การเดินทาง การเตรียมตัว และแพลนการเดินเที่ยวบนภูกระดึง แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน
การเตรียมตัวก่อนขึ้นภูกระดึง สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ และท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม แบบอัพเดทล่าสุด ปี2559
แพลนเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน
วันแรก เดินขึ้นสู่ยอดเขา เดินไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เดินกลับที่พัก นอนเอาแรง
วันที่สอง ดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น สายๆเดินไปน้ำตกวังกวาง ย้อนกลับมาลานพระแก้ว เดินไปผาหมากดูก ไปตามเส้นมางริมผา ชมวิวผาต่างๆ ไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก เดินกลับที่พัก
วันที่สาม ตื่นเช้า เตรียมตัวกลับ สายๆเดินลงเขา
แพลนเที่ยวแบบ 4 วัน 3 คืน
วันแรก เดินขึ้นสู่ยอดเขา ถึงหลังแป เดินต่อกลับที่พัก นอนเอาแรง
วันที่สอง ดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ที่ผานกแอ่น สายๆเดินไปน้ำตกวังกวาง น้ำตกต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตะวันออกทั้งหมด ย้อนกลับมาลานพระแก้ว ไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เดินกลับที่พัก
วันที่สาม ตื่นเช้าดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น สำหรับใครที่พลาดในวันที่สอง สายๆเดินตามเส้นทางริมหน้าผา เริ่มจากลานพระแก้ว ผาหมากดูก เดินตามริมผา ชมวิวผาต่างๆ ไปสิ้นสุดที่ผาหล่มสัก รอชมพระอาทิตย์ตก เดินกลับที่พัก
วันที่สี่ ตื่นเช้า เตรียมตัวกลับ สายๆเดินลงเขา
กดติดตาม เรื่องราว รีวิวใหม่ได้ที่ facebook fanpage
https://www.facebook.com/thiseattheworld/ นะครับ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี
อัตราบัตรค่าบริการ ให้ความสะดวกต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง (บัตรเข้าอุทยาน)
จำหน่ายบัตร ตั้งแต่เวลา 07:00น.-13:30น. หากเลยเวลานี้ ทางอุทยานฯ จะไม่จำหน่ายตั๋วให้กับท่าน และอนุญาต ให้ขึ้นภูระดึงได้ไม่เกินเวลา 14:00น. ของทุกวัน
เด็ก 20 บาท
ผู้ใหญ่ 40 บาท
และ ชำระค่าขอใช้พื้นที่กางเต็นท์ ในกรณีนำเต็นท์มาเอง 30 บาท/คน/คืน หากจองบ้านพัก และจองเต็นท์ของทางอุทยานฯ มา ไม่ต้องชำระค่าขอใช้พื้นที่ในส่วนนี้
ราคาเครื่องนอนที่มีให้เช่าบนภูกระดึง (ติดต่อขอเช่าได้ที่ทำการอุทยานฯ ศูนย์วังกวางด้านบนภูกระดึง)
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่ม 30 บาท/คืน
เว็บไซต์สำหรับจองเต้นท์และบ้านพัก
http://nps.dnp.go.th/
ส่วนการจองบ้านพัก จองได้เฉพาะทางเว็บไซต์เท่านั้น
บ้านพักบนภูกระดึงมีจำนวนจำกัด กรมอุทยานอนุญาตให้จองล่วงหน้าได้ 60 วันผ่านทางเว็บไซต์ของกรมอุทยาน
การเดินทาง จากกรุงเทพ สู่ภูกระดึง
