DIY โปรเจคเตอร์เพื่อดูหนัง 3 มิติ ทะลุจอ ระบบโรงภาพยนต์ ด้วยตนเอง แบบง่ายๆ

DIY โปรเจคเตอร์เพื่อดูหนัง 3 มิติ ทะลุจอ ระบบโรงภาพยนต์ ด้วยตนเอง แบบง่ายๆ

ผมหาข้อมูลในการทำเครื่องฉายระบบ 3มิติ จากไทยและต่างประเทศ และหาข้อมูลอยู่สักพักหนึง
ทำความเข้าในเรื่องระบบของการฉายภาพยนต์ 3D จนได้ทดลองทำดูด้วยตนเอง

/// ระบบ 3D ของโรงภาพยนต์ คือ ระบบ PASSIVE 3D คือการควบคุมการเดินทางของแสง หรือประมาณว่าจัดระเบียบในการเคลื่อนที่ของแสง
โดยใช้ FILM POLARIZED /// FILM POLARIZED คือฟิมล์ที่ใช้กับจอ LCD แต่ต่างกันคือ LCD ใช้ LINE POLARIZED (PL)
ส่วน ระบบโรงภาพยนต์ 3D ใช้ CIRCULAR POLARIZED (C-PL)

/// LINE POLARIZED (PL) จะจัดระเบียบแสงหรือให้แสงที่ผ่านฟิล์ม ออกมาเป็นเส้นตรง แนวนอน หรือแนวตั้ง ขึ้นอยู่กับการตั้งฟิล์ม
/// CIRCULAR POLARIZED (C-PL) จะจัดระเบียบแสงหรือให้แสงที่ผ่านฟิล์ม ออกมาเป็นแสงแบบควงสว่าน ควงซ้าย หรือ ควงขวา ขึ้นอยู่กับการตั้งฟิล์ม

ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้ ใช้ฟิล์ม ตัวเดียวกัน แต่ต่างกันที่ CIRCULAR POLARIZED (C-PL) มีตัวหน่วงแสง ให้มันควง
ผลที่ได้จากการทดสอบนำฟิล์ม ทั้งสองชนิดมาใช้ DIY โปรเจคเตอร์เพื่อดูหนัง 3 มิติ สามารถใช้ได้ทั้ง 2 ชนิด แต่ ต่างกันที่ความสว่าง
CIRCULAR POLARIZED (C-PL) ให้แสงที่ผ่านออกมาสว่างกว่า LINE POLARIZED (PL)

//// ผมลองหาซื้อฟิล์มทั้ง 2 ชนิด ในประเทศไทย
      LINE POLARIZED (PL) มีขายทั่วไปตามร้านที่ขายอะไหล่จอ LCD ราคาตามขนาดของจอ 32" 40" ผมซื้อมาลอง 32" ราคา 300-500 บาท (มี 0 องศา และ 90 องศา ซึ่งใช้แบบไหนก็ได้ สามารถหมุนได้ โดยปกติแล้ว จอ LCD ต้องใช้ 2 แผ่น คือแผ่นหน้าจอและหลังจอ แผ่นหน้า ใช้ 0 องศา แผ่นหลังใช้ 90 องศา )

       CIRCULAR POLARIZED (C-PL) ไม่มีขายในประเทศไทย จะมีแต่ที่ต่างประเทศต้องสั่งเข้ามาครับ


..........................................................................


มาเริ่มกันเลยครับวิธีการ DIY โปรเจคเตอร์ ให้เป็นระบบ 3D PASSIVE
สิ่งที่ต้องมี
1. โปรเจคเตอร์ รุ่นใดก็ได้ 2 เครื่อง (ของผมใช้ RD 806 จากจีน) รุ่นเดียวกันมันจะง่ายต่อการ SET ภาพครับ
2. FILM CIRCULAR POLARIZED (C-PL) ผมซื้อมาจากที่นี่ครับ http://www.3dlens.com/shop/circularpolarizer.php
3. จอสีเงิน (ต้องเป็นจอเงินครับ เพราะแสงมันจะสะท้อนกลับมาหาเราได้ดี)
4. แว่นตา 3D CIRCULAR POLARIZED แบบโรงหนัง (ซื้อแว่น 3D ที่ เมเจอร์ ราคา อันละ 50 บาท แบบ คริป ออน 90 บาท )
     *** ผมหาซื้อแว่นมาหลายแหล่งครับ แต่ที่ถูกที่สุด คือ ที่เมเจอร์ครับ
5. คอมพิวเตอร์ ที่มี PORT ช่องต่อออกมา 2 ช่อง (VGA และ HDMI)
6. โปรแกรม Stereoscopic Player


*** การสังซื้อแผ่น CIRCULAR POLARIZED ในเว๊ป http://www.3dlens.com/shop/circularpolarizer.php ให้เลือกขนาด ว่าจะใช้ขนาดไหน โดยต้องสามารถปิดหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์ได้โดยไม่มีแสงออกมาครับ (โดยผมสั่งซื้อ ขนาด 100X100 MM. ใช้กับโปรเจคเตอร์ RD806)
ราคาประมาณ แผ่นละ US$5.00 / ใช้ 2 แผ่น คือ ซ้าย และ ขวา เวลาสั่งซื้อต้องเลือก LEFT แล้วคลิกซื้อ 1 ครั้ง แล้ว กลับมาคลิก RIGHT แล้วคลิกซื้ออีก 1 ครั้ง เลือกประเทศไทย ( จ่ายเงิน ผมใช้ PAYPAL ครับ ) ราคารวมส่ง อยู่ที่ US$14.00 = 483.31 บาท


........................................................................................................................................


ขั้นตอนการทำ ผมแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วน projector และ ส่วนการตั้งค่าโปรแกรม

ส่วนที่ 1 PROJECTOR

1. ให้ทำที่ตั้งโปรเจคเตอร์ โดยสามารถ ขยับสูงต่ำทั้งสี่ด้าน ของโปรเจคเตอร์ ตัวที่ 2 หรือโปรเจคเตอร์ตัวบน เพื่อใช้สำหรับปรับความสูงและตำแหน่งให้ภาพทั้งสองโปรเจคเตอร์ทับกันพอดี (เราต้องใช้โปรเจคเตอร์ 2 ตัว วางซ้อนกัน เหตุผลที่ใช้โปรเจคเตอร์ 2 ตัว ก็คือ ระบบ 3 มิติ จะต้องแสดงภาพ ให้ตาซ้ายดู 1 ภาพ โดยที่ตาซ้ายจะไม่เห็นภาพของตาขวา และแสดงภาพให้ตาขวาดู อีก 1 ภาพ โดยที่จะไม่เห็นภาพของตาซ้าย)


ที่ตั้งโปรเจคเตอร์ ใช้สำหรับปรับ โปรเจคเตอร์ให้ภาพทั้ง 2 โปรเจคเตอร์ ทับซ้อนกันพอดี (ผมลองทำเพื่อทดลองก่อนครับ เลยดูแบบบ้านๆ ง่ายๆ หน่อย)


2. ทำที่ติดตั้งฟิล์ม ที่ได้สั่งซื้อมา กับหน้าโปรเจคเตอร์ โดยผมทำจากไม้ ฉลุ และ ท่อนำ้

ภาพฟิล์ม ที่ได้สั่งซื้อมา

ภาพการทำที่ติดตั้งฟิล์มกับหน้าโปรเจคเตอร์
*** การทำที่ติดตั้งฟิล์ม จะแบบไหนก็ได้ตามสะดวกครับ แค่ให้มันบังหน้าเลนส์ โปรเจคเตอร์ให้มิดก็พอ (ผมทำแบบนี้เพราะว่าเวลาตั้งตำแหน่งในการใช้งานจะเลื่อนโปรเจคเตอร์ในการหาตำแหน่งแผ่นฟิล์มมันก็จะอยู่บังหน้าเลนส์ตลอด และอีกอย่างเวลาไม่ดูหนัง 3มิติ ก็สามารถเปิดแผ่นฟิล์มได้สะดวก ครับ)


3. การติดตั้งฟิล์มกับโปรเจคเตอร์ วิธีการก็คือ เอาฟิล์มที่ติดกับโปรเจคเตอร์มาซ้อนทับกับแว่นในแต่ละด้าน(ซ้าย ขวา) แล้วหมุน รวมทั้งกลับด้าน เพื่อหาตำแหน่ง ปิดของแสง (หมุนและกลับด้านจนกว่าจะไม่มีแสงสามารถผ่านมาได้ = มืดสนิท) โดยให้หาทีละด้าน(อันนึงซ้าย อันนึงขวา) เมื่อหาได้แล้วให้ มาร์คไว้ว่าอันไหนซ้าย อันไหนขวา เมื่อได้แล้วให้เอาฟิล์มที่ติดกับโปรเจคเตอร์ ไปใส่หน้าเลนส์โปรเจคเตอร์อันละ 1 ตัว คือ ซ้าย 1 ขวา 1 อัน //// หลายคนคง งง ถ้างง ให้ดูจาก วีดีโอข้างล่าง แล้วทำความเข้าใจกับการหามุมของฟิล์มครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอวีดีโอการหาตำแหน่ง ฟิล์ม

เมื่อหาตำแหน่งได้แล้วทั้ง ซ้ายและขวา ให้ติดฟิล์มกับโปรเจคเตอร์ตามรูปข้างล่างครับ




ส่วนที่ 2 โปรแกรม และคอมพิวเตอร์

โปรแกรมที่ผมใช้คือโปรแกรม Stereoscopic Player เมื่อลงเสร็จแล้วให้เสียบคอมพิวเตอร์กับโปรเจคเตอร์ (คอมพิวเตอร์ต้องมีช่องต่อ 2 อันนะครับ VGA และ HDMI

ต่อโปรเจคเตอร์ทั้งสองตัว กับคอมพิวเตอร์ ตัวไหนต่อกับ port ไหนก็ได้
จากนั้นให้ตั้งจอการแสดงผลของคอมพิวเตอร์เป็น EXTAND ตามภาพด้านล่าง


จากนั้นเปิดโปรแกรม Stereoscopic Player แล้วเลือกการแสดงผลแบบ DUAL SCREEN OUTPUT /// ดังภาพด้านล่าง (มันคือการแสดงผลแบบ จอคู่ หมายความว่า มันจะแสดง ซ้าย 1 จอ และ ขวา 1 จอ แยกกัน แต่ละโปรเจคเตอร์ ก็คือ FILE หนัง 3 มิติ จะมี ภาพ 2 คู่กัน SIDE by Side หรือบาง FILE แสดงผลแบบบนกับล่าง ถ้าเราไม่เลือก  DUAL SCREEN OUTPUT มันจะแสดงผลออกมาจอเดียวแต่ 2 ภาพ ซ้าย-ขวา ไม่แยกจอกัน ผมหาวิธีอยู่นานมากกว่าจะทำให้มันแยกจอกัน ก็คือว่า ภาพทางขวาแสดงออกไป 1 โปรเจคเตอร์ ส่วนภาพทางซ้ายก็แสดงออกไปอีก 1 โปรเจคเตอร์)


จากนั้นตั้งค่า FULL SCREEN monitor (left view) ในโปรแกรม ให้โปรเจคเตอร์ ตัวที่ 1 = LEFT เลือกเป็น MONITOR 2 /// ตามภาพด้านล่าง

และให้โปรเจคเตอร์ ตัวที่ 2 = RIGHT เลือกเป็น MONITOR 3 /// ตามภาพด้านล่าง


จากนั้นให้ตั้งค่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ คลิกขวาที่เดสทอบ แล้วเลือกการตั้งค่าหน้าจอ โดยให้จอ 2 กับจอ 3 มีความละเอียดเท่ากัน (ต้องเท่ากันเป๊ะๆนะครับ)
/// ตามภาพด้านล่าง


จากนั้นมาเทส จอซ้ายและขวา กับแว่นกัน โดยการให้นำภาพด้านล่างนี้ L = LEFT ซ้าย และ R = ขวา ไปใส่ในโปรแกรม /// ภาพด้านล่าง




จากนั้นกดเอนเตอร์ แล้วดับเบิ้ลคลิกที่กลางหน้าจอ โปรแกรม ภาพจะไปปรากฎบนจอ ซ้อนกัน จากนั้นตั้งโปรเจคเตอร์และปรับโฟกัส ปรับภาพให้ซ้อนทับกันพอดีทั้งสองภาพ หน้าที่ของแท่นวางโปรเจคเตอร์จะได้ใช้มันในตอนนี้ ถ้าไม่มีแท่นวางที่ปรับได้จะลำบากต่อการตั้งให้ภาพซ้อนทับกันพอดี (ไม่แนะนำให้ใช้คีสโตน ของ RD 806 เพราะภาพมันจะไม่ชัดขอบบนและขอบล่าง แต่ถ้าอยากให้ซ้อนกับเป๊ะๆก็ใช้ได้แต่ก็ต้องรับความไม่คมชัด ขอบบนและขอบล่าง)

เมื่อตั้งภาพซ้อนกันเรียบร้อยแล้ว ให้ทดสอบ โดยการใส่แว่น 3มิติ และหลับตาซ้าย ภาพบนจอจะเป็นตัว R = right ขวา ก็คือว่า ตาขวามองเห็น R (แต่ต้องไม่เห็น L หรือไม่เห็นอะไรเหลื่อมๆ //// หลับตาขวา ภาพที่แสดงบนจอต้องเป็น L=LEFT ซ้าย (ถ้ามันกลับด้านกัน ซ้ายเป็นขวา ขวาเป็นซ้าย ให้ไปตั้งค่าที่โปรแกรมตามภาพด้านล่าง)



วีดีโอทดสอบ ซ้าย และขวา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
*** เทคนิคสำคัญที่จะทำให้ภาพออกมาได้ดี เวลาดู 3D ต้องตั้งค่า สี แสง คอนทราส ทั้งสองโปรเจคเตอร์ให้แสดงภาพออกมาเป็นสีเดียวกันและแสงออกมาเท่ากัน การตั้งค่าต้องตั้งค่าเวลาฉายจริงและใส่แว่นเรียบร้อยแล้วเท่านั้นครับ โดยให้ใส่ภาพนิ่งภาพเดียวกัน ทั้ง ซ้ายและขวา แล้วปรับโดยยึดโปรเจคเตอร์ ตัวไหนก็ได้ที่เราคิดว่าภาพนั้นโอเคสำหรับเรา แล้วหลับตาซ้าย ที ขวา ที สลับไปมาเพื่อเปรียบเทียบ สี แสง คอนทราส แล้วก็ปรับโปรเจคเตอร์อีกตัว จนกว่าภาพทั้งสองภาพ (ภาพทั้งสองตา ซ้ายและขวา ) จะแสดงภาพ สี แสง คอนทราส ได้ใกล้เคียงและเหมือนกันมากที่สุดครับ  ( เทคนิคอีกอย่างคือ ต้องลองภาพมืดๆ แล้วปรับ และภาพที่ สว่างๆ แล้วปรับ แล้วก็หาค่ากลาง จึงจะดีครับ )

*** ถ้าปรับภาพได้ดีแล้ว ภาพที่ได้ จะใสมากครับ


*** มันจะมี CROSS TALK บ้าง บางช่วงของภาพครับ ถ้าภาพมันมืดกับสว่างมาเจอกัน


จากนั้นให้หาไฟล์ 3 มิติ มาดูกันครับ พุ่งออกนอกจออย่างแน่นอน
ผมมี file แนะนำ ต้องโหลดจากยูทูป อันนี้พุ่งออกมานอกจอถึงคนดูเลยครับ
World's BesT SBS 3D POP OUT EffecTs EVER
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ขอให้ทุกคนได้ดูหนัง 3 มิติแบบจอใหญ่ ที่บ้านได้เอง ครับ



กระทู้วีธีการทำจอเงินครับ
http://ppantip.com/topic/35654226
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่