ฉันกับเขารู้จักกันผ่านเว็บหนึ่ง
เราอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่คนละอำเภอ
เราอายุเท่ากัน
เราพูดคุยทางไลน์ทุกวัน
วันหนึ่งฉันไปทำงานต่างจังหวัด แวะซื้อทุเรียนขึ้นชื่อของจังหวัดหนึ่ง
เขาบอกไม่เคยทานทุเรียนจังหวัดนี้ เคยได้ยินว่าอร่อยมาก เขาอยากลองชิม
ตอนเย็นเขาไลน์มา "พรุ่งนี้จะไปหานะ พอดีไปร่วมงานแต่งตอนเย็น จะแวะซื้อของเข้าร้านด้วย" (สองเดือนถึงได้เจอกัน) ทางบ้านเขาขายของ
เขานั่งรถมาลงที่ บขส. (ช่วงบ่าย) ฉันขับรถยนต์ไปรับ
แว๊บแรกที่เห็นเขา ตัวจริงดูดีกว่าในรูปอีก ตัวสูง ขาว ตาตี๋
เขาขึ้นรถ นั่งนิ่งเงียบ ฉันก็ชวนคุยบอกเขา "ถุงทุเรียนอยู่นั้นนะ เห็นว่าอยากชิมเลยแบ่งไว้ให้ แช่ช่องฟรีซไว้ ไม่รู้จะเละไหมนะ"
เขาบอก "เขินอยู่ ขอเงียบก่อนแปปนึงนะ"
ฉันพาเขาไปซื้อของเข้าร้าน
เขาชวนไปเดินเล่นงานกาชาด
เราก็เดินเล่น ฉันแวะร้านน้ำ ฉันบอกเขาจะจ่ายเอง เขาก็ไม่ยอม
เดินผ่านร้านลูกชิ้น เขาถาม "หิวไหม" ฉันบอก "ไม่" เขาบอก "จะซื้อให้ไว้ทานที่บ้านก็ได้ ลูกชิ้นปลามีประโยชน์"
ฉันเลยยื่นคำขาด "งั้นหาทางกลับเองแล้วกัน" เขาเลยยอม
เขาบอก "พาแวะฝากของไว้บ้านญาติหน่อยนะ ทางผ่านพอดี"
แล้วไปส่งเขาที่งานแต่งโรงแรมหนึ่ง (โรงแรมเชื่อมต่อกับห้างฯ)
เขาชวนไปเดินเล่นที่ห้างฯ เพราะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
เราก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย เขาชวนไปนั่งคุยที่ศูนย์อาหาร เขาบอก "ได้ยินมาว่า ลูกชิ้นปลาที่นี้อร่อย"
เขาเดินไปแลกบัตร แล้วถามฉัน "รู้ไหม ร้านลูกชิ้นอยู่ตรงไหน" เรามองเห็นแล้ว แต่บอกเขาไม่รู้ (ฉันรู้ทันว่าเขาจะซื้อให้)
เขาเดินวนไปวนมา จนเขามองเห็นเอง ฉันก็หัวเราะเขา เขาบอก "ฉันชอบแกล้งเขา"
เรานั่งคุยรอเวลาเขาเข้างาน ระหว่างคุยกัน เขานั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตลอดเลย เขาบอกให้ฉันดูโทรศัพท์
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาไลน์มา "ทานลูกชิ้นสิ ซื้อมาให้ทานนะ"
ฉันบอก "ยังไม่หิว นายทานดิ" เขาบอก "ไม่"
ฉันบอกเขา "ไปเข้างานสิ เข้างานได้แล้วนะ"
เขาบอก "รอเข้างานพร้อมน้อง น้องยังมาไม่ถึง"
ฉันพาเขาขึ้นบันไดเลื่อนไปรอแถวๆ งาน
เขาก็โทรถามน้องว่าถึงไหนแล้ว
ฉันถามเขา "ถุงทุเรียนได้หยิบมาด้วยไหม"
เขาบอก "ไม่ พอดีแหละจะได้เดินไปส่งด้วย"
ถึงรถ เขาจะหยิบถุงทุเรียน แล้วเดินไปเอง
ฉันเลยบอกเขา "ขึ้นรถสิ จะไปส่งหน้าโรงแรม ขับผ่านตรงนั้นอยู่แล้ว" เขาเลยขึ้นรถ
