เรื่องมีอยู่ว่า ผมต้องเดินทางไป 2 ประเทศ คือญี่ปุ่น และอเมริกา หลักจากรู้ว่าต้องเดินทาง ได้พยายาม search หาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ของทั้ง 2 ประเทศ จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ได้ข้อสรุปที่ SIM2FLY ของ AIS เพราะเนื่องจากการหาข้อมูลพบว่าสามารถนำไปใช้ได้ในทั้ง 2 ประเทศ และคิดว่าจะใช้ Data เป็นหลัก ส่วนการโทรจะเป็นไว้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น หลักจากนั้นก็ได้ไปซื้อ SIM นี้ที่ Shop ราคา 399 บาทเก็บไว้ก่อนก่อนที่จะเดินทาง ก็ได้อ่านรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับการใช้งาน เพราะกังวลว่าถ้านำไปใช้ 2 ประเทศจะมีปัญหาหรือไม่ ข้อมูลทางหน้าเว็ปไซด์ก็บอกรายละเอียดการสมัคร คือ 399 บาท สามารถนำไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ โดย Internet ใช้ได้ไม่จำกัด ความเร็วสูงสุดที่3GB นาน 8วัน และถ้านำไปใช้ประเทศอเมริกา แค่สมัครแพคเกจ 849 บาท จะใช้ Internet ได้ไม่จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 3GB นาน 15 วัน โดยสามารถเติมเงินผ่านช่องทางต่างๆได้ 4 ช่องทาง 1.เติมเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านหน้าเว็ปของ AIS 2.ผ่านตู้ ATM 3.บัตรเติมเงิน 4.สลิปบัตรเติมเงิน  โดยจากการนั่งคิดสักพักก็คิดว่า ช่องทางที่สะดวกที่สุดตอนอยู่ที่ต่างประเทศคือช่องทางที่ 1 และเป็นช่องทางเดียวที่สามารถทำได้ด้วยตนเองเมื่ออยู่ต่างประเทศ (ซึ่งภายหลังพึ่งจะรู้ว่าคิดผิด ไม่รู้ว่าผิดที่ความสะเพร่าของตัวเองหรือความมักง่ายของคนที่ต้องการขายของ) ในวันเดินทางได้ไปเปิดใช้ SIM ที่ counter ในสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้แน่ใจว่าเปิดใช้งานได้ถูกต้อง (ที่จริงสามารถกด Activate SIM เองได้ แต่เพื่อความไม่อยากผิดพลาดเลยไปให้พนักงานที่ counter กดเปิดให้) หลังจากเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นก็เปิดเครื่อง และใช้งาน ซึ่งใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหา หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปประเทศสหรัฐอเมริกา (ขณะนั้นยังไม่ได้เติมเงินและสมัครpackage ใดๆ) ปัญหาได้เริ่มเกิดขึ้น!! พอจะเปิดใช้งานก็คิดว่าจะเติมเงินโดยจะใช้บัตรเครดิตจ่ายผ่านหน้าเว็ปไซ ด์ของ AIS หลังจากเข้าเว็ปไซด์ก็ทำตามขั้นตอน (ใช้wifiเข้าหน้าเว็ป) พอถึงขั้นตอนยืนยันว่าจะให้ตัดผ่านบัตรเครดิต ซึ่งระบบธนาคารจะส่งหมายเลข OTP มาที่เบอร์ที่ผูกไว้กับบัตรเครดิตเพื่อยืนยันการตัดเงิน แต่ในความเป็นจริง คืเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัตรนั้นเป็นเบอร์ที่ใช้อยู่ที่เมืองไทย ซึ่งไม่ได้ติดตัวไป (และถึงแม้ว่าติดไปก็ไม่คิดว่าจะใช้ได้เพราะไม่ได้เปิด roaming) ถึงตรงนี้รู้สึกว่าเหมือนโดนหลอก ทำไมในเว็ปไซด์บอกว่าทำได้ แต่ในความจริงมันทำไม่ได้ แต่ก็คิดในแง่ดีคือคิดว่าสะเพร่าเอง ไม่เป็นไร ยังมีวิธีอื่นอีก ทีนี้วิธีอื่นคือต้องให้คนที่อยู่เมืองไทยไปซื้อบัตรเติมเงินให้ (ในความเป็นจริงก็ไม่ได้สะดวก