สืบเนื่องจากกระทู้
ถึงกลุ่มนศ.ที่ถือป้ายกอดฟรี เพราะพ่ออยากให้เรารักกัน โดยเฉพาะน้องที่เป็นผญ นี่ความคิดของคนเรียนระดับอุดมศึกษาจริงๆหรือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35731969
ดิฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่กับฟีดแบคของคนในกระทู้นั้น
ที่จริงก็ไม่แปลกใจมาตลอดเวลากับความเห็นคนในนี้ค่ะ
ดิฉันเห็นการตำหนิอย่างรุนแรงจากกระทู้ข้างต้นแล้ว
จึงตั้งกระทู้นี้มาด้วยจุดประสงค์ต้องการให้กำลังใจน้องๆกลุ่มนั้น
ว่าในความเห็นของดิฉันและเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนเห็นว่า
พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิด
พวกคุณไม่ได้ทำอะไรไม่สมควร หรือผิดกาลเทศะ
และอยากให้กำลังใจพวกคุณ ถ้าคุณมีเจตนาที่ดี
มีเหตุผลที่ดี ก็ขอให้เชื่อมั่นในความคิดนั้นเถอะค่ะ
มันไม่ได้ทำร้ายใครเลย และดีด้วยซ้ำต่อผู้คนที่ต้องการกำลังใจในช่วงเวลานี้
ทีนี้ดิฉันจะขยายความว่าทำไมดิฉันถึงเห็นเช่นนั้น
๑. การกอด เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของมนุษย์ที่จะแสดงออกต่อกันในเรื่องของความรู้สึก
เยียวยาความรู้สึกแก่กัน และสร้างพลังให้แก่กันได้
๒. การกอด อาจเห็นได้ชัดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยต้องปฏิเสธสิ่งนี้
เมื่อเข้ามาอยู่ในบริบทสังคมไทยแล้ว กลับกลายเป็นปัญหาเสียได้
เช่น กลายเป็นเรื่องผิดวัฒนธรรม เป็นเรื่องของคนไม่รักนวลสงวนตัว
หนำซ้ำในกระทู้นั้นยังกลายเป็นการกดขี่ทางเพศ ด้วยการพุ่งเป้าเจาะจงไปที่
ความเป็นผู้หญิง
นอกจากตำหนิเรื่องความไม่เหมาะสม กาลเทศะ และยังลามไปถึงการกล่าวหาว่า
ถ้าเป็นคนจรจัดจะให้หรือไม่ หรือผู้ชายบางคนก็แสดงความเห็นเชิงคุกคามทางเพศด้วยซ้ำ
ซึ่งมันแสดงสำนึกในระดับปัจเจกได้อย่างดีว่า มักยังมองผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศ
และเป็นการมองเพื่อทำลายบุคคลมากกว่าวิพากษ์วิจารณ์ความคิด
๓. ความเหมาะสม เป็นเรื่องถกเถียงมามากมายหลายครั้งในหลายเรื่อง
บนพันทิป ดิฉันก็ยังเห็นว่าความเหมาะสมเป็นรสนิยมส่วนบุคคล
จะวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ตราบที่ไม่ได้ไป
พรากหรือละเมิดความเป็นมนุษย์ใคร
ในงานพิธีศพ รัฐพิธี หรือพระราชพิธีในตะวันตก ผู้คนก็นิยม
ใช้การสวดกอดเพื่อแสดงออกและเยียวยาความรู้สึกต่อกันเป็นปรกติ
ดิฉันจึงยิ่งเห็นว่าน้องๆไม่ได้ทำอะไรไม่สมควรเลย
(อย่างในงานศพรัฐพิธี ของปธน. เรแกน แห่งสหรัฐ
ประชาชนข้างทางยังปรบมือให้กับแนนซี่ เรแกน ภริยา
ตอนเธอปรากฎตัวในขบวนเพื่อให้กำลังใจและส่งเสียงบอก I love you ด้วยซ้ำ)
