สไตล์การเที่ยวแบบบ้านเราจะไม่เปลี่ยนโรงแรมบ่อยๆ เราจะใช้การนั่งรถไฟไปเที่ยวในเมืองใกล้ๆแทนเพื่อที่จะไม่ต้องเก็บกระเป๋าย้ายกระเป๋าบ่อยๆ ทริปนี้ 10 คืน 11 วันเราพักทั้งหมด 4 เมือง 4 โรงแรม ส่วนมากจะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมืองที่เป็นชุมทางรถ มีรถไฟหลายๆสายวิ่งผ่าน ไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ค่อนข้างสะดวก มีรถไฟผ่านเยอะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง
1. Ibis Chur , Chur
2. Hotel Walhalla , St.Gallen
3. Moxy Hotel, Rapperswil
4. Ibis budget , Winterthur
หลักที่เราจะมารีวิวเลย ก็จะเน้น 4 เรื่องคือ
>> ราคา
>> การเดินทาง
>> ความสะดวกสบาย
>> การบริการ
** คำเตือนการให้ดาวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของบ้านเราเท่านั้น เอาไว้ประกอบการตัดสินนะ เราจะรีวิวแบบตรงไปตรงมา บอกข้อดีข้อเสียเที่เราเห็น ห้องพักที่เราจองทั้งหมดจะเป็นแบบ Triple room คือสำหรับนอน 3 คน เราเลยไม่ได้แจ้งว่ามีเด็กไป เพราะมันเป็นห้องที่พอดีกับจำนวนคนอยู่แล้ว และบางที่จะมีเตียงเสริมมาให้ บางที่จะเป็น Sofa bed ให้กางเอง
Ibis Chur , Chur Switzerland
มาที่โรงแรมแรกที่เราเข้าพัก เดินทางจาก Zurich Airport มาถึงที่โรงแรมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถขึ้นรถไฟตรงจากสนามบินถือเมือง Chur ได้เลย ชื่อเมืองนี้อ่านว่า คูร์ แรกๆ ไม่รู้ก็อ่าน เฌอๆ มาตลอด จนมาถึงที่นี่แหละ อ่านเฌอๆ คนที่นี่ทำหน้างงๆใส่ เลยเข้าใจทันที ตรูอ่านชื่อเมืองผิดแน่นอน ไม่ต้องเดา
ราคา
ราคาของที่ IBIS Chur จะอยู่ที่ 5,040 บาทต่อคืน ไม่รวม City tax ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับ 3 คน จะอยู่ที่ชั้น 4 ของตึกโรงแรม เป็นเหมือนห้องใต้หลังคา ถ้าเทียบกับ Facility สิ่งอำนวนความสะดวก และ ทำเลที่ตั้ง เราถือว่าราคาห้องต่อคืนเป็นแบบกลางๆ ไม่ถูกไม่แพง
การเดินทาง
จากสถานีรถไฟคูร์ นั่งรถเมล์สาย 1 ตรงหน้าสถานีเลยมาลงที่หน้าโรงแรมใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ( 6ป้ายรถเมลล์) จากป้ายรถเมลล์เดินมาโรงแรมประมาณ 200 เมตร ถึงแม้ว่าจะต้องต่อรถบัส แต่ก็ถือว่าการเดินทางมาที่โรงแรมนี้สะดวกสบายดี ไม่ห่างจากป้ายรถเมลล์ ไม่ต้องลากกระเป๋าไกลมาก
การเดินทางจากโรงแรมไปสถานีรถไฟ เพื่อต่อรถไปเที่ยวต่อก็ไม่ยาก รถเมลล์วิ่งถี่ ไม่ต้องรอรถเมลล์นาน ที่นี่เจอรถเมลล์ดีเลย์น้อยมาก จนแทบไม่มีเลย ถ้าไม่อยากรอนาน ก็ลองกด google map เช็คเวลารถจะมาถึงที่ป้ายแล้วค่อยลงไปรอตอนรถเมลล์ใกล้จะมาก็ได้
ความสะดวกสบาย
