[CR] ::: รีวิว ดีซี ::: วันเดียวครบ! 1 DAY in DC ___ (ฉบับเร่งด่วน)

สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิวกึ่งไดอะรี่ ตอนไปเที่ยวที่ ดีซี เมื่อปีที่แล้วววว
เหตุผลที่มาตั้งกระทู้ในวันนี้เพราะว่า พอกลับมาดูรูป เฮ้ยยยย เราเริ่มจะจำเหตุการณ์มันแบบละเอียดๆไม่ได้แล้วอ่ะ
ละมันก็เกิดเสียดายความทรงจำดีดี ก็เลยจะมาลองเล่าเรื่องที่พอจะจำได้ให้ฟังกันเด้ออออ

บอกก่อนนี่เป็น การเที่ยวฉบับเร่งด่วน ด่วนจริงๆ 1วันในดีซี
เหตุเพราะ เราไปเที่ยวนิวยอร์ค8วัน แต่อยากมาดีซีด้วย แต่ไม่อยากเสียค่าที่พักซ้ำซ้อน ละเวลาเที่ยวที่นิวยอร์คเราก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมาย
เลยตัดสินใจ เอาวะ มาวันเดียวก็ได้



+การมาเที่ยวในครั้งนี้พูดเลยว่า ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย โทรศัพท์ก็ไม่มี อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี
ไม่ควรเอาเป็นแบบเยี่ยงอย่างเป็นอย่างยิ่ง หวังพึ่งไวไฟตามสถานี พิพิธภัณฑ์ หาข้อมูลเที่ยวมันตรงนั้น
เดินผ่านป้ายก็ถ่ายเก็บไว้ตลอด เพราะเราค่อนข้างโง่ทางมากกกกกกมาก หลงทิศหลงทางตลอด

---------------------------------------------

แต่ก่อนจะไป ดีซี เราก็มาเริ่มที่นิวยอร์คกันก่อน


-การเดินทาง -

วันที่จะไปดีซี เป็นวันที่2ที่เรา อยู่ที่นิวยอร์ค เนื่องจากเราจองรถ ของ megabus รอบ5ทุ่ม เพื่อไปถึงดีซีเช้ามืด
(ไปกลับตกเที่ยวละไม่เกิน 20$ เราจองค่อนข้างกระชั้นชิด ถ้าจองล่วงหน้าบางทีแค่ 5เหรียญ)
เอาจริงๆมีเพื่อนเมกันบอกว่า อยากให้ใช้บริการเจ้าอื่นมากกว่า เพราะเมกกะบัสค่อนข้างอันตราย
ให้ไปเกรย์ฮาวไรงิ แต่เนื่องจาก เรางบน้อยจริงๆ เอาก็เอาวะ ละมาดูกันว่าน่ากลัวจริงหรือไม่!!

chapter01  (((   นิวยอร์ค   ก่อนจะก้าวไปดีซี   ))))
ครั้งแรกที่ได้ขึ้นซับเวย์ที่นี่ครั้งแรก บอกเลย....นี่หรือ รถโดยสารสาธารณะของประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา
ทำไมมันช่างน่ากลัว เก่า เหม็น สกปรก ได้ขนาดนี้~~ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะรถที่นี่บริการ 24ชม ละใช้มานาน



ตอนแรกที่มาก็คือมึน งงมาก ขึ้นยังไงหว่า uptown downtown อะไรเยอะแยะวะ ใช้เวลากับมันอย่างแรง
ขอแนะนำให้โหลดแอพของ subway ไว้ แค่ใส่ต้นทาง ปลายทาง มันจะบอกวิธีการขึ้น หลายวิธีมาก เพราะรถที่นี่มีทุกซอกทุกมุมของ NYCเลย แถมมีเวลาที่ต้องใช้อย่างคร่าวๆ ให้ได้เลือกด้วย



ตอนช่วงเช้าเราก็เดินเล่นไปมาจำไม่ค่อยได้ละ แต่ช่วงบ่ายเรามีจุดมุ่งหมายคือ Chelsea market เป็นแบบตลาดนัดในที่ร่ม
มีของกิ๊บเกร๋ขายมากมาย ทั้งงานart craft jewelry
(แต่กว่าจะหาทางไปถึงเชลซีได้ เอาเป็นว่าเหนื่อยมาก ถามฝรั้งแถวนั้นประมาน3-4คน ก็ไม่รู้จัก คืองมทางอยุ่เป็นชม...55555)







ของที่นี่คือน่ารักกกมากกกกกกก ราคาก็นะ...เอาเรื่องอยู่
คือมานี่เราได้เดินดู หาแรงบรรดาลใจ5555 บ่มีสตางค์
  




ละทีเด็ดของ เชลซีก็คือ อาหารทะเลลลล!!!! ลอบสเตอร์!!!! มีทั้งหอยนางรม กุ้งถัง ซูชิ ปลาดิบ
แต่เรานี่ไม่ได้ลองเลย เพราะมาคนเดียว ละคือแต่ละร้านเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ อยู่รวมๆกัน คนเยอะเอามากๆ
สรุปคือไปกินร้านอาหารไทย ซึ่ง.....ไม่มีความไทย อาหารอะไรไม่รู้ไม่อร่อยเลย ไม่ถ่ายรูปมาด้วย5555555



หลังจากนั้นเราก็กลับมา ฝั่งบรอดเวย์ เดินเล่น ดูร้านน่ารักๆ
/เสียเวลาที่เชลซีนานมาก เพราะหลง งงใจ ไปทำไม5555555555







ละก็มาเดินเล่นที่ Madison square park
ที่นี่ร่มรื่นดีมาก ครอบครัวมาใช้เวลากัน เด็กๆวิ่งเล่นเต็มไปหมด


