[CR] แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวเชงเก้น ณ สถานทูตเยอรมนี (ฉบับมนุษย์เงินเดือน) กันยายน 2559 โหดมั้ยมาดูกัน!!!

สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ผมเองสิงตัวอยู่ในห้อง blueplanet มานาน หาข้อมูลและความรู้มากมายจากที่นี่ วันนี้อยากมีโอกาสตอบแทนกระทู้พันทิพย์เผื่อจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปยุโรปนะครับ
ผมเองเคยขอวีซ่าเชงเก้นมาทั้งหมด 3 ครั้ง (เยอรมนี 2 ครั้ง อิตาลี 1 ครั้ง) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ครับ ไปประเทศ เยอรมนี เชค ออสเตรีย และฝรั่งเศสครับ โดยตั๋วเครื่องบินที่ซื้อคือไปและกลับจากฝรั่งเศสจาก Qatar airways ช่วงโปรโมชั่น แต่อยู่เยอรมนีนานที่สุดเลยต้องมาขอที่นี่อีกครั้งครับ และซื้อตั๋วเครื่องบินอีกสายการบินหนึ่งบินต่อไปเบอรลินเลยครับ เจอเจ้าหน้าที่ถามด้วยครับ ไว้จะเล่าให้ฟังตอนสัมภาสณ์นะครับ ก่อนหน้านี่ 2 ครั้งที่มาทำวีซ่าเชงเก้นเยอรมนี เนื่องจากผมเรียนปริญญาโทอยู่เมืองไทย แต่มีช่วงหนึ่งประมาณ 1 เดือนที่ต้องไปดูงานที่มหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนี ซึ่งมีจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการเรียบร้อย แต่ครั้งนี้เป็นการขอวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรกที่เยอรมนีครับ

ช่วงเวลาการขอวีซ่าไม่เกิน 90 วันก่อนเดินทางครับ แล้วตอนนี้สามารถจองนัดหมายเวลายื่นวีซ่าผ่านเว็บได้เลยครับ ดีมาก ๆ เลย เมื่อก่อนต้องโทรจองครับ เสียนาทีละ 9 บาท กว่าจะนัดหมายเรียบร้อยก็หลายนาทีอยู่ นับว่าประหยัดไปได้หลายสิบบาทนะครับ อิอิ
ช่องทางการนัดหมายครับ
https://service2.diplo.de/rktermin/extern/choose_realmList.do?locationCode=bangk&request_locale=en
ที่ตั้ง สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำกรุงเทพฯ
เลขที่ 9 ถนนสาทรใต้
กรุงเทพฯ  10120
เวลาเปิดทำการของสถานทูต:
จันทร์ –ศุกร์  ระหว่าง 8.30 –11.30 น.
สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีลุมพินี เดินต่อประมาณ 400 เมตรครับ
มาดูเอกสารก่อนนะครับ รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/Touristenvisum.html
1.    หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้ โปรดตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของท่านพร้อมสำเนาหน้าแรก
- มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
- เป็นเล่มที่ออกมานานไม่เกิน 10 ปี
- ยังมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือนนับจากวันเดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเกน
*บางกรณี ต้องแสดงหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่ท่านเคยมีมาแล้วด้วย
2.    รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/3431148/Daten/2062571/Fotomustertafeldownloaddatei.pdf
ปล. ผมใช้ iphone 4 ถ่ายเองครับ หากำแพงสีขาวหรือเทาอ่อน แล้วไปปรับแต่งใน photoshop แล้วไปล้างแถวบ้าน ใบละ 5 บาทครับ
3.    แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนที่กรอกข้อความครบถ้วน 1 ฉบับ (*พิมพ์เท่านั้น ห้ามใช้ปากกาเขียน)
https://videx.diplo.de/videx/?0
4.    ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/3762722/Daten/6237544/SchengenBelehrung.pdf
*ข้อนี่ผมไม่ได้ปริ้นไปครับ เพราะตอนแรกเข้าใจว่ามันอยู่ในแบบฟอร์มคำร้องวีซ่าเชงเก้นแล้ว เพราะเคยขอ 2 ครั้งแรก ไม่มีข้อนี้ครับ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตส่วนหน้าใจดีเดินมาถามตอนเราเรียงเอกสารพอเราไม่มีเค้าเลยแจกให้ครับ คงคิดว่าคนลืมกันบ่อย ยังไงก็อย่าลืมเตรียมข้อนี้ไปด้วยนะครับ
5.    หลักฐานยืนยันการจองที่พัก/เที่ยวบินและอื่นๆ จากบริษัทนำเที่ยวและโรงแรม ตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก (ข้อนี้ผมซื้อตั๋วชำระเงินเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนโรงแรมจองผ่าน booking.com หรือ agoda ก็แล้วแต่ครับ เลือกแบบ free cancellation ได้)
6.    หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก วงเงินความคุ้มครองไม่ตํ่ากว่า 30,000.- เหรียญยูโร และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วย
ดูรายชื่อบริษัทประกันในประเทศไทยที่สามารถให้บริการประกันแก่ท่าน หรือท่านจะทำประกัน ดังกล่าวกับบริษัทประกันในประเทศเยอรมนีก็ได้เช่นกัน
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/6864714/Krankenversicherung.pdf
7.    สำหรับพนักงาน/ลูกจ้าง: หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบันและหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุตำแหน่ง จำนวนปีการทำงานและเงินเดือน)
8.    หลักฐานการเงินสำหรับการเดินทางและการพำนัก (ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือนสุดท้าย)
ผมใช้ของ ME by TMB ครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการขอครับ เห็นเพื่อนขอจากธนาคารอื่นมีค่าธรรมเนียมประมาณ 100 บาท
ส่วนเรื่องเงินในบัญชี ผมเคยถามกับเจ้าที่ตอนทำวีซ่าทีอิตาลีครับว่าควรมีอย่างน้อยเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าปกติไปเที่ยวประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็ควรมีประมาณ 4 หมื่นขึ้นไปก็โอเคแล้วครับ แต่ของเยอรมนีผมไม่แน่ใจครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าอย่างน้อย ๆ เตรียมไว้ 5 หลักกลาง ๆ ค่อนไปทางปลาย ๆ หน่อยก็แล้วกันครับ

