แชร์ประสบการณ์ชิงทุนรัฐบาลตุรกี



สวัสดีครับ เกริ่นกันก่อนว่า ตัวผมเอง อายุ 19แหล่ว เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในไทยไปได้หนึ่งปี ก็ตัดสินใจอยากทำความฝันตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นคือการไปเรียนต่อต่างประเทศ ตัวผมเองได้ offer จากสองประเทศที่ขอไปครับ นั่นคืออเมริกา และตุรกี ซึ่งก็มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ตัดสินใจเลือกตุรกีไป (เงินล้วนๆ 555) บอกก่อนว่า ทุนรัฐบาลตุรกีเนี่ย ค่อนข้างดังแบบเงียบๆ เพราะแต่ละปี มีจำนวนคนสมัครทั้งโลก หนึ่งแสนคนอัพ! และมีเพียงแค่ 5000 คนผู้โชคดีเท่านั้น ที่จะได้ไปคลุกคลีหนุ่มสาวชาวเติร์กในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศตุรกี (5000 คน แบ่งเป็น ป. ตรี โท เอก คละกันไปนะจ้ะ) ทุนนี้มีความดีงามอยู่ที่ ทุกอย่างมัน FREE !!! แทบไม่ต้องออกเงินค่าอะไรเลย (เดี๋ยวจะบอกว่าค่าอะไร เจ็บหนักเหมือนกันนะกว่าจะได้ออกบิน) ซึ่งระยะเวลาของทุนก็ไม่ธรรมดาครับ ปีที่เราจะต้องเรียน บวกกับหนึ่งปีปรับภาษาตุรกีครับพ้ม!

        ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ requirements ของทุนนี้ก่อนนะครับ (อ้างอิงฉบับไทยมาจากเว็บกระทรวงศึกษาธิการครับ)

1.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย

2.ต้องมีสุขภาพแข็งแรง

3.ต้องไม่สมัครเรียนในมหาวิทยาลัยของตุรกีในระหว่างที่สมัครขอรับทุนฯ

4.สำหรับปริญญาตรี ต้องจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุไม่เกิน 21 ปี)

5.ต้องมีผลการเรียนเกรดเฉลี่ย 70 % ขึ้นไป สามารถสมัครเรียนสาขาอื่นๆ ยกเว้นสาขาแพทย์ศาสตร์ เกรดเฉลี่ย 90 % ขึ้นไป

6.สำหรับปริญญาโทและปริญญาเอก ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโทไม่เกินวันที่ 30 กรกฎาคม 2558 อายุไม่เกิน 30 ปี สำหรับสมัครปริญญาโท และอายุไม่เกิน 35 ปี สำหรับสมัครปริญญาเอก

1.ต้องมีผลการเรียนเกรดเฉลี่ย 75 % ขึ้นไป

2.เอกสารการสมัคร (แปลภาษาอังกฤษ)

1.ใบสมัคร (ปีนี้ใช้เป็นใบสมัครออนไลน์ครับ)

2.สำเนาใบประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปริญญาบัตรระดับปริญญาตรี/ปริญญาโท

3.สำเนาใบแสดงผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (transcript) /ปริญญาตรี /ปริญญาโท

4.สำเนา passport, บัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาสูติบัตร

5.รูปถ่ายขนาด 1นิ้วครึ่ง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หนักหน่วงมากใช่ไหมครับ.. เอาเป็นว่า ตอนจะสมัครจริงๆ ไฟในการเตรียมเอกสารมันจะพลุ่กพล่านยิ่งกว่าเตาหมูกระทะที่โชดช่วง ทุกอย่างจะต้องโอเคครับ
สู้ๆ 55555

ระบบของทุน
ทุนจะมีสองรอบครับ รอบสมัคร และรอบสัมภาษณ์ (ในใบสมัครจะมีให้เลือกมหาวิทยาลัยและเมืองด้วยครับ ซึ่งถ้าเราติดจะได้ไปเรียนในหนึ่งในที่เราลงไว้)
* รอบสมัคร บางคนอาจจะต้องเพิ่มเอกสารบางอย่างเข้าไป เช่น toefl เป็นต้นครับ สำหรับโปรแกรมที่จะต้องดำเนินเป็นภาษาอังกฤษ
** และถึงแม้ว่าจะได้เรียนเป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษ ทุกคนจะต้องได้เรียนปรับภาษาตุรกีก่อนหนึ่งปีครับ