พอถึงบ้าน ฉันเก็บของเบาะนั่งด้านหลัง
เห็นกล่องสีดำ เลยเปิดออกดู
...นาฬิกาข้อมือผู้ชาย
ฉันถามเขาเรื่องนาฬิกาข้อมือ เขาบอก "ไว้ให้ใส่ จำได้ไหมที่ถามว่าชอบใส่นาฬิกาไหม เขาไม่ชอบใส่ เลยให้ไว้ เวลาจะได้ตรงกัน"
ฉันบอก "เดี๋ยวคืนให้ ทำไมต้องให้ ให้โอกาสอะไร"
เขาบอก "อยากให้เฉยๆ เก็บไว้นั่นแหละ"
ฉันทานลูกชิ้นไปอมยิ้มไป นึกถึงตอนไปเดินงานกาชาด เขาบอกให้ฉันเดินด้านใน เดี๋ยวรถชน
แล้วเราก็พูดคุยไลน์เรื่อยมา เขาบอกฉันเสมอ "มีความรู้สึกดีๆ นะ"
...เขาไลน์มา "อยากไปงานแห่เทียนกับฉัน พรุ่งนี้ไปหานะตอนสายๆ ไปทำบุญ ถวายสังฆทานด้วย"
《ครั้งที่สองที่เจอกัน》
เขานั่งรถมาลง บขส. ฉันขับรถยนต์ไปรับ
เราแวะทานข้าวเที่ยง (ก๋วยเตี๋ยว) เสร็จแล้วไปทำบุญ ถวายสังฆทานต่อ
จะพาเขาไปดูงานแห่เทียน แต่ไม่มีที่จอดรถใกล้ๆ แดดร้อนมาก เราเลยตัดสินใจไม่ไปล่ะ
เขาบอก "พาไปซื้อของเข้าร้านแถวๆ นั้นหน่อยนะ"
พาเขาแวะซื้อของเสร็จ จะไปส่งเขาขึ้นรถ
เขาถาม "หิวไหม เขาหิวน้ำ"
เลยแวะร้านข้างทาง ขายทั้งน้ำ ขนมปัง อาหาร
ฉันสั่งน้ำ ขนมปัง & เขาสั่งน้ำ ข้าว
ฉันบอกเขา "หิวข้าวทำไมไม่บอก จะได้พาแวะทานข้าว" เขาก็ยิ้มตอบ
กำลังจะไปขับรถไปส่ง เขาบอกอยากร้องเพลง
เราพาเขาไปร้องเพลงคาราโอเกะที่ห้างฯ หนึ่ง
(เขาเป็นคนร้องเพลง เราเป็นคนฟัง) คิดในใจ ...ร้องเพลงเพราะอ่ะ... เขาบอกให้ฉันร้องเพลง ฉันปฏิเสธ (เขาชอบร้องเพลงมากๆ อยู่บ้านเขาก็ร้องเพลงทางโทรศัพท์ผ่านโปรแกรม)
ก่อนแยกย้าย ฉันจะแชร์ค่าข้าว แต่เขาไม่ยอม เขาบอก "จริงๆ แล้ว เขาจะต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน ที่ฉันพาเขาซื้อของเข้าร้านนะ"
ฉันเลยบอก "งั้นหายกันนะ นายเลี้ยงข้าว ฉันพาไปซื้อของ"
...เขาไลน์มา "พรุ่งนี้ไปหานะ จะให้พาไปทำบุญวันเกิดที่วัดหนึ่ง"
《ครั้งที่สามที่เจอกัน》
เขานั่งรถมาลง บขส.
ฉันทำธุระยังไม่เสร็จ เลยบอกให้เขารอที่บิ๊กซี ทานข้าวรอที่นั้น ..ฉันขับรถยนต์ไปรับ
ทำบุญ ถวายสังฆทานเสร็จ
เขาบอก "พาแวะซื้อของเขาร้านหน่อยนะ"
แล้วไปส่งเขาขึ้นรถ
เขาไลน์ถามเรื่อยๆ ว่าว่างไหม อยากไปหาจัง ไปดูหนังกัน
เขาบอกตอนนั้นก็เบี้ยวเขาแล้วรอบหนึ่ง
..พอดีเขาได้บัตรดูหนังฟรี จะชวนไปดูหนัง ตอนเย็นพ่อกับพี่สาวเขาจะมารับ (พ่อกับพี่สาวเขามาซื้อของเข้าร้าน)
แต่ฉันไม่อยากดูหนังด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่เจอกัน แล้วไปดูหนัง รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้
เลยโกหกเขาว่าไปทำธุระกับแม่ต่างอำเภอ..
