ผมขอสอบถาม และแนวทางในการจัดการศูนย์บริการพวกนี้ด้วยครับ
ขอเล่าเลยนะครับ
เนื่องด้วย ผมได้เข้าไปใช้บริการศูนย์XXXX สนง.ใหญ่ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2559 เพราะว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค.59 รถผม สตาร์ท ไม่ติด จึงได้ทำการโทรเรียกร้านแบตเตอรี่ ให้มาทำการเปลี่ยนให้ เมื่อรถสตาร์ทติดแล้ว ปรากฏว่า ไฟที่หน้าปัดรถโชว์ขึ้นเป็นสีเหลือง วิทยุรถยนต์ แล้ว แอร์ไม่ทำงาน ทางร้านแบตเตอรี่แจ้งมาว่าเป็นเรื่องปกติต้องให้ทางศูนย์แก้ไข โดยการ รีเซ็ตกล่อง ECU แล้วจะหายเป็นปกติ ผมเลยไปเข้าศูนย์ในวันต่อมา (ไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า) พร้อมแจ้งอาการให้เจ้าหน้าที่ให้ทราบ ดังรูปที่ 1 เมื่อเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 10 โมงเข้ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาบอกว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม ประมาณ 14,000 บาท โดยมีรายการที่น่าตกใจดังนี้ คือไดชาร์จ เสีย ซึ่งผมงงมาก แค่แบตเตอรี่หมด ถึงขนาดไดชาร์จเสียเลยหรือยังไง ดังรูปที่ 2 และ 3 ผมจึงได้เดินเข้าไปพูดคุยกับช่างถึงในช่องที่ทำการตรวจซ่อม คุยกันประมาณ 20 นาที ช่างก็ยืนยันว่าไดชาร์จเสียยังไงก็ต้องเปลี่ยน เพราะว่าเป็นสาเหตุของการที่ ไฟที่หน้าปัดโชว์ แอร์ และวิทยุไม่ทำงาน (ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในศูนย์ได้ว่าได้มีการเดินเข้าไปคุย) ผมเลยแจ้งไปว่า รถยังอยู่ในประกันถ้าเสียก็เปลี่ยนให้เลยสิ (ยังไม่เกิน 3 ปี และยังไม่เกิน 1 แสนกิโล) พนักงานทำหน้างงๆ พร้อมบอกว่าเดี๋ยวขอตรวจสอบก่อน ผมจึงเข้ามารอให้ห้องรับรองลูกค้าอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกผมเข้าไปที่รถ พร้อมกับแจ้งมาว่า พี่แค่ฟิวส์ขาด ดังรูปที่ 4 กับรูปที่ 5 ค่าฟิวส์ 150 ค่าแรง 520 บาท ซึ่งนี้ยังไม่รวม Vat นะ ผมจึงได้ทำการโทรไปที่ร้านแบตเตอรี่ให้ทราบว่าทางร้านแบตเตอรี่ต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ซึ่งทางผมก็เลยให้ศูนย์xxx ออกใบเสร็จ ในชื่อร้านแบตเตอรี่ ดังรูปที่ 6 ส่วนใบเสร็จที่ไม่ได้ถ่ายเพราะว่าผมได้นำไปเบิกค่าใช้จ่ายกับทางร้านแบตเตอรี่แล้ว ซึ่งทางxxxx น่าจะตรวจสอบได้
ทั้งนี้ จากเรื่องราวที่ได้กล่าวมานี้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เห็นว่าผมควรจะทำอย่างไร กับ ศูนย์บริการนี้ดีครับ
รูปภาพ 1-6 ผมคงลงให้ดูไม่ได้นะครับ เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นการประจานศูนย์เค้าหรือเปล่า เดี๋ยวต้องมาเสียเวลาอีก ถ้าเค้ามาฟ้องร้องว่า ทำให้รถเค้าขายไม่ได้ (ที่ขายได้ก็ผมก็เห็นว่ามีรุ่นนี้รุ่นเดียวที่วิ่งบนถนนมากที่สุด รูปแบบรถออกมาเกือบ 10ปีแล้ว)
