"ขอเดชะองค์พระประมุขภูมิพล
มิ่งขวัญ ปวงชน ประชาชาติไทย
มหาราช ขัตติยะ ภูวไนย
ดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา
ขอเดชะองค์สมเด็จพระราชินี
คู่บุญ บารมี จักรีเกริกฟ้า
องค์สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มหาราชา
ข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี
อ่า... องค์พระสยมบรมราชันย์ขวัญหล้า
เปล่งบุญญาสมสง่าบารมี
ผองข้าพระพุทธเจ้า
น้อมเกล้าขออัญชุลี
สดุดี มหาราชา
สดุดี มหาราชินี"
************
"ข้าวรพุทธเจ้า เอามโนและศิระกราน
นบพระภูมิบาลบุญดิเรก เอกบรมจักริน
พระสยามินทร์พระยศยิ่งยง เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์
ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง
หวังวรหฤทัย ดุจถวายชัย ชโย"
ยี่สิบกว่าปี ( นับจากจำความได้ ) กับบทเพลงเหล่านี้
เมื่อครั้งยังเด็กแรกเริ่มจำความได้ถูกฝึกให้ร้องจากคุณครูในชั้นเรียน ปากก็ท่องเจื่อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทองตามประสาเด็ก หากครั้นนานวันเข้าภาพข่าวประจำราชสำนัก ฉายภาพทรงงานของพระองค์ท่าน ภาพวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี ( ในสมัยที่ท่านยังทรงงานไหว ) ยามเสด็จลง ณ ศาลาดุสิตดาลัย ให้โอวาทข้าราชการและทรงรับสั่งถึงปัญหาแนวทางแก้ไข และโครงการต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับน้ำ อีกทั้งสารพัดโครงการที่ตัวเราเองได้มีโอกาสไปเที่ยวชม ที่สอนให้ประชาชนยืนด้วยลำแข้งของตน ทรงใช้บ้านของพระองค์ ( พระตำหนักสวนจิตรลดา ) เป็นแหล่งผลิตสินค้าคุณภาพดีราคาถูก และเป็นแหล่งเรียนรู้อาชีพ เป็นแหล่งเพราะปลูกข้าวให้นักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้ อีกทั้งยังทรงอนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดานำปลานิลที่อยู่ในบ่อของพระองค์ไปเพาะพันธุ์หรือบริโภคได้ นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่กองทุนรักษาสัตว์ป่วยอนาถา รพ.สัตว์เกษตร และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนที่พระองค์ทรงทำเพื่อประเทศไทย เพื่อประชาชนของพระองค์ จากที่ได้ซึมซับ... จากที่ได้เรียนรู้ ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสร้องบทเพลงเหล่านี้ ความตื้นตันปิติยินดี สามัญสำนักในความเหนื่อยยากที่พระองค์ทรงแบกรับ มันมากมายจุกแน่นอกจนแทบจะร้องไห้ทุกครั้ง
หากมาวันนี้... วันที่พระองค์ท่านทรงพักผ่อนอย่างสงบ บทเพลงเหล่านี้คงกลายเป็นเพียงตำนานที่ไม่ได้นำหยิบขึ้นมาขับร้องอีก และก็คงเช่นเดียวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่คงต้องเปลี่ยนไป เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเข้ามา แต่... มันยากจะทำใจเหลือเกิน ยากจะทำใจที่จะไม่มีโอกาสได้เห็น พระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ตามที่ต่างๆ บนโทรทัศน์ช่วงข่าวพระราชสำนัก ไม่มีโอกาสได้เห็นธงสัญลักษณ์สีเหลืองโบกปลิ้วพลิ้วไสว ประชาชาชนร่วมใจกันจุดเทียนชัยขับขานบทเพลงสรรเสริญพระบารมีกับสดุดีมหาราชาในวันที่ 5 ธันวา ของทุกปี ไม่มีคำอวยพรปีใหม่ที่กำลังจะมาจากพระองค์ท่านอีกแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ได้หล่อหลอมให้กลายเป็นวิถีชีวิตที่เราคุ้นเคยมาหลายทศวรรษ ถึงรู้ทั้งรู้ว่าวันนี้คงมาถึงในสักวันแต่พอเอาเข้าจริงก็ทำใจยากยิ่งนัก และแม้จะยังทำใจไม่ได้แต่ในเมื่อลมหายใจยังไม่หมดก็คงต้องก้าวเดินต่อไป... ในแบบที่พระองค์ท่านนำทางไว้
องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาราชาข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี ( อยากจะมีโอกาสได้ร้องอีกสักครั้ง อยากตะโกนดังๆ ไปให้ถึงพระองค์ที่ทรงประทับอยู่บนฟ้า )
