สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้ที่สองของเรา ปกติเป็นสายส่องอ่านไม่ค่อยได้พิมพ์เลยค่ะ จนเพิ่งได้กลับมาจากการเที่ยวครั้งนี้ คิดทีไรก็ตัดสินใจ เอาว่ะ เพื่อเป็นการไร้สาระ เอามาเล่าสู่กันฟังก็คงจะดีไม่น้อย
จนเราและเพื่อนได้ตัดสินใจไปเกาหลีด้วยกัน
ประสบการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจจะยาวไปนิดดดด ถ้าขี้เกียจอ่าน แนะนำให้สิริทำงานแทนคุณค่ะ ^^
ภาษาอาจหยาบโลน เพื่อเป็นตัวของตัวเอง เนื้อหาอาจไม่จัดวางเพราะไม่ใช่นิยายขายฝัน
พร้อมแล้วก็เริ่มอ่านได้เลยค่า
เริ่มจากเรากับเพื่อนได้ไปส่องเจ้าประเทศเกาหลีใต้เป็นเวลามาสองเดือนเต็มๆ ที่ต้องรอนานขนาดนั้นเพราะตั๋วโปรโมชั่นจากสายการบินที่ถูกปล่อยออกมา รวมถึงเวลาและมันนี่... นั้นเอง
เมื่อเราสองคนพร้อมกันแล้ว ก็จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ ฝันอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าจะได้เจอบรรยากาศน่ารักๆ อากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก เข้าไปร้านไหนก็เจอแต่ป้อชายหล่อแลนด์แฮนด์ซั่ม!!!
ไปอ่านเจอกระทู้ต่างๆ ก็เตือนกันมาตลอด
“โอ้ แม่สาวน้อย ระวัง ตม. หน่อยก็ดี ดูนั้น ตม.เดินมาแล้ว เดินมาเชิญคุณเข้าห้องเย็นแล้ว พาสขาว ผู้หญิงเดินทางระวังไว้ให้ดี เงินเยอะ เตรียมดีแค่ไหนก็ระวังเอาไว้ให้ดี”
นั้นแหละ.... ความกลัวของพวกเรา
เงินพวกเราได้มาจากการทำงานต๊อกต๋อย น้อยนิด ถ้าต้องไปแล้วเสียเงินไปเกาหลีแบบ เห่ยยย เงินกูววว เอามานอนกินเบอร์เกอร์ห้องเย็น ก็ไม่ใช่ป่ะ....
เรากับเพื่อนเรา จากนี้ขอแทนชื่อแบบคิดไม่เยอะแล้วกันนะคะ
เราชื่อ วี ส่วนเพื่อนเราชื่อ บี เราเป็นหญิงกันสองคน หญิงแท้แน่นอน สาวใสๆหัวใจจุ๊กกรู
ตอนอยู่ไทยนะโอ้ยยยย คุยกันเยอะ เอาแพลนมากางเหมือนพิมพ์เขียวก่อสร้างอาคารพาณิชย์
ไปนี้นะ ไปนั้นนะ ไปส่องนู้นนะ เก็บภาพที่นี้นะ
คุยกันจนเครื่องลง คิดดูความตื่นเต้น 5 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ที่คนอื่นเขาก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ส่วนพวกเราเป็นพวกอัธยาศัยดี.....
เมื่อไปถึงด่าน ตม.แล้ว ขอเล่าตรงนี้ให้ฟังหน่อยนะคะ
จะเล่าอะไรล่ะ ก็ผ่านมาเฉยๆ อ้าว??