..เขาเริ่มส่งสัญญาณมาเรื่อยๆ ว่าเขารู้สึกดีกับฉัน ส่งคลิปเสียงร้องเพลงคาราโอเกะมาให้เรื่อยๆ แต่ละเพลงก็มีความหมายดีๆ..
..วันเกิดฉัน เขาอยากมาหา จะพาไปเลี้ยงข้าว
แต่วันว่างฉันกับเขาก็ไม่ตรงกันสักที..
..เขาชอบถาม บ้านอยู่แถวไหน เวลามาซื้อของกับพ่อ จะนั่งรถไปหาที่บ้าน
ฉันคิดว่า การที่จะให้ผู้ชายเข้าบ้านสักคน ต้องเป็นคนที่ฉันคิดว่า ดีแล้วจริงๆ เป็นแฟนกันแล้วถึงจะพาเข้าบ้าน
เขาพยายามขอชื่อเฟส เบอร์โทรฉัน
แต่ฉันยังไม่พร้อมบอกจริงๆ อยากให้สนิทใจกันมากกว่านี้ก่อน ให้รู้สึกว่า คนๆ นี้แหละที่จะคบเป็นแฟน
แต่บังเอิญจริงๆ ชื่อไลน์เขา กับชื่อเฟสเขา ใช้ชื่อเดียวกัน
ฉันชอบไปส่องเฟสเขาบ่อยๆ
แต่ประทับใจเขาตรงที่เขาไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มของมึนเมา ไม่เล่นการพนัน หวย&ล็อตเตอรี่ก็ไม่ซื้อ เป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อกับพี่สาว (แม่เขาเสียชีวิต)
เขาจะเป็นคนเปิดร้านทุกๆ วัน ตื่นแต่เช้าตรู่ อยู่ติดบ้านขายของ ไม่ได้ออกไปไหนกับเพื่อนๆ..
...เขาไลน์มา "พรุ่งนี้ไปหานะ พอดีพี่ที่ร.พ.นัดไปทำบุญที่ห้างฯ หนึ่ง"
《ครั้งที่สี่ที่เจอกัน》ครั้งนี้รู้สึกไม่โอเคกับเขาล่ะ (มะวานนี้เอง)
เขานั่งรถมาลง บขส. ฉันขับรถยนต์ไปรับเวลา 11.30 น.
พาเขาไปทำบุญที่ห้างฯ หนึ่ง แล้วไปทานข้าวที่ศูนย์อาหาร ฉันรีบเดินไปแลกบัตร บอกเขาจะจ่ายเอง (ต่างคนต่างแลกบัตรเอง)
ฉันจะไปซื้อน้ำ ถามเขา "จะดื่มน้ำอะไร เดี๋ยวจะไปซื้อน้ำ"
เขาบอก "ไม่ต้อง จะไปซื้อเอง นั่งเฝ้าของอยู่นี้แหละ"
เวลาทานข้าว เขาชอบมองหน้าฉัน
ฉันบอกเขา "ไม่ต้องมองหน้า ไม่งั้นเปลี่ยนโต๊ะอื่น ที่หันหน้าเข้าหาโทรทัศน์" เขาเลยพยายามไม่มอง
รู้สึกไม่ชอบให้ใครมาจ้องหน้านานๆ ทำตัวไม่ถูก
..แกล้งถามเขา "จะไปซื้อของเข้าร้านไหม"
เขาบอก "ไป"
ก็ขับรถพาเขาซื้อของเข้าร้าน
ไปร้านที่หนึ่งสาขาแรก ช่วงพักเที่ยงพนักงานไปทานข้าวให้มาใหม่ แต่เขาก็จดรายการให้ทางร้านเรียบร้อย เพราะต้องแพ็คของด้วย
ก็ขับรถไปร่วมลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
แล้วไปร้านที่หนึ่งอีกรอบ รอนานมากๆ จนหงุดหงิด เลยคิดว่า เห็นฉันเป็นอะไร ทำไมต้องให้พาไปซื้อของเข้าร้านที่เจอกันตลอดเลย ความเกรงใจอ่ะมีไหม
ครั้งนี้นานมากๆ กว่าทุกครั้ง ปรากฏว่า ซื้อเต็มเบาะนั่งด้านหลังเลย
เขาบอก "สาขานี้ของไม่ครบ ให้พาไปสาขาที่สอง" (ดีนะสาขาที่สองทางผ่านไปส่งเขาขึ้นรถ)
เขาคงสังเกตสีหน้า น้ำเสียงว่าเราไม่ปกติ
เขาพยายามถามว่าเป็นอะไร
ยิ่งเขาถาม ฉันยิ่งหงุดหงิด
พอถึงร้านที่สอง เขาบอก "เดี๋ยวจะขนของลง เรียกแท็กซี่กลับเอง"
ฉันบอก "ไม่ต้อง เดี๋ยวไปส่งขึ้นรถที่ บขส."