ห้องที่เราได้จะเป็นห้องแบบ 3 คน ลักษณะห้องจะเป็นแนวห้องใต้หลังคา Facility ในห้องถือว่ามีครบครันเป็นโรงแรมเดียวใน 4 โรงแรมที่เราไปพักแล้วมีตู้เย็นให้ มีโต๊ะทำงานตรงมุมห้อง เอาไว้ใช้วางของจุกจิกได้ เตียงนอนจะมีทั้งหมด 3 เตียง เตียงนอน 5-6 ฟุต 1 เตียงตรงกลาง ส่วนซ้ายขวา จะเป็น โซฟาเบด 1 ที่นั่งที่ทางโรงแรมเค้าจัดการแปลงร่างให้เป็นเตียงขนาด 3 ฟุตเรียบร้อยแล้ว คุณสา ตัวสูง 175 เซนติเมตร นอนเตียงนี้ได้แบบสบายๆ เลยไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร ความสะดวกสบายที่นี่ติดนิดเดียวเท่านั้นแหละ โรงแรมมี 5 ชั้น แต่ว่าลิฟท์มาถึงแค่ชั้น 3 แล้วไง เราพักชั้น 4 เดินขึ้นบันได แบกกระเป๋าไปเอง 1 ชั้น อ่อ ลืมบอกไป ที่นี่เค้าไม่ได้มีบริการแบบมีพนักงานแบกกระเป๋ามาส่งถึงห้องนะ แบกเองล้วนๆ หักแต้มการแบกกระเป๋าขึ้นบันได ทำไมไม่ทำลิฟท์ให้ถึงชั้น 4-5 เลย
อาหารการกินรอบๆโรงแรมหาซื้อง่าย ด้านล่างโรงแรมเป็น Mc Donalds ถัดไปอีกนิดเป็น KFC มี Supermarkter อยู่ใกล้ๆ แต่ว่าต้องดูเวลาดีๆ เพราะว่า Supermarket ที่นี่ปิดเร็วมาก บางที่ 6 โมงปิดแล้ว เอาเป็นว่าอาหารการกินหาได้รอบๆ โรงแรมไม่ยาก
การบริการ
แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีบริการไปพนักงานไปส่งที่ห้องพัก แบบเวลาที่เราพักโรงแรมที่ไทย แต่ว่าพนักงาน Reception ที่นี่ยิ้มแย้ม ให้บริการดีมาก แนะนำการเดินทางในเมือง แถมยังบอกว่าถ้าไม่มี Swiss pass ทางโรงแรมก็มี Ticket ไว้ให้สำหรับการเดินทางในเมืองฟรี ไม่ต้องเสียค่าบริการ Check-out ที่นี่ก็ไม่วุ่นวายมาก เราแค่มาหย่อนการ์ดไว้ที่กล่องได้เลย
Hotel Walhalla , St.Gallen Switzerland
เป็นโรงแรมที่ประทับใจที่สุดในบรรดา 4 โรงแรมที่ไปพักในทริปนี้เลย ด้วยราคานี้ไม่คิดว่าจะได้ห้องที่ใหญ่และทำเลดีแบบนี้ พนักงานก็คือบริการดีมาก ได้ห้องราคานี้และดูดีขนาดนี้ ต้องขออวยยศให้สามีในการจองห้อง นางจองแบบ Cancel ได้ แล้วพอมีโปรโมชั่นก็จองห้องใหม่ ในราคาเดิม แต่ว่าได้ห้องใหญ่ขึ้น
ราคา
ราคาของ Hotel Walhalla , St.Gallen ตกคืนละ 5,500 บาท ไม่รวม City Tax ห้องนี้จะไม่มีเตียงเสริมมาให้ แต่ว่าโซฟาสีเทาสามารถแปลงร่างเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบง่ายดาย จนอยากจะสืบหาเลยว่า Sofa bed แบบนี้หาซื้อที่ไหน มันกางแบบง่ายสุดๆ พ่อลูกช่วยกันดึงมา 10 วิ ได้เตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว และที่สำคัญทำเลดีมากอยู่ติดสถานีรถไฟเลย ราคานี้สำหรับเราเลยคิดว่าคุ้มที่สุด
การเดินทาง
โรงแรมคือ 100 เมตรจากสถานีรถไฟ St.Gallen เดินยังไม่ทันได้เหงื่อออกเลย ถึงโรงแรมแล้ว มันสะดวกมากจริงๆ แถมจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ง่าย เพราะสถานีรถบัส รถไฟ Tram ก็คืออยู่บริเวณรอบๆโรงแรมเลย เรียกได้ว่าการเดินทางก็เอาคะแนนเต็มไปเลย จากโรงแรมสามารถไปในเมืองได้แบบชิลๆ เพราะว่าไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก
ความสะดวกสบาย
ห้องพักคือใหญ่มาก เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ฟีลเหมือนพักโรงแรม 5 ดาวที่เมืองไทยเลย ห้องพักก็คือยังใหม่อยู่และสะอาดมาก ห้องพักจะแบ่งออกเป็น 2 โซน เดินเข้ามาในห้องซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำ ด้านขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า และที่วางกระเป๋าเดินทาง แล้วจะมีประตูกั้นเดินเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน แล้วมีห้องอาบน้ำ พร้อมอ่างล้างหน้าอีกห้องนึง ถึงแม้ว่าโรงแรมนี้จะไม่ได้เตรียมเตียงเสริมไว้ให้ แต่ว่า โซฟาในห้องคือ Sofa bed ที่กางออกมาแล้วได้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมปูผ้ามาให้เรียบร้อย ตอนยังไม่นอน ก็เป็นโซฟานั่งสบายๆไป ตอนจะนอนค่อย กางเตียงออกมา
เรื่องของอาหารการกิน ไม่ต้องพูดถึง เพราะโรงแรมอยู่ติดสถานีรถไฟ รอบๆ ก็คือเต็มไปด้วยร้านอาหาร Supermarket , ห้าง และร้านอื่นๆอีกมากมาย
การบริการ
ที่นี่การบริการคือประทับใจมากเอาไปเลย 10/10 ตั้งแต่ที่เริ่ม Check-in พนักงานก็คือบริการดีมาก มี welcome fruit กับน้ำไว้คอยให้บริการ และเป็นโรงแรมเดียว ใน 4 โรงแรมที่ราคา 5,400 บาทแล้วรวมอาหารเช้า ที่อื่นราคาพอๆกันได้แค่ห้องเท่านั้นอาหารเช้าต้องไปหาทางเอง อาหารเช้าแม้ว่าไลน์อาหารจะไม่ได้อลังการมาก แต่ถือว่าครบครัน มี American Breakfast มีStation ผลไม้ เครื่องดื่ม พนักงานไม่เคยปล่อยให้ Station อาหารว่างเลย เติมอาหารตลอด
Moxy Hotel , Rapperswil Switzerland
โรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือของ Marriot เรื่องบริการก็คือดีงาม โรงแรมอาจจะไม่ได้ใกล้กับสถานีรถไฟมากนัก แต่ว่านั่งรถเมลล์ 2 ป้ายก็ถึง Lobby โรงแรมมีกิจกรรมต่างให้เล่น พวก Board game มีโซฟาให้นั่งเล่นชิล แถมยังเป็นบาร์ที่มีเครื่องดื่มให้บริการ 24 ชั่วโมง
ราคา
ราคาของ Moxy Hotel ตกคืนละ 6,800 บาท ไม่รวม City Tax ถือว่าระดับราคาเอาเรื่องอยู่ในเมืองเล็กๆแบบนี้แต่เราเลือกที่นี่ และเป็นโรงแรมที่แพงที่สุดในทริปนี้ เมือง Rapperwil มีโรงแรมไม่กี่ที่ แล้วโรงแรมที่ดูน่าเชื่อถือ ก็เป็นโรงแรมนี้ เราเลยยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าเมืองอื่นๆ เพราะต้องมีลูกเล็กมาด้วยเลยค่อนข้างอยากได้โรงแรมที่โอเคนิดนึง ซึ่งการเป็นโรงแรมในเครือของ Marriot ก็เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกที่นี่
การเดินทาง
โรงแรมนี้ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 1 กิโลเมตร เดินได้แหละชิลๆ แต่ถ้านั่งรถเมลล์ก็ 2 ป้าย จากสถานีรถไฟ ถือว่าการเดินทางไม่ได้ลำบากมากสำหรับเมืองนี้ และเมืองนี้ก็จัดว่าเป็นเมืองที่เล็กๆ แบบที่เดินเล่นได้ทั่วเมืองเลย
