เพื่อนฝากมาช่วยโพสต์ถามค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ !…… ดิฉันโอนเงินซื้อของแล้วแต่ไม่ได้ของค่ะ
20 กันยายน 2559มีชายคนหนึ่งโทรเข้ามือถือของดิฉัน สมมุติว่าชื่อนายทอง (เบอร์ของเขาคือ 099-024-xxxx) นายทองถามดิฉันว่ารับซื้อเหรียญและแบงค์ใช่ไหม ดิฉันตอบไปว่าก็มีรับซื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น(ทางfacebook) ถ้าต้องการขายจำนวนมากก็คงไม่รับเพราะทุนมีจำกัด แล้วคุณได้เบอร์โทรของดิฉันมาจากไหน เขาก็บอกว่าได้จากรายชื่อโทรศัพท์? แล้วก็เล่าต่อไปอีกว่าอดีตพ่อตาของเขาเป็นนักสะสมเหรียญและแบงค์ อยู่จังหวัดบึงกาฬ เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 10 กันยายน 59 และอดีตแม่ยายต้องการขายเหรียญและแบงค์ดังกล่าวทั้งหมด ตอนนี้มีคนมาเสนอราคาไว้แล้วแต่จะซื้อบางส่วนซึ่งบางรายการดิฉันเห็นว่าเขาให้ราคาต่ำมาก จึงถามไปว่าทำไมไม่ไปขายทางอินเตอร์เน็ตจะได้ราคาสูงกว่านี้มาก นายทองตอบว่าเขาทำไม่เป็นไม่เคยใช้ กล้องก็ไม่มี โทรศัพท์ก็ใช้ซัมซุงรุ่นเก่าใช้กดปุ่มอยู่เลย ดิฉันฟังแล้วก็เชื่อได้ไงก็ไม่ทราบ จึงให้ราคาสูงกว่าคนนั้นในบางรายการ นายทองบอกต่อไปอีกว่าถ้าอดีตแม่ยายตกลงขาย เขาก็จะเดินทางนำของมาส่งให้ที่ กทม. แต่อยากขายให้รายอื่น ๆ ด้วย จะได้ขายหมดไว ๆ โดยตั้งใจจะออกเดินทางจากบึงกาฬในคืนวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 59 มาถึง กทม.ในเช้าวันเสาร์ ดิฉันจึงบอกรายการที่ต้องการซื้อไป แล้วนายทองก็บอกว่าขอไปบอกแม่ยายก่อนแล้วจะโทรมาอีกครั้งในตอนเช้าวันที่ 21 กันยายน 59 รวมจำนวนครั้งที่เขาโทรมาในวันที่ 20 คือ 8 ครั้ง (ครั้งแรกตั้งแต่เวลา 15:19 น.จนถึงครั้งที่ 8 เวลา 22:10 น. โทรมาเป็นช่วง ๆ นะคะ)
21 กันยายน 2559นายทองก็โทรมา 3 ครั้ง แต่ดิฉันไม่ได้รับสายเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องที่บ้านน้ำท่วม ต้องวิดน้ำจนไม่ได้สนใจโทรศัพท์เลยทั้งวัน และต้องดูแลพี่ชายพิการอีกด้วย เหนื่อยมาก ๆ เลย อีกเหตุผลนึงก็คือดูไม่เป็นด้วยว่าสายที่ไม่ได้รับนั้นดูอย่างไร แต่ตอนนี้ดูเป็นแล้วค่ะ
22 กันยายน 2559 ดิฉันเห็นนายทองเงียบไปไม่เห็นโทรมายืนยันการขายเลย จากที่เคยคุยกันไว้เขาบอกว่าจะเข้า กทม. วันศุกร์ที่ 23 เพื่อมาส่งของให้กับลูกค้ารายแรก ดิฉันก็อยากรู้ว่าจะได้ของด้วยหรือไม่ ก็เลยโทรไปหานายทองครั้งนึงเวลา 15:26 น. แต่นายทองไม่ได้รับสาย แล้วเขาก็โทรกลับมาตอน 16:30น. แต่ดิฉันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เพราะเพลียจากการวิดน้ำมาสองสามวันแล้วได้นอนแค่ชั่วโมงครึ่งเอง เลยหลับสนิทจริง ๆ (ยังต้องปล่อยให้พี่ชายพิการนอนปัสสาวะราดเลย) ขอโทษด้วยนะคะที่พูดตรง ๆ
