ขอถามเรื่องระบบ ไฟรั่ว ไฟดูด กับระบบไฟ ภายในบ้านครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ ใครมีความรู้ช่วยแนะนำทีนะครับ ขอคำอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ บ้านๆ เพื่อให้ผู้อ่านท่านอื่นที่ไม่มีความรู้เรื่องหลักการไฟฟ้าเข้าใจนะครับ
ไฟรั่ว คือ มีกระแสไฟฟ้ารั่วออกจาก วงจรไฟฟ้า สายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ถูกต้องไหมครับ
ในกรณีไม่มีสายดิน
ไฟฟ้าที่รั่ว จะมีการรั่วไหล ในจุดที่มีปัญหา เช่น รั่วบริเวณ คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เมื่อคนไปจับก็จะถูกดูด ถูกต้องไหมครับ
ในกรณีที่มีการติดตั้งสายดิน และอุปกรณ์มีการเชื่อมต่อสายดิน (มีสามขา)
ในกรณีเกิดไฟรั่ว ไฟจะรั่วลงดิน (สายกราวด์) ทำให้ผู้จับไม่ถูกดูด (ถูกต้องไหมครับ) หรือว่าไม่ถูกดูด แต่ถ้าจับโดนจะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตย์
ที่ผมสงสัย ในกรณีไฟรั่วคือ
- ในกรณีที่เราติดตั้งสายดิน และมีการติดตั้งเครื่องตัดไฟ จำพวกเซพทีคัท หรือเบรกเกอร์ที่ตัดไฟได้
ถ้าเกิดไฟรั่ว แล้วเราไปจับโดนมัน มันจะไม่ดูด เพราะมีสายดิน แล้วเครื่องตัดไฟจะตัดไฟให้ดับ ทำให้ไฟไม่ไปรั่วลงดิน ถูกต้องไหมครับ
ถ้าเกิดไฟรั่ว แต่เรา
ไม่ได้ไปจับโดนในจุดที่รั่ว ไฟมันจะรั่วลงสายดิน ถูกต้องไหมครับ แต่สงสัยว่า
เครื่องตัดไฟจะตัดไฟหรือเปล่า แล้วไฟที่รั่วลงดิน มันจะทำให้เปลืองไฟไหม
ในกรณ๊ที่ติดตั้งสายดิน แต่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องพวกเซพทีคัท
ถ้าเกิดไฟรั่ว แล้วเราไปจับโดน มันจะไม่ดูดใช่ไหมครับ เพราะมีสายดิน แต่ไฟจะไม่ตัด ถูกต้องไหมครับ แต่ไฟจะไหลลงดินไปเรื่อยๆ ทำให้ค่าไฟแพง โดยที่เราไม่รู้ตัวว่าไฟรั่วตรงไหน จนกว่าจะมีการตรวจเช็ค
ในกรณีที่ไม่ได้ติดตั้งสายดิน แต่ติดอุปกรณ์ตัดไฟพวกเซฟทีคัท
ถ้าเกิดไฟรั่ว พอเราจับจะถูกดูด แต่เครื่องตัดไฟจะทำงานทันที ทำให้เราอาจจะรู้สึกแค่โดนดูด ซึ่งมันจะทำให้เรารู้จุดที่ไฟรั่วได้ง่ายกว่า หรือเปล่าครับ
หลักๆ คือ ผมไม่ค่อยเข้าใจหลักการทำงานว่า
ในกรณี
- มีแค่เครื่องตัดไฟ แต่ไม่มีสายดิน
- ในกรณีที่มีเครื่องตัดไฟ แล้วมีสายดิน
- ในกรณีที่ไม่มีเครื่องตัดไฟ แต่มีสายดิน
เราจะรู้ไหมว่า แต่ละแบบ จะมีหลักการทำงานของอุปกรณ์ที่มี และไม่มีต่างกันยังไงบ้าง เครื่องจะทำงานไหม ถ้าไฟรั่ว แต่เราไม่ไปโดนมัน
แล้วถ้าเราไม่มีอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นไหม มันจะทำให้กินไฟไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ (เพราะยังไม่โดนดูด)
ค่าไฟที่เสียไปจะแพงแค่ไหน ถ้ามีไฟรั่วแต่เราไม่รู้ เช่น ถ้าไฟรั่วที่แอร์ แต่เราไม่ได้เปิดแอร์ แต่เบรกเกอร์แอร์ (เฉพาะตัวแอร์) เปิดอยู่ เทียบกับที่เราเปิดแอร์ แต่ไฟยังรั่วอยู่ ค่าไฟจะแพงเพิ่มขึ้นหรือเปล่า (เหมือนพอเปิดเครื่องเลยเป็นตัวเร่งให้ไฟรั่วเพิ่มมากขึ้น)
