ตามชื่อเรื่องเลยนะคะ เรามีพี่ที่ความจริงเป็นน้าของเราที่อายุห่างกับเรา10ปี ขอท้าวความก่อนว่าพี่ของเราเป็นพี่น้องคนละพ่อกับเเม่ของเรา ตั้งเเต่เด็กพี่จะโดนเลี้ยงดูมาแบบตามใจตลอดเวลาค่ะ ทำให้มีนิสยที่ค่อนข้างเอาเเต่ใจ ตามประสาการเป็นน้องเล็กของครอบครัว โดยปกติถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เเต่เราไม่ค่อยได้อยู่กับพี่ค่ะ เพราะพี่เราจะเรียนเเละทำงานในกรุงเทพ จึงจะได้เจอกันทีเเค่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดเท่านั้น เเต่พอเราขึ้นมหาลัย ที่บ้านก็ให้เรามาอยู่กับพี่ เเละน้องสาวเเท้ของเราเอง จุดเริ่มต้นคือตรงนี้เลยค่ะ ตลอดเวลาที่เราอยู่กับเขาเราเห็นได้ชัดเลยว่าพี่เราเป็นคนที่เครียดเรื่องงานหรือเรื่องอะไรต่างๆจะเริ่มมาพูดระบายกับเรา เรารับฟังมาตลอดนะคะ จนมันเริ่มหนักเขาเริ่มไม่ควบคุมอารมณ์ เริ่มเอาอารมณ์ที่ร้อนมาจากที่ทำงานมาลงเรา มาว่าเราในเรื่องที่ไร้สาระทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ทะเลาะเลย พี่เราไม่เคยทำงานบ้านในห้องเลย เพราะเขาถือคติว่าเขาออกค่าห้องส่วนหนึ่ง ซึ่งอีกส่วนคือของเรากับน้องสาวที่ที่บ้านเป็นคนออกให้ เขาพูดกับเราว่าทำไมเขาต้องทำในเมื่อเขาออกตัง ซึ่งนี้เป็นเรื่องที่เรารุ้สึกไม่โอเคเลย เเต่เราเลือกที่จะก้มหน้าไม่พูดอะไร เพราะถือว่าเราเป็นน้องอายุน้อยยังไงก็ต้องยอม ทุกเช้าเราจะตื่นไปเรียนก่อนเขาซึ่งเราต้องเปิดไฟเเต่งตัว เขาก็จะทำเสียงจิ๊ปาก และมาพูดว่าเราทีหลัง จนเราเเก้ปัญหาด้วยการใช้โคมไฟหรือไฟฉายทรศในการเเต่งตัว นอกจากนั้นพี่เรายังมีคำพูดอีกมากมายที่ท้อกซิกใส่เรา เเต่เราเลือกที่จะไม่เถียงกลับเลยสักครั้ง ทุกวันศุกร์เสาทิตย์พี่เราจะชอบลากเราออกไปข้างนอกหรือทำอะไรที่เขาอยากทำ เเต่ถ้าเราไม่อยากไปหรือไม่ยอมไปเขาก็จะมางอนเราที่เราไม่ไปเป็นเพื่อนเขา เวลาเรามีปัญหาอะไรมาปรึกษาเขา เขาไม่เคยรับฟังเเบบจริงใจ ฟังผ่านๆเเละไม่เคยให้คำแนะนำที่ใช้ได้เลยสักครั้ง เรานอนตื่นสายในวันหยุดเเต่เขาตื่นก่อนเขาก็จะมาวีนเราว่าเราไม่ตื่นเขาหิวข้าว ซึ่งจริงๆไม่ต้องรอกันก็ได้ในความเป็นจริง เราไม่เคยขอให้พี่รอเลย เราเริ่มเก็บสะสมความรู้สึกพวกนี้ไว้มาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่งอนหรือทะเลาะกันเขาจะเลือกใช้การกระทำที่รุนเเรงผลักของ หรือว่าเราเเรงๆ ถึงเเม้เรื่องนี้เราไม่ผิดเราก็จะเป็นคนผิดทันที เเละเป็นฝ่ายพูดขอโทษตลอด จนเราเหมือนคนหัวอ่อนไม่สู้คน จนมาถึงตอนนี้ที่เราไม่ทนอีกต่อไป เราเหนื่อยที่เราต้องเป็นสนามอารมณ์ทุกอย่าง ทำทุกอย่างเหมือนทาส ในคืนวันศุกร์พี่เราทักมาฟีลเหมือนในทุกครั้งว่าจะชวนเราออกข้างนอก เเต่เราพี่งสอบเส้ดตอนเช้าเลยรุ้สึกไม่มีเเรงสุดๆที่จะไปไหนด้วย เราเลยบอกว่าเราว่างเเค่วันเสา เพราะวันอาทิตย์เราต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบอีก พี่เราเขาก็พูดเเค่ว่าเขาจะไปโรงบาลตอนเช้าเเละเอารถไปเข้าอู่ ซึ่งเขาบอกว่าเขาจะไปเอง เราเลยชวนเขาไปนั่งเล่นสวนสาธารณะตอนเย้นเเทน เขาก็บอกไม่ไป เเต่พอถึงวันเสา เรานอนอยู่เขาก็โทรมาปลุกเราตอนเก้าโมงเช้า เขาบอกให้เราเตรียมตัวเพราะเขาจะไปดูคอนโดเเละจะมารับเราในอีก 40 นาที เราก็ตอบรับเเละวางสาย เเต่ด้วยความที่เราเหนื่อยเหมือนนอนน้อยเราเลย ตั้งนาฬิกาอีก 10 นาทีค่อยลุก เเต่เขาโทรมารอบสองเพื่อเป็นการปลุกเราอีกรอบ เเต่รอบนี้ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเราง่วง เราเลยเผลอพูดขึ้นเสียงนิดหน่อยว่า ตื่นเเล้ว มีอะไร เเล้วเขาก้มางอนเรา พอเราโทรกลับก็บอกว่าไม่ไปเเล้ว ละบอกว่าเราพูดจาไม่ดี เราเลยตอบว่าเราพึ่งตื่นใครจะยิ้มเเย้ม เเล้วเขาก็พูดประชดใส่เรา ว่าต่อให้เขาซื้อคอนโดใหม่ ก็ให้เราไปอยู่หอโกโรโกโสต่อไป ซึ่งเราไม่เคยโอเคกับการซื้อคอนโดอยู๋เเล้ว เพราะเขาพูดว่าเขาซื้อเเละให้เราช่วยผ่อนตอนเราเรียนจบ ซึ่งเงินเดือนเด็กจบใหม่มันไม่น่าผ่อนคอนโดไหวอยู่เเล้ว เเล้วเขาก็พูดว่า ต่อให้เราจะอยู่หรือไม่อยู่ คอนโดก็เป็นชื่อเขาอยู่ดีซึ่งเราฟังเเล้วเรารู้สึกเเย่มาก กลับมาที่ตอนเราทะเลาะกันเราทนไม่ไหว เหมือนเสียงอะไรในใจเราดังเหมือนกระจกเเตก เราทนไม่ไหวเเล้ว เราเลยพูดไปว่า เออทำอะไรก็ผิด นอนก็ผิด ตื่นก็ผิด ถามก็เเล้วว่าจะไปทำอะไรวันเสา ไม่เข้าใจว่าต้องทำยังไงถึงพอใจ ไม่รู้ว่าต้องทำถึงเท่าไหน่ถึงจะดี เข้าใจว่าเครียดเรื่องงานเเละความสัมพันธ์ุเเต่ทำไมต้องเอามาลงนี่ตลอด จากนั้นพี่ก็ไม่ตอบไม่อะไรค่ะ เขากดออกจากกลุ่มครอบครัว อันฟอลไอจี เเละลบฟอลเรา เรารู้สึกทั้งโกรธเเละเสียใจ เเละรู้สึกผิด ว่าเราผิดอะไรหนักหนา เรารู้สึกไม่อยากที่จะอยู่เเละเจอหน้าเขาอีกเเล้ว ซึ่งเราเอาเรื่องนี้ไปบอกที่บ้าน ที่บ้านก็บอกว่าจบสัญญาคอนโดนี้ก็ให้เเยกกันค่ะ เเต่มันอีกหลายเดือนมาก เรารุ้สึกว่าเราทำตัวไม่ถูก เราเจ่บก็เจ่บ เเต่ก็ไม่อยากทะเลาะกัน เเต่เราก็ไม่อยากที่จะพูดขอโทษก่อนอีกเเล้ว
จากเรื่องที่เล่าไปเราควรทำยังไงดีคะ เราไม่อยากให้ที่บ้านเครียดไปด้วย เราควรขอโทษก่อนดีไหมคะ เเต่เราเองก็รุ้สึกว่าความรู้สึกมันไปหมดเเล้วเราไม่สามารถมองเขาเป็นพี่ที่ดีได้อีกเเล้ว เราไม่รู้ว่าเราต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงเลยค่ะ
ปล.อาจจะสื่อสารไม่ดีเท่าไหร่ เเต่ก็พยายามเรียบเรียงให้ดีที่สุดเเล้วค่ะ
ทะเลาะกับพี่สาวที่อายุห่างกันมาก
จากเรื่องที่เล่าไปเราควรทำยังไงดีคะ เราไม่อยากให้ที่บ้านเครียดไปด้วย เราควรขอโทษก่อนดีไหมคะ เเต่เราเองก็รุ้สึกว่าความรู้สึกมันไปหมดเเล้วเราไม่สามารถมองเขาเป็นพี่ที่ดีได้อีกเเล้ว เราไม่รู้ว่าเราต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงเลยค่ะ
ปล.อาจจะสื่อสารไม่ดีเท่าไหร่ เเต่ก็พยายามเรียบเรียงให้ดีที่สุดเเล้วค่ะ