ช่วงนี้ เรื่อง 888 นี้เรียกว่าจะยึดโรง ยึดรอบแทบทั้งหมดเลยนะครับ แต่ก็ยังพอมีรอบให้กับเรื่อง Snowden ตั้ง 2 รอบต่อวันแน่ะ เลยพอเบียดๆเข้าไปดูได้มั้ง หนังชีวประวัติ(ช่วงนึง)ของชีวิต สโนเดน ผู้ที่เอาความลับทางราชการออกมาตีแผ่ จนมีคนตั้งคำถามกันว่า เค้าคือฮีโร่ผู้กล้า หรือ ผู้ทรยศประเทศตัวเองกันแน่
เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆจนจบแบบไม่รู้สึกเบื่อนะ การเล่าเรื่องเรียบง่าย อาจมีตัดสลับช่วงเวลาบ้าง แต่ก็ไม่ได้งงอะไร อีกทั้งขนาดรู้ผลอยู่แล้ว แต่พอเล่าย้อนก็กลับรู้สึกได้ลุ้นซะอย่างนั้น 55+
ส่วนตัวไม่ได้อ่านข่าวตอนช่วง สโนเดน เป็นกระแสโลกแบบละเอียดเท่าไร แต่พอมาดูหนังก็รู้สึกว่า "นี้เรื่องจริงเหรอเนี่ย" คือทั้งฉากและสิ่งที่สโนเดนทำ กับ รัฐบาลทำ นี้อย่างกับเรื่องแต่ง ดูเกินจริงอย่างกับหนังไซฟายเลยแหละ
โอลิเวอร์ สโตน (ผู้กำกับ) ถือว่าโคตรกล้า ที่เอาเรื่องนี้มาตีแผ่ออกมาเป็นหนังขนาดนี้นะ เล่าเรื่องแบบชัดเจน ตรงไปตรงมา จนน่ากลัวแทน เชื่อว่าหนังแบบนี้จะไม่มีทางได้สร้างและได้ฉายในไทยแน่นอน ฮ่าๆ ยอมรับเฮียแกเลยจริงๆ แถมถ่ายทำซะดีเชียว
ผมชอบคู่พระนางเรื่องนี้นะ เป็นอะไรที่น่ารัก ซาบซึ้งดี แทรกมาเป็นระยะๆให้ไม่รู้สึกเบื่อ มีอะไรให้ตามดูตามเชียร์หน่อย
สิ่งที่ชอบที่สุดคือ บทสรุปจบฉากสุดท้าย ซึ่งตอนระหว่างที่ดูก็อยากรู้ว่า เรื่องนี้มันจะดำเนินไปจบที่ฉากไหน จบอย่างไรนะ แต่พอถึงฉากจบนี้ รู้สึก อิ่มมากๆ เลือกวิธีการจบได้สมบูรณ์แบบสุดๆ ขอยกนิ้วให้เลย
ใครที่คาดหวังว่าจะเป็นหนังที่เชือดเฉือนหักเหลี่ยมกัน มีฉากแอ๊คชั่น วิ่งหนีตายเอาตัวรอด ไรทำนองนั้น บอกเลยว่าไม่ใช่นะครับ มันเป็นหนังที่เน้นพูด และพาคนดูเข้าไปร่วมในชะตากรรมที่สโนเดนพบเจอ และต้องทำอะไรมาบ้าง โดยมีฉากรักมุ้งมิ้งและภาพสวยๆแทรกมาเป็นระยะ
ปล. ดูแล้วก็คิดนะ ถ้าเป็นเรา จะทำอย่างไร ทำแบบ สโนเดน ไหม หรือยังไงดี คิดไม่ตกเลยครับ ฮ่าๆ
[CR] Snowden = ฮีโร่ผู้กล้า หรือ ผู้ทรยศต่อประเทศตัวเอง
เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆจนจบแบบไม่รู้สึกเบื่อนะ การเล่าเรื่องเรียบง่าย อาจมีตัดสลับช่วงเวลาบ้าง แต่ก็ไม่ได้งงอะไร อีกทั้งขนาดรู้ผลอยู่แล้ว แต่พอเล่าย้อนก็กลับรู้สึกได้ลุ้นซะอย่างนั้น 55+
ส่วนตัวไม่ได้อ่านข่าวตอนช่วง สโนเดน เป็นกระแสโลกแบบละเอียดเท่าไร แต่พอมาดูหนังก็รู้สึกว่า "นี้เรื่องจริงเหรอเนี่ย" คือทั้งฉากและสิ่งที่สโนเดนทำ กับ รัฐบาลทำ นี้อย่างกับเรื่องแต่ง ดูเกินจริงอย่างกับหนังไซฟายเลยแหละ
โอลิเวอร์ สโตน (ผู้กำกับ) ถือว่าโคตรกล้า ที่เอาเรื่องนี้มาตีแผ่ออกมาเป็นหนังขนาดนี้นะ เล่าเรื่องแบบชัดเจน ตรงไปตรงมา จนน่ากลัวแทน เชื่อว่าหนังแบบนี้จะไม่มีทางได้สร้างและได้ฉายในไทยแน่นอน ฮ่าๆ ยอมรับเฮียแกเลยจริงๆ แถมถ่ายทำซะดีเชียว
ผมชอบคู่พระนางเรื่องนี้นะ เป็นอะไรที่น่ารัก ซาบซึ้งดี แทรกมาเป็นระยะๆให้ไม่รู้สึกเบื่อ มีอะไรให้ตามดูตามเชียร์หน่อย
สิ่งที่ชอบที่สุดคือ บทสรุปจบฉากสุดท้าย ซึ่งตอนระหว่างที่ดูก็อยากรู้ว่า เรื่องนี้มันจะดำเนินไปจบที่ฉากไหน จบอย่างไรนะ แต่พอถึงฉากจบนี้ รู้สึก อิ่มมากๆ เลือกวิธีการจบได้สมบูรณ์แบบสุดๆ ขอยกนิ้วให้เลย
ใครที่คาดหวังว่าจะเป็นหนังที่เชือดเฉือนหักเหลี่ยมกัน มีฉากแอ๊คชั่น วิ่งหนีตายเอาตัวรอด ไรทำนองนั้น บอกเลยว่าไม่ใช่นะครับ มันเป็นหนังที่เน้นพูด และพาคนดูเข้าไปร่วมในชะตากรรมที่สโนเดนพบเจอ และต้องทำอะไรมาบ้าง โดยมีฉากรักมุ้งมิ้งและภาพสวยๆแทรกมาเป็นระยะ
ปล. ดูแล้วก็คิดนะ ถ้าเป็นเรา จะทำอย่างไร ทำแบบ สโนเดน ไหม หรือยังไงดี คิดไม่ตกเลยครับ ฮ่าๆ