ยุทธศาสตร์การทำรัฐประหาร CIA ยังคงดำเนินต่อไปทั่วโลก : ยูเครน เวเนซูเอล่าและไทยคือเหยื่อรายล่าสุด



สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้มาจากผลพวงของฝ่ายกองบังคับการ CIA ที่ตั้งอยู่ใน Langley,Virginia ซึ่งเป็นหน่วยที่พยายามเข้าไปแทรกซึมทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การทหารและการแทรกแซงทางการเมือง โดย CIA ในอดีตก็มักจะดำเนินการกับรัฐบาลต่างๆที่หัวแข็งกับพวกเขาไปทั่วโลก

หลังจากที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือฝ่ายกบฏของยูเครนในการต่อต้านรัฐบาล ประธานาธิบดี Viltor Yanukovych ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว ก็มีการใช้โฆษณาชวนเชื่อโหมเข้ามาในกรุงวอชิงตัน โดยยืมมือหน่วย NED,USAID, OSI ในการโฟกัสไปที่ประเทศเวเนซูเอล่า

เวเนซูเอล่ามีเจ้าหน้าที่การทูต 3 คนอยู่ใน Caracas โดยมีการพบปะกับฝ่ายผู้ประท้วงและช่วยเหลือวางแผนต่อต้านรัฐบาลจนถึงก่อจลาจลทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ 3 คนได้รับคำสั่งให้ขับไล่รัฐบาลเวเนซูเอล่า ในช่วงเดือนตุลาคมเวเนซูเอล่าได้ทำการขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตคนอื่นไป 3 คน จากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลุกระดม โดยมีเจ้าหน้าที่อีก 6 คน ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากการให้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ CIA

ในกรณีตัวอย่างเอกราชทูตอเมริกา Kyiv Geoffrey Pyatt กับการเข้าเยี่ยมของรัฐมนตรีช่วย Victoria Nuland ก็ได้มีการนัดพบกับผู้นำฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลในการช่วยวางแผนต่อต้านรัฐบาล นักการทูตอเมริกันที่อยู่ใน Caracas ก็ได้ทำการนัดพบกับ Leopoldo Lopez ซึ่งเป็นนักเรียนทุนของฝ่ายอเมริกา ทางด้านรัฐบาลเวเนซูเอล่าก็ได้มองว่า Lopez เป็นผู้นำต่อต้านรัฐบาลไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ มีการเปิดเผยถึงแหล่งเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก CIA อย่างเช่นองค์กร NED กับ USAID ในการวางแผนจัดตั้งผู้ชุมนุมประท้วงและเริ่มเปิดประเด็นปัญหาเศรษฐกิจในเวเนซูเอล่า

ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมือง Voluntad ของ Lopez กับองค์กรแถวหน้าฝ่ายขวากับกลุ่มสนับสนุนอิสราเอล กลุ่มลำเลียงยาเสพติด รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดีโคลัมเบีย Alvaro Uribe นั้น มีความเกี่ยวข้องกับ CIA ทั้งเรื่องการเงินกับยาเสพติดก็ผ่านช่องทางจากพรรคของ Lopez โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กร Soros-sounding Uribe fronts ซึ่งเป็นกล่องดวงใจของมูลนิธิ Colombia First กับ Democratic Internationalism ก่อนที่จะเกิดความรุนแรงขึ้นในเวเนซูเอล่า

เอกราชทูตอเมริกาใน Caracas ถือเป็นกรณีตัวอย่างแบบเดียวกันใน Kyiv กับ Moscow ที่มีการวางแผนช่วยเหลือผู้ชุมนุมประท้วงในเวเนซูเอล่า สิ่งหนึ่งก็คือ ผู้นำต่อต้านรัฐบาลยูเครนหลายคนกับรัสเซียรวมไปถึงตัว Lopez เองนั้นก็มีการใช้เวลานัดพบกับเอกราชทูตอเมริกาในเมืองหลวงทุกๆครั้งและมักจะคอยให้ความช่วยเหลือทางการเงินทุกๆครั้ง

หน่วย CIA ที่ตั้งอยู่ในยูเครนกับเวเนซูเอล่านั้นก็มีการใช้แนวคิดแบบฟรานซิสในการสนับสนุนการต่อต้านรัฐบาล ในเวเนซูเอล่านั้นก็มีปฎิกิริยาจากผู้สนับสนุนแนวคิดคณาธิปไตยฟรานซิสในอดีตจากการให้ความช่วยเหลือของประเทศอเมริกา ในขณะที่ยูเครนก็มีคนหัวฟรานซิสอย่าง Tyahnybok ที่ให้การสนับสนุนอเมริกาและอิสราเอลในการต่อต้านรัฐบาลยูเครน รายงาน CIA มีการเปิดเผยว่า วันที่ 4 เมษายน 1973 ในช่วงเวลาที่ยังเป็นรัฐสังคมนิยมยูเครน ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ได้ทำการเฝ้าระวังแนวคิดชาตินิยมยูเครนกับไซออนนิสที่ดูเหมือนว่าจะเป็นภัยความมั่นคงของยูเครนในเวลานั้น ในวันนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักสำหรับยูเครน

แม้ว่าจะมีการสนับสนุนผู้นำต่อต้านรัฐบาลด้วยเงินดอลลาร์ ทางด้านอเมริกากับนายธนาคารก็ไม่ปราณีในการทำลายค่าเงินเวเนซูเอล่ากับเศรษฐกิจภายในประเทศโดยใช้สื่อสารมวลชนในการโจมตีเรื่องราวผิดๆเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขาดแคลนในเวเนซูเอล่าเช่น กระดาษชำระ เกลือและน้ำตาล นี่เป็นเล่ห์กลคลาสลิกของ CIA ในการโจมตีรัฐบาลคิวบากับประเทศอื่นๆที่มีต่อต้านอเมริกา

เล่ห์กลแบบเดียวกันเกี่ยวกับการขาดแคลนสินค้านั้น CIA ก็ได้ใช้ทำลายนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงคอยให้การสนับสนุนอยู่ ประเด็นก็มาจากการข่าวลือที่ว่าประเทศอเมริกาขาดแคลนข้าวในประเทศจากการที่ไทยมีโครงการขายข้าวให้กับจีน ทางด้าน CIA จึงวางแผนต่อต้านยิ่งลักษณ์พร้อมกับใช้ข้อมูลต่างๆในโครงการภาคประชาสังคม ข้อมูลจากปปช. พร้อมทั้งก่อตั้งองค์กรคนเสื้อเหลืองแนวคิดอนุรักษ์นิยมและแสร้งทำเป็นตั้งคณะกรรมการปฎิรูปรัฐธรรมนูญ

CIA ล้มเหลวต่อการทำรัฐประหารประธานาธิบดี Hugo Chavez ในเดือนเมษายน ปี 2002 CIA กับพวกดำเนินการใช้โฆษณาชวนเชื่อโจมตีฝ่าย PDVSA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำบริษัทน้ำมันมาเป็นของรัฐ ซึ่งจริงๆบริษัท CITGO ของอเมริกาเป็นเจ้าของ การโฆษณาชวนเชื่อของ CIA ที่พีคสุดก็มาจากการใช้ข้อมูลโจมตีว่า PDVSA ทุจริตและอ้างว่า เวนาซูเอล่าตอนนี้ได้นำเข้าน้ำมันมาจากประเทศอเมริกา ข้อมูลแม้จะบิดเบือนแต่ก็มีความร่วมมือจากฝ่ายสื่อสารมวลชน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเครือข่ายการโฆษณาชวนเชื่อของ Soros ในการสร้างข้อเท็จจริงแบบผิดๆ

สื่อสารมวลชนโดยเฉพาะ Miami Herald ซึ่งเป็นผู้สร้างเรื่องแต่งว่า มีการขับไล่ชาวเวเนซูเอล่าให้อยู่ในรัฐฟลอริด้าตอนใต้แบบเดียวกับที่ฝ่ายขวาของรัฐบาลคิวบากับกลุ่มชาตินิยมไซออนนิสได้ทำ ซึ่งมีการอ้างอย่างผิดๆว่า เวเนซูเอล่ามีอัตราการก่ออาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลของประธานาธิบดี Nicolas Maduro ไม่สามารถรักษามาตรการความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ นี่ก็เป็นเล่ห์กลคลาสลิกของ CIA ที่ใช้ทำลายรัฐบาลที่มีเสถียรภาพไปทั่วโลก รวมไปถึงประเทศอิรัก ปากีสถานและอัฟกานิสถาน โดยมีองค์กรก่อการร้ายคอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนและเครือข่ายอาชญากรในการทำร้ายประชาชน