ส่วนข้อความที่น้องเขาเขียนใส่ ก็เป็นข้อความที่ประชาชนคนไทย
ใช้กันเป็นปรกติ ทำให้เห็นถึงความรู้สึกของคนไทยได้ดีกว่า
พระองค์ท่านเปรียบเสมือนพ่อของลูกๆจริงๆ
สรุปแล้วส่วนตัวดิฉันเห็นว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
ดิฉันยังมีเหตุผลสนับสนุนมากกว่านี้ แต่กระทู้นี้ตั้งใจจะเขียนให้สั้นกว่าปกติ
และอยากเป็นกำลังให้นักศึกษากลุ่มดังกล่าว
ทั้งยังต้องการสนับสนุนให้
การกอด เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมนี้
ดิฉันเชื่อว่าแม้แต่ในที่สาธารณะเอง การกอดแสดงความรัก ความห่วง หรือการปลอบประโลม
ก็ยังเป็นเรื่องไม่คุ้นตาในสังคมไทย หรือแม้แต่ในระดับครอบครัว
ดิฉันเคยสอบถามพบว่าเด็กจำนวนไม่น้อยที่อยากได้กอดจากพ่อแม่
และไม่น้อยที่ผู้ชายอยากปลอบเพื่อนด้วยการกอด แต่ก็ถูกกรอบบทบาททางเพศกำหนดไว้
การกอด ถ้ามันเป็นการยินยอมทั้งสองฝ่ายและไม่ได้เป็นไปเพื่อละเมิดใครแล้ว
ส่วนตัวดิฉันย้ำอีกครั้งว่า
ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
บางทีไม่ใช่นักศึกษากลุ่มนั้นที่คิดไม่เป็น แต่อาจเป็นเราๆที่คับแคบต่อวิถีอื่นจนไม่เปิดใจก็ได้นะคะ
โลกนี้ไม่ได้มีแค่วิถีที่ถูกต้องแค่แบบเดียวค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ดิฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่า ที่อยากจะให้กำลังใจนักศึกษาถือป้ายให้กอดฟรี
ถึงกลุ่มนศ.ที่ถือป้ายกอดฟรี เพราะพ่ออยากให้เรารักกัน โดยเฉพาะน้องที่เป็นผญ นี่ความคิดของคนเรียนระดับอุดมศึกษาจริงๆหรือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดิฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่กับฟีดแบคของคนในกระทู้นั้น
ที่จริงก็ไม่แปลกใจมาตลอดเวลากับความเห็นคนในนี้ค่ะ
ดิฉันเห็นการตำหนิอย่างรุนแรงจากกระทู้ข้างต้นแล้ว
จึงตั้งกระทู้นี้มาด้วยจุดประสงค์ต้องการให้กำลังใจน้องๆกลุ่มนั้น
ว่าในความเห็นของดิฉันและเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนเห็นว่า
พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิด
พวกคุณไม่ได้ทำอะไรไม่สมควร หรือผิดกาลเทศะ
และอยากให้กำลังใจพวกคุณ ถ้าคุณมีเจตนาที่ดี
มีเหตุผลที่ดี ก็ขอให้เชื่อมั่นในความคิดนั้นเถอะค่ะ
มันไม่ได้ทำร้ายใครเลย และดีด้วยซ้ำต่อผู้คนที่ต้องการกำลังใจในช่วงเวลานี้
ทีนี้ดิฉันจะขยายความว่าทำไมดิฉันถึงเห็นเช่นนั้น
๑. การกอด เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของมนุษย์ที่จะแสดงออกต่อกันในเรื่องของความรู้สึก
เยียวยาความรู้สึกแก่กัน และสร้างพลังให้แก่กันได้