เตรียมตัวมาเป็นวัน ซ้อมคุยกันมาเป็นชั่วโมง อ้าว งง เฉย
ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพก็คือ อับดุลเอ้ย
ถามมาตอบไป ปั้มปั๊ป คืนพาส enjoy your trip เฉย.... โอเคตรงนี้ผ่านไปแล้ว เราโล่งแล้ว ไปเอากระเป๋า เข้าที่พักที่ฮงแด เดินทางโดยซับเวย์ตลอดทาง ตามประสางบน้อย เอ็นทาวเวอร์เอย เมียงดงเอย สถานที่ไหนใช้ซับเวย์เดินทางพวกเราไปเอ็นจอยกันมาหมดค่ะ เก็บบ้างไม่ได้เก็บบ้าง บางอันไปไม่ทัน มัวแต่แวะกินตลอดทาง แหะๆ เที่ยวจนเข้าที่พักได้ประมาณสัก 3 ทุ่มของคืนวันเสาร์ (ซึ่งบ้านเมืองเขาคนก็ยังพลุกพล่านอยู่นะ) กำลังจะออกไปหาอะไรกินแล้วก็เข้านอน
(เด็กอนามัยเน้อะ) ได้ยินเสียงแม่สาวน้อยของเราพูดมาว่า
บี : วีๆ เห็นเขารีวิวผับเกาหลีกันอ่ะ อยากเข้าว่ะแกรรรร แลดูงานดี
วี : ไม่....
บี : ไม่ไปอ่า
วี : ไม่รีบบบ ขอแต่งหน้าแปปนุงงงง
ซึ่งที่เขารีวิวกันเห็นว่าเปิดถึงหกโมงเช้ากันเลยทีเดียว เราก็เลือกเอาผับที่เขารีวิวกันเยอะและใกล้ที่พักพวกเรามากที่สุด เพราะกลัวแท็กซี่ กลัวการงบบานเท่ายานอพอลโล แล้วก็ได้เจอกับผับที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาหลี ไม่รู้ดียังไง ดูแต่ตาไม่ได้ ต้องขอผมจับขอผมทัช อย่าทำทะลึ่งเบเบ๋ วู้ววๆ ผับนั้นจะมีสองสาขาซึ่งตรงข้ามกัน ชื่อผับเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อสองพยางค์ไม่ยากเลยใช่ป่ะล้า
ก่อนไปก็คุยกันนะว่าแต่งตัวยังไงกันดี
บี : เฮ้ย วี เมิงแต่ตัวยังไงดีว่ะ เอาที่แบบ เหมือนเข้าผับหน่อยอ่ะ
วี : กุไม่รู้ กุใส่ชุดแค่เนี้ยแหละ (หยิบเสื้อยืดครอปแขนสั้น กับ กางเกงขาสั้นออกมา) เนี้ยแค่นี้แหละ ไม่สนใจเว้ย กุสวย กุมั่นใจ ใส่ๆไปเหอะ เราต่างชาติ เขาไม่มาอะไรมากหรอก
บี : (หยิบชุดเสื้อซีทรูไม่บางมากกับกางเกงขาสั้นมาบ้าง) งั้นใส่ให้คล้ายๆกัน กุเอาชุดแบบนี้นะ แล้วรองเท้าอ่ะ
วี : เมิงเอามากี่คู่ กุมีแต่ผ้าใบที่ใส่อ่ะ
บี : เหมือนกันว่ะ ใส่ด้วยก็ล่ะกัน
แฟชั่นโบจ๊อยซ์ ไทรอัมพ์คิงดอมส์ชัดๆ...... เอ๊า เพลงมาค่ะ ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าของฉัน โว๊ยยยยยยย กินเนื้อเพลงเป็นอาหารเหรอไง!!!
รู้สึกเป็นตัวประหลาด แต่ก็เอาว่ะ ไม่รู้จะได้กลับมาเที่ยวเกาหลีอีกไหม เอ๊าไหนๆก็ไหนๆ เสียเงินมาแล้ว ต้องเที่ยวให้คุ้ม
เขาจะขอตรวจหน้าพาสปอร์ต ต่อคิวเข้าไปกัน ราคาอยู่ที่คนละ หมื่นกว่าวอนมั้งจำไม่ได้ค่ะ ลงไปได้ดริ้งค์ฟรีอีก1 อย่าง บางอย่างก็ต้องเพิ่มเงินนะคะ พวกเราเด็กใหม่เดินตามคนข้างหน้าไป ผับเขาจะลงไปใต้ดิน มีสองชั้น ก็ลงไปชั้นลึกสุดเลย คนเยอะดี นัวๆแซ่บๆกันดี อย่างที่บอกเสียเงินแล้วต้องเอาให้คุ้ม
จนเริ่มจะกรึ่มๆกันได้ที แต่ละคนในผับก็เริ่มเยอะขึ้นๆ เจอทั้งคนที่เข้ามาทัก มาคุย บางคนพูดไทยได้ด้วย ฟังรู้เรื่องอีกต่างหาก เกาหลีนี้มันร้ายจริงๆ อุ๊ว๊ะ!!!!
