เริ่มด้วย Dtac เปิดบริการรายเดือนโดยให้ลุกค้าสามารถเลือกเบอรืที่เป็นเบอร์โฟร์ โดยมีโปร 1,499 บาท สำหรับ เบอร์ 1111-7777 และ 1,999 บาท สำหรับ 8888 และ 9999 ปรากฎตามสำเนารูปภาพหมายเลข 1



และนอกจากนี้ทาง Dtac ยังได้เสนอโปรโมชั่นเพิ่มเติมว่าหากลูกค้าที่เปิดเบอร์ Platinum แล้วจ่ายค่าโทรล่วงหน้าอีก 6 เดือนจะได้ Samsung Galaxy Note7 ฟรี หรือ ลดราคา ปรากฎตามสำเนารูปภาพหมายเลข 2



แต่ด้วยความปรากฎต่อมาว่าทาง Samsung ได้ยกเลิกการจำหน่าย Galaxy Note7 ทำให้ Dtac ไม่สามารถส่งมอบสินค้าตามคำมั่นที่ทาง Dtac เสนอว่าจะตกลงทำการขาย Samsung Galaxy Note7 ให้กับลูกค้า โดยแลกเปลี่ยนกับที่ลูกค้ามีหน้าที่ในการชำระเงินในราคา 11,994 บาท ในกรณีเบอร์ 8888 หรือ 9999 โดยมีเงื่อนไขว่าจะเปลี่ยนจำนวนเงินดังกล่าวไปเป็นค่าใช้บริการรายเดือน 6 รอบบิล

การกระทำของ Dtac ถือว่าเป็นคำมั่นจะซื้อขายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 454

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาตรา 454 การที่คู่กรณีฝ่ายหนึ่งให้คำมั่นไว้ก่อนว่าจะซื้อหรือขายนั้นจะมีผลเป็นการซื้อขายต่อเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้บอกกล่าวความจำนงว่าจะทำการซื้อขายนั้นให้สำเร็จตลอดไปและคำบอกกล่าวเช่นนั้นได้ไปถึงบุคคลผู้ให้คำมั่นแล้ว
ถ้าในคำมั่นมิได้กำหนดเวลาไว้เพื่อการบอกกล่าวเช่นนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้ให้คำมั่นจะกำหนดเวลาพอสมควรและบอกกล่าวไปยังคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งให้ตอบมาเป็นแน่นอนภายในเวลากำหนดนั้นก็ได้ว่าจะทำการซื้อขายให้สำเร็จตลอดไปหรือไม่ ถ้าและไม่ตอบเป็นแน่นอนภายในกำหนดเวลานั้นไซร้ คำมั่นซึ่งได้ให้ไว้ก่อนนั้นก็เป็นอันไร้ผล

โดยทาง Dtac ได้ให้คำมั่นว่าจะให้โทรศัทพ์ Samsung Galaxy Note 7 ซึ่งมีราคาตลาด ณ เวลาที่ได้ให้คำมั่นว่ามีมูลค่า 28,900 บาท ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนแปลงคำมั่นดังกล่าวไปเป็น การทดแทนด้วย Samsung Galaxy S7 edge หรือ iPhone 6s plus 64gb ซึ่งได้รับการแจ้งว่าสินค้าหมดไปแล้ว

นอกจากนี้ความปรากฎว่ามูลค่าตลาด ณ วันที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นมีมูลค่าต่ำกว่า 28,900 บาท (แม้จะมีเงื่อนไขใดๆ ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก็จะถือว่าเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐)  ดังนั้นการที่ Dtac ไม่สามารถส่งมอบสินค้าตามคำมั่นแม้สามารถแสดงว่าเป็นเหตุสุดวิสัยได้ แต่การชดเชยสินค้าที่มูลค่าต่ำกว่าที่ปรากฎในคำมั่น นั่นเท่ากับว่าการกระทำดังกล่าวได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายในการโฆษณาดังปรากฎในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522  ถือว่าเป็นการโฆษณาที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์จะได้รับการคุ้มครองและชดเชยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 3 และ มาตรา4

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาตรา ๓ “โฆษณา” หมายความถึงกระทําการไมวาโดยวิธีใดๆ ใหประชาชนเห็นหรือทราบขอความ เพื่อประโยชนในทางการคา
มาตรา ๔ ผูบริโภคมีสิทธิไดรับความคุมครองดังตอไปนี้
        (๓ ทวิ)   สิทธิที่จะไดรับความเปนธรรมในการทําสัญญา
        (๔)        สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย

ขอเสนอข้อเรียกร้องดังนี้

1. ให้ Dtac ชดเชยให้แก่กรณีที่ลูกค้าเลือก Samsung Galaxy S7 edge ที่ปัจจุบันราคาตลาดเพียง 22,500-23,900 บาท ในทางใดทางหนึ่งเพื่อชดเชยส่วนต่าง

2. ให้ Dtac ชดเชยให้แก่กรณีลูกค้าเลือก iPhone 6s plus 64gb แต่ทาง Dtac ไม่สามารถส่งมอบให้ได้ ให้ทาง Dtac ส่งมอบ iphone 6s plus ในขนาดความจุอื่นโดยไม่มีการเรียกเงินเพิ่ม

3. มอบตัวเลือกโทรศัพท์รุ่นอื่นที่มีมูลค่าใกล้เคียงให้แก่ลูกค้า

หากข้อเรียกร้องไม่เป็นผลสำเร็จ ภายใน 7 วัน สิ่งที่ผมกับกลุ่มผู้ที่เป็นลูกค้า Platinum ของ Dtac ที่ได้ติดต่อประสานงานกันไว้แล้วจะทำ
ต่อไป ได้แก่

1. ร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช)
2. ร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
3. เดินทางไปเข้าพบและมอบหนังสือทวงถามให้แก่ นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด (ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารจัดการการตลาดของ Dtac ) ณ ที่ทำการ Dtac อาคาร จัตุรัสจามจุรี Chamchuri Square หรือช่องทางอื่นต่อไป


ขอบคุณ