ไดอารี่หมอดู โดย คุณหมอพีร์ ค่ะ   

จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 51 ค่ะ


   กันยายน ๒๕๕๑   

    สวัสดีค่ะ ทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู ช่วงนี้มีแต่สถานการณ์ที่เคร่งเครียดกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่เสพข่าวสารกันมาก ๆ ส่วนสถานการณ์ที่บ้านและใจของพีร์สงบสุขดีค่ะ ปกติพีร์ไม่ค่อยชอบดูข่าว เพราะดูข่าวทีไร จิตใจเกิดโมโหทันที อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างที่คิด พอไม่เป็นอย่างที่คิด ก็หงุดหงิด เที่ยวไปว่าคนอื่นอีกว่า ทำไมคิดได้แค่นี้ ไม่ฉลาดเลย น่าจะแก้ปัญหาแบบนี้ น่าจะเป็นอย่างนั้นถึงจะถูก แบบนี้แก้มาได้ยังไง พอดูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายอยากเป็นนายกเองจริง ๆ พอเป็นเช่นนี้จึงคิดขึ้นมาได้ว่าไม่มีการเมืองในฝันอย่างที่คิด สรุปว่าหลงโมโหแถมโดนตัณหาครอบงำจนหน้ามืด วันนั้นหมดพลังหมดแรงเพราะโดนกิเลสลากทั้งวัน

    ชีวิตมนุษย์ส่วนใหญ่สนใจแต่เรื่องภายนอกว่าจะดีหรือร้าย ลืมสนใจและใส่ใจจิตใจของตัวเอง ชีวิตเลยไม่พ้นจากความทุกข์สักที การมุ่งเน้นจะแก้ไขแต่คนอื่นนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

    ทำให้นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อปราโมทย์อยู่ประโยคหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังว่า มีพระอยู่รูปหนึ่งมากราบเรียนถามธรรมะจากหลวงพ่อ และเปรย ๆ กับหลวงพ่อประมาณว่า ผมรู้สึกว่าอยู่วัดไม่เคยสงบเลย วัดหนึ่งก็วุ่นวาย คนเยอะ วัดที่สองก็วุ่นวายเหมือนเดิมทำให้ปฏิบัติธรรมไม่เคยได้ หลวงพ่อท่านก็ถามกลับไปว่า ที่วุ่นวายอะไรล่ะที่วุ่นวาย พระรูปนั้นท่านก็ตอบว่า ใจที่วุ่นวาย หลวงพ่อท่านบอกว่าสิ่งที่วุ่นวายคือใจ ไม่ใช่สถานที่หรือบุคคลภายนอก ดังนั้นในเมื่อใจมีปัญหา ต้องแก้ที่ใจ หลังจากนั้นพระรูปนั้นกลับมาบอกกับท่านว่า ท่านอยู่ได้แล้ว ทำให้เห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแก้ที่ตัวเรา ใจเรานั่นเอง

    ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาลูกค้าแต่ละคนพอดูดวงเสร็จแล้ว มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหาที่พวกเขาต้องกลับไปแก้ไข อยู่ที่ตัวเขาเองทั้งนั้นเลยเนอะ พีร์บอกว่า ใช่ค่ะ พีร์มีหน้าที่ชี้ว่า นี่จุดบกพร่องนะ นี่อย่าทำแบบนี้ซ้ำ ๆ นะ จะให้ผลในทางเลวร้ายแบบนี้ หรือทำแบบนี้สิคะ เดี๋ยวจะขึ้นจากบ่อได้แล้วนะ หรือเดินเลี้ยวมาทางนี้นิดหนึ่งสิคะ จะได้ไม่ตกลงไปในเหว