เขาบอก "ดับเครื่องรอก่อนได้นะ จะนานหน่อย"
ฉันคิดในใจ ยังมีหน้ามาบอกให้ดับเครื่องรออีก เพราะรอนาน อากาศร้อนก็ร้อนนี้นะ ใครจะดับเครื่อง ปรากฏว่า น้ำมันหายไปขีดหนึ่งเลยทีเดียว
ร้านที่สองก็นานมากๆ ยิ่งทำให้หงุดหงิดมากกว่าเดิม
เริ่มรู้สึกไม่โอเคกับเขาล่ะ นี้เห็นฉันเป็นอะไร ต้องพาแวะซื้อของเข้าร้าน ทุกครั้งที่เจอกัน
ยิ่งวันนี้ ..อะไรอ่ะ มันใช่เหรอ เกิดคำถามกับตัวเองว่า ฉันควรสานสัมพันธ์กับเขาต่อดีไหม..
ส่งเขาขึ้นรถที่ บขส. เวลา 15.00 น.
(หงุดหงิดรอเขาซื้อของเข้าร้านตั้งแต่ 12.50-14.50 น.)
ตอนแรกก็รู้สึกโอเคกับเขา
เพราะเรามีอะไรที่คล้ายๆ กัน
- ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน
- ไม่สูบบุหรี่
- ไม่ดื่มของมึนเมา
- ไม่เล่นการพนัน
- เลี้ยงสุนัข
- เชื่อฟังคนในครอบครัว
- รักครอบครัว
- ขยัน อดทน
- ชอบทำบุญ
- มีเหตุผล
ฉันเลยแอบคิดว่า เราน่าจะไปด้วยกันได้ น่าจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟน (ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน)
ในเว็บหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักกัน
จำได้ว่า เขาเขียนไว้ "อยากมีใครสักคนที่เข้ามาช่วยกิจการร้านขายของให้เจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน"
แต่ฉันอยากสอบติดงานราชการ ฉันชอบพูดกับเขาตลอดว่า ถ้าสอบติดงานราชการได้ทำงานจังหวัดไหนก็จะทำ
เขาก็จะชอบพูดตลอดว่า "อยู่ที่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนไกลๆ"
เวลาฉันจะสอบอะไรก็ตาม เขาจะอวยพรว่า "ขอให้ได้สอบนะ สู้ๆ" ดูสิคำอวยพรเขา
..เขาชอบพูดว่า "อยากไปหาที่บ้าน ไปไหว้แม่ฉัน ไปเล่นกับน้องหมาที่บ้าน ชื่อเฟสอะไรจะได้แอดไปหา เบอร์โทรอะไร เผื่อสัญญาณเน็ตไม่มี จะได้โทรหาติด" ฉันก็มีแต่บอกว่า "ไม่"
..มะวานตอนเย็นเขาก็ไลน์มา ฉันไม่อ่านไม่ตอบ วันนี้ก็ไลน์มา ฉันก็ไม่อ่านไม่ตอบ เขาถาม "เงียบจัง เป็นอะไรหรือเปล่า"
#สรุปแล้วฉันควรจะทำอย่างไรดี ควรจะสานสัมพันธ์ต่อดีไหม?