เกือบหลงใจไปล้าววว
สักพักตัวเราก็นั่งพักที่เคาน์เตอร์บาร์ (ที่ไม่ใช่เคาน์เตอร์เพนแก้ปวด) เราขอบีนั่งพักไปสักพักนึง สั่งเครื่องดื่มมา สายตาก็ซุกซนซะเหลือเกิน ไปเจอกับหนุ่มน้อยหน้าหวาน
คือตอนแรกก็มองเฉยๆอยู่หรอก แต่มองแล้วก็ เอ้ยย ทำไมน่ารักว่ะ ทำไมดูรวมๆแล้วมีเสห่น์เหลือเกิน ยิ้มดูดีว่ะ ก็สะกิดบีทันที
วี : บี เฮ้ยๆ เมิงดูนั้น เห็นคนที่ใส่หมวกสีขาวป่ะ
บี : เห็นล่ะ ทำไมอ่ะ หน้าตาดีเหรอ (พร้อมทำหน้าเหมือนสายตาไม่ดี)
วี : ดูดีๆนะตอนยิ้ม น่ารักชิมิล้า (แล้วก็ยิ้มจริงๆ )
บี : เออจริงๆด้วย
จบบทสนทนาเท่านี้ เพราะไม่ได้คิดจะเข้าไปหา จะตีห้าล่ะ เอาว่ะ เข้าไปเต้นๆนัวๆสักพักดีกว่า แล้วค่อยกลับ ก็ไปกันสองคนอีกรอบ สนุกสนานเฮฮาปาจิงโกะได้สักพัก..........
พ่อหนุ่มที่เราพูดกันมาว่า เขายิ้มน่ารัก
พ่อหนุ่มที่เรามองกันสักพัก
พ่อหนุ่มนั้น มาเลียบเคียงแถวๆแม่บี แม่บียอนเซ่ ของเรานั้นเอง...
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
วิ่งหนี.....ที่ฮงแด (โซล,เกาหลี)
จนเราและเพื่อนได้ตัดสินใจไปเกาหลีด้วยกัน ประสบการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจจะยาวไปนิดดดด ถ้าขี้เกียจอ่าน แนะนำให้สิริทำงานแทนคุณค่ะ ^^
ภาษาอาจหยาบโลน เพื่อเป็นตัวของตัวเอง เนื้อหาอาจไม่จัดวางเพราะไม่ใช่นิยายขายฝัน
พร้อมแล้วก็เริ่มอ่านได้เลยค่า
เริ่มจากเรากับเพื่อนได้ไปส่องเจ้าประเทศเกาหลีใต้เป็นเวลามาสองเดือนเต็มๆ ที่ต้องรอนานขนาดนั้นเพราะตั๋วโปรโมชั่นจากสายการบินที่ถูกปล่อยออกมา รวมถึงเวลาและมันนี่... นั้นเอง
เมื่อเราสองคนพร้อมกันแล้ว ก็จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ ฝันอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าจะได้เจอบรรยากาศน่ารักๆ อากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก เข้าไปร้านไหนก็เจอแต่ป้อชายหล่อแลนด์แฮนด์ซั่ม!!!
ไปอ่านเจอกระทู้ต่างๆ ก็เตือนกันมาตลอด
“โอ้ แม่สาวน้อย ระวัง ตม. หน่อยก็ดี ดูนั้น ตม.เดินมาแล้ว เดินมาเชิญคุณเข้าห้องเย็นแล้ว พาสขาว ผู้หญิงเดินทางระวังไว้ให้ดี เงินเยอะ เตรียมดีแค่ไหนก็ระวังเอาไว้ให้ดี”
นั้นแหละ.... ความกลัวของพวกเรา เงินพวกเราได้มาจากการทำงานต๊อกต๋อย น้อยนิด ถ้าต้องไปแล้วเสียเงินไปเกาหลีแบบ เห่ยยย เงินกูววว เอามานอนกินเบอร์เกอร์ห้องเย็น ก็ไม่ใช่ป่ะ....