23 กันยายน 2559ดิฉันโทรไปหานายทองอีกครั้งตอน 13:19 น. เขาก็บอกว่าได้โทรหาดิฉันสามครั้งเมื่อวันที่ 21 แต่ไม่เห็นติดต่อกลับ นายทองก็เลยขายของให้รายแรกไปเกือบหมดแล้ว ไปส่งของให้เขามาสามครั้งแล้วด้วย โดยส่ง EMS รับประกัน ไม่ต้องเดินทางเข้ามา กทม.แล้ว ดิฉันก็ถามว่าแล้วผู้ซื้อรายนั้นจ่ายเงินมาครบแล้วเหรอ นายทองบอกว่ายังไม่ครบ เขาจ่ายเงินมัดจำมาก่อนแล้วก็ส่งของให้ ถ้าได้รับของแล้วก็จะโอนส่วนที่เหลือของแต่ละ lot มาให้ ดิฉันก็ถามว่าจะขอซื้อตามเงื่อนไขเดียวกับผู้ซื้อรายแรกนั้นได้หรือไม่ ถ้าจะให้จ่ายเต็มจำนวนก็ต้องเอาของมาส่งให้ที่ กทม. นายทองบอกว่าไม่คุ้มหรอกที่จะเดินทางไป ดิฉันก็ถามไปว่าแล้วตอนแรกทำไมคิดจะมา กทม. ล่ะ เขาบอกว่าก็ตอนนี้ของส่วนใหญ่ส่งให้รายแรกไปแล้ว ดิฉันก็บอกว่าถ้ารวมยอดซื้อได้ถึงแสนจะมาไหม เขาก็บอกว่าขอส่งทางไปรษณีย์สะดวกกว่า ดิฉันก็บอกว่างั้นขอซื้อตามเงื่อนไขแบบรายแรก นายทองก็ตกลง แล้วเขาก็ขอที่อยู่ของดิฉันไปเพื่อใช้ในการส่งของ และนายทองบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีสมมุติชื่อนางสุ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริงไว้ก่อน) ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้ โลตัส แต่ไม่ยอมบอกจังหวัด (เขาบอกว่าไม่จำเป็น) เลขที่บัญชี 687-0-xxxx นายทองบอกอีกว่าเป็นบัญชีของอดีตแม่ยาย เขาทำหน้าที่ขาย ส่วนเงินต้องโอนให้อดีตแม่ยาย
ดิฉันก็โอนเงินผ่านทางอินเตอร์เน็ตไปเข้าบัญชีดังกล่าวเวลาประมาณ 14:29 น. ซึ่งเงินนี้เป็นเงินจากบัญชีกดเงินสด ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 28% ต่อปี และเสียค่าโอน 25 บาท เมื่อโอนเสร็จก็โทรไปบอกนายทองว่าโอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว เขาก็บอกว่าแม่ยายเขาได้รับเงินแล้ว และจะไปส่งของให้วันนี้
เวลา 16:09 น. นายทองก็โทรมาบอกว่าแม่ยายเขาไปส่งของให้แล้ว คืนนี้เขาจะส่งเลข EMS มาให้ทาง SMS ของจะถึงวันที่ 24 กันยายน 59 ค่าส่ง EMS รับประกัน รวมค่าใช้จ่ายในการส่งห้าร้อยกว่าบาท
24 กันยายน 2559ช่วงเช้าดิฉันเช็ค SMS ดูก็ไม่เห็นมีข้อความที่มาจากนายทองเลย จึงได้โทรไปหาเขา (เบอร์ของนายทอง : 099-024-xxxx) แต่ไม่สามารถติดต่อได้ซะแล้ว ได้ยินแต่เสียงพูดว่า “ ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ……” เป็นแบบนี้ทั้งวันเลย ดิฉันก็เริ่มกังวล แต่ก็คอยจนค่ำว่าจะมี EMS มาส่งไหม แต่ก็ไม่มีอะไรมาเลย ดิฉันจึงโทรไปที่ Call Center ของธนาคารสแตนดาร์ดฯ เขาก็แนะนำว่าให้ไปแจ้งความแล้วนำใบแจ้งความนั้นมายื่นที่ธนาคารสแตนดาร์ดฯ หรือจะไปยื่นที่ธนาคารกรุงเทพสาขาใดก็ได้
