สวัสดีค่ะ วันนี้มีโอกาสมารีวิวห้องบลูฯเป็นครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ จากที่เคยอ่านและเก็บข้อมูลจากห้องนี้ไปเยอะ ก็ถึงเวลาที่อยากแบ่งปันข้อมูลบ้างนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยณ.ที่นี้เลยนะคะ

รีวิวHallstatt ฉบับนี้เดินทางเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2559 ที่ผ่านมาค่ะ ทริปนี้เรามีโอกาสพักที่Hallstattเพียงแค่คืนเดียว แต่ถือได้ว่าเป็นคืนที่ประทับใจที่สุดคืนหนึ่งของทริปนี้เลยทีเดียว

Hallstatt เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Hallstatter ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันเนื่องจากเนื้อที่ที่จำกัดบ้านเรือนในเมืองนี้จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆตามแนวเขา มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 500 กว่าคนเท่านั้น ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ประเภท Historic Cultural Landscape เมื่อปี 1997 ซึ่งจัดเป็นประเภทของชุมชนที่มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนของภูมิประเทศที่สวยงามกับวัฒนธรรมที่เก่าแก่


หลังจากบินลัดฟ้าเดินทางตรงจากกรุงเทพถึงเวียนนาด้วยเวลาสิบกว่าชม. เราก็มาถึงประเทศออสเตรีย(ไม่มีจิงโจ้นะจ๊ะ) ทริปนี้เราเช่ารถขับ ใช้บริการของAVIS หลังจากทำตัวให้คุ้นชินกับพวงมาลัยซ้ายและระบบออโต้สต็อปของรถ เราก็มุ่งหน้าสู่เมืองเมลค์แวะเยี่ยมเยือนโบสถ์เมลค์ จากนั้นไม่รอช้าเดินทางสู่เมืองในฝัน(Hallstatt)ทันที แต่ด้วยฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจทำให้การเดินทางของเราล่าช้ากว่าที่กำหนดมาก เมื่อถึงฮอลสตัทท์จึงเห็นเพียงแสงสุดท้ายของเมืองพร้อมกับฝนพรำตลอดเวลา

เราจอดรถกันที่จอดรถP1 เรียกshutter busของโรงแรมมารับ แล้วก็เช็คอินที่ Seehotel Gruner Baum พนักงานต้อนรับ(ผู้ชาย)ยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมาก เราพักกันที่ชั้น2ของโรงแรม ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ใกล้วันหยุดยาวของคนไทยจึงไม่แปลกที่เกือบทั้งโรงแรมนั้นจะมีแต่เสียงคนไทยพูดคุยกัน