เรากับเพื่อนเรา จากนี้ขอแทนชื่อแบบคิดไม่เยอะแล้วกันนะคะ
เราชื่อ วี ส่วนเพื่อนเราชื่อ บี เราเป็นหญิงกันสองคน หญิงแท้แน่นอน สาวใสๆหัวใจจุ๊กกรู
ตอนอยู่ไทยนะโอ้ยยยย คุยกันเยอะ เอาแพลนมากางเหมือนพิมพ์เขียวก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ไปนี้นะ ไปนั้นนะ ไปส่องนู้นนะ เก็บภาพที่นี้นะ
คุยกันจนเครื่องลง คิดดูความตื่นเต้น 5 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ที่คนอื่นเขาก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ส่วนพวกเราเป็นพวกอัธยาศัยดี.....
เมื่อไปถึงด่าน ตม.แล้ว ขอเล่าตรงนี้ให้ฟังหน่อยนะคะ
จะเล่าอะไรล่ะ ก็ผ่านมาเฉยๆ อ้าว?? เตรียมตัวมาเป็นวัน ซ้อมคุยกันมาเป็นชั่วโมง อ้าว งง เฉย
ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพก็คือ อับดุลเอ้ย ถามมาตอบไป ปั้มปั๊ป คืนพาส enjoy your trip เฉย.... โอเคตรงนี้ผ่านไปแล้ว เราโล่งแล้ว ไปเอากระเป๋า เข้าที่พักที่ฮงแด เดินทางโดยซับเวย์ตลอดทาง ตามประสางบน้อย เอ็นทาวเวอร์เอย เมียงดงเอย สถานที่ไหนใช้ซับเวย์เดินทางพวกเราไปเอ็นจอยกันมาหมดค่ะ เก็บบ้างไม่ได้เก็บบ้าง บางอันไปไม่ทัน มัวแต่แวะกินตลอดทาง แหะๆ เที่ยวจนเข้าที่พักได้ประมาณสัก 3 ทุ่มของคืนวันเสาร์ (ซึ่งบ้านเมืองเขาคนก็ยังพลุกพล่านอยู่นะ) กำลังจะออกไปหาอะไรกินแล้วก็เข้านอน (เด็กอนามัยเน้อะ) ได้ยินเสียงแม่สาวน้อยของเราพูดมาว่า
บี : วีๆ เห็นเขารีวิวผับเกาหลีกันอ่ะ อยากเข้าว่ะแกรรรร แลดูงานดี
วี : ไม่....
บี : ไม่ไปอ่า
วี : ไม่รีบบบ ขอแต่งหน้าแปปนุงงงง
ซึ่งที่เขารีวิวกันเห็นว่าเปิดถึงหกโมงเช้ากันเลยทีเดียว เราก็เลือกเอาผับที่เขารีวิวกันเยอะและใกล้ที่พักพวกเรามากที่สุด เพราะกลัวแท็กซี่ กลัวการงบบานเท่ายานอพอลโล แล้วก็ได้เจอกับผับที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาหลี ไม่รู้ดียังไง ดูแต่ตาไม่ได้ ต้องขอผมจับขอผมทัช อย่าทำทะลึ่งเบเบ๋ วู้ววๆ ผับนั้นจะมีสองสาขาซึ่งตรงข้ามกัน ชื่อผับเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อสองพยางค์ไม่ยากเลยใช่ป่ะล้า
ก่อนไปก็คุยกันนะว่าแต่งตัวยังไงกันดี
บี : เฮ้ย วี เมิงแต่ตัวยังไงดีว่ะ เอาที่แบบ เหมือนเข้าผับหน่อยอ่ะ
วี : กุไม่รู้ กุใส่ชุดแค่เนี้ยแหละ (หยิบเสื้อยืดครอปแขนสั้น กับ กางเกงขาสั้นออกมา) เนี้ยแค่นี้แหละ ไม่สนใจเว้ย กุสวย กุมั่นใจ ใส่ๆไปเหอะ เราต่างชาติ เขาไม่มาอะไรมากหรอก
บี : (หยิบชุดเสื้อซีทรูไม่บางมากกับกางเกงขาสั้นมาบ้าง) งั้นใส่ให้คล้ายๆกัน กุเอาชุดแบบนี้นะ แล้วรองเท้าอ่ะ
วี : เมิงเอามากี่คู่ กุมีแต่ผ้าใบที่ใส่อ่ะ
บี : เหมือนกันว่ะ ใส่ด้วยก็ล่ะกัน
แฟชั่นโบจ๊อยซ์ ไทรอัมพ์คิงดอมส์ชัดๆ...... เอ๊า เพลงมาค่ะ ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าของฉัน โว๊ยยยยยยย กินเนื้อเพลงเป็นอาหารเหรอไง!!!