25 กันยายน 2559ดิฉันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจพระโขนง (ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านก็ต้องพาพี่ชายพิการไปด้วยเพราะไม่มีเงินจ้างใครมาดูแลแทน) แล้วก็นำใบแจ้งความไปยื่นเรื่องที่ธนาคารกรุงเทพ ทางพนักงานฯ ก็บอกว่าต้องรอการตรวจสอบซึ่งต้องใช้เวลาอาจถึง 30 วัน ดิฉันก็ถามไปว่าทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ดิฉันได้รับความเดือดร้อนมากขอให้เร่งดำเนินการให้หน่อยได้ไหมเนื่องจากเงินจำนวนนี้มันมีดอกเบี้ยจ่ายซึ่งเดินทุกวัน ทางพนักงานก็ตอบว่าจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเร่งดำเนินการให้ ดิฉันถามพนักงานของธนาคารว่าบัญชีนี้ปิดไปหรือยัง เขาก็ตอบมาว่ายังไม่ปิด บัญชียังเดินอยู่ และเป็นบัญชีอยู่ในจังหวัดขอนแก่น มิใช่บึงกาฬ
ดิฉันจึงกลับมาที่สถานีตำรวจอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหนังสือสั่งอายัดบัญชีชื่อนางสุที่ดิฉันโอนเงินเข้าไป แล้วก็กลับมายังธนาคารกรุงเทพอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอให้ธนาคารกรุงเทพดำเนินการตรวจสอบและอายัดบัญชีดังกล่าว และให้นางสุคืนเงินของดิฉันมาพร้อมดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างสถานีตำรวจและธนาคาร หลายรอบ ดิฉันก็ต้องพาพี่ชายไปด้วยตลอด สงสารพี่ชายมากเลยที่ต้องได้รับความลำบากไปด้วยอีกคนเพราะมิจฉาชีพกลุ่มนี้
ดิฉันขอถามผู้รู้ว่า ระหว่างนี้ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีถึงจะได้เงินคืน เงินต้นก็ต้องจ่ายคืนธนาคาร ดอกเบี้ยก็ต้องจ่าย ตอนนี้ดอกเบี้ยก็เดินแล้วทุกวันตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 59 ถึงปัจจุบัน แล้วต้องคอยถึงเมื่อไหร่คะถึงจะได้เงินคืน ดิฉันเสียใจและเครียดมาก ดิฉันออกจากงานมาดูแลพี่ชายพิการได้ 15 เดือนแล้ว ไม่มีรายได้ประจำ เพื่อนแนะนำให้ขายของทาง facebook ดิฉันก็ขายหนังสือและเหรียญ+แบงค์ แต่ยังขายได้ไม่เท่าไหร่เลย ก็มาเจอคนหลอกลวงกลุ่มนี้ทำให้เป็นหนี้เพิ่มอีก ดิฉันขอดำเนินคดีกับคนเลวกลุ่มนี้จนถึงที่สุด พร้อมแล้วค่ะในเมื่องานไม่มี เงินไม่มี แถมยังต้องมีหนี้ แบบนี้สู้ไม่ถอยแล้วล่ะ ขอผู้รู้เมตตาช่วยแนะนำด่วนด้วยเถอะนะคะว่าต้องทำอย่างไรดี ดิฉันขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ !…… ดิฉันโอนเงินซื้อของแล้วแต่ไม่ได้ของค่ะ แจ้งความแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า