การเดินทางมาภูกระดึงด้วยรถทัวร์
สามารถขึ้นรถได้ที่หมอชิตใหม่ มีรถอยู่หลายบริษัทให้บริการ เช่น แอร์เมืองเลย /ภูกระดึงทัวร์ / บขส. /ชุมแพทัวร์
แนะนำเที่ยวรถ รอบ 21.10 น./ 21.30 น. / 22.10 น. รถใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงโดยประมาณ จะถึงประมาณ ตี 4 ตี 5 เช้าพอดี
นั่งมาลงที่ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวแดง (จอดอยู่ข้างๆร้านเจ้กิม หน้าป้อมตำรวจ ) มายังอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อัตราค่าบริการรถสองแถวแดง อยู่ที่คนละ 30 บาท (นั่งเต็ม 10 คน) หากไม่เต็ม 10 คน สามารถเหมาได้ในราคาเที่ยวละ 300 บาท
ขากลับนั่งรถสองแถวแดง มาลงหน้าร้านเจ้กิม เพื่อรอขึ้นรถกลับกรุงเทพ
การเดินทางโดยเครื่องบิน
ขามา ขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมือง มาลงสนามบินเลย (แนะนำไฟท์เช้านกแอร์ เครื่องขึ้น 08:40 เครื่องลง 09:50
) เพราะถ้ามาไฟท์เที่ยง จะมาไม่ทันเวลาที่ทางอุทยานกำหนดให้ขึ้นภู คือ 14.00น. ลงเครื่องที่สนามบินเลย ข้ามฝั่ง รอรถทัวร์ ขอนแก่น -เลย จะมาทุกๆ 30 นาที รถจะเข้ามาจอดที่หน้าอำเภอภูกระดึง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถสามล้อ หรือ มอเตอร์ไซต์ เข้าที่ทำการ
ขากลับ ให้ลงจากภูแต่เช้า ถึงด้านล่างก่อนเที่ยง (ไฟท์ 15.50น.นกแอร์) ถึงด้านล่าง ก่อนบ่าย 3 (ไฟท์ 18.00น.แอร์เอเชียร์)
จากนั้นต่อรถสองแถวแดงที่จอดรอหน้าที่ทำการ ไปลง หน้าตลาดภูกระดึง ต่อรถ ขอนแก่น -เลย (ด้านหน้ารถเขียนว่าไปเมืองเลย) รถมาทุกๆ 30 นาที นั่งไปลงสนามบินเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ รถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปสนามบิน (ไปเมืองเลย) หมดเวลา 20:30น.
ไม่แนะนำให้ฝากสัมภาระมากับลูกหาบ เพราะบางทีลูกหาบลงมาช้า จะไม่ทันเครื่อง ให้แบกสัมภาระเอง แต่ถ้าจะฝากลูกหาบลงต้องนำของมาให้ลูกหาบแต่เช้ามืด เพื่อจะได้ลงแต่เช้า
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. รองเท้า ถุงเท้า ควรเป็นรองเท้าที่ใส่สบายเท้า เดินไกลๆได้ ไม่กัดเท้า
- ถ้าไป
ช่วงฤดูฝน ตุลาคม (แนะนำรองเท้าที่มีดอกยางลึกๆ และแห้งไวครับ เพราะจะทำให้กันลื่นได้)
- ถ้าไปช่วงอื่น เป็นรองเท้าที่ใส่สบายและเคยใส่มาสักระยะแล้ว ไม่ควรเป็นรองเท้าใหม่เพราะอาจโดนรองเท้ากัดได้
2. ยา สำหรับใครที่มีโรคประจำตัว และคสรเตรียมยาสามัญประจำบ้านเช่น พารา ยาแก้แพ้ ยาแก้ท้องร่วง ยาดมยาหม่อง ไปด้วย เพราะข้างบนอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
3. ยานวด ยาคลายกล้ามเนื้อ นอจิสิค หรือ ยี่ห้ออื่นก็ได้ครับแนะนำยาสเปรย์ที่พวกนักกีฬาใช้กันหาซื้อได้ที่โลตัสครับ กระป๋องสีน้ำๆ หรือสีเหลือง ก็ได้เช่นกัน ถ้าหาไม่เจอลองถามเค้าว่าสเปรย์คลายกล้ามเนื้อครับ