ควรสานสัมพันธ์ต่อดีไหม?
เราอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่คนละอำเภอ
เราอายุเท่ากัน
เราพูดคุยทางไลน์ทุกวัน
วันหนึ่งฉันไปทำงานต่างจังหวัด แวะซื้อทุเรียนขึ้นชื่อของจังหวัดหนึ่ง
เขาบอกไม่เคยทานทุเรียนจังหวัดนี้ เคยได้ยินว่าอร่อยมาก เขาอยากลองชิม
ตอนเย็นเขาไลน์มา "พรุ่งนี้จะไปหานะ พอดีไปร่วมงานแต่งตอนเย็น จะแวะซื้อของเข้าร้านด้วย" (สองเดือนถึงได้เจอกัน) ทางบ้านเขาขายของ
เขานั่งรถมาลงที่ บขส. (ช่วงบ่าย) ฉันขับรถยนต์ไปรับ
แว๊บแรกที่เห็นเขา ตัวจริงดูดีกว่าในรูปอีก ตัวสูง ขาว ตาตี๋
เขาขึ้นรถ นั่งนิ่งเงียบ ฉันก็ชวนคุยบอกเขา "ถุงทุเรียนอยู่นั้นนะ เห็นว่าอยากชิมเลยแบ่งไว้ให้ แช่ช่องฟรีซไว้ ไม่รู้จะเละไหมนะ"
เขาบอก "เขินอยู่ ขอเงียบก่อนแปปนึงนะ"
ฉันพาเขาไปซื้อของเข้าร้าน
เขาชวนไปเดินเล่นงานกาชาด
เราก็เดินเล่น ฉันแวะร้านน้ำ ฉันบอกเขาจะจ่ายเอง เขาก็ไม่ยอม
เดินผ่านร้านลูกชิ้น เขาถาม "หิวไหม" ฉันบอก "ไม่" เขาบอก "จะซื้อให้ไว้ทานที่บ้านก็ได้ ลูกชิ้นปลามีประโยชน์"
ฉันเลยยื่นคำขาด "งั้นหาทางกลับเองแล้วกัน" เขาเลยยอม
เขาบอก "พาแวะฝากของไว้บ้านญาติหน่อยนะ ทางผ่านพอดี"
แล้วไปส่งเขาที่งานแต่งโรงแรมหนึ่ง (โรงแรมเชื่อมต่อกับห้างฯ)
เขาชวนไปเดินเล่นที่ห้างฯ เพราะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
เราก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย เขาชวนไปนั่งคุยที่ศูนย์อาหาร เขาบอก "ได้ยินมาว่า ลูกชิ้นปลาที่นี้อร่อย"
เขาเดินไปแลกบัตร แล้วถามฉัน "รู้ไหม ร้านลูกชิ้นอยู่ตรงไหน" เรามองเห็นแล้ว แต่บอกเขาไม่รู้ (ฉันรู้ทันว่าเขาจะซื้อให้)
เขาเดินวนไปวนมา จนเขามองเห็นเอง ฉันก็หัวเราะเขา เขาบอก "ฉันชอบแกล้งเขา"
เรานั่งคุยรอเวลาเขาเข้างาน ระหว่างคุยกัน เขานั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตลอดเลย เขาบอกให้ฉันดูโทรศัพท์
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาไลน์มา "ทานลูกชิ้นสิ ซื้อมาให้ทานนะ"
ฉันบอก "ยังไม่หิว นายทานดิ" เขาบอก "ไม่"
ฉันบอกเขา "ไปเข้างานสิ เข้างานได้แล้วนะ"
เขาบอก "รอเข้างานพร้อมน้อง น้องยังมาไม่ถึง"
ฉันพาเขาขึ้นบันไดเลื่อนไปรอแถวๆ งาน
เขาก็โทรถามน้องว่าถึงไหนแล้ว
ฉันถามเขา "ถุงทุเรียนได้หยิบมาด้วยไหม"
เขาบอก "ไม่ พอดีแหละจะได้เดินไปส่งด้วย"
ถึงรถ เขาจะหยิบถุงทุเรียน แล้วเดินไปเอง
ฉันเลยบอกเขา "ขึ้นรถสิ จะไปส่งหน้าโรงแรม ขับผ่านตรงนั้นอยู่แล้ว" เขาเลยขึ้นรถ