คัดเลือกจากอะไร ?
        อย่างที่แน่ๆเลยครับ ว่าเกรด ค่อนข้างสำคัญ เพราะจะต้องมีอย่างต่ำเป็นเปอร์เซ็นที่เค้ากำหนดไว้ สิ่งที่เค้าพิจารณาด้วยเห็นจะเป็นกิจกรรมนอกเวลาของเราครับ ไม่ว่าจะเป็นจิตอาสา การแข่งขัน หรือแม้กระทั่ง ยามว่าง เล่นกีต้าร์ ก็ใส่เข้าไปได้ครับ ซึ่งกิจกรรมพวกนี้จะต้องอัพโหลดเกียรติบัตรลงระบบใบสมัครออนไลน์เค้าด้วย รวมถึงนำมาให้เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ทุนได้เชยชมด้วยอีกทีครับ แนะนำว่ากิจกรรมควรจะเป็นพวกตัวพีคๆ เด่นๆ อย่าให้มันมีระยะเวลานานเกินไป เช่นประกวดนิทานตอนประถม ก็อาจจะใช้ไม่ได้ครับ 5555 ตอนที่ผมใส่ลงจะเป็นกิจกรรมที่ได้ไปดูงานที่ต่างประเทศ กิจกรรมการแข่งขันโต้วาทีเป็นต้นครับ กิจกรรมพวกนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเรา fit in ในแผนการเรียนของเรามากแค่ไหนครับผม
        อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับ คือจดหมายแนะนำ หลายๆทุน หลายๆที่ จะมีจำนวนที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับทุนนี้ ต้องการ reference letter เพียงหนึ่งครับ ตัวผมเองให้ professer ของโครงการที่ผมไปดูงานมา เขียนให้ครับ มันเลยดูเลิศๆหน่อย เพราะจ่าหัวไปเป็นตราขององค์การสหประชาชาติ ฮ่าๆ

เมื่อสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จะต้องทำ คือ รอ ครับ!!! คำนิยามของทุนนี้สำหรับเด็กทุนทุกคนที่ผ่านมา ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกัน คือ Turkey scholarship is all about waiting. นั่นคือรอไปเถอะครับ รีบให้ตายก็ไม่เร่งให้ 5555 timeline ของทุนนั้น เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาเป็นต้นไปครับ และแถ่นแทนแท๊นนนน นี่คือจดหมายเชิญไปสัมภาษณ์นะเองงงงงง



โอ้โห้ย มันน่าตื่นเต้นมาก ตอนนั้นกำลังกินข้าวอยู่ หยุดกินแล้วดิ้นเลย ปลื้มปริ่มอิ่มใจม๊าก

สัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง?