4. ไฟฉาย อันนี้ซื้อควรมีสัก 2-3 อันก็ดีครับ ไว้ในเต็นท์สักอันห้อยไว้เผื่อเวลาจะหาของในเต็นท์ และใช้เวลาเดินกลับจากดูอาทิตย์จากาหล่มสัก
5. รองเท้าแตะไว้ใส่ตอนอยู่ที่ศูนย์วังกวางเวลาไปเข้าห้องน้ำหรือไปร้านค้าครับ เป็นการพักเท้าไปในตัว
6. หมวก ไว้ใส่กันแดดครับ แดดข้างบนแรงแต่อากาศเย็นเพราะมีลมพัดมาตลอดครับ
7. ปลอกแขน หรือ เสื้อแขนยาว (ถ้าไม่กลัวแดด แขนสั้น สบายๆ)
8. เสื้อกันหนาว ถ้าไปช่วงหน้าหนาวเอาแบบหนา ที่มี Hood
ก็ดีครับ ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวอากาศกลางคืนบนภูจะเย็นตลอดฤดูกาล ก็เอาแบบบางๆ ไป
9. ทิชชูเปียกและแห้ง เผื่อไว้ข้าศึกมากลางทางครับ
10.อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ บนภูกระดึงใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บไว้จากแสงแดดตอนกลางวัน อุทยานเปิดไฟฟ้าให้ใช้เพียงจาก 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มเท่านั้น การชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราต้องไปชาร์จที่ศูนย์บริการ (มีค่าบริการ) หรือ ขอชาร์จจากร้านค้าที่สนิทกันในบ้านพักไม่มีเต้าเสียบให้ต่อชาร์จ มีเพียงไฟฟ้าแสงสว่างเท่านั้น ดังนั้น นำอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ไปเท่าที่จำเป็น บนภูกระดึงมีสัญญาณเครือข่าย 3G ทุกเครือข่ายครับ
กล้องถ่ายภาพพร้อมอุปกรณ์
POWER BANK ที่ชาร์จแบตสำรองมือถือ
11. เสื้อกันฝน ร่ม สภาพอากาศบนภูไม่แน่นอนครับ เดี๋ยวก็ร้อน หนาว บางทีมีฝนมาให้เปียกเล่น
(สำหรับคนที่กลัวทาก)
1. ถุงกันทาก มีขายตามร้านค้าที่ทำการด้านล่าง ตามซำต่างๆ และ ตามร้านค้าบนภูกระดึง มีหลายแบบให้เลือก ราคาตามเนื้อผ้าและรวดลายครับ
- ถ้าไปช่วงตั้งแต่ปลาย พฤศจิกายน - เมษายน พื้นดินจะค่อยข้างแห้งแล้ว ทากอาจจะไม่ค่อยเจอหรือเจอน้อยมากครับ
2. สเปรย์ กันทาก อย่างเช่น ซอฟเฟล น้ำมันตะไคร้หอม ฉีดใส่ขาไว้กันทากเกาะ หรือโดนเกาะแล้วฉีดใส่ตัวทากเค้าจะหลุดไปเอง
สิ่งสำคัญมากกว่าการเตรียมของ คือ เตรียมความพร้อมร่างกายและจิตใจ ถ้าใจไหว ร่างกายก็ไหว
ขอบคุณข้อมูลจาก facebook กลุ่ม รักภูกระดึง
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว มาออกเดินทางไปพร้อมๆกันครับ
ครั้งนี้เป็นการออกเดินทางจากกรุงเทพ ด้วยรถทัวร์ และไปตัวคนดียว
แต่ได้นัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ไว้ที่ภูกระดึงนะครับ ดังนั้นการเดินขึ้นภูกระดึงครั้งนี้ มีทั้งหมด 6 คน
30 กันยายน 2559 ออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปภูกระดึง
จริงๆได้จองตั๋วไว้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนแล้ว เพราะกลัวรถเต็ม เป็นรถ บขส. VIP บอกว่าไปลงวังสะพุงตอนซื้อตั๋วครับ แต่ตอนขึ้นรถ ให้บอกพนักงานว่า ลงผานกเค้าร้านเจ๊กิมครับ รถจอดให้ทุกคัน
