กระทู้สุดท้ายที่ตั้งไปเกี่ยวกับ “ซี๑๓๐” โดนครหาว่าเป็นกระทู้ปั่นกันคนลืมทักกี้ (โชคดี...หวุดหวิดไม่โดนครหาว่ารับตังค์จากคนแดนไกลมาเป็นของแถม) ไหนๆ โดนครหาไปแล้ว...กระทู้นี้ตั้งใจปั่นครับ บอกกันซื่อๆ เอาไว้ตรงนี้
คงต้องยอมรับนะครับว่า ไม่ว่าคุณจะเกลียดหรือชอบทักษิณขนาดไหน ยังไงๆ เสียคนๆ นี้ได้ถูกบรรจุเข้าหน่วยความจำของคุณไปแล้ว เวลามีอะไรนิดอะไรหน่อยที่เกี่ยวข้องหรือเฉียดๆ คนๆ นี้ความทรงจำเกี่ยวกับเขาก็จะพรั่งพรูออกมา คนที่ชอบและรักเขาก็พรั่งพรูออกมาในทางที่บวก ทางพุทธศาสนาเรียกว่าจิตที่เป็นฝ่ายกุศล(กุศลจิต) ส่วนคนที่เกลียดก็จะพรั่งพรูออกมาในทางลบตรงข้ามกับกุศลจิตซึ่งก็คืออกุศล
ขอเข้าจุดโฟกัสแบบแทงใจดำให้ห้อเลือดหรือถึงขั้นกระอักกันไปข้างเลยล่ะกัน .....ผลงานที่โดดเด่นที่นอกจากจะทำให้คนไทยทึ่งแล้ว ทั่วโลกต้องหันมามองด้วยความชื่นชมก็คือ “30บาทรักษาทุกโรค”......ของดีก็ต้องฉายกันบ่อยๆ อย่างนี้แหละครับ ตรรกะและเหตุผลง่ายๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ลืมทักษิณเลยก็คือ ในเมื่อประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชนชั้นรากหญ้า และการได้มีโอกาสได้เข้าโรงพยาบาลให้หมอหรือพยาบาลวินิจฉัย/รักษาโรคนั้น เป็นโอกาสที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยได้รับเลยเกือบตลอดชีวิตที่ผ่านมา เมื่อโอกาสอย่างนี้ถูกหยิบยื่นให้ คนที่หยิบยื่นให้ก็ย่อมตกเป็นที่รักแก่ผู้รับ เป็นตรรกะง่ายๆ What goes around comes around(ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว) และถ้าหากใครต้องการให้เขาถูกลืม สิ่งที่ควรทำก็คือ หยิบยื่นหรือนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าเหนือกว่าที่เขาได้ทำเอาไว้ แต่ไม่ใช่การฆ่าแกงกัน เพื่อที่คนจะได้ลืมๆ เขาไปเสีย....หารู้ไม่ว่านั่นแหละคนก็ยิ่งจะจดจำและสงสารเขามากขึ้น
“อโรภยา ปรามาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่จะมีมนุษย์ในโลกนี้สักกี่คนที่ได้ลาภอันประเสริฐนั้น ส่วนใหญ่ก็มีโรคเจ็บออดๆ แอดๆ และกลัวตายกันทั้งนั้น คนมีเงินมีทองก็โชคดีที่เข้าโรงพยาบาลให้หมอรักษาถูกโรคและถูกอนามัย คนที่ไม่มีเงินทองเข้าโรงพยาบาลก็อาศัยฝนยาสมุนไพร ให้หลวงปู่หลวงตาที่วัดเป่ากระหม่อม รำผีฟ้าบนบานสานกล่าว หรือเอาขี้หมากของหลวงปู่หลวงตามาป้ายมาทามาผสมน้ำดื่ม ที่กล้าพูดตรงนี้ ก็มาจากประสบการณ์จริงที่เกิดกับครอบครัวตัวเอง ที่พี่ชายตายไปด้วยไข้มาลาเรียอย่างทรมาน เพราะไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาล แม้ว่าในสายตาของบางกลุ่มบางคนอาจจะเย้ยว่ามาตรฐานยาอาจจะไม่ดีพอ ฯลฯ แต่อย่างน้อยๆ....สำหรับคนยากจนแล้ว การที่ได้ไปอยู่ใกล้มือหมอมือพยาบาล และได้รับการวินิจฉัยถูกต้องตามหลักวิชาการว่าเป็นอะไร? อย่างไร? แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว
ชีวิตใครๆ ก็รักและอยากจะเยื้อให้ถึงวินาทีสุดท้ายถ้าเป็นไปได้.........ถ้าทักกี้หรือมหาเศรษฐีล้มหมอนนอนเสื่อขึ้นมาสักวัน ผมเชื่อว่าเขาคงไม่รีรอที่จะไปหาจ้างหมอดีที่สุดในโลกมารักษา แม้จะต้องจ่ายชั่วโมงละหลายล้านเขาก็คงยอมจ่ายเพื่อความหวังที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อ เช่นกันครับ....ดีที่สุดในโลกสำหรับชาวรากหญ้าในยามล้มหมอนอนเสื่อมาก็คือ “สามสิบบาทรักษาทุกโรค” นี่แหละครับ พอจะเข้าใจความรู้สึกของชาวบ้านขึ้นมาบ้างหรือยังล่ะครับว่าทำไมเขาถึงยังไม่ลืมทักกี้??