พอถึงบ้าน ฉันเก็บของเบาะนั่งด้านหลัง
เห็นกล่องสีดำ เลยเปิดออกดู
...นาฬิกาข้อมือผู้ชาย
ฉันถามเขาเรื่องนาฬิกาข้อมือ เขาบอก "ไว้ให้ใส่ จำได้ไหมที่ถามว่าชอบใส่นาฬิกาไหม เขาไม่ชอบใส่ เลยให้ไว้ เวลาจะได้ตรงกัน"
ฉันบอก "เดี๋ยวคืนให้ ทำไมต้องให้ ให้โอกาสอะไร"
เขาบอก "อยากให้เฉยๆ เก็บไว้นั่นแหละ"
ฉันทานลูกชิ้นไปอมยิ้มไป นึกถึงตอนไปเดินงานกาชาด เขาบอกให้ฉันเดินด้านใน เดี๋ยวรถชน
แล้วเราก็พูดคุยไลน์เรื่อยมา เขาบอกฉันเสมอ "มีความรู้สึกดีๆ นะ"
...เขาไลน์มา "อยากไปงานแห่เทียนกับฉัน พรุ่งนี้ไปหานะตอนสายๆ ไปทำบุญ ถวายสังฆทานด้วย"
《ครั้งที่สองที่เจอกัน》
เขานั่งรถมาลง บขส. ฉันขับรถยนต์ไปรับ
เราแวะทานข้าวเที่ยง (ก๋วยเตี๋ยว) เสร็จแล้วไปทำบุญ ถวายสังฆทานต่อ
จะพาเขาไปดูงานแห่เทียน แต่ไม่มีที่จอดรถใกล้ๆ แดดร้อนมาก เราเลยตัดสินใจไม่ไปล่ะ
เขาบอก "พาไปซื้อของเข้าร้านแถวๆ นั้นหน่อยนะ"
พาเขาแวะซื้อของเสร็จ จะไปส่งเขาขึ้นรถ
เขาถาม "หิวไหม เขาหิวน้ำ"
เลยแวะร้านข้างทาง ขายทั้งน้ำ ขนมปัง อาหาร
ฉันสั่งน้ำ ขนมปัง & เขาสั่งน้ำ ข้าว
ฉันบอกเขา "หิวข้าวทำไมไม่บอก จะได้พาแวะทานข้าว" เขาก็ยิ้มตอบ
กำลังจะไปขับรถไปส่ง เขาบอกอยากร้องเพลง
เราพาเขาไปร้องเพลงคาราโอเกะที่ห้างฯ หนึ่ง
(เขาเป็นคนร้องเพลง เราเป็นคนฟัง) คิดในใจ ...ร้องเพลงเพราะอ่ะ... เขาบอกให้ฉันร้องเพลง ฉันปฏิเสธ (เขาชอบร้องเพลงมากๆ อยู่บ้านเขาก็ร้องเพลงทางโทรศัพท์ผ่านโปรแกรม)
ก่อนแยกย้าย ฉันจะแชร์ค่าข้าว แต่เขาไม่ยอม เขาบอก "จริงๆ แล้ว เขาจะต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน ที่ฉันพาเขาซื้อของเข้าร้านนะ"
ฉันเลยบอก "งั้นหายกันนะ นายเลี้ยงข้าว ฉันพาไปซื้อของ"
...เขาไลน์มา "พรุ่งนี้ไปหานะ จะให้พาไปทำบุญวันเกิดที่วัดหนึ่ง"
《ครั้งที่สามที่เจอกัน》
เขานั่งรถมาลง บขส.
ฉันทำธุระยังไม่เสร็จ เลยบอกให้เขารอที่บิ๊กซี ทานข้าวรอที่นั้น ..ฉันขับรถยนต์ไปรับ
ทำบุญ ถวายสังฆทานเสร็จ
เขาบอก "พาแวะซื้อของเขาร้านหน่อยนะ"
แล้วไปส่งเขาขึ้นรถ
เขาไลน์ถามเรื่อยๆ ว่าว่างไหม อยากไปหาจัง ไปดูหนังกัน
เขาบอกตอนนั้นก็เบี้ยวเขาแล้วรอบหนึ่ง
..พอดีเขาได้บัตรดูหนังฟรี จะชวนไปดูหนัง ตอนเย็นพ่อกับพี่สาวเขาจะมารับ (พ่อกับพี่สาวเขามาซื้อของเข้าร้าน)
แต่ฉันไม่อยากดูหนังด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่เจอกัน แล้วไปดูหนัง รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้
เลยโกหกเขาว่าไปทำธุระกับแม่ต่างอำเภอ..