22.00 ถึงหมอชิตใหม่
ราคาตั๋ว 478 บาทครับ ปล. ใช้สิทธิ์ส่วนลดข้าราชการทหารครับ
เลือกที่นั่งชั้นล่างครับ ที่นั่งกว้าง นั่งสบาย ที่สำคัญคนน้อย เพราะต้องการนอนพักเอาแรงให้เต็มที่ เพื่อเดินขึ้นเขาครับครับ
22.45 น. รถออกจากหมอชิต จากนั้นก็หลับมาตลอดทาง ตื่นอีกทีก็ไกล้ถึงแล้ว
เวลา 06.35น. รถก็มาถึงผานกเค้าครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนลง เพราะจุดนี้คนลงเยอะมาก
ที่ร้านเจ๊กิม มีข้าวราดแกงครับ มีกาแฟสด และมีห้องน้ำบริการฟรี หรือใครจะจองตั๋วรถกลับกรุงเทพก็จองที่นี่ได้เลย
ทานข้าวเช้าเสร็จ อาบน้ำเปลี่ยนชุด หรือจะงีบเอาแรงก็ได้ครับ มีเตียงปูเสื่อหลังร้านได้ให้นอนเอนหลังฟรีๆ
ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็มานั่งที่คิวรถสองแถวครับ ปกติถ้ามา 10 คน เหมา300/คัน รถออกเลย
แต่ถ้ามาเดี่ยวๆ หรือมากลุ่มเล็กก็รอรถเต็มครับ 10 คน รถก็ออกแล้ว ค่ารถ 30บาท/คน ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็มาถึงหน้าที่ทำการอุทยาน
Day 1 เดินขึ้นยอดภูกระดึง
มาถึงแล้ว ก็ติดต่อซื้อบัตร จ่ายค่าธรรมเนียม จองเต็นท์ได้ตรงนี้เลยครับ
การเดินขึ้นไปสู่ยอดภูกระดึง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งหมด 4 - 5 ชั่วโมง
กลุ่มเราจึงต้องการตัวช่วยครับ เอาน้ำหวานเฮลบลูบอยผสมน้ำ เพื่อดื่มระหว่างทาง เพราะลดการเสียน้ำและเพิ่มพลังงานไปในตัว
สิ่งของสัมภาระที่เอามา ควรเอามาเท่าที่จำเป็น พวกหมอนเน่า หมีน้อยเน่าๆ อย่าเอามาเลย เป็นภาระเปล่าๆ เพราะเราต้องแบกน้ำหนักขึ้นเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย
เเต่บางคนแบกไม่ไหวก็ใช้บริการลูกหาบได้ครับ ค่าบริการ 30บาท/1กิโลกรัม
ก่อนขึ้นเขา เพื่อความเป็นศิริมงคล และสร้างกำลังใจ เราแวะไหว้ศาลเจ้าปู่ภูกระดึงก่อนครับ
ขอให้การเที่ยวครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ขอให้ขึ้นลงอย่างปลอดภัย สิ่งไม่ดีอย่ามาแผ้วพาล
เริ่มออกเดินขึ้นภูกันครับ เส้นทางมีดังนี้ เชิงเขา--->ปากกกค่า --->ซำแฮก --->ซำบอน--->ซำกกกอก--->ซำกอซาง--->พร่านพรานแป--->ซำกกหว้า--->ซำกกไผ่------->ซำกกโดน--->ซำแคร่--->หลังแป รวมทั้งสิ้น5กิโมตรกว่าๆ เวลา 4-5ชั่วโมง แล้วแต่ใครจะหยุดบ่อยมั้ย
เริ่มจากเชิงเขา ระยะทางไปจุดแรกไกลและชันมาก ถึงตรงนี้ทุกคนยังยิ้มยังหัวเราะกันสนุกสนานเฮฮา -*-+
800เมตรผ่านไป ถึงซำกกค่า ทุกคนเริ่มเหงื่อไหลกันแล้ว แต่ยังไหว ไปต่อๆ
ระหว่างทาง ก็มีลูกหาบเดินสวนลงมา คำถามยอดฮิตคือ อีกไกลมั้ยครับน้า
เฮ้ย มีลูกหาบผู้หญิงด้วย แข็งแรงมาก นับถือๆ
และแล้ว จุดพักแรกก็มาถึงครับ ซำแฮก
จุดนี้มาร้านค้าครับ ใครเมื่อย ใครหิวน้ำ พักดื่มน้ำดื่มท่า เข้าห้องน้ำกันได้
แต่ราคาสินค้าที่นี่ แพงตามความสูงและระยะทาง นะครับ
