วันนี้ได้ชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีจากท้องสนามหลวงแล้ว ตื่นตันและเสียน้ำตาไปพร้อมกับชาวไทยทุกคนที่ร่วมถวายความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง แสงเทียน สีหน้าของผู้ร่วมร้อง ความสวยงามของแสงสีทองระยับไปทั่วท้องสนามหลวง ฉากหลังอันสวยงามของพระบรมมหาราชวัง และพระองค์อันเป็นที่รักและเคารพยิ่งภายในพระบรมมหาราชวัง ปลื้มปิติและตื้นตันที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9

หลังจากนั้นได้มีโอกาสชมรายการสนทนาทางช่อง  ไทยรัฐทีวี  ผู้ดำเนินรายการคือ คุณสุภาพ คลี่ขจาย  พูดคุยกับ  คุณนภันต์  เสวิกุล  ช่างภาพที่ได้ติดตามถ่ายภาพพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9  ซึ่งได้เล่าความประทับใจและได้แสดงภาพเปรียบเทียบของ โครงการพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ทำให้เห็นว่าโครงการเหล่านั้นได้พลิกฟื้นจากความแห้งแล้งมาสู่ความชุ่มชื้นในปัจจุบันได้อย่างไร   ยิ่งได้ชมยิ่งทึ่งในพระปรีชาสามารถในการพลิกฟื้นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน  ได้เห็นถึงความทุ่มเทพระวรกายในการช่วยเหลือประชาชนที่เด็กรุ่นใหม่อาจไม่เคยเห็น ซึ่งคุณนภันต์เล่าว่าตามเสด็จไปเยี่ยมราษฎรปีละ 7 เดือน  และทรงไม่มีกำหนดเวลาเลิก จนกว่าราษฎรคนสุดท้ายจะได้รับการดูแล ซึ่งคุณนภันต์ได้อ่านบทกลอนบทหนึ่งในป้ายถวายพรวันเฉลิมพระชนม์พรรษาปีหนึ่ง ซึ่งเป็นบทกลอนที่ยกมาข้างต้น และนำไปสู่ชื่อโครงการ  "ย่างพระบาทที่ยาตรา"  ที่จะนำเสนอความแตกต่างของแต่ละโครงการก่อนและสภาพปัจจุบัน

ได้ชมภาพบรรยากาศต่างๆ ที่ท้องสนามหลวง และพระราชกรณียกิจของพระองค์ในช่วงวันที่ผ่านมา ยิ่งซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อชาวไทย ดีใจที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินไทย ที่มีพระราชาอันยิ่งใหญ่ที่ขอบเขตพระราชวังคือประเทศของพระองค์ และพื้นที่ในหัวใจของพสกนิกรชาวไทย  และจะเป็นแบบอย่างของความดีงาม  ความเสียสละ ที่อยู่ในใจประชาชนตลอดไป