รู้สึกเป็นตัวประหลาด แต่ก็เอาว่ะ ไม่รู้จะได้กลับมาเที่ยวเกาหลีอีกไหม เอ๊าไหนๆก็ไหนๆ เสียเงินมาแล้ว ต้องเที่ยวให้คุ้ม
เขาจะขอตรวจหน้าพาสปอร์ต ต่อคิวเข้าไปกัน ราคาอยู่ที่คนละ หมื่นกว่าวอนมั้งจำไม่ได้ค่ะ ลงไปได้ดริ้งค์ฟรีอีก1 อย่าง บางอย่างก็ต้องเพิ่มเงินนะคะ พวกเราเด็กใหม่เดินตามคนข้างหน้าไป ผับเขาจะลงไปใต้ดิน มีสองชั้น ก็ลงไปชั้นลึกสุดเลย คนเยอะดี นัวๆแซ่บๆกันดี อย่างที่บอกเสียเงินแล้วต้องเอาให้คุ้ม
จนเริ่มจะกรึ่มๆกันได้ที แต่ละคนในผับก็เริ่มเยอะขึ้นๆ เจอทั้งคนที่เข้ามาทัก มาคุย บางคนพูดไทยได้ด้วย ฟังรู้เรื่องอีกต่างหาก เกาหลีนี้มันร้ายจริงๆ อุ๊ว๊ะ!!!! เกือบหลงใจไปล้าววว
สักพักตัวเราก็นั่งพักที่เคาน์เตอร์บาร์ (ที่ไม่ใช่เคาน์เตอร์เพนแก้ปวด) เราขอบีนั่งพักไปสักพักนึง สั่งเครื่องดื่มมา สายตาก็ซุกซนซะเหลือเกิน ไปเจอกับหนุ่มน้อยหน้าหวาน คือตอนแรกก็มองเฉยๆอยู่หรอก แต่มองแล้วก็ เอ้ยย ทำไมน่ารักว่ะ ทำไมดูรวมๆแล้วมีเสห่น์เหลือเกิน ยิ้มดูดีว่ะ ก็สะกิดบีทันที
วี : บี เฮ้ยๆ เมิงดูนั้น เห็นคนที่ใส่หมวกสีขาวป่ะ
บี : เห็นล่ะ ทำไมอ่ะ หน้าตาดีเหรอ (พร้อมทำหน้าเหมือนสายตาไม่ดี)
วี : ดูดีๆนะตอนยิ้ม น่ารักชิมิล้า (แล้วก็ยิ้มจริงๆ )
บี : เออจริงๆด้วย
จบบทสนทนาเท่านี้ เพราะไม่ได้คิดจะเข้าไปหา จะตีห้าล่ะ เอาว่ะ เข้าไปเต้นๆนัวๆสักพักดีกว่า แล้วค่อยกลับ ก็ไปกันสองคนอีกรอบ สนุกสนานเฮฮาปาจิงโกะได้สักพัก..........
พ่อหนุ่มที่เราพูดกันมาว่า เขายิ้มน่ารัก
พ่อหนุ่มที่เรามองกันสักพัก
พ่อหนุ่มนั้น มาเลียบเคียงแถวๆแม่บี แม่บียอนเซ่ ของเรานั้นเอง...
เดี๋ยวมาต่อนะคะ