มาดูผู้ตามเฝ้าเสด็จตลอดระยะเวลายาวนาน 10ปี...อ่านแล้วทึ่งมากค่ะ

เปิดใจ หญิงสาวตามรับเสด็จ ในหลวง พระราชินี มาตลอด 10 ปี เผยน้ำพระราชหฤทัย




ภาพผู้หญิงคนหนึ่งถือภาพท่ามกลางฝนตก และเอามือบังพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ด้วยความรัก เป็นภาพที่สร้างความซึ้งและเศร้าในคราวเดียวกัน cleothailand ได้ติดตามและสัมภาษณ์หญิงคนนี้ โดยพบว่าเธอ คือ พี่แหมว ดลนภา กลัดบุบผา อายุ 42 ปี เป็นติวเตอร์สอนพิเศษอิสระ โดยเปิดเผยว่า “ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พี่จะคอยมารอรับเสด็จในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทุกวัน ตั้งแต่ในหลวงเสด็จมาประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่มานั่งรอหรือบางทีค้างคืนรอที่ใต้ถุนโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้เห็นพระพักตร์ของท่าน

“เริ่มตั้งแต่เด็กๆ คุณยายจะพาไปรับเสด็จในหลวงที่วัดพระแก้วทุกครั้งที่ท่านเสด็จออกมาทำให้เรารู้สึกผูกพันและเห็นถึงพระบารมีและความเมตตาที่มีต่อประชาชนของพระองค์ท่าน พอโตขึ้นมา เราก็ตามไปรับเสด็จพระองค์ท่านทุกที่ ตอนที่สมเด็จย่าทรงประชวรก็ตามไปเฝ้า สมเด็จพระพี่นางก่อนสวรรคต ก็ตามไปรอรับเสด็จ กลายเป็นส่วนใหญ่ส่วนหนึ่งของชีวิตที่จะต้องทำหน้าที่นี้ กลับไปนอนบ้านแบบนับครั้งได้บเลย”

พี่แหมวบอกว่าไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ตามในหลวงไปทุกๆ ที่ จะมีลุงๆ ป้าๆ ประมาณ 10 กว่าคนที่มารวมตัวกัน เราถามเธอว่าทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วรึเปล่า เธอบอกว่ารู้จักตอนมารอเฝ้าในหลวงนี่แหละ “พวกเราไปไหนไปกัน นอนกันแบบไม่มีมุ้ง ไม่มีหมอน เอากระเป๋าหนุนหัว ทั้งร้อน ทั้งหนาว มียุง ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราท้อได้ เคยมีครั้งหนึ่งฝนตกหนักมาก เราก็ไปยืนรอตากฝน ถึงท่านจะไม่ได้เสด็จออกมาก็ตาม หรือตอนที่ในหลวงเสด็จกลับวังไกลกังวล ตอนวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2556 เราก็ขับรถกันไปรอรับเสด็จที่นั่น”


ถามถึงเรื่องความประทับใจที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พี่แหมวเล่าให้ฟังว่าทุกพระองค์ทรงพระเมตตามากๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานน้ำและอาหารให้กับผู้ที่มานอนค้างรอรับเสด็จฯ ที่ศิริราชอยู่บ่อยๆ “บางครั้งเสด็จลงมาด้วยพระองค์เองช่วงตีหนึ่งตีสอง พระราชทานอาหารให้ ตรัสถามความเป็นอยู่ของพวกเราอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเราสัมผัสได้ของน้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ บางครั้งในหลวงก็เสด็จลงมาเองตอนกลางคืน ตีสองตีสาม พวกเราที่กำลังนั่งหลับนอนหลับก็รีบลุกขึ้นมานั่ง พูด “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” กัน แต่พระบรมฉายาลักษณ์ที่ถืออยู่กลับหัวไปหมด พระองค์ท่านเห็นก็ทรงพระสรวล”


