เราจะเล่าเป็นกลางๆนะ คือ เราไม่ happy เเล้วนะ รู้จักมานานเลยรู้ว่าเค้าไม่ใช่คนเลวอะไร เเต่พอใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากๆเเล้วไม่ happy เลย จะลำดับเหตุการณ์ ไม่อยากจดจำหรอกนะ เเต่มันก้สังเกตจากหลายๆเหตุการณ์
1 เพื่อนคนนี้รู้สึกไม่ค่อยมีน้ำใจ ขอให้ช่วยเหลืออะไรเล็กๆน้อยๆ เช่น ฝากสั่งข้าวตอนเวลานัดทานอาหาร เค้าหาว่าเราใช้เขา (เขาไม่ค่อยพอใจจริงจังอยู่ ไม่ใช่ทีเล่นทีจริง ขำๆ) ทั้งๆที่เราไม่ได้ใช้เขาทำอะไรบ่อยเลยนะจริงๆ ก็คิดว่าถ้าหากเธอช่วยทำ มันไม่ใช่เเค่เขาทำเพื่อเรานะ เเต่ทำเพื่อเราทั้งคู่จะได้มีข้าวที่สั่งมาไวๆทั้งคู่ จะได้เอาเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นต่อ
2 เป็นอีกเรื่องที่ไร้สาระมาก คือ กินข้าวสั่ง banana split มา ถามเเล้วว่ากินไหม เขาไม่สนใจ เเต่เราอยากกินเองเลยสั่ง เเล้วเขาเหวี่ยงขั้น max หลังออกจากร้านว่าเราไม่เเบ่งเขากิน
เราเลยบอกว่างั้นเราจะไปสั่งมาคืนนะ เราไม่ได้ประชดนะ เราหมายความอย่างนั้นจริงๆ เเต่เขาบอกว่าเขาอื่มเเล้ว เเล้วก้หงุดหงิดต่อไป
3 เขาไม่ไปกิจกรรมที่เราอยากไปเเต่เขาไม่สนใจเเม้เพียงทางผ่าน คือ เราจะเเวะธนาคารเพราะเดินผ่าน นึกได้ เเต่ยังทำธุรกรรมทางการเงินไม่เสร็จก็ต้องออกมา คือบางอย่างต้องรอพนักงานเซ็นนู่นนี่นานๆ ก้ไม่ได้ทำ เพราะเเค่เรายืนต่อเเถวที่ไม่ได้ยาวมากอะไร เขาก็หน้าบึ้งที่ต้องรอเราเเล้ว ถ้าเขายุ่ง หรือมีธุระอื่นที่รีบไปก็บอกได้ เเต่ดูท่าทางไม่ได้มีธุระอื่นหรอก เเค่ขี้เกียจรอเรามากกว่า
4 ดูหนัง ไปร้องคาราโอเกะต่อ เเล้วต่อร้านเหล้า หลังจากนั้นเคลียร์เงินว่าใครออกไรบ้าง เคลียกันว่าใครออกไรบ้างเเล้วมาหาร2 เขาไม่เก็บใบเสร็จ เรายื่นใบเสร็จให้ เเล้วเขาโยนใบเสร็จทิ้งถังขยะ
เเล้วเขาเมมยอดมั่วลงมือถือ (เราคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมั่ว เเค่กดเลขลงมือถือผิด) ที่เรารู้ว่าเขาเมมมั่วเพราะเลขมันออกมาไม่น่าจะใช่อย่างยิ่ง สุดท้ายคือเขาเมมมั่วจริงๆ เมมสลับหลัก