พักพอหายเหนื่อยแล้ว เดินต่อครับหนทางอีกยาวไกล
[CR] เที่ยวเลยเถิด ตอนวันเปิดภูกระดึง รีวิวการเตรียมตัวและการเดินทาง แบบละเอียดสุดๆ
การเดินทาง การเตรียมตัว และแพลนการเดินเที่ยวบนภูกระดึง แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน
การเตรียมตัวก่อนขึ้นภูกระดึง สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ และท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม แบบอัพเดทล่าสุด ปี2559
วันแรก เดินขึ้นสู่ยอดเขา เดินไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เดินกลับที่พัก นอนเอาแรง
วันที่สอง ดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น สายๆเดินไปน้ำตกวังกวาง ย้อนกลับมาลานพระแก้ว เดินไปผาหมากดูก ไปตามเส้นมางริมผา ชมวิวผาต่างๆ ไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก เดินกลับที่พัก
วันที่สาม ตื่นเช้า เตรียมตัวกลับ สายๆเดินลงเขา
วันแรก เดินขึ้นสู่ยอดเขา ถึงหลังแป เดินต่อกลับที่พัก นอนเอาแรง
วันที่สอง ดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ที่ผานกแอ่น สายๆเดินไปน้ำตกวังกวาง น้ำตกต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตะวันออกทั้งหมด ย้อนกลับมาลานพระแก้ว ไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เดินกลับที่พัก
วันที่สาม ตื่นเช้าดื่นเช้า 04.30 ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น สำหรับใครที่พลาดในวันที่สอง สายๆเดินตามเส้นทางริมหน้าผา เริ่มจากลานพระแก้ว ผาหมากดูก เดินตามริมผา ชมวิวผาต่างๆ ไปสิ้นสุดที่ผาหล่มสัก รอชมพระอาทิตย์ตก เดินกลับที่พัก
วันที่สี่ ตื่นเช้า เตรียมตัวกลับ สายๆเดินลงเขา
กดติดตาม เรื่องราว รีวิวใหม่ได้ที่ facebook fanpage https://www.facebook.com/thiseattheworld/ นะครับ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี
อัตราบัตรค่าบริการ ให้ความสะดวกต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง (บัตรเข้าอุทยาน)
จำหน่ายบัตร ตั้งแต่เวลา 07:00น.-13:30น. หากเลยเวลานี้ ทางอุทยานฯ จะไม่จำหน่ายตั๋วให้กับท่าน และอนุญาต ให้ขึ้นภูระดึงได้ไม่เกินเวลา 14:00น. ของทุกวัน
เด็ก 20 บาท
ผู้ใหญ่ 40 บาท
และ ชำระค่าขอใช้พื้นที่กางเต็นท์ ในกรณีนำเต็นท์มาเอง 30 บาท/คน/คืน หากจองบ้านพัก และจองเต็นท์ของทางอุทยานฯ มา ไม่ต้องชำระค่าขอใช้พื้นที่ในส่วนนี้
ราคาเครื่องนอนที่มีให้เช่าบนภูกระดึง (ติดต่อขอเช่าได้ที่ทำการอุทยานฯ ศูนย์วังกวางด้านบนภูกระดึง)
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่ม 30 บาท/คืน
เว็บไซต์สำหรับจองเต้นท์และบ้านพัก http://nps.dnp.go.th/
ส่วนการจองบ้านพัก จองได้เฉพาะทางเว็บไซต์เท่านั้น
บ้านพักบนภูกระดึงมีจำนวนจำกัด กรมอุทยานอนุญาตให้จองล่วงหน้าได้ 60 วันผ่านทางเว็บไซต์ของกรมอุทยาน