ที่ผมถามเพราะต้องการรักษาผมประโยชน์ของตัวเองและเป็นแนวทางของคนทั่วๆ ไป เพราะว่าเหตุการณ์หลอกเปลี่ยนอะไหล่ ที่ไม่เสีย คงไม่ได้เกิดขึ้นกับผมคนแรกและคงไม่ได้เป็นคนสุดท้ายแน่ๆ
ขออธิบายรูปคราวๆนึกภาพตามนะครับ
รูปที่ 1 เป็นบิลใบแจ้งเข้ารับบริการ แจ้งปัญหาให้ทราบ
รูปที่ 2 ใบเสนอราคา ของศูนย์ พร้อมทั้งรายการที่ต้องเปลี่ยน
รูปที่ 3 ขยายรูปให้เห็นชัดเจน ค่าใช้จ่ายของราคา ที่เราจะต้องจ่ายเงิน
รูปที่ 4 รูปฟิวส์ 150A ที่ช่างเปลี่ยนมาให้
รูปที่ 5 ราคาค่าฟิวส์
รูปที่ 6 ที่อยู่ร้านแบตเตอรี่ ที่ใช้ในการปิดบิล
ที่ผมอยากจะทำคือ ฟ้องร้องสัก 20 เท่าขอราคาที่จะโกงเรา (เหมือนโจรที่เข้าไปขโมยของ พอโดนจับได้ก็โดนร้านเรียกค่าเสียหาย
10 เท่า 20 เท่า ประมาณนี้ครับ
คราวหลังจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นๆอีก
หรือ เปิดรูปให้ดู ให้คนที่จะซื้อยี่ห้อนี้ ตัดสินใจกันเอง นี้ศูนย์ใหญ่นะยังเป็นแบบนี้ เคยได้ยินไหมครับ
หัวไม่ส่ายหางไม่กะดิก เจอคนกลุ่มนี้เสียความรู้สึกมากๆ
ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ
*** อยู่เว็ปนี้มานาน ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เลย ต้องมาตั้งกระทู้ถาม ส่วนใหญ่จะเป็น ผู้อ่านที่ดี คืออ่านอย่างเดียว
ศูนย์บริการรถยนต์ทำอย่างนี้ เราจะเอาผิด ทางไหนได้บ้างครับ
ขอเล่าเลยนะครับ
เนื่องด้วย ผมได้เข้าไปใช้บริการศูนย์XXXX สนง.ใหญ่ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2559 เพราะว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค.59 รถผม สตาร์ท ไม่ติด จึงได้ทำการโทรเรียกร้านแบตเตอรี่ ให้มาทำการเปลี่ยนให้ เมื่อรถสตาร์ทติดแล้ว ปรากฏว่า ไฟที่หน้าปัดรถโชว์ขึ้นเป็นสีเหลือง วิทยุรถยนต์ แล้ว แอร์ไม่ทำงาน ทางร้านแบตเตอรี่แจ้งมาว่าเป็นเรื่องปกติต้องให้ทางศูนย์แก้ไข โดยการ รีเซ็ตกล่อง ECU แล้วจะหายเป็นปกติ ผมเลยไปเข้าศูนย์ในวันต่อมา (ไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า) พร้อมแจ้งอาการให้เจ้าหน้าที่ให้ทราบ ดังรูปที่ 1 เมื่อเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 10 โมงเข้ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาบอกว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม ประมาณ 14,000 บาท โดยมีรายการที่น่าตกใจดังนี้ คือไดชาร์จ เสีย ซึ่งผมงงมาก แค่แบตเตอรี่หมด ถึงขนาดไดชาร์จเสียเลยหรือยังไง ดังรูปที่ 2 และ 3 ผมจึงได้เดินเข้าไปพูดคุยกับช่างถึงในช่องที่ทำการตรวจซ่อม คุยกันประมาณ 20 นาที ช่างก็ยืนยันว่าไดชาร์จเสียยังไงก็ต้องเปลี่ยน เพราะว่าเป็นสาเหตุของการที่ ไฟที่หน้าปัดโชว์ แอร์ และวิทยุไม่ทำงาน (ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในศูนย์ได้ว่าได้มีการเดินเข้าไปคุย) ผมเลยแจ้งไปว่า รถยังอยู่ในประกันถ้าเสียก็เปลี่ยนให้เลยสิ (ยังไม่เกิน 3 ปี และยังไม่เกิน 1 แสนกิโล) พนักงานทำหน้างงๆ พร้อมบอกว่าเดี๋ยวขอตรวจสอบก่อน ผมจึงเข้ามารอให้ห้องรับรองลูกค้าอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกผมเข้าไปที่รถ พร้อมกับแจ้งมาว่า พี่แค่ฟิวส์ขาด ดังรูปที่ 4 กับรูปที่ 5 ค่าฟิวส์ 150 ค่าแรง 520 บาท ซึ่งนี้ยังไม่รวม Vat นะ ผมจึงได้ทำการโทรไปที่ร้านแบตเตอรี่ให้ทราบว่าทางร้านแบตเตอรี่ต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ซึ่งทางผมก็เลยให้ศูนย์xxx ออกใบเสร็จ ในชื่อร้านแบตเตอรี่ ดังรูปที่ 6 ส่วนใบเสร็จที่ไม่ได้ถ่ายเพราะว่าผมได้นำไปเบิกค่าใช้จ่ายกับทางร้านแบตเตอรี่แล้ว ซึ่งทางxxxx น่าจะตรวจสอบได้
ทั้งนี้ จากเรื่องราวที่ได้กล่าวมานี้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เห็นว่าผมควรจะทำอย่างไร กับ ศูนย์บริการนี้ดีครับ
รูปภาพ 1-6 ผมคงลงให้ดูไม่ได้นะครับ เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นการประจานศูนย์เค้าหรือเปล่า เดี๋ยวต้องมาเสียเวลาอีก ถ้าเค้ามาฟ้องร้องว่า ทำให้รถเค้าขายไม่ได้ (ที่ขายได้ก็ผมก็เห็นว่ามีรุ่นนี้รุ่นเดียวที่วิ่งบนถนนมากที่สุด รูปแบบรถออกมาเกือบ 10ปีแล้ว)
ที่ผมถามเพราะต้องการรักษาผมประโยชน์ของตัวเองและเป็นแนวทางของคนทั่วๆ ไป เพราะว่าเหตุการณ์หลอกเปลี่ยนอะไหล่ ที่ไม่เสีย คงไม่ได้เกิดขึ้นกับผมคนแรกและคงไม่ได้เป็นคนสุดท้ายแน่ๆ
ขออธิบายรูปคราวๆนึกภาพตามนะครับ
รูปที่ 1 เป็นบิลใบแจ้งเข้ารับบริการ แจ้งปัญหาให้ทราบ
รูปที่ 2 ใบเสนอราคา ของศูนย์ พร้อมทั้งรายการที่ต้องเปลี่ยน
รูปที่ 3 ขยายรูปให้เห็นชัดเจน ค่าใช้จ่ายของราคา ที่เราจะต้องจ่ายเงิน
รูปที่ 4 รูปฟิวส์ 150A ที่ช่างเปลี่ยนมาให้
รูปที่ 5 ราคาค่าฟิวส์
รูปที่ 6 ที่อยู่ร้านแบตเตอรี่ ที่ใช้ในการปิดบิล
ที่ผมอยากจะทำคือ ฟ้องร้องสัก 20 เท่าขอราคาที่จะโกงเรา (เหมือนโจรที่เข้าไปขโมยของ พอโดนจับได้ก็โดนร้านเรียกค่าเสียหาย
10 เท่า 20 เท่า ประมาณนี้ครับ
คราวหลังจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นๆอีก
หรือ เปิดรูปให้ดู ให้คนที่จะซื้อยี่ห้อนี้ ตัดสินใจกันเอง นี้ศูนย์ใหญ่นะยังเป็นแบบนี้ เคยได้ยินไหมครับ
หัวไม่ส่ายหางไม่กะดิก เจอคนกลุ่มนี้เสียความรู้สึกมากๆ
ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ
*** อยู่เว็ปนี้มานาน ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เลย ต้องมาตั้งกระทู้ถาม ส่วนใหญ่จะเป็น ผู้อ่านที่ดี คืออ่านอย่างเดียว