เพราะคนที่อยู่ที่เมืองไทยก็ไม่ได้สะดวกที่จะทำให้สักเท่าไหร เนื่องด้วยเวลาที่ต่างกันของ 2 ประเทศ และ เป็นธุระของเราไม่ใช่ของเขา) ก็พยายามติดต่ออยู่นาน จนได้สลิปเติมเงินมา 3 ใบ คือใบละ 500, 300 และ 50 บาท โอเค พอได้มาก็ได้กดเติมเงิน ครั้งแรกเติม 500 บาท มี SMS แจ้งว่ามียอด 500 บาท เติมครั้งที่ 2 300 บาท มี SMS แจ้งว่ามียอด 300 บาท เติมครั้งที่ 3 50 บาท **แต่มี SMS แจ้งว่ามียอด 840.37 บาท** ก็เอ๊ะใจว่าทำไมเงินมันหายไป แต่ยังไม่ได้คิดอะไร คิดว่าระบบอาจจะมีอะไรผิดพลาด ก็กดสมัครpackage 849 บาทไป ทีนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอสักพักก็ลองกดใหม่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทีนี้รู้แล้วว่าเกิดปัญหา ก็หาทางติดต่อ call center ในใบคู่มือของ SIM ที่ซื้อมาได้ให้เบอร์ติดต่อ call center มา เป็นเบอร์ *122# โทรออก ก็กดไป มีข้อความขึ้นมาว่า "Moment please, the system is now calling to AIS CALL CENTER" ก็รอไป 5 นาที ไม่มีอะไรตอบสนอง ก็กด Dismiss แล้วกดใหม่ ก็เหมือนเดิม รอไป 5 นาที 10 นาที กดซ้ำๆ รอไปเรื่อยๆ บางครั้งก็รอจนขึ้นข้อความ "Sorry, there is no response from your requested number,please try again later" กดอยู่หลายสิบรอบ รวมเวลาทำอยู่ 2-3 ชม. ไม่ได้อะไร ก็เปลี่ยนวิธี เลยลองส่ง email ไปซึ่งรู้ว่าถ้าไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ คงจะใช้เวลานานกว่าจะติดต่อกันรู้เรื่อง แต่เป็นวิธีสุดท้าย ก็ได้ email ไปเล่าถึงปัญหา ซึ่งใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีคนตอบกลับมา ซึ่งได้คำตอบว่า เงินที่ถูกตัดไปต้องใช้เวลาตรวจสอบ 3 วัน ขอเวลาตรวจสอบ 3 วัน คำตอบนี้คือ ผมอยู่ต่างประเทศ จะใช้งาน ต้องนั่งรอ 3 วันถึงจะตรวจสอบเสร็จหรอ ก็ได้พยายามถามถึงเรื่อง Call center ว่าจะติดต่อได้ทางไหนบ้าง ก็เล่าถึงปัญหาของเบอร์ *122# ไป ได้คำตอบว่าขอเวลาตรวจสอบว่าเบอร์นี้ใช้งานได้หรือไม่ ผ่านไป 1 วัน ก็ได้คำตอบว่าเบอร์นี้ใช้งานได้ปกติ หรือไม่ก็ให้เบอร์ 022719000 ซึ่งจะคิดอัตราค่าโทรตามประเทศที่ใช้งาน  คำตอบนี้จุกเลย ทุกคนคงรู้ถ้าโทรไปเบอร์ 02 เงินคงหมดก่อนที่จะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นผมก็ได้กดเบอร์นี้อีกจำนวนนับครั้งไม่ได้ หลังจากนั้น ผมก็ได้ส่งemail กลับไปสอบถามว่าจะต้องทำอย่างไร ติดต่ออย่างไรได้บ้าง จะทำอย่างไรให้ใช้งานได้บ้าง email ที่ส่งและตอบโต้กันประมาณ 40-50 mail ก็ยังคงคำตอบเดิม คือรอตรวจสอบยอดเงินที่หายไป ส่วนเบอร์ *122# ใช้งานได้ปกติ และสามารถโทรเบอร์ 022719000 ได้โดยคิดอัตราตามประเทศที่ใช้งาน สรุปคือ ผ่านไปประมาณ 5 วัน ได้คำตอบว่า เงินที่โดนตัดไปเพราะเป็นการ Active Facetime ถ้าไม่ได้มีการสมัครจะทำเรื่องคือเงินให้ ถึงตอนนั้นผ่านไป 5 วันมันก็สายไปแล้ว และตั่งแต่ไปอยู่ที่อเมริกา *122# ไม่เคยจะติดต่อได้ โดยได้รับการยืนยันจาก email หลายต่อหลายครั้งว่าใช้งานได้ปกติ ไม่รู้มีใครเคยใช้หรือไม่ ว่าการใช้จริงมันใช้ได้หรือไม่ ไม่รู้จะอธิบายการทำงานแบบนี้ว่าอย่างไรดี สุดๆจริงๆ