    พีร์ทำได้แค่บอกจริง ๆ ค่ะ หลังจากนั้นต้องทำเอง คนที่ทำได้ ประสบความสำเร็จก็มีมาก คนล้มเหลวก็มีมาก บางคนครั้งเดียวทำได้เลย ไม่ต้องกลับมาดูดวงอีก ก็ดีใจด้วยมาก ๆ บางคนดูไปสามครั้ง ถึงเริ่มทำได้ก็มี บางคนดูไปห้าครั้งทำไม่เคยได้ หลังจากนั้นก็เลิกดู ต้องเดินไปตามทางเดิมก็มีมากเช่นกัน

    มีตัวอย่างคุณป้าอยู่คนหนึ่งสามารถชนะกรรมตัวเองได้ เมื่อก่อนคุณป้าทำงานแบงก์แล้วลาออกมาทำอะไรของตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร

    เพราะว่าดวงคุณป้าเป็นดวงการงานชนหายนะ วาจาคำพูดดวงสังคมวินาศ ซึ่งแปลออกมาได้ว่ามีกรรมที่เคยใช้คำพูดทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน ทางหน้าที่การงาน หรือสูญเสียผลประโยชน์มาก่อน ทำให้ปัจจุบันทำงานอะไรสำเร็จยาก

    ดวงคุณป้าเวลาใจเย็นจะเหมือนนางฟ้า เวลาใจร้อนแปลงร่างเป็นนางมารได้ในพริบตา คุณป้าก็ยอมรับว่าเป็นแบบนี้จริง ๆ และดวงคุณป้าเป็นดวงที่เวลาเข้าหุ้นกับใครยังไงก็โดนเอาเปรียบตลอด เพราะเคยเอาเปรียบคนอื่นไว้เยอะ

    พอเจอแต่เหตุการณ์ที่แย่ ๆ ซ้ำ ๆ กันมาทำให้คุณป้าจิตใจตก มีแต่ความมืดความทุกข์ ไม่ชอบความทุกข์ที่เป็น ไม่ชอบสภาวะที่เป็นอยู่ คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะดีขึ้น เมื่อไหร่จะดีกว่านี้ จิตใจมีแต่ความร้อนรุ่ม เวลาจะลงทุนทำอะไรมีแต่อยากให้ดี อยากจะประสบความสำเร็จ

    พอเห็นวิบากของคุณป้าเป็นแบบนี้ เลยค่อย ๆ อธิบายให้เข้าใจในแต่ละเรื่อง โดยเริ่มจากนิสัยใจเย็นเป็นนางฟ้า ใจร้อนแปลงร่าง ซึ่งคุณป้าเห็นภาพนั้นจริง ๆ ว่าร้ายมาก ดังนั้นเลยบอกคุณป้าว่าอดีตร้ายกว่านี้สองเท่า ดังนั้นเวลาโดนเอาเปรียบมาไม่ต้องโทษใคร มันเป็นกรรมของเราเอง คุณป้าจิตใจคลายลงทันทีหลังจากที่ยอมรับว่าเป็นกรรมของตัวเองนี่เอง

    ได้อธิบายให้คุณป้าฟังอีกในเรื่องของอาการทางใจ ที่ถูกความอยากครอบงำ เช่น อยากดีขึ้น อยากรวย อยากก้าวหน้ากว่านี้ อยากมีเงินสักก้อนหนึ่ง อยากสบายกว่านี้ อยากมีงานที่มั่นคง อาการทางใจที่มีแต่ความโลภ ทำให้เวลาลงทุนหรือทำอะไรไปจะมีแต่ความมืดครอบงำ ดังนั้นเวลาลงทุนจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร เพราะมันเข้ากับดวงเดิมทันที คือเมื่อไหร่โลภ เมื่อนั้นไม่รอด

    เลยแนะนำให้คุณป้าเป็นผู้ให้ก่อน คุณป้าก็บอกว่าคุณป้าไม่ค่อยมีสตางค์เท่าไร พีร์บอกว่าเราไม่ต้องรอให้เงินมากมายก่อนถึงจะทำบุญ บุญมีหลายทางด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้เป็นทาน หรือแรงกายเป็นทาน หรือแม้กระทั่งเราเสียสละทรัพย์สินที่เรียกว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นทานได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ

    ในเมื่อของเดิมเราเคยเอาเปรียบคน เราต้องให้คนอื่น แต่ต้องไม่เบียดเบียนตัวเอง โดยที่คุณป้าสามารถเอาความรู้ที่มีอยู่มาทำประโยชน์ หลังจากนั้นคุณป้าเริ่มคิดได้ว่าจะทำอะไร คุณป้าทำขนมอร่อย เลยติดต่อไปสอนคนในคุกให้ทำขนมเป็น คุณป้าทำดอกไม้จากดินญี่ปุ่นได้ จึงเริ่มสอนให้คนพิการให้ทำขาย ให้มีอาชีพ แถมยังเอาอุปกรณ์ที่ตัวเองมีไปช่วยให้คนพิการมีรายได้ พอได้ฟังการเริ่มต้นของคุณป้าแล้ว แอบปลื้มด้วยมาก ๆ คุณป้าจะรายงานความคืบหน้าอยู่เรื่อย ๆ ว่าทำอะไรแบบไหนไปแล้วบ้าง

    บอกคุณป้าไปอีกว่า ถ้าคุณป้าอยากทำขนมให้อร่อยขึ้น ให้พยายามทำกับข้าวใส่บาตรเองบ่อย ๆ นะ จะได้มีเสน่ห์ปลายจวัก ทำให้ขนมมีรสชาติไม่เหมือนใคร หลังจากนั้นคุณป้าจึงทำใส่บาตรเองทุกครั้ง จิตใจคุณป้าเริ่มสนุกกับสิ่งที่ช่วยคนอื่นไป โดยที่ไม่ได้เบียดเบียนตัวเองเท่าไร ใจคุณป้าเริ่มสว่างเปลี่ยนไปจากครั้งแรก

    เวลาคุณป้าทำขนมมีแต่ความคิดว่า อยากทำให้คนกินมีความสุข ได้กินของอร่อย เลยทำให้ขนมออกมามีรสชาติอร่อยมาก เอามาให้พีร์ชิมแล้วรู้สึกอร่อยมากจนต้องอุทานออกมาว่า อืม รสชาติแห่งบุญ ถ้าใครได้ชิมคุกกี้คุณป้าจะรู้ว่าอร่อยมาก ๆ ค่ะ หลังจากนั้นคุณป้าเริ่มมีข่าวดีเรื่องงานเข้ามาคือ อยู่ดี ๆ ก็มีงานขนมมาหล่นทับ คือมีเนยของฝรั่งเศสอยู่ยี่ห้อหนึ่ง ใกล้จะหมดอายุประมาณอีกหกเดือน ทุกคนเสียดายที่เนยเหลือค่อนข้างเยอะ ขายไม่ออก เลยเอาไปให้แต่ละที่ลองทำดูว่าใครสามารถทำให้เนยมีประโยชน์ได้เขาจะให้ เขาเอาแจกไปประมาณสิบที่ ซึ่งเป็นโรงแรมดังทั้งนั้น ผลสรุปออกมาว่าเชฟโรงแรมดัง ๆ บอกว่าเนยไม่ดี แต่เผอิญว่าพนักงานรู้จักคุณป้า เลยเอามาให้คุณป้าลองทำดู มีคุณป้าคนเดียวที่บอกว่าเนยดีมาก คุกกี้คุณป้าออกมาอร่อยมาก คุณป้าเลยได้เนยมาทำขนมฟรี ๆ ไปหลายเดือน แถมเขาซื้อขนมกลับไปด้วยมั้งคะ คราวนั้น ไม่อยากจะบอกว่าอร่อย ๆ จริงค่ะ คุณป้ายังคิดลายคุกกี้ออกมาเอง คลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในท้องตลาดเลย ใครอยากซื้อเพื่อลองชิมดูว่ารสแห่งบุญเป็นยังไง ถามพีร์ได้ทางโทรศัพท์ค่ะ