ช่วยด้วยค่ะ !…… ดิฉันโอนเงินซื้อของแล้วแต่ไม่ได้ของค่ะ
20 กันยายน 2559มีชายคนหนึ่งโทรเข้ามือถือของดิฉัน สมมุติว่าชื่อนายทอง (เบอร์ของเขาคือ 099-024-xxxx) นายทองถามดิฉันว่ารับซื้อเหรียญและแบงค์ใช่ไหม ดิฉันตอบไปว่าก็มีรับซื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น(ทางfacebook) ถ้าต้องการขายจำนวนมากก็คงไม่รับเพราะทุนมีจำกัด แล้วคุณได้เบอร์โทรของดิฉันมาจากไหน เขาก็บอกว่าได้จากรายชื่อโทรศัพท์? แล้วก็เล่าต่อไปอีกว่าอดีตพ่อตาของเขาเป็นนักสะสมเหรียญและแบงค์ อยู่จังหวัดบึงกาฬ เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 10 กันยายน 59 และอดีตแม่ยายต้องการขายเหรียญและแบงค์ดังกล่าวทั้งหมด ตอนนี้มีคนมาเสนอราคาไว้แล้วแต่จะซื้อบางส่วนซึ่งบางรายการดิฉันเห็นว่าเขาให้ราคาต่ำมาก จึงถามไปว่าทำไมไม่ไปขายทางอินเตอร์เน็ตจะได้ราคาสูงกว่านี้มาก นายทองตอบว่าเขาทำไม่เป็นไม่เคยใช้ กล้องก็ไม่มี โทรศัพท์ก็ใช้ซัมซุงรุ่นเก่าใช้กดปุ่มอยู่เลย ดิฉันฟังแล้วก็เชื่อได้ไงก็ไม่ทราบ จึงให้ราคาสูงกว่าคนนั้นในบางรายการ นายทองบอกต่อไปอีกว่าถ้าอดีตแม่ยายตกลงขาย เขาก็จะเดินทางนำของมาส่งให้ที่ กทม. แต่อยากขายให้รายอื่น ๆ ด้วย จะได้ขายหมดไว ๆ โดยตั้งใจจะออกเดินทางจากบึงกาฬในคืนวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 59 มาถึง กทม.ในเช้าวันเสาร์ ดิฉันจึงบอกรายการที่ต้องการซื้อไป แล้วนายทองก็บอกว่าขอไปบอกแม่ยายก่อนแล้วจะโทรมาอีกครั้งในตอนเช้าวันที่ 21 กันยายน 59 รวมจำนวนครั้งที่เขาโทรมาในวันที่ 20 คือ 8 ครั้ง (ครั้งแรกตั้งแต่เวลา 15:19 น.จนถึงครั้งที่ 8 เวลา 22:10 น. โทรมาเป็นช่วง ๆ นะคะ)
21 กันยายน 2559นายทองก็โทรมา 3 ครั้ง แต่ดิฉันไม่ได้รับสายเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องที่บ้านน้ำท่วม ต้องวิดน้ำจนไม่ได้สนใจโทรศัพท์เลยทั้งวัน และต้องดูแลพี่ชายพิการอีกด้วย เหนื่อยมาก ๆ เลย อีกเหตุผลนึงก็คือดูไม่เป็นด้วยว่าสายที่ไม่ได้รับนั้นดูอย่างไร แต่ตอนนี้ดูเป็นแล้วค่ะ
22 กันยายน 2559 ดิฉันเห็นนายทองเงียบไปไม่เห็นโทรมายืนยันการขายเลย จากที่เคยคุยกันไว้เขาบอกว่าจะเข้า กทม. วันศุกร์ที่ 23 เพื่อมาส่งของให้กับลูกค้ารายแรก ดิฉันก็อยากรู้ว่าจะได้ของด้วยหรือไม่ ก็เลยโทรไปหานายทองครั้งนึงเวลา 15:26 น. แต่นายทองไม่ได้รับสาย แล้วเขาก็โทรกลับมาตอน 16:30น. แต่ดิฉันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เพราะเพลียจากการวิดน้ำมาสองสามวันแล้วได้นอนแค่ชั่วโมงครึ่งเอง เลยหลับสนิทจริง ๆ (ยังต้องปล่อยให้พี่ชายพิการนอนปัสสาวะราดเลย) ขอโทษด้วยนะคะที่พูดตรง ๆ
