ขอบ่นหน่อยล่ะกันกับ lifan kpr150.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ว่ามันดีกว่าที่คิดไว้จริงๆ ครับ
อ่านรีวิวของคนอื่นมาเยอะพอสมควร ก่อนที่จะตัดสินใจถอยเจ้า kpr150 คันนี้มา
พอได้ใช้งานจริงๆ ก็ถือว่าดีในระดับนึงเลยที่เดียว (อาจจะสู้ CBR R15 Mslaz ไม่ได้)



มาดูในส่วนของ ค็อกพิท เลยครับ



เรือนไมค์ ของเจ้า kpr150 (สวยใช้ได้เลยที่เดียว)
มีฟังค์ชั่น บอกเวลา , บอกตำแหน่งเกียร์ 1-6 , ตั้งทริป , เตือนความร้อน(ไม่มีเกจบอกแบบละเอียด)
วัดรอบยังเป็นเข็มธรรมดา ส่วนความเร็วบอกเป็นดิจิตอล

  

ไฟหรี่สีขาว LED รูปตัว z (แสบตาใช้ได้ อิอิ)


ตอนปิดไฟหน้า (จริงๆเปิดไม่ได้เพราะ 0 เค้าไม่ได้ต่อสายให้ ต้องสตาร์ทก่อน)

ตอนเปิดไฟ(สูง) ขับไปมีหวังโดนไล่ยิง 555+

มาดูในส่วนของการเก็บงานต่างๆของเจ้า kpr150 กันดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง


ชุดสีของ kpr ดูบอบบางมากๆๆ


เปรียบเทียบดูกับด้านบนน่ะครับ ชุดสีของ yamaha TZR เจ้าพ่อทางเรียบ



แครงเครื่องด้านขวา ตัวเครื่องเก็บงานสวยครับ น็อตไม่มีหาย
(อย่าสงสัยว่าน้ำมันเครื่องหายอ่ะเปล่า จริงๆยังไม่ได้ตั้งขาตั้งคู่ครับ มันเลยดูหายๆ)


ถอดกาบ ให้ดูไส้ในโดยรวมเลยครับ


ฝั่งของด้านซ้ายน่ะครับ


คาบู ของรถน่ะครับ

พูดถึงตัว ที่นั่งขับ บ้างน่ะครับ


เบาะรถ ดีไซน์ค่อนข้างจะ อินดี้ไปหน่อยน่ะครับ แต่ในเรื่องความสบาย เหนือกว่า cbr , r15 , mslaz (ไม่นิ่มให้ 1 บาท)


เปิดเบาะท้ายออกมา จะมีกล่องใส่(ใบสั่ง ตร)เครื่องมือ และ พบกับหม้อพักน้ำสำรอง


หม้อพักน้ำสำหรับ ต้องถอดกาบขวาน่ะครับถึงจะเห็นเกจระดับน้ำชัดเจน


เกียร์ของเจ้า kpr เป็นเกียร์โยงน่ะครับ (สภาพอาจดูทุเรศนิดนึง เพราะเอาไปรูดพื้นมา 555+)


ที่เปิดเบาะท้าย + ที่ห้อยหมวก (ประหลาดดี)

จะสรุปข้อดี - ข้อด้อยให้คร่าวๆ เลยน่ะครับ (โม้เยอะล่ะ)
ข้อดี
- เครื่องยนต์ปัญหายังไม่เคยเจอจุกจิก
- เวลาเทโค้ง คันนี้โครตมัน น้ำหนักมันได้เลย
- บิดที่ความเร็ว 100+ รถไม่สั่นมาก เวลาตกหลุมเล็กๆ หน้าไม่ลอย
- ถังน้ำมันค่อนข้างใหญ่ จุน้ำมันได้ประมาณ 14 ลิตร
- เบาะนิ่มมาก นั่งสบายกว่ารถในคลาสเดียวกัน (แต่แลกมาด้วยรูปทรงที่อินดี้)
- ตอนขับลักษณะท่านั่งยังไม่ สปอร์ตเหมือน R15
- ไฟหน้าสว่างชัดเจน เหมาะสำหรับทางมืดๆ เลยที่เดียว
- เรือนไมค์บอกตำแหน่งเกียร์ ชอบม๊ากๆ (ตอนขับ TZ ชอบตอกเกียร์ 7 อิอิ)
- แฮนด์เบาดี เมื่อเทียบดูกับน้ำหนัก (น้ำหนัก 151 กิโลกรัม ไม่รวมเชื้อเพลิง และ พะยูนที่ซ้อนท้ายมอไซ)
- เบรคหนึบ แต่ระวังด้วยเพราะไม่มี ABS

ข้อเสีย
- น้ำหนักรถที่มากกว่ารุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน
- รอบมาช้า ต้องเล่นรอบ กล่องตัดที่ 9000 (มั้ง) บิดเท่าไรก็ไม่เกิน 9000
- กินน้ำมันประมาณ 28-36 km/ l ขึ้นกับการปรับจูนคาบูด้วย
- ใช้คาบูเรเตอร์ เสียเปรียบพวก FI นิดหน่อย
- คอรถเลี้ยวได้น้อย เวลาอยู่ที่แคบต้อง เดินหน้า - ถอยหลังบ่อย
- คาบู (บ้างคัน) อาจจะไม่นิ่งรอบดิ้นไปดิ้นมา ถ้าเครื่องร้อนแล้วยังดิ้นไปมาควรปรับใหม่ (ให้ช่างทำให้)
- โช้คหลังแข็ง ลงหลุมที่สะท้านถึงทรวง
- เวลาเข้าเกียร์ 1 ไป 2 ส่วนใหญ่มักจะ ว่าว
- เวลากำคลัชให้รถไหล ระวังรถรอบตกจนดับ (มันน่าอายน่ะ อิอิ)
- พลาสติกตัวรถดูบอบบาง ไม่สวยเหมือนตัวเครื่อง