ความสะดวกสบาย
ห้องพักที่นี่ขนาดใหญ่เลย เดินเข้ามาจะเป็นโถงทางเดิน ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ที่ขนาดไม่ใหญ่มาก มีชักโครกอัดโนมัติ นี่คือครั้งแรกที่ได้นั่งชักโครกคล้ายกับมีสายฉีดล้างที่ไทย ส่วนที่อาบน้ำก็เป็นตู้กระจก ที่ขนาดพอดีๆ ผ่านจากโถงทางเดินตรงกลางจะเป็นโซฟาที่นั่ง ด้านซ้ายจะมีเตียงเสริม วางเตรียมไว้ ส่วนด้านขวาจะเป็นเตียงนอนขนาด 6 ฟุต
เรื่องอาหาร อาจจะเดินไกลนิดนึงสำหรับที่นี่ เพราะว่า Supermarket ก็จะห่างไปประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร แต่ว่าด้านหน้าโรงแรมจะมีร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่แนะนำให้ทานเลย เจ้าของบริการดีมาก อาหารอร่อย ในราคาที่ไม่แพงเลย
การบริการ
พนักงานให้บริการดีมาก เป็นพนักงานคนเดียว ที่ทำหน้าที่ Multitask มาก แต่ก็ยังยิ้มได้อยู่ เป็นทั้ง Reception เป็นทั้ง Bartender ชงเหล้า เป็นทั้ง บาริสต้า ชงกาแฟ เป็นทุกอย่างจริงๆ พนักงานเห็นเด็กน้อยมาด้วยก็รีบหยิบ map มาแนะนำให้รีบไปสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงแรมเลย รวมถึงแนะนำที่นี่ควรไปเดินเล่นที่เมืองนี้ด้วย
Ibis budget , Winterthur Switzerland
ชื่อโรงแรมก็บอกอยู่แล้ว Ibis Budget ยืนหนึ่งในเรื่องราคาถูก แต่ก็จะแลกมากับห้องที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก เรียกได้ว่าพออยู่ได้ดีกว่า อยู่โรงแรมแพงที่สุดมาแล้ว โรงแรมสุดท้ายก็เลยเป็นโรงแรมที่ถูกที่สุด
ราคา
Ibis budget ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่ายืนหนึ่งในเรื่องของราคาที่ถูก ราคาของ Ibis Budget , Winterthur ตกคืนละ 3,000 บาท ไม่รวม City Tax ถือว่าทำราคาได้ดี ยอมเลือกห้องขนาดเล็กแบบนี้เพราะว่าสุดท้ายเราใช้เวลาอยู่ที่ห้องน้อยมาก ส่วนมากก็จะออกไปเที่ยวข้างนอกมากกว่า Ibis ก็ถือว่าเป็นโรงแรมที่เป็น Chain ที่ไว้ใจได้
การเดินทาง
โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 3 ป้ายรถเมลล์ ที่นี่มีรถเมลล์ให้เลือกหลายสายที่จะไปผ่านหน้าโรงแรม ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีรถกลับโรงแรมเลย
ความสะดวกสบาย
สำหรับห้องที่นี่ ของเรียกว่าพออยู่ได้ ไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้สบาย ห้องมีขนาดเล็กถึงเล็กมาก วางกระเป๋าเดินทาง 1 ใบก็เต็มแล้ว เดินเข้ามาในห้อง ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือเลย ถัดมาจะเป็นอ่างล้างมือที่อยู่ในบริเวณห้อง แล้วก็เป็นตู้อาบน้ำขนาดกระทัดรัด ตามด้วยเตียงขนาด 6 ฟุต แล้วก็จะมีเตียง 2 ชั้นด้านบน ริมหน้าต่างจะมีโต๊ะเล็กๆ ไว้พอให้ได้วางของ เนื่องจากเตียงชั้น 2 มันห่างจากเพดานนิดเดียวสำหรับผู้ใหญ่ที่ตัวสูงหน่อยอาจจะไม่เหมาะ เพราะถ้างัวเงียลุกขึ้นมา มีหัวโขกเพดานแน่นอน ลูกบอกว่าคราวหน้าขอห้องใหญ่กว่านี้นิดนึงนะแม่ ควินน์ไม่มีที่เล่นรถเลย แอบสงสารนางเบาๆ แต่ฝึกให้นางรู้แหละว่าเที่ยวมันก็ต้องงี้แหละ มีทั้งดีและไม่ดีบ้าง
อาหารการกิน ด้านหน้าของโรงแรมจะเป็นร้าน Mc Donalds แล้วฝั่งตรงข้ามจะเป็น ห้างที่มี Coop อยู่สามารถไปซื้ออาหารได้เลย ไม่อดแน่นอน
การบริการ
ที่นี่ใช้ Reception สำหรับ Ibis และ Ibis Budget คนเดียวกัน ถ้าเรามา Check-in ก่อนเวลาอาจจะลองถามพนักงานได้ว่ามีห้องไหม ถ้ามีคน Check-out เร็ว เค้าก็จะหาห้องให้ได้เลย แต่ถ้าไม่มีห้อง เราก็สามารถที่จะฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วออกไปเที่ยวก่อนได้ ถึงแม้จะเป็น Reception คนเดียวสำหรับการ Check-in 2 โรงแรมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าให้บริการช้าเลย ถือว่าให้บริการดีด้วยซ้ำ
[CR] [Travelling As A Couple] : รีวิวโรงแรมสวิตเซอร์แลนด์ 4 โรงแรม 4 เมือง สำหรับ 10 คืน
1. Ibis Chur , Chur
2. Hotel Walhalla , St.Gallen
3. Moxy Hotel, Rapperswil
4. Ibis budget , Winterthur
หลักที่เราจะมารีวิวเลย ก็จะเน้น 4 เรื่องคือ
>> ราคา
>> การเดินทาง
>> ความสะดวกสบาย
>> การบริการ
** คำเตือนการให้ดาวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของบ้านเราเท่านั้น เอาไว้ประกอบการตัดสินนะ เราจะรีวิวแบบตรงไปตรงมา บอกข้อดีข้อเสียเที่เราเห็น ห้องพักที่เราจองทั้งหมดจะเป็นแบบ Triple room คือสำหรับนอน 3 คน เราเลยไม่ได้แจ้งว่ามีเด็กไป เพราะมันเป็นห้องที่พอดีกับจำนวนคนอยู่แล้ว และบางที่จะมีเตียงเสริมมาให้ บางที่จะเป็น Sofa bed ให้กางเอง
ราคา
ราคาของที่ IBIS Chur จะอยู่ที่ 5,040 บาทต่อคืน ไม่รวม City tax ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับ 3 คน จะอยู่ที่ชั้น 4 ของตึกโรงแรม เป็นเหมือนห้องใต้หลังคา ถ้าเทียบกับ Facility สิ่งอำนวนความสะดวก และ ทำเลที่ตั้ง เราถือว่าราคาห้องต่อคืนเป็นแบบกลางๆ ไม่ถูกไม่แพง
การเดินทาง
จากสถานีรถไฟคูร์ นั่งรถเมล์สาย 1 ตรงหน้าสถานีเลยมาลงที่หน้าโรงแรมใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ( 6ป้ายรถเมลล์) จากป้ายรถเมลล์เดินมาโรงแรมประมาณ 200 เมตร ถึงแม้ว่าจะต้องต่อรถบัส แต่ก็ถือว่าการเดินทางมาที่โรงแรมนี้สะดวกสบายดี ไม่ห่างจากป้ายรถเมลล์ ไม่ต้องลากกระเป๋าไกลมาก
การเดินทางจากโรงแรมไปสถานีรถไฟ เพื่อต่อรถไปเที่ยวต่อก็ไม่ยาก รถเมลล์วิ่งถี่ ไม่ต้องรอรถเมลล์นาน ที่นี่เจอรถเมลล์ดีเลย์น้อยมาก จนแทบไม่มีเลย ถ้าไม่อยากรอนาน ก็ลองกด google map เช็คเวลารถจะมาถึงที่ป้ายแล้วค่อยลงไปรอตอนรถเมลล์ใกล้จะมาก็ได้
ความสะดวกสบาย
