เราคบกับแฟนมา 4 ปี แล้วคะ เราเจอกันที่ เชียงใหม่ เนื่องจากว่าเราไปเรียนที่นั้น เจอกันตอนเรียนอยู่ปี 4 เราเป็นคนหนองคาย ส่วนแฟนเป็นคนเชียงใหม่ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปไหนมาไหนตามประสาเด็กหอ อยู่ด้วยกัน 1 ปี พอเรียนจบเราก็กลับมาทำงานที่บ้านเกิดเนื่องจากพ่อแม่อยากให้มาทำงานใกล้บ้าน "เราสองคนตกลงกันว่าจะไปมาหากันทุกเดือน แต่เอาเข้าจิงๆด้วยระยะทางที่ไกล ค่าใช้จ่ายเยอะ ไหนจะค่าที่พัก ค่ารถ เจอกันแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายสูง จากที่ตกลงกันว่าจะเจอกันทุกเดือนกลายเป็นเจอกันปีละ 3 - 4 ครั้ง เจอกันครั้งนึงก็ 3-4 วันเท่านั้น ความรักก็อยู่ได้ด้วยการโทรศัพท์ video call คุยกัน เกือบทุกวัน แฟนเราเป็นคนนิสัยน่ารักมากคะ โทรหาก่อนไปทำงานทุกเช้า ถึงที่ทำงานทักบอก ก่อนเที่ยงโทรบอก ก่อนเริ่มทำงานตอนบ่ายก็โทรบอก หลังเลิกงานโทรบอก ถึงบ้านแล้วโทรบอก และเราจะคุยกันก่อนนอนทุกคืนอย่างน้อยก็ 40+ นาที ทุกวัน แต่อุปสรรคของความรักก็มีเยอะคะ
1. ความห่างทำให้เกิดความอ่อนแอ อ่อนไหว เขาก็เคยอ่อนไหวกับเพื่อนร่วมงาน และเขาก็มาบอกเราว่าเขารู้สึกดีกับเพื่อนร่วมงานเขา ทุกคนก็เชียร์ เขารู้สึกเสียใจไม่อยากเป็นแบบนี้ ขอมาขอโทดที่เขาอ่อนแอ และสันยานว่าจะเข้มแข็งจนเวลาผ่านไป 1 ปี ที่เรื่องราวผ่านพ้นมา มันไม่มีอะไรที่จะพิสูทได้เลยสำหรับความรักที่ไกลกัน นอกจากความเชื่อใจ ความไว้ใจ และศรัทธาในคนที่เรารัก เราจะรับรู้ได้เองคะว่าเขาเป็นยังไง ณ เวลานั้นๆ
2. พ่อแม่เราอยากให้แต่งงาน ด้วยอายุที่มากขึ้น ตอนนี้ก็ 27 ปี แล้วพ่อแม่เราก็ทราบและเคยเจอแฟนเรามาแล้วอยากให้มาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราว ไปมาหาสู่กันผู้หญิงจะเสียหาย (ที่จริงแล้วพ่อแม่ก็อยากให้เราแต่งงานกับคนที่ทำงานราชการเหมือนกัน ตอนแรกๆก็ไม่อยากให้คบกับแฟนเราเท่าไรเพราะเขาไม่ได้รับราชการ เขาเป็นพนักงานขายของบริษัทแห่งหนึ่งคะ จนทุกวันนี้ก็ย่อมเพราะว่าเรารักกัน)
3. ด้วยความที่เงินเดือนของแฟนก็ไม่มาก และฐานะทางครอบครัวแฟนก็ปานกลาง เราคุยเรื่องแต่งงานกันอย่างจิงจังเขาก็บอกจะเก็บตังขอเวลา ไม่เกิน 4 ปี ซึ่งตอนนี้แฟนเราก็เก็บตังเพื่อที่จะซื้อรถยนต์ก่อน แต่เขาก็ล้มเลิกความคิด ความฝันที่เขาอยากมีรถยนต์ เพื่อเก็บเงินแต่งงานก่อน (แต่พ่อเขาก็อยากให้ลูกเขามีรถยนต์ขับไปทำงานไม่อยากให้ลูกลำบากตากแดด ตากฝน พ่อเขาเลยจะดาวน์รถให้ แต่ให้เขาผ่อนเอา สุดท้ายเราก็รอ รอ ต่อไป )
4. เราไม่รู้จะทำยังไงดี พ่อแม่เราก็อยากให้เขามาสู่ขอด้วยความที่พ่อเราก็รับราชการครู และเราก็รับราชการเช่นกัน พ่อแม่เราก็เคยคุยเรื่องสินสอนไว้ เกือบๆล้าน ส่วนทางนั้นก็ไม่มีตังห์ พ่อแม่ทำนา เลี้ยงวัว รับจ้างทั่วไป (เราสองคนก็รักกัน คุยเรื่องนี้ทีไรก็ร้องไห้ กันทั้งคู่ )
** ณ ตอนนี้ แฟนเราบอกได้แค่ว่า รอเวลาเท่านั้น คบกันไปเรื่อยๆ เขาเองก็อดทน เพราะว่าก็ไม่มีตังห์มากพอมาสู่ขอ ส่วนเราเองก็ได้แต่อดทนรอ ยิ่งต้องเก็บตังห์ช่วยกัน เวลามาเจอกันก็น้อยลงจากปีละ 3-4 ครั้ง ก็คงลดลงเนื่องจากว่าต้องเก็บตังห์กันทั้งคู่ เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็คงเหงา อยากมีแฟนมาอยู่ข้างๆ เลิกงานมาเจอกัน แต่ความรักของเราต้องใช้ความอดทนมาก เราต้องใช้ชีวิตไปไหนมาไหนคนเดียว ทำอะไรด้วยตัวเองจนบ้างครั้งก็แอบน้อยใจที่ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทั้งที่เราสองคนรักกันอยากอยู่ด้วยกันแต่ทำไมมีอุปสรรคมากมาย จนเรากลัวว่าสักวันต้องมีใครสักคนที่ไม่ไหว เขาบอกว่าเวลาจะพิสูทเอง เราก็แค่หวังว่ามันจะมาถึงเร็วๆ สำหรับคู่ของเรา ขอบคุณนะคะที่อ่านเรื่องย่อของความรักของดิฉัน ^^
ขอความคิดเห็น รักทางไกลคะ
1. ความห่างทำให้เกิดความอ่อนแอ อ่อนไหว เขาก็เคยอ่อนไหวกับเพื่อนร่วมงาน และเขาก็มาบอกเราว่าเขารู้สึกดีกับเพื่อนร่วมงานเขา ทุกคนก็เชียร์ เขารู้สึกเสียใจไม่อยากเป็นแบบนี้ ขอมาขอโทดที่เขาอ่อนแอ และสันยานว่าจะเข้มแข็งจนเวลาผ่านไป 1 ปี ที่เรื่องราวผ่านพ้นมา มันไม่มีอะไรที่จะพิสูทได้เลยสำหรับความรักที่ไกลกัน นอกจากความเชื่อใจ ความไว้ใจ และศรัทธาในคนที่เรารัก เราจะรับรู้ได้เองคะว่าเขาเป็นยังไง ณ เวลานั้นๆ
2. พ่อแม่เราอยากให้แต่งงาน ด้วยอายุที่มากขึ้น ตอนนี้ก็ 27 ปี แล้วพ่อแม่เราก็ทราบและเคยเจอแฟนเรามาแล้วอยากให้มาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราว ไปมาหาสู่กันผู้หญิงจะเสียหาย (ที่จริงแล้วพ่อแม่ก็อยากให้เราแต่งงานกับคนที่ทำงานราชการเหมือนกัน ตอนแรกๆก็ไม่อยากให้คบกับแฟนเราเท่าไรเพราะเขาไม่ได้รับราชการ เขาเป็นพนักงานขายของบริษัทแห่งหนึ่งคะ จนทุกวันนี้ก็ย่อมเพราะว่าเรารักกัน)
3. ด้วยความที่เงินเดือนของแฟนก็ไม่มาก และฐานะทางครอบครัวแฟนก็ปานกลาง เราคุยเรื่องแต่งงานกันอย่างจิงจังเขาก็บอกจะเก็บตังขอเวลา ไม่เกิน 4 ปี ซึ่งตอนนี้แฟนเราก็เก็บตังเพื่อที่จะซื้อรถยนต์ก่อน แต่เขาก็ล้มเลิกความคิด ความฝันที่เขาอยากมีรถยนต์ เพื่อเก็บเงินแต่งงานก่อน (แต่พ่อเขาก็อยากให้ลูกเขามีรถยนต์ขับไปทำงานไม่อยากให้ลูกลำบากตากแดด ตากฝน พ่อเขาเลยจะดาวน์รถให้ แต่ให้เขาผ่อนเอา สุดท้ายเราก็รอ รอ ต่อไป )
4. เราไม่รู้จะทำยังไงดี พ่อแม่เราก็อยากให้เขามาสู่ขอด้วยความที่พ่อเราก็รับราชการครู และเราก็รับราชการเช่นกัน พ่อแม่เราก็เคยคุยเรื่องสินสอนไว้ เกือบๆล้าน ส่วนทางนั้นก็ไม่มีตังห์ พ่อแม่ทำนา เลี้ยงวัว รับจ้างทั่วไป (เราสองคนก็รักกัน คุยเรื่องนี้ทีไรก็ร้องไห้ กันทั้งคู่ )
** ณ ตอนนี้ แฟนเราบอกได้แค่ว่า รอเวลาเท่านั้น คบกันไปเรื่อยๆ เขาเองก็อดทน เพราะว่าก็ไม่มีตังห์มากพอมาสู่ขอ ส่วนเราเองก็ได้แต่อดทนรอ ยิ่งต้องเก็บตังห์ช่วยกัน เวลามาเจอกันก็น้อยลงจากปีละ 3-4 ครั้ง ก็คงลดลงเนื่องจากว่าต้องเก็บตังห์กันทั้งคู่ เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็คงเหงา อยากมีแฟนมาอยู่ข้างๆ เลิกงานมาเจอกัน แต่ความรักของเราต้องใช้ความอดทนมาก เราต้องใช้ชีวิตไปไหนมาไหนคนเดียว ทำอะไรด้วยตัวเองจนบ้างครั้งก็แอบน้อยใจที่ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทั้งที่เราสองคนรักกันอยากอยู่ด้วยกันแต่ทำไมมีอุปสรรคมากมาย จนเรากลัวว่าสักวันต้องมีใครสักคนที่ไม่ไหว เขาบอกว่าเวลาจะพิสูทเอง เราก็แค่หวังว่ามันจะมาถึงเร็วๆ สำหรับคู่ของเรา ขอบคุณนะคะที่อ่านเรื่องย่อของความรักของดิฉัน ^^