การเดินทาง จากกรุงเทพ สู่ภูกระดึง
การเดินทางมาภูกระดึงด้วยรถทัวร์
สามารถขึ้นรถได้ที่หมอชิตใหม่ มีรถอยู่หลายบริษัทให้บริการ เช่น แอร์เมืองเลย /ภูกระดึงทัวร์ / บขส. /ชุมแพทัวร์
แนะนำเที่ยวรถ รอบ 21.10 น./ 21.30 น. / 22.10 น. รถใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงโดยประมาณ จะถึงประมาณ ตี 4 ตี 5 เช้าพอดี
นั่งมาลงที่ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวแดง (จอดอยู่ข้างๆร้านเจ้กิม หน้าป้อมตำรวจ ) มายังอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อัตราค่าบริการรถสองแถวแดง อยู่ที่คนละ 30 บาท (นั่งเต็ม 10 คน) หากไม่เต็ม 10 คน สามารถเหมาได้ในราคาเที่ยวละ 300 บาท
ขากลับนั่งรถสองแถวแดง มาลงหน้าร้านเจ้กิม เพื่อรอขึ้นรถกลับกรุงเทพ
การเดินทางโดยเครื่องบิน
ขามา ขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมือง มาลงสนามบินเลย (แนะนำไฟท์เช้านกแอร์ เครื่องขึ้น 08:40 เครื่องลง 09:50
) เพราะถ้ามาไฟท์เที่ยง จะมาไม่ทันเวลาที่ทางอุทยานกำหนดให้ขึ้นภู คือ 14.00น. ลงเครื่องที่สนามบินเลย ข้ามฝั่ง รอรถทัวร์ ขอนแก่น -เลย จะมาทุกๆ 30 นาที รถจะเข้ามาจอดที่หน้าอำเภอภูกระดึง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถสามล้อ หรือ มอเตอร์ไซต์ เข้าที่ทำการ
ขากลับ ให้ลงจากภูแต่เช้า ถึงด้านล่างก่อนเที่ยง (ไฟท์ 15.50น.นกแอร์) ถึงด้านล่าง ก่อนบ่าย 3 (ไฟท์ 18.00น.แอร์เอเชียร์)
จากนั้นต่อรถสองแถวแดงที่จอดรอหน้าที่ทำการ ไปลง หน้าตลาดภูกระดึง ต่อรถ ขอนแก่น -เลย (ด้านหน้ารถเขียนว่าไปเมืองเลย) รถมาทุกๆ 30 นาที นั่งไปลงสนามบินเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ รถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปสนามบิน (ไปเมืองเลย) หมดเวลา 20:30น.
ไม่แนะนำให้ฝากสัมภาระมากับลูกหาบ เพราะบางทีลูกหาบลงมาช้า จะไม่ทันเครื่อง ให้แบกสัมภาระเอง แต่ถ้าจะฝากลูกหาบลงต้องนำของมาให้ลูกหาบแต่เช้ามืด เพื่อจะได้ลงแต่เช้า
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. รองเท้า ถุงเท้า ควรเป็นรองเท้าที่ใส่สบายเท้า เดินไกลๆได้ ไม่กัดเท้า
- ถ้าไป
ช่วงฤดูฝน ตุลาคม (แนะนำรองเท้าที่มีดอกยางลึกๆ และแห้งไวครับ เพราะจะทำให้กันลื่นได้)
- ถ้าไปช่วงอื่น เป็นรองเท้าที่ใส่สบายและเคยใส่มาสักระยะแล้ว ไม่ควรเป็นรองเท้าใหม่เพราะอาจโดนรองเท้ากัดได้
2. ยา สำหรับใครที่มีโรคประจำตัว และคสรเตรียมยาสามัญประจำบ้านเช่น พารา ยาแก้แพ้ ยาแก้ท้องร่วง ยาดมยาหม่อง ไปด้วย เพราะข้างบนอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
3. ยานวด ยาคลายกล้ามเนื้อ นอจิสิค หรือ ยี่ห้ออื่นก็ได้ครับแนะนำยาสเปรย์ที่พวกนักกีฬาใช้กันหาซื้อได้ที่โลตัสครับ กระป๋องสีน้ำๆ หรือสีเหลือง ก็ได้เช่นกัน ถ้าหาไม่เจอลองถามเค้าว่าสเปรย์คลายกล้ามเนื้อครับ