....."ไม่ลืม" ยังไงๆ เสียก็ลืมกันไม่ลง....
คงต้องยอมรับนะครับว่า ไม่ว่าคุณจะเกลียดหรือชอบทักษิณขนาดไหน ยังไงๆ เสียคนๆ นี้ได้ถูกบรรจุเข้าหน่วยความจำของคุณไปแล้ว เวลามีอะไรนิดอะไรหน่อยที่เกี่ยวข้องหรือเฉียดๆ คนๆ นี้ความทรงจำเกี่ยวกับเขาก็จะพรั่งพรูออกมา คนที่ชอบและรักเขาก็พรั่งพรูออกมาในทางที่บวก ทางพุทธศาสนาเรียกว่าจิตที่เป็นฝ่ายกุศล(กุศลจิต) ส่วนคนที่เกลียดก็จะพรั่งพรูออกมาในทางลบตรงข้ามกับกุศลจิตซึ่งก็คืออกุศล
ขอเข้าจุดโฟกัสแบบแทงใจดำให้ห้อเลือดหรือถึงขั้นกระอักกันไปข้างเลยล่ะกัน .....ผลงานที่โดดเด่นที่นอกจากจะทำให้คนไทยทึ่งแล้ว ทั่วโลกต้องหันมามองด้วยความชื่นชมก็คือ “30บาทรักษาทุกโรค”......ของดีก็ต้องฉายกันบ่อยๆ อย่างนี้แหละครับ ตรรกะและเหตุผลง่ายๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ลืมทักษิณเลยก็คือ ในเมื่อประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชนชั้นรากหญ้า และการได้มีโอกาสได้เข้าโรงพยาบาลให้หมอหรือพยาบาลวินิจฉัย/รักษาโรคนั้น เป็นโอกาสที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยได้รับเลยเกือบตลอดชีวิตที่ผ่านมา เมื่อโอกาสอย่างนี้ถูกหยิบยื่นให้ คนที่หยิบยื่นให้ก็ย่อมตกเป็นที่รักแก่ผู้รับ เป็นตรรกะง่ายๆ What goes around comes around(ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว) และถ้าหากใครต้องการให้เขาถูกลืม สิ่งที่ควรทำก็คือ หยิบยื่นหรือนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าเหนือกว่าที่เขาได้ทำเอาไว้ แต่ไม่ใช่การฆ่าแกงกัน เพื่อที่คนจะได้ลืมๆ เขาไปเสีย....หารู้ไม่ว่านั่นแหละคนก็ยิ่งจะจดจำและสงสารเขามากขึ้น
“อโรภยา ปรามาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่จะมีมนุษย์ในโลกนี้สักกี่คนที่ได้ลาภอันประเสริฐนั้น ส่วนใหญ่ก็มีโรคเจ็บออดๆ แอดๆ และกลัวตายกันทั้งนั้น คนมีเงินมีทองก็โชคดีที่เข้าโรงพยาบาลให้หมอรักษาถูกโรคและถูกอนามัย คนที่ไม่มีเงินทองเข้าโรงพยาบาลก็อาศัยฝนยาสมุนไพร ให้หลวงปู่หลวงตาที่วัดเป่ากระหม่อม รำผีฟ้าบนบานสานกล่าว หรือเอาขี้หมากของหลวงปู่หลวงตามาป้ายมาทามาผสมน้ำดื่ม ที่กล้าพูดตรงนี้ ก็มาจากประสบการณ์จริงที่เกิดกับครอบครัวตัวเอง ที่พี่ชายตายไปด้วยไข้มาลาเรียอย่างทรมาน เพราะไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาล แม้ว่าในสายตาของบางกลุ่มบางคนอาจจะเย้ยว่ามาตรฐานยาอาจจะไม่ดีพอ ฯลฯ แต่อย่างน้อยๆ....สำหรับคนยากจนแล้ว การที่ได้ไปอยู่ใกล้มือหมอมือพยาบาล และได้รับการวินิจฉัยถูกต้องตามหลักวิชาการว่าเป็นอะไร? อย่างไร? แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว
ชีวิตใครๆ ก็รักและอยากจะเยื้อให้ถึงวินาทีสุดท้ายถ้าเป็นไปได้.........ถ้าทักกี้หรือมหาเศรษฐีล้มหมอนนอนเสื่อขึ้นมาสักวัน ผมเชื่อว่าเขาคงไม่รีรอที่จะไปหาจ้างหมอดีที่สุดในโลกมารักษา แม้จะต้องจ่ายชั่วโมงละหลายล้านเขาก็คงยอมจ่ายเพื่อความหวังที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อ เช่นกันครับ....ดีที่สุดในโลกสำหรับชาวรากหญ้าในยามล้มหมอนอนเสื่อมาก็คือ “สามสิบบาทรักษาทุกโรค” นี่แหละครับ พอจะเข้าใจความรู้สึกของชาวบ้านขึ้นมาบ้างหรือยังล่ะครับว่าทำไมเขาถึงยังไม่ลืมทักกี้??