..เขาเริ่มส่งสัญญาณมาเรื่อยๆ ว่าเขารู้สึกดีกับฉัน ส่งคลิปเสียงร้องเพลงคาราโอเกะมาให้เรื่อยๆ แต่ละเพลงก็มีความหมายดีๆ..
..วันเกิดฉัน เขาอยากมาหา จะพาไปเลี้ยงข้าว
แต่วันว่างฉันกับเขาก็ไม่ตรงกันสักที..
..เขาชอบถาม บ้านอยู่แถวไหน เวลามาซื้อของกับพ่อ จะนั่งรถไปหาที่บ้าน
ฉันคิดว่า การที่จะให้ผู้ชายเข้าบ้านสักคน ต้องเป็นคนที่ฉันคิดว่า ดีแล้วจริงๆ เป็นแฟนกันแล้วถึงจะพาเข้าบ้าน
เขาพยายามขอชื่อเฟส เบอร์โทรฉัน
แต่ฉันยังไม่พร้อมบอกจริงๆ อยากให้สนิทใจกันมากกว่านี้ก่อน ให้รู้สึกว่า คนๆ นี้แหละที่จะคบเป็นแฟน
แต่บังเอิญจริงๆ ชื่อไลน์เขา กับชื่อเฟสเขา ใช้ชื่อเดียวกัน
ฉันชอบไปส่องเฟสเขาบ่อยๆ
แต่ประทับใจเขาตรงที่เขาไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มของมึนเมา ไม่เล่นการพนัน หวย&ล็อตเตอรี่ก็ไม่ซื้อ เป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อกับพี่สาว (แม่เขาเสียชีวิต)
เขาจะเป็นคนเปิดร้านทุกๆ วัน ตื่นแต่เช้าตรู่ อยู่ติดบ้านขายของ ไม่ได้ออกไปไหนกับเพื่อนๆ..
...เขาไลน์มา "พรุ่งนี้ไปหานะ พอดีพี่ที่ร.พ.นัดไปทำบุญที่ห้างฯ หนึ่ง"
《ครั้งที่สี่ที่เจอกัน》ครั้งนี้รู้สึกไม่โอเคกับเขาล่ะ (มะวานนี้เอง)
เขานั่งรถมาลง บขส. ฉันขับรถยนต์ไปรับเวลา 11.30 น.
พาเขาไปทำบุญที่ห้างฯ หนึ่ง แล้วไปทานข้าวที่ศูนย์อาหาร ฉันรีบเดินไปแลกบัตร บอกเขาจะจ่ายเอง (ต่างคนต่างแลกบัตรเอง)
ฉันจะไปซื้อน้ำ ถามเขา "จะดื่มน้ำอะไร เดี๋ยวจะไปซื้อน้ำ"
เขาบอก "ไม่ต้อง จะไปซื้อเอง นั่งเฝ้าของอยู่นี้แหละ"
เวลาทานข้าว เขาชอบมองหน้าฉัน
ฉันบอกเขา "ไม่ต้องมองหน้า ไม่งั้นเปลี่ยนโต๊ะอื่น ที่หันหน้าเข้าหาโทรทัศน์" เขาเลยพยายามไม่มอง
รู้สึกไม่ชอบให้ใครมาจ้องหน้านานๆ ทำตัวไม่ถูก
..แกล้งถามเขา "จะไปซื้อของเข้าร้านไหม"
เขาบอก "ไป"
ก็ขับรถพาเขาซื้อของเข้าร้าน
ไปร้านที่หนึ่งสาขาแรก ช่วงพักเที่ยงพนักงานไปทานข้าวให้มาใหม่ แต่เขาก็จดรายการให้ทางร้านเรียบร้อย เพราะต้องแพ็คของด้วย
ก็ขับรถไปร่วมลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
แล้วไปร้านที่หนึ่งอีกรอบ รอนานมากๆ จนหงุดหงิด เลยคิดว่า เห็นฉันเป็นอะไร ทำไมต้องให้พาไปซื้อของเข้าร้านที่เจอกันตลอดเลย ความเกรงใจอ่ะมีไหม
ครั้งนี้นานมากๆ กว่าทุกครั้ง ปรากฏว่า ซื้อเต็มเบาะนั่งด้านหลังเลย
เขาบอก "สาขานี้ของไม่ครบ ให้พาไปสาขาที่สอง" (ดีนะสาขาที่สองทางผ่านไปส่งเขาขึ้นรถ)
เขาคงสังเกตสีหน้า น้ำเสียงว่าเราไม่ปกติ
เขาพยายามถามว่าเป็นอะไร
ยิ่งเขาถาม ฉันยิ่งหงุดหงิด
พอถึงร้านที่สอง เขาบอก "เดี๋ยวจะขนของลง เรียกแท็กซี่กลับเอง"
ฉันบอก "ไม่ต้อง เดี๋ยวไปส่งขึ้นรถที่ บขส."