ห้องที่เราได้จะเป็นห้องแบบ 3 คน ลักษณะห้องจะเป็นแนวห้องใต้หลังคา Facility ในห้องถือว่ามีครบครันเป็นโรงแรมเดียวใน 4 โรงแรมที่เราไปพักแล้วมีตู้เย็นให้ มีโต๊ะทำงานตรงมุมห้อง เอาไว้ใช้วางของจุกจิกได้ เตียงนอนจะมีทั้งหมด 3 เตียง เตียงนอน 5-6 ฟุต 1 เตียงตรงกลาง ส่วนซ้ายขวา จะเป็น โซฟาเบด 1 ที่นั่งที่ทางโรงแรมเค้าจัดการแปลงร่างให้เป็นเตียงขนาด 3 ฟุตเรียบร้อยแล้ว คุณสา ตัวสูง 175 เซนติเมตร นอนเตียงนี้ได้แบบสบายๆ เลยไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร ความสะดวกสบายที่นี่ติดนิดเดียวเท่านั้นแหละ โรงแรมมี 5 ชั้น แต่ว่าลิฟท์มาถึงแค่ชั้น 3 แล้วไง เราพักชั้น 4 เดินขึ้นบันได แบกกระเป๋าไปเอง 1 ชั้น อ่อ ลืมบอกไป ที่นี่เค้าไม่ได้มีบริการแบบมีพนักงานแบกกระเป๋ามาส่งถึงห้องนะ แบกเองล้วนๆ หักแต้มการแบกกระเป๋าขึ้นบันได ทำไมไม่ทำลิฟท์ให้ถึงชั้น 4-5 เลย
อาหารการกินรอบๆโรงแรมหาซื้อง่าย ด้านล่างโรงแรมเป็น Mc Donalds ถัดไปอีกนิดเป็น KFC มี Supermarkter อยู่ใกล้ๆ แต่ว่าต้องดูเวลาดีๆ เพราะว่า Supermarket ที่นี่ปิดเร็วมาก บางที่ 6 โมงปิดแล้ว เอาเป็นว่าอาหารการกินหาได้รอบๆ โรงแรมไม่ยาก
การบริการ
แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีบริการไปพนักงานไปส่งที่ห้องพัก แบบเวลาที่เราพักโรงแรมที่ไทย แต่ว่าพนักงาน Reception ที่นี่ยิ้มแย้ม ให้บริการดีมาก แนะนำการเดินทางในเมือง แถมยังบอกว่าถ้าไม่มี Swiss pass ทางโรงแรมก็มี Ticket ไว้ให้สำหรับการเดินทางในเมืองฟรี ไม่ต้องเสียค่าบริการ Check-out ที่นี่ก็ไม่วุ่นวายมาก เราแค่มาหย่อนการ์ดไว้ที่กล่องได้เลย
ราคา
ราคาของ Hotel Walhalla , St.Gallen ตกคืนละ 5,500 บาท ไม่รวม City Tax ห้องนี้จะไม่มีเตียงเสริมมาให้ แต่ว่าโซฟาสีเทาสามารถแปลงร่างเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบง่ายดาย จนอยากจะสืบหาเลยว่า Sofa bed แบบนี้หาซื้อที่ไหน มันกางแบบง่ายสุดๆ พ่อลูกช่วยกันดึงมา 10 วิ ได้เตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว และที่สำคัญทำเลดีมากอยู่ติดสถานีรถไฟเลย ราคานี้สำหรับเราเลยคิดว่าคุ้มที่สุด
การเดินทาง
โรงแรมคือ 100 เมตรจากสถานีรถไฟ St.Gallen เดินยังไม่ทันได้เหงื่อออกเลย ถึงโรงแรมแล้ว มันสะดวกมากจริงๆ แถมจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ง่าย เพราะสถานีรถบัส รถไฟ Tram ก็คืออยู่บริเวณรอบๆโรงแรมเลย เรียกได้ว่าการเดินทางก็เอาคะแนนเต็มไปเลย จากโรงแรมสามารถไปในเมืองได้แบบชิลๆ เพราะว่าไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก
ความสะดวกสบาย