ครั้งที่พี่แหมวบอกว่าจำได้ไม่มีวันลืมเลยคือตอนที่รับขบวนเสด็จในหลวงในวันที่สมเด็จพระพี่นางฯ สิ้นพระชนม์ “ในหลวงเสด็จลงมา พวกเราทราบข่าวก็ใส่ชุดดำรออยู่ที่ด้านล่างแล้ว ท่านเสด็จมาถึงตรงที่พวกเรานั่งแล้วทรงรับสั่งว่า “ขอบใจมากๆ” เป็นครั้งแรกที่รู้สึกตื้นตันใจมากๆ ส่วนอีกครั้งคือตอนที่ทุกคนที่ศิริราชพร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพูให้ในหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสถามพวกเราว่า “ทำไมถึงใส่เสื้อสีชมพูกันจ๊ะ” พวกเราก็ตอบไปตามภาษาชาวบ้านว่าใส่เสริมดวงให้กับในหลวง หมอดูบอกว่าสีชมพูจะช่วยให้พระวรกายของพระองค์แข็งแรงขึ้น พอพระองค์ท่านทรงได้ยินก็ทรงยิ้มและตรัสขอบใจพวกเรา”

ในวันที่ในหลวงเสด็จสวรรคต เราพี่แหมวถามถึงบรรยากาศรอบๆ ศิริราช เธอเล่าให้ฟังพร้อมกับเสียงเครือๆ ว่า “เราค้างคืนกันมา 3 วันติดต่อกัน เพราะตอนนั้นทุกคนได้ข่าวว่าพระอาการทรงทรุดลง พอวันที่ 13 ข่าวมาถึงว่าเสด็จสวรรคตแล้ว เราอึ้ง มันพูดไม่ออกเลย เหมือนหัวใจสลายตรงนั้นเลย น้ำตาไหลแบบหยุดไม่ได้ตั้งแต่วันแรกเป็นหลายวัน”
ขอบคุณที่มา cleothailand






ขอขอบคุณแหล่งข่าวทราบว่ามาจากนสพ.ข่าสดอีกทีต้องขอบพระคุณทั้งสองที่นะคะ
http://tnews.teenee.com/etc/135968.html

ครอบครัว::::สอนลูกสอนหลานอย่างไรที่ให้ความสำคัญกับพระเจ้าแผ่นดิน  คุณท่านนี้ได้ปฏิบัตืมา10ปี
ดิฉันเล่าให้ลูกฟัง  ลูกดิฉันก็รักในหลวงท่านมากขนาดที่ เธอไม่มีรูปและต้องมาค้นแบงค์จากกระเป๋า
เพื่อหาแบงค์ที่มีรูปท่าน เพื่อจุดเทียนทั้งที่เธอเกิดไม่ทันเห็นในหลวงท่านทรงงานแต่เราเล่าให้ฟังทุกครั้ง
ทุกวัน เราบอกลูกว่าบางทีเที่ยงคืนท่านยังไม่ถึงวังที่ประทับ หรือถึงแต่ทรงงานต่อ. ที่ลูกต้องค้นกระเป๋า
หาแบงค์เพราะเธอติดเรียนที่ต่างประเทศ และประมาณว่านึกไม่ถึงเตรียมตัวไม่ทัน เลยไม่มีพระฉายาลักษณ์ในหลวง
เราอ่านของคุณพี่แหมวแล้วทึ่งมาก นับถือจริงๆค่ะ

บทความ::::ที่คุณแหมวเล่าว่าท่านเสด็จลงมาถามตี1ตี2. นี่เราซาบซึ้งในน้ำพระทัยท่านที่เมตตากับประชาชนที่มาเฝ้า

ชีวประวัติบุคคล:::::ที่เป็นตัวอย่างที่ดีความเคารพรัก จงรักภักดีกับพระประมุขของประเทศไทยพระบาทสมเด็จ
                                พระเจ้าอยู่หัว  ทั้งที่ตัวเองก็ต้องทำงานต้องอดนอน. ซึ้งมากๆค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่