23 กันยายน 2559ดิฉันโทรไปหานายทองอีกครั้งตอน 13:19 น. เขาก็บอกว่าได้โทรหาดิฉันสามครั้งเมื่อวันที่ 21 แต่ไม่เห็นติดต่อกลับ นายทองก็เลยขายของให้รายแรกไปเกือบหมดแล้ว ไปส่งของให้เขามาสามครั้งแล้วด้วย โดยส่ง EMS รับประกัน ไม่ต้องเดินทางเข้ามา กทม.แล้ว ดิฉันก็ถามว่าแล้วผู้ซื้อรายนั้นจ่ายเงินมาครบแล้วเหรอ นายทองบอกว่ายังไม่ครบ เขาจ่ายเงินมัดจำมาก่อนแล้วก็ส่งของให้ ถ้าได้รับของแล้วก็จะโอนส่วนที่เหลือของแต่ละ lot มาให้ ดิฉันก็ถามว่าจะขอซื้อตามเงื่อนไขเดียวกับผู้ซื้อรายแรกนั้นได้หรือไม่ ถ้าจะให้จ่ายเต็มจำนวนก็ต้องเอาของมาส่งให้ที่ กทม. นายทองบอกว่าไม่คุ้มหรอกที่จะเดินทางไป ดิฉันก็ถามไปว่าแล้วตอนแรกทำไมคิดจะมา กทม. ล่ะ เขาบอกว่าก็ตอนนี้ของส่วนใหญ่ส่งให้รายแรกไปแล้ว ดิฉันก็บอกว่าถ้ารวมยอดซื้อได้ถึงแสนจะมาไหม เขาก็บอกว่าขอส่งทางไปรษณีย์สะดวกกว่า ดิฉันก็บอกว่างั้นขอซื้อตามเงื่อนไขแบบรายแรก นายทองก็ตกลง แล้วเขาก็ขอที่อยู่ของดิฉันไปเพื่อใช้ในการส่งของ และนายทองบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีสมมุติชื่อนางสุ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริงไว้ก่อน) ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้ โลตัส แต่ไม่ยอมบอกจังหวัด (เขาบอกว่าไม่จำเป็น) เลขที่บัญชี 687-0-xxxx นายทองบอกอีกว่าเป็นบัญชีของอดีตแม่ยาย เขาทำหน้าที่ขาย ส่วนเงินต้องโอนให้อดีตแม่ยาย
ดิฉันก็โอนเงินผ่านทางอินเตอร์เน็ตไปเข้าบัญชีดังกล่าวเวลาประมาณ 14:29 น. ซึ่งเงินนี้เป็นเงินจากบัญชีกดเงินสด ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 28% ต่อปี และเสียค่าโอน 25 บาท เมื่อโอนเสร็จก็โทรไปบอกนายทองว่าโอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว เขาก็บอกว่าแม่ยายเขาได้รับเงินแล้ว และจะไปส่งของให้วันนี้
เวลา 16:09 น. นายทองก็โทรมาบอกว่าแม่ยายเขาไปส่งของให้แล้ว คืนนี้เขาจะส่งเลข EMS มาให้ทาง SMS ของจะถึงวันที่ 24 กันยายน 59 ค่าส่ง EMS รับประกัน รวมค่าใช้จ่ายในการส่งห้าร้อยกว่าบาท
24 กันยายน 2559ช่วงเช้าดิฉันเช็ค SMS ดูก็ไม่เห็นมีข้อความที่มาจากนายทองเลย จึงได้โทรไปหาเขา (เบอร์ของนายทอง : 099-024-xxxx) แต่ไม่สามารถติดต่อได้ซะแล้ว ได้ยินแต่เสียงพูดว่า “ ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ……” เป็นแบบนี้ทั้งวันเลย ดิฉันก็เริ่มกังวล แต่ก็คอยจนค่ำว่าจะมี EMS มาส่งไหม แต่ก็ไม่มีอะไรมาเลย ดิฉันจึงโทรไปที่ Call Center ของธนาคารสแตนดาร์ดฯ เขาก็แนะนำว่าให้ไปแจ้งความแล้วนำใบแจ้งความนั้นมายื่นที่ธนาคารสแตนดาร์ดฯ หรือจะไปยื่นที่ธนาคารกรุงเทพสาขาใดก็ได้