หลังสวนของ Madison ก็จะเป็นที่ตั้งของ flatiron building
ตั้งทรงประหลาดที่ยิ้มถ่ายรูปออกมาสวยจริงๆ เราว่าทรงมันแบบคล้ายก็ออมาจากโลกเวทมนต์แฮรี่อะไรประมาณนั้นเลย




เราก็เลยมานั่งกินของว่าง(ที่ซื้อมาจากเชลซี) หน้าเจ้าตึกนี้ซะเลย วิวดีอย่างแรง





กินเสร็จเราก็เดิน เดิน เดิน ชีวิตมีแต่เดินเล่น ชมเมือง ดูผู้คนกันไปอีกกกก เข้าไปดูร้านเพื่อช็อปปิ้งบ้าง แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลย




นี่ก็เริ่มจะมืดและ ประมาณ2ทุ่ม เราก็ตัดสินใจ ไปที่รอรถเลยดีกว่า เผื่อเวลาไว้ก่อน เผื่อจะมีอะไรผิดพลาด
เราได้ถามเพื่อนมาก่อนแล้วว่า จะไปที่รอรถเนี้ยไปยังไง เพราะเพื่อนเราไปดีซีก่อนเราวันนึง มันก็บอก เผื่อเวลาไว้เลย เพราะเดินจากสถานีไกลมาก
ตามข้อมูลในเว็บ นางบอกให้ออกสถานี Pennsylvania


ถ้าตามข้อมูลจากเว็บนี่พูดเลย เราไปไม่ถึงที่รอรถแน่ๆ แต่ดีที่เพื่อนบอกว่า พอออกจากสถานี ให้เดินไปเรื่อยๆ เดินหันหลังให้ป้าย new Yorker
ไอเราก็ทำตามที่เพื่อนบอก แต่เดินแล้วเดินเล่าก็ยังไม่ถึง ถนนที่รถจะมารับ เรียกได้ว่า เดิน till the world end เลยทีเดียว
ละคือบรรยากาศตอนนั้นก็เงียบมาก ร้านอะไรก็ปิดกันเกือบจะหมดแล้ว คนเดินสวนกันบ้าง2-3คน


คือต้องบอก เตือนไว้ก่อนเลยว่า หากเทียบว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงามากกกว่าเสาไฟฟ้า
NYC นั้นก็เป็นเมืองที่มีคนบ้า มากกว่าเสาไฟฟ้าเช่นกัน
(แม้มันจะไม่มีเสาไฟฟ้า แต่คนบ้านางเยอะจิงๆเด้อ)
คือบางคนไม่ใช่คนบ้า แต่เป็น homeless เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรเราหรอก แต่คนบ้าเนี้ยบางทีก็ตะโกนไล่เราบ้าง ต้องระวังให้ดีดี

เอาเป็นว่าเราเดิน นานนนนนมากกก กว่าจะถึงที่หมาย มีแค่ป้ายเล็กๆเก่าๆกากๆ เขียนบอกว่า คิวตรงนี้สำหรับไป DC Baltimore หรือที่อื่นๆ
ตอนนั้น3ทุ่มกว่าเราเลยเดินย้อนไป เพื่อไปนั่งรอที่แม็ค
พอเดินกลับมาอีกที คนก็ยืนรอกันเต็มไปหมด คือยืนกันมั่วไปหมด


ตามภาพที่เห็นคือก็ถามเขา ละยืนๆตามๆกันไป น่ากลัวเหมือนกัน สรุปตอนรถมา จอดไม่ได้ใกล้ป้าย คือทุกคนก็ลุกฮือ เดินกันไป
สรุปที่ต่อๆแถวกันไป ไม่มีความหมายนะ
เมกกะบัสเนี้ย ไม่มีจองที่นั่ง ถึงก่อนได้เลือกก่อน สภาพเลยมีความคล้ายซอมบี้พอประมาณ
ส่วนรถที่โฆษณาว่ามีไวไฟ ก็นะ อย่าไปเชื่อค่าาา....ไม่มี

พอตี3เราก็มาถึง พูดเลยบนรถนี่แถบไม่ได้นอน กึ่งหลับกึ่งตื่น พอมันถึงนี่ก็เคว้งมาก จอดให้เราที่ไหนไม่รู้ เราก็เดินๆตามเขาไป
ไปจบที่ไปนั่งแถวสถานี greyhound นั่งเล่นไวไฟ หาสถานที่ที่จะเที่ยวในวันนิ รอเช้า



นี่คือสรุปแผนที่เราจะไปเที่ยวในเดย์ทริปวันนี้ เลือกที่จะเที่ยวแค่ตรง national mall เป็นรุปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามที่เห็น คือเดินไปเรื่อยๆ สถานที่ท่องเที่ยวติดกันเกือบหมดเลย (เห็นรุปแบบนี้ จิงๆมันใหญ่มากนะคะ ขอใช้คำว่า เดินกันตีนแตก)


ตอนแรกเราออกไปดูรถเมโทรของที่ดีซีมาแล้ว สรุปเปิดทำการ 6โมง (แกมันไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆ)
หนาวก็หนาว จะหลับก็หลับไม่ลง

+ นั่งวนไปค่ะ รอเช้า เพื่อไปตลุย ดีซีเวอร์ชั่นมหาโหด เวอร์ชั่นhomeless +
.
.
.
พระเจ้าเล่ามาล้านแปดยังไม่ได้เที่ยวดีซีกันสักที ขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจค่ะ555555
แต่ แต่ รอกันอีกหน่อยนะ
โหดยังไง? ทำไมกลายเป็นโฮมเลสสไตล์ได้ รอกันหน่อยเด้อออ ง่วงล้าวววว
ชื่อสินค้า:   chelsea market
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่