๒. การกอด อาจเห็นได้ชัดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยต้องปฏิเสธสิ่งนี้
เมื่อเข้ามาอยู่ในบริบทสังคมไทยแล้ว กลับกลายเป็นปัญหาเสียได้
เช่น กลายเป็นเรื่องผิดวัฒนธรรม เป็นเรื่องของคนไม่รักนวลสงวนตัว
หนำซ้ำในกระทู้นั้นยังกลายเป็นการกดขี่ทางเพศ ด้วยการพุ่งเป้าเจาะจงไปที่ความเป็นผู้หญิง
นอกจากตำหนิเรื่องความไม่เหมาะสม กาลเทศะ และยังลามไปถึงการกล่าวหาว่า
ถ้าเป็นคนจรจัดจะให้หรือไม่ หรือผู้ชายบางคนก็แสดงความเห็นเชิงคุกคามทางเพศด้วยซ้ำ
ซึ่งมันแสดงสำนึกในระดับปัจเจกได้อย่างดีว่า มักยังมองผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศ
และเป็นการมองเพื่อทำลายบุคคลมากกว่าวิพากษ์วิจารณ์ความคิด
๓. ความเหมาะสม เป็นเรื่องถกเถียงมามากมายหลายครั้งในหลายเรื่อง
บนพันทิป ดิฉันก็ยังเห็นว่าความเหมาะสมเป็นรสนิยมส่วนบุคคล
จะวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ตราบที่ไม่ได้ไป
พรากหรือละเมิดความเป็นมนุษย์ใคร
ในงานพิธีศพ รัฐพิธี หรือพระราชพิธีในตะวันตก ผู้คนก็นิยม
ใช้การสวดกอดเพื่อแสดงออกและเยียวยาความรู้สึกต่อกันเป็นปรกติ
ดิฉันจึงยิ่งเห็นว่าน้องๆไม่ได้ทำอะไรไม่สมควรเลย
(อย่างในงานศพรัฐพิธี ของปธน. เรแกน แห่งสหรัฐ
ประชาชนข้างทางยังปรบมือให้กับแนนซี่ เรแกน ภริยา
ตอนเธอปรากฎตัวในขบวนเพื่อให้กำลังใจและส่งเสียงบอก I love you ด้วยซ้ำ)
ส่วนข้อความที่น้องเขาเขียนใส่ ก็เป็นข้อความที่ประชาชนคนไทย
ใช้กันเป็นปรกติ ทำให้เห็นถึงความรู้สึกของคนไทยได้ดีกว่า
พระองค์ท่านเปรียบเสมือนพ่อของลูกๆจริงๆ
สรุปแล้วส่วนตัวดิฉันเห็นว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
ดิฉันยังมีเหตุผลสนับสนุนมากกว่านี้ แต่กระทู้นี้ตั้งใจจะเขียนให้สั้นกว่าปกติ
และอยากเป็นกำลังให้นักศึกษากลุ่มดังกล่าว
ทั้งยังต้องการสนับสนุนให้ การกอด เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมนี้
ดิฉันเชื่อว่าแม้แต่ในที่สาธารณะเอง การกอดแสดงความรัก ความห่วง หรือการปลอบประโลม
ก็ยังเป็นเรื่องไม่คุ้นตาในสังคมไทย หรือแม้แต่ในระดับครอบครัว
ดิฉันเคยสอบถามพบว่าเด็กจำนวนไม่น้อยที่อยากได้กอดจากพ่อแม่
และไม่น้อยที่ผู้ชายอยากปลอบเพื่อนด้วยการกอด แต่ก็ถูกกรอบบทบาททางเพศกำหนดไว้
การกอด ถ้ามันเป็นการยินยอมทั้งสองฝ่ายและไม่ได้เป็นไปเพื่อละเมิดใครแล้ว
ส่วนตัวดิฉันย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
บางทีไม่ใช่นักศึกษากลุ่มนั้นที่คิดไม่เป็น แต่อาจเป็นเราๆที่คับแคบต่อวิถีอื่นจนไม่เปิดใจก็ได้นะคะ
โลกนี้ไม่ได้มีแค่วิถีที่ถูกต้องแค่แบบเดียวค่ะ
ขอบคุณค่ะ