การจัดการแข่งขันอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ย่อมมีปัญหามากมายตามมา ยกตัวอย่างเช่นการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก
โอลิมปิก 2016 ที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล อาจถูกมองว่าเป็นการแข่งขันโอลิมปิกที่ “แย่ที่สุด” ครั้งหนึ่ง เพราะปัญหาเรื่องความสกปรก มลภาวะ ขยะ เชื้อโรค เชื้อไวรัส และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่จริงๆ แล้วการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้อาจจะไม่ได้แย่อะไรนัก แม้จะต้องยอมรับว่ามีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นจริง แต่เมื่อเทียบกับโอลิมปิก 5 ครั้งต่อไปนี้แล้ว โอลิมปิก 2016 นี้อาจอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม”
อันดับที่ 5 แอตแลนตา 1996
เรื่องราวต่างๆ อาจเลวร้ายกว่านี้ ถ้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย Richard Jewell ไม่ทันได้สังเกตเห็นกระเป๋าสีเขียวที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้ใน Olympic Park ตอนเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม
ในตอนแรกเขาไม่ทราบว่ากระเป๋าใบนี้บรรจุระเบิดหนัก 40 ปอนด์เอาไว้ แต่ก็ทำตามหน้าที่อย่างแข็งขันด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่ Georgia Bureau of Investigation มาตรวจสอบ อย่างไรก็ตามประชาชน 1 รายเสียชีวิต คือ Alice Hawthorne วัย 44 ปี มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน และช่างภาพชาวตุรกีเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุระเบิด โอลิมปิกแอตแลนตาเองก็วุ่นวายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการจราจร การต่อแถว ปัญหาคนหาย และอดีตแชมป์ยูโดหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์หลังจากมาถึงสนามช้ากว่ากำหนดเพราะติดหนึบอยู่ในกลุ่มคน
อันดับที่ 4 เอเธนส์ 2004
แม้ว่าในขณะนั้นประเทศกรีซจะมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แต่รัฐบาลยังยืนกรานที่จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ความเป็นเจ้าภาพนำมาซึ่งภาระอันหนักอึ้ง
กรีซต้องสร้างสนามการแข่งขันที่ได้มาตรฐานและต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทางการใช้จ่ายเงินเกินรายได้เฉลี่ยของประชาชนคนละ 2 ล้านบาท ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนำไปสู่วิกฤติหนี้สาธารณะกรีซและทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงหลายครั้ง
หลังจากทุ่มทุนไปจนหมดตัวและเข้าสู่สภาวะล้มละลาย ปัจจุบัน Olympic Park กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังรกร้างที่สกปรก เก่าแก่ และไม่มีผู้ใดสนใจ
อันดับที่ 3 มอสโก 1980
หกเดือนก่อนจะถึงการแข่งขัน สหภาพโซเวียตได้รุกรานอัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ได้ประกาศเป็นศัตรูกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ประกาศคว่ำบาตรโอลิมปิกมอสโก ทำเนียบขาวเชิญชวนให้ประเทศอื่นๆ อีก 64 ประเทศคว่ำบาตรการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เช่นกัน
โอลิมปิกมอสโกกลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมน้อยที่สุด ประเทศที่เป็นเจ้าเหรียญทองได้แก่สหภาพโซเวียต ตามด้วยเยอรมนีตะวันออก บัลแกเรีย และคิวบา
หลังจากนั้นเยอรมนีตะวันออกก็ถูกเปิดโปงว่ามีการบังคับให้นักกีฬาใช้สารเสพติด สเตียรอยด์ และโกรทฮอร์โมน ทุกคนที่ได้เหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนั้นถูกตราหน้าว่าชนะได้ด้วยการใช้ยา
อันดับที่ 2 เบอร์ลิน 1936
ในปี 1931 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลตัดสินใจว่าถึงเวลายื่นมือเข้าไปช่วยเยอรมนีหลังได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยการอนุญาตให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิก 1936
2 ปีต่อมา “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ก้าวขึ้นเป็นผู้นำพรรคนาซี เขาได้ใช้กีฬาโอลิมปิกครั้งนี้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อว่าชาวอารยันนั้นเหนือกว่าผู้ใด และได้กล่าวคำสบประมาทนักกีฬาจากประเทศอื่นๆ รวมทั้งไม่ยอมแสดงความยินดีกับ Cornelius Johnson นักกีฬาชาวแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกที่ได้เหรียญทอง
แต่ในที่สุด Jesse Owens นักกีฬาผิวดำชาวสหรัฐฯ ก็ได้ลบคำสบประมาทของฮิตเลอร์ด้วยการคว้าเหรียญทองไปทั้งหมด 4 เหรียญด้วยกัน
อันดับที่ 1 มิวนิก 1972
โค้ชและนักกีฬาชาวอิสราเอล 11 คนถูกจับเป็นตัวประกันและนำตัวไปสังหารระหว่างที่พวกเขากำลังนอนหลับอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬา เนื่องจากผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ต้องการเรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษหลายร้อยคนที่ถูกจับกุมอยู่
Yossef Romano นักกีฬายกน้ำหนักถูกยิงและตัดอวัยวะเพศต่อหน้าผู้คนเพราะพยายามต่อสู้ เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งโลก
นักข่าวช่อง ABC จำใจต้องรายงานต่อหน้าผู้ชมทั้งโลกว่า “พวกเขามีตัวประกันทั้งหมด 11 คน ตัวประกัน 2 รายถูกสังหารในห้องพักตอนเช้าของเมื่อวาน อีก 9 รายถูกสังหารที่สนามบินในคืนนี้”
ที่มา: TheDailyBeast
บทความจาก meekhao.com/history/5-worst-olympic-games
5 ประวัติศาสตร์การแข่งขัน “กีฬาโอลิมปิก” ที่เลวร้ายที่สุดในโลก!!