ถ้าอ่านทั้งๆ อาจจะงงๆ นิดหน่อยเหมือนกับว่าผมอธิบายวนไปมา คือไม่ค่อยเข้าใจหลักการอย่างที่บอก
ขอถามเรื่อง ไฟรั่ว ไฟดูด
ไฟรั่ว คือ มีกระแสไฟฟ้ารั่วออกจาก วงจรไฟฟ้า สายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ถูกต้องไหมครับ
ในกรณีไม่มีสายดิน
ไฟฟ้าที่รั่ว จะมีการรั่วไหล ในจุดที่มีปัญหา เช่น รั่วบริเวณ คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เมื่อคนไปจับก็จะถูกดูด ถูกต้องไหมครับ
ในกรณีที่มีการติดตั้งสายดิน และอุปกรณ์มีการเชื่อมต่อสายดิน (มีสามขา)
ในกรณีเกิดไฟรั่ว ไฟจะรั่วลงดิน (สายกราวด์) ทำให้ผู้จับไม่ถูกดูด (ถูกต้องไหมครับ) หรือว่าไม่ถูกดูด แต่ถ้าจับโดนจะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตย์
ที่ผมสงสัย ในกรณีไฟรั่วคือ
- ในกรณีที่เราติดตั้งสายดิน และมีการติดตั้งเครื่องตัดไฟ จำพวกเซพทีคัท หรือเบรกเกอร์ที่ตัดไฟได้
ถ้าเกิดไฟรั่ว แล้วเราไปจับโดนมัน มันจะไม่ดูด เพราะมีสายดิน แล้วเครื่องตัดไฟจะตัดไฟให้ดับ ทำให้ไฟไม่ไปรั่วลงดิน ถูกต้องไหมครับ
ถ้าเกิดไฟรั่ว แต่เราไม่ได้ไปจับโดนในจุดที่รั่ว ไฟมันจะรั่วลงสายดิน ถูกต้องไหมครับ แต่สงสัยว่า เครื่องตัดไฟจะตัดไฟหรือเปล่า แล้วไฟที่รั่วลงดิน มันจะทำให้เปลืองไฟไหม
ในกรณ๊ที่ติดตั้งสายดิน แต่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องพวกเซพทีคัท
ถ้าเกิดไฟรั่ว แล้วเราไปจับโดน มันจะไม่ดูดใช่ไหมครับ เพราะมีสายดิน แต่ไฟจะไม่ตัด ถูกต้องไหมครับ แต่ไฟจะไหลลงดินไปเรื่อยๆ ทำให้ค่าไฟแพง โดยที่เราไม่รู้ตัวว่าไฟรั่วตรงไหน จนกว่าจะมีการตรวจเช็ค
ในกรณีที่ไม่ได้ติดตั้งสายดิน แต่ติดอุปกรณ์ตัดไฟพวกเซฟทีคัท
ถ้าเกิดไฟรั่ว พอเราจับจะถูกดูด แต่เครื่องตัดไฟจะทำงานทันที ทำให้เราอาจจะรู้สึกแค่โดนดูด ซึ่งมันจะทำให้เรารู้จุดที่ไฟรั่วได้ง่ายกว่า หรือเปล่าครับ
หลักๆ คือ ผมไม่ค่อยเข้าใจหลักการทำงานว่า
ในกรณี
- มีแค่เครื่องตัดไฟ แต่ไม่มีสายดิน
- ในกรณีที่มีเครื่องตัดไฟ แล้วมีสายดิน
- ในกรณีที่ไม่มีเครื่องตัดไฟ แต่มีสายดิน
เราจะรู้ไหมว่า แต่ละแบบ จะมีหลักการทำงานของอุปกรณ์ที่มี และไม่มีต่างกันยังไงบ้าง เครื่องจะทำงานไหม ถ้าไฟรั่ว แต่เราไม่ไปโดนมัน
แล้วถ้าเราไม่มีอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นไหม มันจะทำให้กินไฟไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ (เพราะยังไม่โดนดูด)
ค่าไฟที่เสียไปจะแพงแค่ไหน ถ้ามีไฟรั่วแต่เราไม่รู้ เช่น ถ้าไฟรั่วที่แอร์ แต่เราไม่ได้เปิดแอร์ แต่เบรกเกอร์แอร์ (เฉพาะตัวแอร์) เปิดอยู่ เทียบกับที่เราเปิดแอร์ แต่ไฟยังรั่วอยู่ ค่าไฟจะแพงเพิ่มขึ้นหรือเปล่า (เหมือนพอเปิดเครื่องเลยเป็นตัวเร่งให้ไฟรั่วเพิ่มมากขึ้น)
ถ้าอ่านทั้งๆ อาจจะงงๆ นิดหน่อยเหมือนกับว่าผมอธิบายวนไปมา คือไม่ค่อยเข้าใจหลักการอย่างที่บอก