CIA มีการวางเกมทำลายเศรษฐกิจในช่วงรัฐบาลสังคมนิยมชิลีของประธานาธิบดี Salvador Allende ในเวเนซูเอล่านั้น CIA ได้ทำการโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมัน ในชิลีนั้น CIA ก็ได้ใช้อุตสาหกรรมทองแดงในการทำลายเศรษฐกิจประเทศก่อนที่จะเกิดการทำรัฐประหารนองเลือดในวันที่ 11 กันยายน ปี 1973 โดยมีการลอบสังหาร Allende และต่อมาก็มีการสังหารหมู่ผู้สนับสนุนทางการเมืองโดยกลุ่มทหารที่มาจากอเมริกา

ประเทศอื่นๆในแถบลาตินอเมริกาก็รู้ดีว่า ประเทศอเมริกาเข้าไปแทรกแซงกิจการของเวเนซูเอล่า โดยอเมริกาได้ยกเลิกการเยียวยาทางเศรษฐกิจในโบลิเวียหลังจากที่รัฐบาลได้ขับไล่ USAID ที่ทำการปลุกระดมฝ่ายกบฏในประเทศ ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ Rafael Correa ก็ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้ทำการยกเลิกสนธิสัญญาการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ จากโครงการของเพตากอนที่ได้ทำการอนุมัติให้อเมริกาตั้งฐานทัพในประเทศแถบลาตินอเมริกา

แต่ CIA ก็มองเห็นสถานการณ์ในลาตินอเมริกาว่า สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การโค่นล้มรัฐบาลเวเนซูเอล่าโดยกลุ่มฝ่ายขวาก็มาจากความหวังในการจุดกระแสให้เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆตามมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ปี 1975 เอกสาร CIA ก็ได้บันทึกหัวข้อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในแถบลาตินอเมริกาที่หวังว่า จะเกิดการนองเลือดโค่นล้ม Allende ในปี 1973 จากการที่ทำให้อเมริกาเสียผลประโยชน์ CIA มองว่าการเสียชีวิตของ Allende เป็นการกีดกั้นไม่ให้ประเทศโลกที่สามในการดำเนินนโยบายแบบผิดๆในสายตาของ CIA ซึ่งก็รวมไปถึงตัวของประธานาธิบดีเม็กซิโก Luis Echeverria กับกลุ่ม OPEC รวมไปถึงเอกวาดอร์กับเวเนซูเอล่า เมื่อมาดูประเทศในแถบลาตินอเมริกา ไม่เพียงแค่จะทำกับเม็กซิโก เอกวาดอร์กับเวเนซูเอล่าที่จะเจอแรงกดดันของอเมริกาเท่านั้น (ต่อมาก็การใช้มาตรการลงโทษในการลดอัตราการเก็บภาษีภายใต้สนธิสัญญาการปฎิรูปการค้าอเมริกาในปี 1974) แต่ชิลีซึ่งท้าทายอเมริกาด้วยรูปแบบการปกครองแบบฟรานซิสก็ได้ทำการลงมติที่ UN ในการแก้ปัญหาความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ

จากการที่ CIA ใช้เล่ห์กลกับประเทศลาตินอเมริกาในช่วงกลางปี 1970 นั้น ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ CIA จึงพยายามที่จะหาวิธีการกำจัดฝ่ายตรงข้ามในลาตินอเมริกาอย่างเงียบๆ การลอบสังหารทางอากาศผู้นำปานามา Omar Torijos กับผู้นำเอกวาดอร์ Jaime Roldos นั้น เป็นที่รู้กันดีว่าทั้งสองคนนี้มีนโยบายต่อต้านอเมริกา เพื่อที่จะแสดงให้โลกรับรู้ว่า อเมริกามีความชอบธรรมในการสังหารเมื่อไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งในตัวผู้นำได้

วันนี้ประธานาธิบดีโอบามาก็แสดงให้เห็นว่า เขาก็ไม่ได้ต่างไปจากประธานาธิบดีอเมริกาคนอื่นๆที่เข้าไปแทรกแซงกำจัดผู้นำประเทศแต่ละคนที่เป็นปฎิปักษ์กับอเมริกา

ผู้แปล : Mr.lawrence10

ที่มา : sott.net
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่