โอลิมปิก 2016 ที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล อาจถูกมองว่าเป็นการแข่งขันโอลิมปิกที่ “แย่ที่สุด” ครั้งหนึ่ง เพราะปัญหาเรื่องความสกปรก มลภาวะ ขยะ เชื้อโรค เชื้อไวรัส และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่จริงๆ แล้วการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้อาจจะไม่ได้แย่อะไรนัก แม้จะต้องยอมรับว่ามีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นจริง แต่เมื่อเทียบกับโอลิมปิก 5 ครั้งต่อไปนี้แล้ว โอลิมปิก 2016 นี้อาจอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม”
อันดับที่ 5 แอตแลนตา 1996
เรื่องราวต่างๆ อาจเลวร้ายกว่านี้ ถ้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย Richard Jewell ไม่ทันได้สังเกตเห็นกระเป๋าสีเขียวที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้ใน Olympic Park ตอนเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม
ในตอนแรกเขาไม่ทราบว่ากระเป๋าใบนี้บรรจุระเบิดหนัก 40 ปอนด์เอาไว้ แต่ก็ทำตามหน้าที่อย่างแข็งขันด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่ Georgia Bureau of Investigation มาตรวจสอบ อย่างไรก็ตามประชาชน 1 รายเสียชีวิต คือ Alice Hawthorne วัย 44 ปี มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน และช่างภาพชาวตุรกีเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุระเบิด โอลิมปิกแอตแลนตาเองก็วุ่นวายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการจราจร การต่อแถว ปัญหาคนหาย และอดีตแชมป์ยูโดหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์หลังจากมาถึงสนามช้ากว่ากำหนดเพราะติดหนึบอยู่ในกลุ่มคน
อันดับที่ 4 เอเธนส์ 2004
แม้ว่าในขณะนั้นประเทศกรีซจะมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แต่รัฐบาลยังยืนกรานที่จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ความเป็นเจ้าภาพนำมาซึ่งภาระอันหนักอึ้ง
กรีซต้องสร้างสนามการแข่งขันที่ได้มาตรฐานและต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทางการใช้จ่ายเงินเกินรายได้เฉลี่ยของประชาชนคนละ 2 ล้านบาท ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนำไปสู่วิกฤติหนี้สาธารณะกรีซและทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงหลายครั้ง
หลังจากทุ่มทุนไปจนหมดตัวและเข้าสู่สภาวะล้มละลาย ปัจจุบัน Olympic Park กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังรกร้างที่สกปรก เก่าแก่ และไม่มีผู้ใดสนใจ
อันดับที่ 3 มอสโก 1980
หกเดือนก่อนจะถึงการแข่งขัน สหภาพโซเวียตได้รุกรานอัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ได้ประกาศเป็นศัตรูกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ประกาศคว่ำบาตรโอลิมปิกมอสโก ทำเนียบขาวเชิญชวนให้ประเทศอื่นๆ อีก 64 ประเทศคว่ำบาตรการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เช่นกัน
โอลิมปิกมอสโกกลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมน้อยที่สุด ประเทศที่เป็นเจ้าเหรียญทองได้แก่สหภาพโซเวียต ตามด้วยเยอรมนีตะวันออก บัลแกเรีย และคิวบา
หลังจากนั้นเยอรมนีตะวันออกก็ถูกเปิดโปงว่ามีการบังคับให้นักกีฬาใช้สารเสพติด สเตียรอยด์ และโกรทฮอร์โมน ทุกคนที่ได้เหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนั้นถูกตราหน้าว่าชนะได้ด้วยการใช้ยา
อันดับที่ 2 เบอร์ลิน 1936
ในปี 1931 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลตัดสินใจว่าถึงเวลายื่นมือเข้าไปช่วยเยอรมนีหลังได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยการอนุญาตให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิก 1936
2 ปีต่อมา “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ก้าวขึ้นเป็นผู้นำพรรคนาซี เขาได้ใช้กีฬาโอลิมปิกครั้งนี้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อว่าชาวอารยันนั้นเหนือกว่าผู้ใด และได้กล่าวคำสบประมาทนักกีฬาจากประเทศอื่นๆ รวมทั้งไม่ยอมแสดงความยินดีกับ Cornelius Johnson นักกีฬาชาวแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกที่ได้เหรียญทอง
แต่ในที่สุด Jesse Owens นักกีฬาผิวดำชาวสหรัฐฯ ก็ได้ลบคำสบประมาทของฮิตเลอร์ด้วยการคว้าเหรียญทองไปทั้งหมด 4 เหรียญด้วยกัน
อันดับที่ 1 มิวนิก 1972
โค้ชและนักกีฬาชาวอิสราเอล 11 คนถูกจับเป็นตัวประกันและนำตัวไปสังหารระหว่างที่พวกเขากำลังนอนหลับอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬา เนื่องจากผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ต้องการเรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษหลายร้อยคนที่ถูกจับกุมอยู่
Yossef Romano นักกีฬายกน้ำหนักถูกยิงและตัดอวัยวะเพศต่อหน้าผู้คนเพราะพยายามต่อสู้ เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งโลก
นักข่าวช่อง ABC จำใจต้องรายงานต่อหน้าผู้ชมทั้งโลกว่า “พวกเขามีตัวประกันทั้งหมด 11 คน ตัวประกัน 2 รายถูกสังหารในห้องพักตอนเช้าของเมื่อวาน อีก 9 รายถูกสังหารที่สนามบินในคืนนี้”
ที่มา: TheDailyBeast
บทความจาก meekhao.com/history/5-worst-olympic-games