กระทู้รีวิวนี้ จขกทได้ไปมาเมื่อเมษา 2559 ที่ผ่านมา
ใกล้ลมทะเลสงบ ถึงฤดูกาลท่องเที่ยวช่วง High Season ทะเลที่จะมาถึง เลยอยากมารีวิวถึงหลีเป๊ะ อีกสักครา
พร้อมแล้ว.................. ไปกันเลย
ปล. เราใช้กล้องแคมแพคบ้านๆ ธรรมดาๆ ถ่าย ความคมชัดหรือรายละเอียดแสงสีต่างๆ
มันจะได้เท่าที่เห็นคะ บวกกับกล้องมือถือบ้านๆ ของเราด้วย แฮร่~

สืบเนื่องจาก จขกท สอยโปรหางแดงช่วงโปร 0 บาท เมื่อต้นปีไว้ จองตั๋วไป-กลับ เชียงใหม่ - หาดใหญ่
ในราคา 2953.45 บาท (ราคาโปรแล้วนะ ขอบอก) ไว้ โดยปกติแล้วเราจะเล็งสถานที่ท่องเที่ยวไว้ก่อนที่จะมีการจองตั๋ว
เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจ เวลามีโปรของสายการบินต่างๆ ออกมา พอได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็หาข้อมูลและจองที่พัก
ตกลงใจที่ Zanom Sunrise ฝั่งหาดซันไรส์หรือหาดชาวเล ในราคาแสนประหยัด
และข้อสำคัญในการเลือกสถานที่นี้ก็คือ แท่น แท่น แท๊นนนนน ร้านอาหารจ้า
อาหารรสชาติอร่อยและราคาไม่แพงเลย รีวิวจากทั้งอโกด้าและเวบจองโรงแรมอื่นๆ ใครสายชิวมาพักได้สบายๆ มากคะ
แต่ถ้าเน้นความสะดวกสบายหรูหรา ให้พาสผ่านไปเลยคะ

และนี่คือหน้าตาสถานที่พักของเราจ้า

บรรยากาศหน้าซานอมซันไรส์เดินไม่กี่ก้าวจากห้องพัก ก็มีน้ำทะเลใส๊ใส อยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ สูดลมทะเลให้เต็มปอดกัน

รูปทะเลที่ตัดกับสีท้องฟ้า เราชอบจริงจังเลย ^ ^

รูปหน้าทางเข้าที่พักของเราคะ ป้ายน้อยๆ แต่ก็มองเห็นนะ

และที่ขาดไม่ได้ต้องนับถือสกิลการขับรถสามล้อพ่วงข้างในที่แคบของพี่ๆที่คอยขับรถขนนักท่องเที่ยวและสัมภาระ จากใจ
เพราะมันเฟี้ยวฟ้าวมากจริงๆ มันไวจนต้องจับทุกสิ่งอย่างให้มั่น และด้วยห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลยไม่ได้แชะภาพมาฝากคะ ><
มีแต่รูปหน้าทางเข้าที่พี่ๆเค้าคอยรับนักท่องเที่ยวในระยะไกล พร้อมป้ายต้อนรับ Welcome to Koh Lipe Walking Street..