เเต่กว่าจะยอมรับว่ามั่วก้นาน คือ ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นมันก็เเค่อ้าวเราคิดเลขผิดหรอ งั้นต้องจ่ายเพิ่มเท่าไร ตามยอดที่เเกซึ่งก้คือเราคิดเลยละกัน เเต่นี่มันทะเลาะกับเราท่ามกลางเสียงเพลงอันดังในร้าน คือนึกบรรยากาศออกไหม โคดอายพนักงาน เเต่เเบบเค้าคิดให้เราหายไปหลายร้อย เพราะสลับหลัก คือเราก็ต้องท้วงป่ะ ...ก็เซงว่าตั้งนานกว่าจะยอมรับว่าคิดเลขผิด มาเสียเวลาทะเลาะกับเรา ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นมันก็เเค่อาจจะถามนิดหน่อยเกี่ยวกับจำนวนยอดที่ผิด เเต่ไม่ใช่มาทะเลาะในร้านป่าว ...เเล้วมาเหวี่ยงทีหลังว่าไม่อยากมาร้านเหล้า คือ ถ้าไม่อยากมาก็บอกตั้งเเต่ต้น จบป่ะ หรือไม่ถ้าตัดสินใจมาเเล้วก็อย่าเหวี่ยง ไม่น่ารักเลย
5 ตอนกลับมันเป็นทางผ่านบ้านเพื่อนของน้องสาวเขา น้องสาวเขาบอกว่าช่วยไปเอากล่องสินค้าที่น้องสาวสั่งซื้อหน่อย เพื่อนน้องสาวยังดูทีวีอยู่ในบ้าน เขาก็บอกว่าให้น้องสาวเขามาเอาเองดิ ทำไมเขาต้องมาเอาให้ คือเราก็คิดน่ะว่ามันก็เเค่ทางผ่าน ไม่ได้ลำบากอะไรเลย มันก็เป็นเเค่น้ำใจเล็กๆน้อยๆที่สามารถทำให้น้องสาวเขาได้ เเต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ
เราพยายามมองข้อดีของเขาเเล้วนะ เเต่คิดว่าข้อเสียนี้คือนิสัยของเขาเเละเราไม่อยากทนนิสัยขี้หงุดหงิด เอาเเต่ใจ สงสัยว่าเเฟนรักเขาได้ไงผู้หญิงเอาเเต่ใจขนาดนี้ คือ จะคบคนๆนึงมันก็ต้องดูด้วยป่าวว่านิสัยจริงๆเป็นยังไง ปฏิบัติต่อคนอื่นยังไง ไม่ใช่เเค่ตอนหวานเเหววกับเเฟน คือเราเเค่มีความรู้สึกนะว่าครอบครัวเขาเลี้ยงเขามาเเบบรักลูก ตามใจเกินไปน่ะ ทำให้ไม่ค่อยนึกถึงคนอื่น
เพื่อนเเบบนี้ เลิกสนิทดีไหม
1 เพื่อนคนนี้รู้สึกไม่ค่อยมีน้ำใจ ขอให้ช่วยเหลืออะไรเล็กๆน้อยๆ เช่น ฝากสั่งข้าวตอนเวลานัดทานอาหาร เค้าหาว่าเราใช้เขา (เขาไม่ค่อยพอใจจริงจังอยู่ ไม่ใช่ทีเล่นทีจริง ขำๆ) ทั้งๆที่เราไม่ได้ใช้เขาทำอะไรบ่อยเลยนะจริงๆ ก็คิดว่าถ้าหากเธอช่วยทำ มันไม่ใช่เเค่เขาทำเพื่อเรานะ เเต่ทำเพื่อเราทั้งคู่จะได้มีข้าวที่สั่งมาไวๆทั้งคู่ จะได้เอาเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นต่อ
2 เป็นอีกเรื่องที่ไร้สาระมาก คือ กินข้าวสั่ง banana split มา ถามเเล้วว่ากินไหม เขาไม่สนใจ เเต่เราอยากกินเองเลยสั่ง เเล้วเขาเหวี่ยงขั้น max หลังออกจากร้านว่าเราไม่เเบ่งเขากิน เราเลยบอกว่างั้นเราจะไปสั่งมาคืนนะ เราไม่ได้ประชดนะ เราหมายความอย่างนั้นจริงๆ เเต่เขาบอกว่าเขาอื่มเเล้ว เเล้วก้หงุดหงิดต่อไป