ห้องพักคือใหญ่มาก เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ฟีลเหมือนพักโรงแรม 5 ดาวที่เมืองไทยเลย ห้องพักก็คือยังใหม่อยู่และสะอาดมาก ห้องพักจะแบ่งออกเป็น 2 โซน เดินเข้ามาในห้องซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำ ด้านขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า และที่วางกระเป๋าเดินทาง แล้วจะมีประตูกั้นเดินเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน แล้วมีห้องอาบน้ำ พร้อมอ่างล้างหน้าอีกห้องนึง ถึงแม้ว่าโรงแรมนี้จะไม่ได้เตรียมเตียงเสริมไว้ให้ แต่ว่า โซฟาในห้องคือ Sofa bed ที่กางออกมาแล้วได้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมปูผ้ามาให้เรียบร้อย ตอนยังไม่นอน ก็เป็นโซฟานั่งสบายๆไป ตอนจะนอนค่อย กางเตียงออกมา
เรื่องของอาหารการกิน ไม่ต้องพูดถึง เพราะโรงแรมอยู่ติดสถานีรถไฟ รอบๆ ก็คือเต็มไปด้วยร้านอาหาร Supermarket , ห้าง และร้านอื่นๆอีกมากมาย
การบริการ
ที่นี่การบริการคือประทับใจมากเอาไปเลย 10/10 ตั้งแต่ที่เริ่ม Check-in พนักงานก็คือบริการดีมาก มี welcome fruit กับน้ำไว้คอยให้บริการ และเป็นโรงแรมเดียว ใน 4 โรงแรมที่ราคา 5,400 บาทแล้วรวมอาหารเช้า ที่อื่นราคาพอๆกันได้แค่ห้องเท่านั้นอาหารเช้าต้องไปหาทางเอง อาหารเช้าแม้ว่าไลน์อาหารจะไม่ได้อลังการมาก แต่ถือว่าครบครัน มี American Breakfast มีStation ผลไม้ เครื่องดื่ม พนักงานไม่เคยปล่อยให้ Station อาหารว่างเลย เติมอาหารตลอด
ราคา
ราคาของ Moxy Hotel ตกคืนละ 6,800 บาท ไม่รวม City Tax ถือว่าระดับราคาเอาเรื่องอยู่ในเมืองเล็กๆแบบนี้แต่เราเลือกที่นี่ และเป็นโรงแรมที่แพงที่สุดในทริปนี้ เมือง Rapperwil มีโรงแรมไม่กี่ที่ แล้วโรงแรมที่ดูน่าเชื่อถือ ก็เป็นโรงแรมนี้ เราเลยยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าเมืองอื่นๆ เพราะต้องมีลูกเล็กมาด้วยเลยค่อนข้างอยากได้โรงแรมที่โอเคนิดนึง ซึ่งการเป็นโรงแรมในเครือของ Marriot ก็เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกที่นี่
การเดินทาง
โรงแรมนี้ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 1 กิโลเมตร เดินได้แหละชิลๆ แต่ถ้านั่งรถเมลล์ก็ 2 ป้าย จากสถานีรถไฟ ถือว่าการเดินทางไม่ได้ลำบากมากสำหรับเมืองนี้ และเมืองนี้ก็จัดว่าเป็นเมืองที่เล็กๆ แบบที่เดินเล่นได้ทั่วเมืองเลย
ความสะดวกสบาย
ห้องพักที่นี่ขนาดใหญ่เลย เดินเข้ามาจะเป็นโถงทางเดิน ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ที่ขนาดไม่ใหญ่มาก มีชักโครกอัดโนมัติ นี่คือครั้งแรกที่ได้นั่งชักโครกคล้ายกับมีสายฉีดล้างที่ไทย ส่วนที่อาบน้ำก็เป็นตู้กระจก ที่ขนาดพอดีๆ ผ่านจากโถงทางเดินตรงกลางจะเป็นโซฟาที่นั่ง ด้านซ้ายจะมีเตียงเสริม วางเตรียมไว้ ส่วนด้านขวาจะเป็นเตียงนอนขนาด 6 ฟุต
เรื่องอาหาร อาจจะเดินไกลนิดนึงสำหรับที่นี่ เพราะว่า Supermarket ก็จะห่างไปประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร แต่ว่าด้านหน้าโรงแรมจะมีร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่แนะนำให้ทานเลย เจ้าของบริการดีมาก อาหารอร่อย ในราคาที่ไม่แพงเลย