        หัวข้อนี้แหละครับ ที่ผมตามหาแทบตายก่อนไปสัมภาษณ์ แต่ดั๊นนน ไม่ค่อยมีคนรีวิวไว้ซะนี่ มาครับ ผมจะเปิดโปงวงการนี้เอง วะฮะฮ่า ในการสัมภาษณ์นั้น เจ้าหน้าที่จะบินตรงจาก เทอร์คี (with british accent) มาลงกรุงเทพ เพื่อนั่งสัมภาษณ์เราตัวต่อตัวที่สถานทูตเลยครับ ตอนนั้นเนี่ย กรรมการที่มา มีสามท่านด้วยกัน ผู้หญิงหนึ่งคนสวยมาก และผู้ชายอีกสองคนครับ หล่อแบบโตๆกันแล้ว 5555 ต้องบอกก่อนครับว่า เนื่องจากในอีเมลล์เชิญสัมภาษณ์บอกอย่างชัดเจนว่าเราต้องนำเอกสารที่อัพโหลดไป มาอวดด้วย แต่ดั๊นนน ด้วยความที่เป็นหนุ่มขี้ลืมตั้งแต่เรียนอนุบาลสวนสยาม ก็ยังลืมครับ ลืมไปเป็นปึกเลย เดินเข้าไปตัวปล่าวๆ พร้อมน้อมรับชะตากรรม ว่าเอาวะ จะคัดออกเพราะไม่มีเอกสารก็เอาเลย ขอพิสูจน์ตัวเองด้วยวาทะ! จัดมาเล๊ยยยยยย!
        และเค้าก็ถามหาจริงๆ บอกว่าจะเอาเอกสารให้ได้ ให้กลับบ้านไปเอา ผมก็บอกไปว่า บ้านผมไกลครับ เค้าก็เงียบ พยักหน้า แล้วเริ่มสัมภาษณ์ทันที คำถามช่วงสัมภาษณ์จัดหนักมากครับ เปิดตัวด้วยความนอบน้อม Introduce yourself please? โอ่มายก๊อด โซซิมเปิ้ลอ่ะะะะ ผมก็จัดไปครับ ตอบเข้าข้างเอกสารและประสบการณ์สุดๆ แนวๆ เชื่อว่าการสื่อสารคือกุญแจสู่การพัฒนาประเทศ และการสื่อสาร คือตัวของผม บลาๆ (พูดเสร็จก็คิดในใจ ว่าเลิศมากครับลูก) เค้าถามต่อครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับช้อยส์ที่เราเลือกไว้ เค้าก็ถามว่าทำไมถึงเลือกอะไรพวกนี้บลาๆ ไปครับ เราก็ตอบฉะฉาน ยิ้มบ้างถ้ามีมุก ถ้าเรื่องที่ต้องหน้ามึนก็ไม่ได้ยิ้มครับ เป็นตัวของตัวเอง ตามธรรมชาติตัวเอง คำถามจะลึกลงเรื่อยๆ ผมเจอคำถามนึงว่า rather than human rights protection, what else could be a significant factor to build the world peace .... ผมอึ้งไปเลยครับ ไม่ได้เอาเอกสารมาแล้วจะมาลงที่ผมงี้ไม่ได้นะ ก็ตอบกลับไปเป็นประเด็นๆไปครับ เรื่องตลกคือ ผมเป็นคนที่พูดมาก และยังไม่ทันได้พูดมาก ไม่จบ แย่งกันถามแล้วครับ กรรมการอยากถามเยอะม๊าก เปรียบเหมือนผมเป็น ปธน. อะไรยังงั้น 5555 และเค้าก็ปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่า Can you tell me about the members of security council? ผม blank แล้วครับตอนนั้น เพราะช็อคเหลือเกินแต่ละคำถาม มีแต่พีคๆ บอกตรงๆเลยครับตอนนั้น ผมลืม! เลยตอบไปว่า I DON'T KNOW จ้าาาา peaceful กันไปตามระเบียบเนาะ

หลังจากสอบสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วก็อย่างว่าครับ it's al about waiting for Turkey ฮ่าๆๆ รอกันไปครับ รอกันจนท้อ จนจะเลิกรอ ไปขายไส้กรอกแทน จะสนุกกว่า (เอ้ะ ?) เดือนครึ่งผ่านไป ผู้สมัครทั่วโลกก็ตั้งคำถามครับ ว่าอ่าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า ไหนบอกจะประกาศภายในหนึ่งเดือน เอาไงคุณ!
.
.
.
และแล้ว วันนี้ก็มาถึงครับ การแจ้งเตือนหน้าโทรศัพท์มันฟ้องว่า มีคนส่งอีเมลล์มานะเว้ย จะเปิดบ่เปิด จ่าหน้าว่า Scholarship Interview Result... โอ้ยโห้ย ช่วยลูกด้วย อะไรมันจะทำให้ลุ้นได้ทุกขั้นตอน มาจ้ะ เปิดเลย !



โอ้วหม่ายก๊อด สวีทฮาร์ท ไอดิ๊ดอิท!!!!
.
.
.
นี่แหละครับ ขั้นตอนของทุน 5555 ซึ่งหลังจากนี้เนี่ย จะเป็นช่วงที่พวกเราทุกคนจะต้องวิ่งงง แปลเอกสารเป็นภาษาตุรกีเพื่อทำวีซ่า ซึ่งราคาแพงพอตัวครับ ไหนจะต้องเอาเอกสารไปให้สถานทูตปั๊มรับรองการแปลอีก เอ้อ แพงกันขนลุกขนชันเลย ต้องขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ ในกลุ่มเด็กทุนตุรกีมากๆครับ รวมถึงรุ่นพี่ที่อยู่ตุรกีแล้ว คอยชี้แนะเรื่องเอกสารกันได้อย่างมืออาชีพ ขอบคุณมากคร้าบ

รายละเอียดอื่นๆจะมาโพสเพิ่มเรื่อยๆนะครับ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับพี่ๆน้องๆปีต่อๆไป จะเปิดเข้ามาอ่าน ไม่มีอะไรยากเลยครับ ถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ ขอให้ตั้งใจในการทำทุกๆสิ่งนะครับ ยิ้ม

ปล. มีอะไรแก้ไขบอกผมได้เด้อ หรือถามอะไรไว้ด้านล่างได้เลยนะครับบบ <3
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่