25 กันยายน 2559ดิฉันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจพระโขนง (ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านก็ต้องพาพี่ชายพิการไปด้วยเพราะไม่มีเงินจ้างใครมาดูแลแทน) แล้วก็นำใบแจ้งความไปยื่นเรื่องที่ธนาคารกรุงเทพ ทางพนักงานฯ ก็บอกว่าต้องรอการตรวจสอบซึ่งต้องใช้เวลาอาจถึง 30 วัน ดิฉันก็ถามไปว่าทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ดิฉันได้รับความเดือดร้อนมากขอให้เร่งดำเนินการให้หน่อยได้ไหมเนื่องจากเงินจำนวนนี้มันมีดอกเบี้ยจ่ายซึ่งเดินทุกวัน ทางพนักงานก็ตอบว่าจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเร่งดำเนินการให้ ดิฉันถามพนักงานของธนาคารว่าบัญชีนี้ปิดไปหรือยัง เขาก็ตอบมาว่ายังไม่ปิด บัญชียังเดินอยู่ และเป็นบัญชีอยู่ในจังหวัดขอนแก่น มิใช่บึงกาฬ
ดิฉันจึงกลับมาที่สถานีตำรวจอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหนังสือสั่งอายัดบัญชีชื่อนางสุที่ดิฉันโอนเงินเข้าไป แล้วก็กลับมายังธนาคารกรุงเทพอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอให้ธนาคารกรุงเทพดำเนินการตรวจสอบและอายัดบัญชีดังกล่าว และให้นางสุคืนเงินของดิฉันมาพร้อมดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างสถานีตำรวจและธนาคาร หลายรอบ ดิฉันก็ต้องพาพี่ชายไปด้วยตลอด สงสารพี่ชายมากเลยที่ต้องได้รับความลำบากไปด้วยอีกคนเพราะมิจฉาชีพกลุ่มนี้
ดิฉันขอถามผู้รู้ว่า ระหว่างนี้ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีถึงจะได้เงินคืน เงินต้นก็ต้องจ่ายคืนธนาคาร ดอกเบี้ยก็ต้องจ่าย ตอนนี้ดอกเบี้ยก็เดินแล้วทุกวันตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 59 ถึงปัจจุบัน แล้วต้องคอยถึงเมื่อไหร่คะถึงจะได้เงินคืน ดิฉันเสียใจและเครียดมาก ดิฉันออกจากงานมาดูแลพี่ชายพิการได้ 15 เดือนแล้ว ไม่มีรายได้ประจำ เพื่อนแนะนำให้ขายของทาง facebook ดิฉันก็ขายหนังสือและเหรียญ+แบงค์ แต่ยังขายได้ไม่เท่าไหร่เลย ก็มาเจอคนหลอกลวงกลุ่มนี้ทำให้เป็นหนี้เพิ่มอีก ดิฉันขอดำเนินคดีกับคนเลวกลุ่มนี้จนถึงที่สุด พร้อมแล้วค่ะในเมื่องานไม่มี เงินไม่มี แถมยังต้องมีหนี้ แบบนี้สู้ไม่ถอยแล้วล่ะ ขอผู้รู้เมตตาช่วยแนะนำด่วนด้วยเถอะนะคะว่าต้องทำอย่างไรดี ดิฉันขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