4. ไฟฉาย อันนี้ซื้อควรมีสัก 2-3 อันก็ดีครับ ไว้ในเต็นท์สักอันห้อยไว้เผื่อเวลาจะหาของในเต็นท์ และใช้เวลาเดินกลับจากดูอาทิตย์จากาหล่มสัก
5. รองเท้าแตะไว้ใส่ตอนอยู่ที่ศูนย์วังกวางเวลาไปเข้าห้องน้ำหรือไปร้านค้าครับ เป็นการพักเท้าไปในตัว
6. หมวก ไว้ใส่กันแดดครับ แดดข้างบนแรงแต่อากาศเย็นเพราะมีลมพัดมาตลอดครับ
7. ปลอกแขน หรือ เสื้อแขนยาว (ถ้าไม่กลัวแดด แขนสั้น สบายๆ)
8. เสื้อกันหนาว ถ้าไปช่วงหน้าหนาวเอาแบบหนา ที่มี Hood
ก็ดีครับ ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวอากาศกลางคืนบนภูจะเย็นตลอดฤดูกาล ก็เอาแบบบางๆ ไป
9. ทิชชูเปียกและแห้ง เผื่อไว้ข้าศึกมากลางทางครับ
10.อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ บนภูกระดึงใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บไว้จากแสงแดดตอนกลางวัน อุทยานเปิดไฟฟ้าให้ใช้เพียงจาก 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มเท่านั้น การชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราต้องไปชาร์จที่ศูนย์บริการ (มีค่าบริการ) หรือ ขอชาร์จจากร้านค้าที่สนิทกันในบ้านพักไม่มีเต้าเสียบให้ต่อชาร์จ มีเพียงไฟฟ้าแสงสว่างเท่านั้น ดังนั้น นำอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ไปเท่าที่จำเป็น บนภูกระดึงมีสัญญาณเครือข่าย 3G ทุกเครือข่ายครับ
กล้องถ่ายภาพพร้อมอุปกรณ์
POWER BANK ที่ชาร์จแบตสำรองมือถือ
11. เสื้อกันฝน ร่ม สภาพอากาศบนภูไม่แน่นอนครับ เดี๋ยวก็ร้อน หนาว บางทีมีฝนมาให้เปียกเล่น
(สำหรับคนที่กลัวทาก)
1. ถุงกันทาก มีขายตามร้านค้าที่ทำการด้านล่าง ตามซำต่างๆ และ ตามร้านค้าบนภูกระดึง มีหลายแบบให้เลือก ราคาตามเนื้อผ้าและรวดลายครับ
- ถ้าไปช่วงตั้งแต่ปลาย พฤศจิกายน - เมษายน พื้นดินจะค่อยข้างแห้งแล้ว ทากอาจจะไม่ค่อยเจอหรือเจอน้อยมากครับ
2. สเปรย์ กันทาก อย่างเช่น ซอฟเฟล น้ำมันตะไคร้หอม ฉีดใส่ขาไว้กันทากเกาะ หรือโดนเกาะแล้วฉีดใส่ตัวทากเค้าจะหลุดไปเอง
สิ่งสำคัญมากกว่าการเตรียมของ คือ เตรียมความพร้อมร่างกายและจิตใจ ถ้าใจไหว ร่างกายก็ไหว
ขอบคุณข้อมูลจาก facebook กลุ่ม รักภูกระดึง
ครั้งนี้เป็นการออกเดินทางจากกรุงเทพ ด้วยรถทัวร์ และไปตัวคนดียว
แต่ได้นัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ไว้ที่ภูกระดึงนะครับ ดังนั้นการเดินขึ้นภูกระดึงครั้งนี้ มีทั้งหมด 6 คน
30 กันยายน 2559 ออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปภูกระดึง
จริงๆได้จองตั๋วไว้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนแล้ว เพราะกลัวรถเต็ม เป็นรถ บขส. VIP บอกว่าไปลงวังสะพุงตอนซื้อตั๋วครับ แต่ตอนขึ้นรถ ให้บอกพนักงานว่า ลงผานกเค้าร้านเจ๊กิมครับ รถจอดให้ทุกคัน