การเดินทางไปหลีเป๊ะไม่ยาก แต่ก็สมบุกสมบันในระดับนึง เพราะหลังจากลงเครื่องที่หาดใหญ่(สงขลา)ปุ๊บต้องนั่งรถสองแถวไปที่ตลาด
เรียกว่าตลาดเกษตรแต่มันคือสถานีขนส่งชัดๆ อย่าเข้าใจว่าเป็นตลาดเพราะชื่อตลาดเกษตรนะ
จากนั้นต่อรถตู้จากตลาดเกษตรไปลงท่าเรือปากบารา(สตูล) และขึ้นสปีดโบ๊ทจากท่าเรือปากบาราไปยังเกาะหลีเป๊ะ
แต่เดี๋ยวก่อน พอถึงเกาะหลีเป๊ะ เราต้องไปเมาน้ำมันเครื่องเรือหางยาวที่คอยรอรับส่งนักท่องเที่ยวอยู่ใกล้หน้าหาด เพราะสปีดโบ๊ท
ขับเข้าไปไมได้ เพราะมันจะทำลายแนวปะการัง (คหสต. จริงๆเราว่าไม่ใช่เพราะทำลายอย่างเดียวเพราะเรือหางยาวก็ไม่ต่างกัน ช่วงที่นั่ง
เรือเข้าใกล้หาด ถึงน้ำทะเลจะใสมาก แต่แนวปะการังใกล้หน้าหาดก็เสียหายไปเยอะเหมือนกัน)

นี่คือโป๊ะกลางทะเลที่ขึ้นไปรอให้เรือหางยาวของชาวเลมารับ หน้าหาดพัทยาบีช

บรรยากาศบนโป๊ะหน้าหาดพัทยาบีช หน้าโซนขายตั๋ว

จริงๆ บรรยากาศบนโป๊ะ ค่อนข้างวุ่นวายทีเดียว แต่เราขึ้นไปเป็นคนแรกๆ เลยถ่ายทันตอนที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
พอนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาบนโป๊ะกลางที่เดียวจากหลากหลายเรือสปีดโบ๊ท เราก็เสียวๆ ว่าโป๊ะจะรับน้ำหนักไหวมั้ยนะ
อยากลงเรือหางยาวขึ้นบนเกาะเร็วๆ จัง ฮ่า

ทิวทัศน์ก่อนเข้าฝั่งหน้าหาดพัทยา จะสังเกตุเห็นเรือหางยาวที่กำลังขับเรือเพื่อไปส่งนักท่องเที่ยวออกจากเกาะขับสวนเราไป

ระหว่างทางไปท่าเรือปากบาราสู่เกาะหลีเป๊ะ ทางเรือแวะให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูป ณ เกาะไข่ ด้วยความที่อยากถึงหลีเป๊ะจะแย่
และอิดโรยจากการเดินทางหลายทอด เราเลยไม่ได้ชื่นชมทัศนียภาพหรือถ่ายรูปจุดแลนด์มาร์คแต่ก็ลงเรือสักหน่อย
ไปแชะภาพคู่กับน้ำทะเลสักนิดเป็นออเดิร์ฟก่อนถึงหลีเป๊ะแบบแสบตากันสักนิด แชะ

วันแรก หลังจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อยและใช้เวลาชื่นชมความงามเดินสำรวจหน้าหาดที่พักอยากจุใจแล้ว
เราก็ไปนอนเอาแรง รอเวลาอาหารค่ำ วิวบรรยากาศร้านอาหารติดหาด หน้าที่พักของเราละ

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากนอนเอาแรง เราตื่นแต่เช้า เพื่อออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เจอพี่ดำเจ้าถิ่น นอนอาบแดดอยู่หน้าหาด
ด้วยความที่รู้ตัวว่าถูกมองอยู่ พี่แกเลยลุกมาทักทาย ดังภาพ

จริงๆ เจ้าถิ่น(น้องหมา)ที่นี่ค่อนข้างเยอะมาก ใครที่กลัวน้องหมาทำใจไว้นะคะ แต่น้องทุกตัว น่ารักและใจดีมากคะ
ด้วยความที่หาดซันไรส์หรือหาดชาวเล เป็นหาดดั้งเดิม ทำให้สัตว์เลี้ยงรวมถึงเรือหางยาวที่จอดเรียงรายเต็มหน้าหาด
ค่อนข้างเยอะมาก เพราะฉะนั้นใครที่เลือกพักหาดซันไรส์ ให้ลองช่างใจดูนะคะว่ารับได้มั้ย ส่วนเรายังไงก็ต้องหาดนี้เท่านั้นค่ะ ^ ^