*** ปัญหาใหญ่ระดับชาติคือ ไม่มีตังเติมน้ำมัน อิอิ ***

ข้อแนะนำ

- ถ้าจะเล่นรถตลาดรอง ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับรถด้วยนิดหน่อย
- บริการหลังการขายของศูนย์ตัวแทนยอด(แย่) แต่ศูนย์ใหญ่ของ LIFAN บริการดีครับ
- ลองเล่นรถมือสองก็ดีน่ะครับ ซื้อมือหนึ่งมาแล้ว ขายต่อมือสองขาดทุนยับ
- ถ้าเน้นความเร็วสูงประมาณ 120+ คันนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบครับ (top speed ที่ได้คือ 132 หมอบแล้ว ไม่หมอบ 125)
- ถ้าเน้นความสบายเวลาเดินทางไกล ไม่เน้นทำเวลา คันนี้เหมาะสมดีครับ
- รถทุกคันควรมีการดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยืนยาว เพื่อให้อยู่กับเราไปตลอด (ถ้าไม่ขายทิ้งอัพ CC ก่อน)
- ถามว่าปัญหามีไหม ตอบเลยน่ะครับว่ามีแน่นอน

ปัญหาที่(อาจจะ)พบใน kpr150
- น้ำมันเบรคหาย เพราะซีลยางรั่ว
- ไฟความร้อนขึ้นเตือน แปปๆ แล้วดับ
- ก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง เวลาเปิดก๊อกสำรอง น้ำมันชอบรั่ว
- ไฟท้ายส่องป้ายทะเบียน ค่อนข้างที่จะร้อน อาจทำให้พลาสติกละลายและหลุดหายได้ในที่สุด
- ยางที่ติดมากับรถ ค่อนข้างที่จะลื่น ไม่เกาะเวลาเจอฝน เวลาเทโค้งควรระมัดระวังไม่งั้น ได้จูบพื้นแน่นอน (จูบมาแล้ว)
- เบ้ากุญแจ ไม่มีล็อคสองชั้นเหมือนตัวเก่า kp150 หรือพวก CBR
- แบตเตอรี่ เสื่อม เวลาสตาร์ทอาจจะทำให้ลำบากหน่อย โดยการเข็นกระตุกเอา
- คาบู ถ้าคันไหนที่เวลาเครื่องร้อนหรืออุ่นแล้วไม่มีอาการรอบดิ้นไปมา และรอบนิ่งที่ 1500 ไม่ควรจะยุ่งกับมันเด็ดขาด
(ช่างที่ 0 ตัวแทนมาจูนคาบูใหม่ เครื่องไม่นิ่งรอบดิ้นตั้งแต่ 1400-1100 บ้างที่วูบเหลือ 7-800)

ส่วนเรื่องของสเปคคราวๆ ก็ตามนี้เลยครับ

Engine Type:  4 Stroke, (water cooled)     - เครื่อง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
Displacement: 149 cc                              - เครื่อง 149CC
Compression Ratio:  11.4:1                     - กำลังอัด 11.4:1
Power:  14.8 BHP @ 8500 RPM                - ม้า 14.8 ตัว ที่รอบ 8500
Torque: 14 Nm @ 6500 RPM                   - แรงบิด 14nm ที่รอบ 6500
Transmission: 6 Speed                            - เกียร์ 6 สปีด
Cooling System: Water cooled                  - ระบายความร้อนด้วยน้ำ
Ignition System:   Electric                        - จุดระเบิดด้วย อิเล็คทริค
Weight:   150 kg                                     - น้ำหนัก 150 กิโลกรัม
Length:   2060 mm                                 - ยาว 206 ซม
Width:   760 mm                                    - กว้าง 76 ซม
Height: 1105 mm                                   - สูง 1105 มิลลิเมตร
Seat Height:   775 mm                            - ความสูงจากพื้นถึงเบาะคนขับ 775
Wheelbase:   1330 mm                           - ฐานล้อ 1330 มิลลิเมตร
Fuel Tank Capacity:    14 Liters                - ถังน้ำมัน 14 ลิตร
Seat:  Split type                                      -
Front Brake: Disc Rear                             - ดิสเบรค
Brake:  Disc Front                                   - ดิสเบรค
Tire:   90/90 – 17                                   - ล้อหน้า ขอบ 17 เบอร์ 90/90
Rear Tire:  120/80 – 17                           - ล้อหลัง ขอบ 17 เบอร์ 120/80




นี้เป็นส่วนหนึ่งของการรีวิวจากผู้ใช้ น่ะครับหวังว่าจะมีประโยชน์บ้าง ในการตัดสินใจ
เดียวมาบอก ว่าใช้งานเป็นยังไงบ้าง ตั้ง 0 กิโลเมตร แรกจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณครับ