เล่าประสบการณ์ฝึกจิต ได้ผลอย่างนี้เรียกว่าอะไร

ก่อนอื่นขอเรียนว่าจะถือว่าผมเป็นพุทธเฉพาะในทะเบียนบ้านก็ได้นะครับ
เพราะไม่ได้เชื่อหรือฝึกวิธีการของศาสนาหรือพระรูปใดอย่างจริงจัง
ถ้าพูดถึงการทำสมาธิ ผมคิดว่าการละหมาดหรือสวดขอพรจากพระเจ้า
ก็เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ผมจึงคิดว่าการฝึกจิตไม่ใช่เรื่องของศาสนาใด
ศาสนาหนึ่ง


ตอนเด็กๆ ผมสังเกตว่า ถ้าตอนไหนใจสบาย โล่งๆ มากๆ กลางคืนนอนแล้ว
จะมีสภาวะคล้ายตัวลอยได้ รู้สึกเหมือนกำลังเหาะได้ไปในที่ต่างๆ สภาวะนั้น
รู้สึกมีความสุขมาก อิ่มใจ ปิติ แต่มันจะนานๆ เกิดขึ้นทีนึง


หลังๆ พอเริ่มโตทำอาชีพการงานและช่วงนี้ว่างพอสมควร ผมเลยเอาเรื่อง
ตอนเด็กมานึกแล้วทดลองที่จะทำจิตให้เหมือนตอนเด็กๆ ดูบ้าง

ครั้งแรกผมลองเอาจิตตั้งไว้ที่บริเวณหน้าผาก พบว่ากล้ามเนื้อในร่างกาย
ค่อยๆ คลายตัวไปทีละส่วน คลายมากๆ ลองขยับตัวกระดูกลั่นไปเกือบ
ทุกส่วน แล้วก็นอนนิ่งแบบนั้น รู้สึกเหมือนตัวจมหายลงไปในเตียงเลย

เป็นภาวะที่ผ่อนคลายมาก แต่ไม่หลับ ผมก็เอาใจไว้ที่หน้าผากจนเช้า
พบว่าร่างกายคลายหมดทั้งตัว ยิ่งกว่าไปนวด 100 หนในครั้งเดียว
อาการปวดเมื่อยหายไปหมดเลย


ครั้งสองลองรู้สึกเหมือนเราลอยอยู่ในที่มืดมิดท่ามกลาง
ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น รู้สึกอิ่มใจมาก สักพักก็รู้สึกเหลือแต่หัวตัวหายไป
และอีกพักเดียวก็รู้สึกไม่มีร่างกาย ไม่รู้เราอยู่ที่ไหน รู้สึกเหมือนลอยๆ เวิ้งว้าง
สภาวะนี้จะว่าตื่นก็ตื่น หลับก็หลับนะครับ ผมได้ไปเห็นสถานที่ต่างๆ
ลักษณะคล้ายโลกมนุษย์ แต่สภาพทรุดโทรมกว่า
ตอนนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาเองว่า สถานที่นั้นเป็นอีกภพภูมินึงที่ต่ำกว่าโลกมนุษย์
ลงไปขั้นนึง ซึ่งผมไม่เคยรู้เรื่องนะครับ ว่ามีของพวกนี้หรือจะเรียกว่าอะไร
ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้เท่านั้น



ครั้งที่สามทดลองแค่ทำใจลอยๆ สักพักเดียวรู้สึกว่าตัวหายไปเลยครับ
เห็นแสงสีต่างๆ มีสีม่วงเป็นหลัก อยู่ในความมืดมิด แต่มีแสงสีต่างๆ วิ่งบ้าง
ลอยบ้าง ผ่านตัวเราไป และรู้สึกขึ้นมาเองว่ามีความสุขด้วย สนุกด้วย
เป็นความร่าเริงใจที่ไม่เคยพบมาก่อน รูสึกเหมือนแสงสีพวกนั้นคุยกับเรา
ส่งพลังให้เรา อวยพรเรา อิ่มใจมากเลยครับ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เช้าเลย
รู้สึกมีกำลังวังชามาก


หลังจากครั้งที่สามนี้เวลานอนผมก็เขาภวังค์และไปล่องลอยอยู่ในแสงสีนี้
บ่อยมากเลยครับ เป็นอย่างนี้อยู่หลายเดือนจนความสนุกของปิติเปลี่ยน
เป็นเฉยๆ ละ


นานหลายเดือนหลังจากนั้นเวลาทำสมาธิก็จะเฉยๆ นิ่งๆ จนวันหนึ่งรู้สึก
เหมือนเข้าภวังค์แบบตัวระเบิด คือเหมือนกำลังนิ่งๆ อยู่แล้วเกิดแสงสี
ขาวแบบสว่างมากๆ สว่างจนตกใจ แต่พอสักพักก็เหมือนเราควบคุม
สถานการณ์ได้

ท่ามกลางแสงสีขาวนั้นเหมือนเราจับความคิดตัวเองได้ และมีสิ่งแปลกประหลาด
เช่น พอระลึกถึงร่างกาย ก็เห็นตัวเองและทุกส่วนในร่างกายเป็นแบบเอ๊กซเรย์เลย
ตับไตใส้พุงม้ามปอดเห็นหมด มองลึกไปในสมองก็เห็นภาพเหมือนซูมเข้าไปจนเห็นเซลล์
สมองอะไรประมาณนี้ จะว่าหลับก็ไม่หลับ จะว่าตื่นก็ไม่ตื่นสิ่งที่สงสัยค้างคาใจ
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เหมือนได้คำตอบ แต่ใจจะนิ่งๆ อยู่กับที่อย่างนั้น
ไม่อยาก ไม่งง ไม่สงสัย ไมรู้สึกอะไรเหมือนนิ่งๆ เหมือนใจนิ่งๆ แต่ร่างกายหายไปแล้ว
ไม่รู้สึกว่าร่างกายอยู่ตรงไหน เหมอืนเราเป็นอะไรสักอย่างที่ลอยอยู่นิ่งๆ
เป็นอย่างนี้สักพักก็เหมือนความรู้สึกดับไป และตื่นเช้าเขึ้นมาอีกที จะจำอะไรไม่ได้เลย
แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก จะเหมือนระลึกได้ว่าได้คำตอบจากสมาธิเมื่อคืนโผล่มาทีละเรื่อง
อาจจะพักใหญ่ๆ บ้าง หรืออีกสักแป๊บเดียวบ้าง

ทุกวันนี้ก็จะเป็นอย่างนี้บ้าง สลับกับล่องลอยในความมืดบ้าง หรือเมหือนนอนเฉยๆ บ้าง
แต่เดือนนึงก็หลายครั้ง

สรุปแล้วทั้งหมดนี้คืออะไรครับ ผมไม่เคยศึกษามาก่อนเลย ไม่เข้าใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่