย
เดินทางราบอีก 3 กิโล ครับ
เรามาถึงที่พักก็ทุ่มหนึ่ง แล้วรีบติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อหาเต้นท์และถุงนอนเลยครับ
เช้าวันที่ 26 ธ.ค. 58 ตื่นสายครับ หาอาหารเช้าแล้วไปผานกแอ่นต่อแบบสายๆเลย ปกติเค้าจะไปกันตอนตีห้าแล้วมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทางเพราะต้องระวังช้างป่าด้วยครับ

ผานกแอ่นตอนสายๆครับ




ขากลับไปเส้นทางลานพระแก้วครับ



ตอนกลางวันก็ออกเที่ยวครับ




เราเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะไปดูน้ำตกเลยเดินเส้นทางเรียบผาดีกว่า
ขากลับเจอพระอาทิตย์ตกยุที่ผาเหยียบเมฆเช้าวันกลับมาผานกแอ่นอีกครับเดินทางกลับลงเขาครับ
ประสบการณ์จากการเดินทางมากมายเหลือล้นครับ มิตรภาพระหว่างทางก็มีให้เราได้พบเจอเสมอครับ