การบริการ
พนักงานให้บริการดีมาก เป็นพนักงานคนเดียว ที่ทำหน้าที่ Multitask มาก แต่ก็ยังยิ้มได้อยู่ เป็นทั้ง Reception เป็นทั้ง Bartender ชงเหล้า เป็นทั้ง บาริสต้า ชงกาแฟ เป็นทุกอย่างจริงๆ พนักงานเห็นเด็กน้อยมาด้วยก็รีบหยิบ map มาแนะนำให้รีบไปสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงแรมเลย รวมถึงแนะนำที่นี่ควรไปเดินเล่นที่เมืองนี้ด้วย
ราคา
Ibis budget ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่ายืนหนึ่งในเรื่องของราคาที่ถูก ราคาของ Ibis Budget , Winterthur ตกคืนละ 3,000 บาท ไม่รวม City Tax ถือว่าทำราคาได้ดี ยอมเลือกห้องขนาดเล็กแบบนี้เพราะว่าสุดท้ายเราใช้เวลาอยู่ที่ห้องน้อยมาก ส่วนมากก็จะออกไปเที่ยวข้างนอกมากกว่า Ibis ก็ถือว่าเป็นโรงแรมที่เป็น Chain ที่ไว้ใจได้
การเดินทาง
โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 3 ป้ายรถเมลล์ ที่นี่มีรถเมลล์ให้เลือกหลายสายที่จะไปผ่านหน้าโรงแรม ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีรถกลับโรงแรมเลย
ความสะดวกสบาย
สำหรับห้องที่นี่ ของเรียกว่าพออยู่ได้ ไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้สบาย ห้องมีขนาดเล็กถึงเล็กมาก วางกระเป๋าเดินทาง 1 ใบก็เต็มแล้ว เดินเข้ามาในห้อง ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือเลย ถัดมาจะเป็นอ่างล้างมือที่อยู่ในบริเวณห้อง แล้วก็เป็นตู้อาบน้ำขนาดกระทัดรัด ตามด้วยเตียงขนาด 6 ฟุต แล้วก็จะมีเตียง 2 ชั้นด้านบน ริมหน้าต่างจะมีโต๊ะเล็กๆ ไว้พอให้ได้วางของ เนื่องจากเตียงชั้น 2 มันห่างจากเพดานนิดเดียวสำหรับผู้ใหญ่ที่ตัวสูงหน่อยอาจจะไม่เหมาะ เพราะถ้างัวเงียลุกขึ้นมา มีหัวโขกเพดานแน่นอน ลูกบอกว่าคราวหน้าขอห้องใหญ่กว่านี้นิดนึงนะแม่ ควินน์ไม่มีที่เล่นรถเลย แอบสงสารนางเบาๆ แต่ฝึกให้นางรู้แหละว่าเที่ยวมันก็ต้องงี้แหละ มีทั้งดีและไม่ดีบ้าง
อาหารการกิน ด้านหน้าของโรงแรมจะเป็นร้าน Mc Donalds แล้วฝั่งตรงข้ามจะเป็น ห้างที่มี Coop อยู่สามารถไปซื้ออาหารได้เลย ไม่อดแน่นอน
การบริการ
ที่นี่ใช้ Reception สำหรับ Ibis และ Ibis Budget คนเดียวกัน ถ้าเรามา Check-in ก่อนเวลาอาจจะลองถามพนักงานได้ว่ามีห้องไหม ถ้ามีคน Check-out เร็ว เค้าก็จะหาห้องให้ได้เลย แต่ถ้าไม่มีห้อง เราก็สามารถที่จะฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วออกไปเที่ยวก่อนได้ ถึงแม้จะเป็น Reception คนเดียวสำหรับการ Check-in 2 โรงแรมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าให้บริการช้าเลย ถือว่าให้บริการดีด้วยซ้ำ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้