3 เขาไม่ไปกิจกรรมที่เราอยากไปเเต่เขาไม่สนใจเเม้เพียงทางผ่าน คือ เราจะเเวะธนาคารเพราะเดินผ่าน นึกได้ เเต่ยังทำธุรกรรมทางการเงินไม่เสร็จก็ต้องออกมา คือบางอย่างต้องรอพนักงานเซ็นนู่นนี่นานๆ ก้ไม่ได้ทำ เพราะเเค่เรายืนต่อเเถวที่ไม่ได้ยาวมากอะไร เขาก็หน้าบึ้งที่ต้องรอเราเเล้ว ถ้าเขายุ่ง หรือมีธุระอื่นที่รีบไปก็บอกได้ เเต่ดูท่าทางไม่ได้มีธุระอื่นหรอก เเค่ขี้เกียจรอเรามากกว่า
4 ดูหนัง ไปร้องคาราโอเกะต่อ เเล้วต่อร้านเหล้า หลังจากนั้นเคลียร์เงินว่าใครออกไรบ้าง เคลียกันว่าใครออกไรบ้างเเล้วมาหาร2 เขาไม่เก็บใบเสร็จ เรายื่นใบเสร็จให้ เเล้วเขาโยนใบเสร็จทิ้งถังขยะ เเล้วเขาเมมยอดมั่วลงมือถือ (เราคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมั่ว เเค่กดเลขลงมือถือผิด) ที่เรารู้ว่าเขาเมมมั่วเพราะเลขมันออกมาไม่น่าจะใช่อย่างยิ่ง สุดท้ายคือเขาเมมมั่วจริงๆ เมมสลับหลัก เเต่กว่าจะยอมรับว่ามั่วก้นาน คือ ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นมันก็เเค่อ้าวเราคิดเลขผิดหรอ งั้นต้องจ่ายเพิ่มเท่าไร ตามยอดที่เเกซึ่งก้คือเราคิดเลยละกัน เเต่นี่มันทะเลาะกับเราท่ามกลางเสียงเพลงอันดังในร้าน คือนึกบรรยากาศออกไหม โคดอายพนักงาน เเต่เเบบเค้าคิดให้เราหายไปหลายร้อย เพราะสลับหลัก คือเราก็ต้องท้วงป่ะ ...ก็เซงว่าตั้งนานกว่าจะยอมรับว่าคิดเลขผิด มาเสียเวลาทะเลาะกับเรา ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นมันก็เเค่อาจจะถามนิดหน่อยเกี่ยวกับจำนวนยอดที่ผิด เเต่ไม่ใช่มาทะเลาะในร้านป่าว ...เเล้วมาเหวี่ยงทีหลังว่าไม่อยากมาร้านเหล้า คือ ถ้าไม่อยากมาก็บอกตั้งเเต่ต้น จบป่ะ หรือไม่ถ้าตัดสินใจมาเเล้วก็อย่าเหวี่ยง ไม่น่ารักเลย
5 ตอนกลับมันเป็นทางผ่านบ้านเพื่อนของน้องสาวเขา น้องสาวเขาบอกว่าช่วยไปเอากล่องสินค้าที่น้องสาวสั่งซื้อหน่อย เพื่อนน้องสาวยังดูทีวีอยู่ในบ้าน เขาก็บอกว่าให้น้องสาวเขามาเอาเองดิ ทำไมเขาต้องมาเอาให้ คือเราก็คิดน่ะว่ามันก็เเค่ทางผ่าน ไม่ได้ลำบากอะไรเลย มันก็เป็นเเค่น้ำใจเล็กๆน้อยๆที่สามารถทำให้น้องสาวเขาได้ เเต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ
เราพยายามมองข้อดีของเขาเเล้วนะ เเต่คิดว่าข้อเสียนี้คือนิสัยของเขาเเละเราไม่อยากทนนิสัยขี้หงุดหงิด เอาเเต่ใจ สงสัยว่าเเฟนรักเขาได้ไงผู้หญิงเอาเเต่ใจขนาดนี้ คือ จะคบคนๆนึงมันก็ต้องดูด้วยป่าวว่านิสัยจริงๆเป็นยังไง ปฏิบัติต่อคนอื่นยังไง ไม่ใช่เเค่ตอนหวานเเหววกับเเฟน คือเราเเค่มีความรู้สึกนะว่าครอบครัวเขาเลี้ยงเขามาเเบบรักลูก ตามใจเกินไปน่ะ ทำให้ไม่ค่อยนึกถึงคนอื่น