22.00 ถึงหมอชิตใหม่
ราคาตั๋ว 478 บาทครับ ปล. ใช้สิทธิ์ส่วนลดข้าราชการทหารครับ
เลือกที่นั่งชั้นล่างครับ ที่นั่งกว้าง นั่งสบาย ที่สำคัญคนน้อย เพราะต้องการนอนพักเอาแรงให้เต็มที่ เพื่อเดินขึ้นเขาครับครับ
22.45 น. รถออกจากหมอชิต จากนั้นก็หลับมาตลอดทาง ตื่นอีกทีก็ไกล้ถึงแล้ว
เวลา 06.35น. รถก็มาถึงผานกเค้าครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนลง เพราะจุดนี้คนลงเยอะมาก
ที่ร้านเจ๊กิม มีข้าวราดแกงครับ มีกาแฟสด และมีห้องน้ำบริการฟรี หรือใครจะจองตั๋วรถกลับกรุงเทพก็จองที่นี่ได้เลย
ทานข้าวเช้าเสร็จ อาบน้ำเปลี่ยนชุด หรือจะงีบเอาแรงก็ได้ครับ มีเตียงปูเสื่อหลังร้านได้ให้นอนเอนหลังฟรีๆ
ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็มานั่งที่คิวรถสองแถวครับ ปกติถ้ามา 10 คน เหมา300/คัน รถออกเลย
แต่ถ้ามาเดี่ยวๆ หรือมากลุ่มเล็กก็รอรถเต็มครับ 10 คน รถก็ออกแล้ว ค่ารถ 30บาท/คน ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็มาถึงหน้าที่ทำการอุทยาน
มาถึงแล้ว ก็ติดต่อซื้อบัตร จ่ายค่าธรรมเนียม จองเต็นท์ได้ตรงนี้เลยครับ
การเดินขึ้นไปสู่ยอดภูกระดึง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งหมด 4 - 5 ชั่วโมง
กลุ่มเราจึงต้องการตัวช่วยครับ เอาน้ำหวานเฮลบลูบอยผสมน้ำ เพื่อดื่มระหว่างทาง เพราะลดการเสียน้ำและเพิ่มพลังงานไปในตัว
สิ่งของสัมภาระที่เอามา ควรเอามาเท่าที่จำเป็น พวกหมอนเน่า หมีน้อยเน่าๆ อย่าเอามาเลย เป็นภาระเปล่าๆ เพราะเราต้องแบกน้ำหนักขึ้นเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย
เเต่บางคนแบกไม่ไหวก็ใช้บริการลูกหาบได้ครับ ค่าบริการ 30บาท/1กิโลกรัม
ก่อนขึ้นเขา เพื่อความเป็นศิริมงคล และสร้างกำลังใจ เราแวะไหว้ศาลเจ้าปู่ภูกระดึงก่อนครับ
ขอให้การเที่ยวครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ขอให้ขึ้นลงอย่างปลอดภัย สิ่งไม่ดีอย่ามาแผ้วพาล
เริ่มออกเดินขึ้นภูกันครับ เส้นทางมีดังนี้ เชิงเขา--->ปากกกค่า --->ซำแฮก --->ซำบอน--->ซำกกกอก--->ซำกอซาง--->พร่านพรานแป--->ซำกกหว้า--->ซำกกไผ่------->ซำกกโดน--->ซำแคร่--->หลังแป รวมทั้งสิ้น5กิโมตรกว่าๆ เวลา 4-5ชั่วโมง แล้วแต่ใครจะหยุดบ่อยมั้ย
เริ่มจากเชิงเขา ระยะทางไปจุดแรกไกลและชันมาก ถึงตรงนี้ทุกคนยังยิ้มยังหัวเราะกันสนุกสนานเฮฮา -*-+
800เมตรผ่านไป ถึงซำกกค่า ทุกคนเริ่มเหงื่อไหลกันแล้ว แต่ยังไหว ไปต่อๆ
ระหว่างทาง ก็มีลูกหาบเดินสวนลงมา คำถามยอดฮิตคือ อีกไกลมั้ยครับน้า
เฮ้ย มีลูกหาบผู้หญิงด้วย แข็งแรงมาก นับถือๆ
และแล้ว จุดพักแรกก็มาถึงครับ ซำแฮก
จุดนี้มาร้านค้าครับ ใครเมื่อย ใครหิวน้ำ พักดื่มน้ำดื่มท่า เข้าห้องน้ำกันได้
แต่ราคาสินค้าที่นี่ แพงตามความสูงและระยะทาง นะครับ
พักพอหายเหนื่อยแล้ว เดินต่อครับหนทางอีกยาวไกล