สดุดีมหาราชา
มิ่งขวัญ ปวงชน ประชาชาติไทย
มหาราช ขัตติยะ ภูวไนย
ดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา
ขอเดชะองค์สมเด็จพระราชินี
คู่บุญ บารมี จักรีเกริกฟ้า
องค์สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มหาราชา
ข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี
อ่า... องค์พระสยมบรมราชันย์ขวัญหล้า
เปล่งบุญญาสมสง่าบารมี
ผองข้าพระพุทธเจ้า
น้อมเกล้าขออัญชุลี
สดุดี มหาราชา
สดุดี มหาราชินี"
************
นบพระภูมิบาลบุญดิเรก เอกบรมจักริน
พระสยามินทร์พระยศยิ่งยง เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์
ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง
หวังวรหฤทัย ดุจถวายชัย ชโย"
ยี่สิบกว่าปี ( นับจากจำความได้ ) กับบทเพลงเหล่านี้
เมื่อครั้งยังเด็กแรกเริ่มจำความได้ถูกฝึกให้ร้องจากคุณครูในชั้นเรียน ปากก็ท่องเจื่อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทองตามประสาเด็ก หากครั้นนานวันเข้าภาพข่าวประจำราชสำนัก ฉายภาพทรงงานของพระองค์ท่าน ภาพวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี ( ในสมัยที่ท่านยังทรงงานไหว ) ยามเสด็จลง ณ ศาลาดุสิตดาลัย ให้โอวาทข้าราชการและทรงรับสั่งถึงปัญหาแนวทางแก้ไข และโครงการต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับน้ำ อีกทั้งสารพัดโครงการที่ตัวเราเองได้มีโอกาสไปเที่ยวชม ที่สอนให้ประชาชนยืนด้วยลำแข้งของตน ทรงใช้บ้านของพระองค์ ( พระตำหนักสวนจิตรลดา ) เป็นแหล่งผลิตสินค้าคุณภาพดีราคาถูก และเป็นแหล่งเรียนรู้อาชีพ เป็นแหล่งเพราะปลูกข้าวให้นักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้ อีกทั้งยังทรงอนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดานำปลานิลที่อยู่ในบ่อของพระองค์ไปเพาะพันธุ์หรือบริโภคได้ นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่กองทุนรักษาสัตว์ป่วยอนาถา รพ.สัตว์เกษตร และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนที่พระองค์ทรงทำเพื่อประเทศไทย เพื่อประชาชนของพระองค์ จากที่ได้ซึมซับ... จากที่ได้เรียนรู้ ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสร้องบทเพลงเหล่านี้ ความตื้นตันปิติยินดี สามัญสำนักในความเหนื่อยยากที่พระองค์ทรงแบกรับ มันมากมายจุกแน่นอกจนแทบจะร้องไห้ทุกครั้ง
หากมาวันนี้... วันที่พระองค์ท่านทรงพักผ่อนอย่างสงบ บทเพลงเหล่านี้คงกลายเป็นเพียงตำนานที่ไม่ได้นำหยิบขึ้นมาขับร้องอีก และก็คงเช่นเดียวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่คงต้องเปลี่ยนไป เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเข้ามา แต่... มันยากจะทำใจเหลือเกิน ยากจะทำใจที่จะไม่มีโอกาสได้เห็น พระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ตามที่ต่างๆ บนโทรทัศน์ช่วงข่าวพระราชสำนัก ไม่มีโอกาสได้เห็นธงสัญลักษณ์สีเหลืองโบกปลิ้วพลิ้วไสว ประชาชาชนร่วมใจกันจุดเทียนชัยขับขานบทเพลงสรรเสริญพระบารมีกับสดุดีมหาราชาในวันที่ 5 ธันวา ของทุกปี ไม่มีคำอวยพรปีใหม่ที่กำลังจะมาจากพระองค์ท่านอีกแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ได้หล่อหลอมให้กลายเป็นวิถีชีวิตที่เราคุ้นเคยมาหลายทศวรรษ ถึงรู้ทั้งรู้ว่าวันนี้คงมาถึงในสักวันแต่พอเอาเข้าจริงก็ทำใจยากยิ่งนัก และแม้จะยังทำใจไม่ได้แต่ในเมื่อลมหายใจยังไม่หมดก็คงต้องก้าวเดินต่อไป... ในแบบที่พระองค์ท่านนำทางไว้
องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาราชาข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี ( อยากจะมีโอกาสได้ร้องอีกสักครั้ง อยากตะโกนดังๆ ไปให้ถึงพระองค์ที่ทรงประทับอยู่บนฟ้า )