เขาบอก "ดับเครื่องรอก่อนได้นะ จะนานหน่อย"
ฉันคิดในใจ ยังมีหน้ามาบอกให้ดับเครื่องรออีก เพราะรอนาน อากาศร้อนก็ร้อนนี้นะ ใครจะดับเครื่อง ปรากฏว่า น้ำมันหายไปขีดหนึ่งเลยทีเดียว
ร้านที่สองก็นานมากๆ ยิ่งทำให้หงุดหงิดมากกว่าเดิม
เริ่มรู้สึกไม่โอเคกับเขาล่ะ นี้เห็นฉันเป็นอะไร ต้องพาแวะซื้อของเข้าร้าน ทุกครั้งที่เจอกัน
ยิ่งวันนี้ ..อะไรอ่ะ มันใช่เหรอ เกิดคำถามกับตัวเองว่า ฉันควรสานสัมพันธ์กับเขาต่อดีไหม..
ส่งเขาขึ้นรถที่ บขส. เวลา 15.00 น.
(หงุดหงิดรอเขาซื้อของเข้าร้านตั้งแต่ 12.50-14.50 น.)
ตอนแรกก็รู้สึกโอเคกับเขา
เพราะเรามีอะไรที่คล้ายๆ กัน
- ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน
- ไม่สูบบุหรี่
- ไม่ดื่มของมึนเมา
- ไม่เล่นการพนัน
- เลี้ยงสุนัข
- เชื่อฟังคนในครอบครัว
- รักครอบครัว
- ขยัน อดทน
- ชอบทำบุญ
- มีเหตุผล
ฉันเลยแอบคิดว่า เราน่าจะไปด้วยกันได้ น่าจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟน (ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน)
ในเว็บหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักกัน
จำได้ว่า เขาเขียนไว้ "อยากมีใครสักคนที่เข้ามาช่วยกิจการร้านขายของให้เจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน"
แต่ฉันอยากสอบติดงานราชการ ฉันชอบพูดกับเขาตลอดว่า ถ้าสอบติดงานราชการได้ทำงานจังหวัดไหนก็จะทำ
เขาก็จะชอบพูดตลอดว่า "อยู่ที่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนไกลๆ"
เวลาฉันจะสอบอะไรก็ตาม เขาจะอวยพรว่า "ขอให้ได้สอบนะ สู้ๆ" ดูสิคำอวยพรเขา
..เขาชอบพูดว่า "อยากไปหาที่บ้าน ไปไหว้แม่ฉัน ไปเล่นกับน้องหมาที่บ้าน ชื่อเฟสอะไรจะได้แอดไปหา เบอร์โทรอะไร เผื่อสัญญาณเน็ตไม่มี จะได้โทรหาติด" ฉันก็มีแต่บอกว่า "ไม่"
..มะวานตอนเย็นเขาก็ไลน์มา ฉันไม่อ่านไม่ตอบ วันนี้ก็ไลน์มา ฉันก็ไม่อ่านไม่ตอบ เขาถาม "เงียบจัง เป็นอะไรหรือเปล่า"
#สรุปแล้วฉันควรจะทำอย่างไรดี ควรจะสานสัมพันธ์ต่อดีไหม?