หลัก ๆ ที่ผมยื่นไปจะมีเท่านี้นะครับ
ส่วนที่มีเอกสารเพิ่มเติมแล้วแต่บางคนต้องใช้ในแต่ละกรณีไปครับ

•    หลักฐานอื่นๆ ที่แสดงถึงความพร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศและแสดงถึงภาระผูกพันหรือ ความสัมพันธ์ของท่านในประเทศไทย เช่น: ใบสำคัญการสมรส สูติบัตรของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติ ภาวะ สำเนาทะเบียนบ้านหนังสือรับรองการทำงาน และหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุ ตำแหน่งจำนวนปี การทำงานและเงินเดือน) หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท(กรณีประกอบ อาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ) หนังสือรับรองจากโรงเรียนหรือสถาบันศึกษา สมุดบัญชีแสดงการ เคลื่อนไหวบัญชีในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โฉนดที่ดิน สัญญาเช่าบ้าน
•    สำหรับผู้เดินทางสัญชาติไทยที่อายุต่ำกว่า18 ปี ผู้มีอำนาจปกครองตามกฎหมาย (โดยปกติคือบิดา-มารดา) ต้องมาปรากฎตัวพร้อมกันในวันยื่นคำร้อง และเซ็นชื่อในคำร้องหากผู้มีอำนาจปกครอง หรือ บิดา-มารดา ไม่สามารถมาได้ ผู้เดินทางสามารถยื่นคำร้องที่ผู้มีอำนาจปกครองเซ็นชื่อไว้แล้วพร้อม หนังสือยินยอม โดยลายเซ็นของผู้ปกครองหรือบิดา-มารดา ในหนังสือยินยอมนั้น จะต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานเขตหรืออำเภอที่สังกัด กรณีบิดา-มารดาพำนักอยู่ในเยอรมนีต้องมีการรับรอง ลายเซ็นจากหน่วยราชการของเยอรมนี กรณีบิดาหรือมารดาเพียงฝ่ายเดียวทำหนังสือยินยอมต้อง แสดงหลักฐานว่าบิดาหรือมารดาผู้นั้นเป็นผู้มีอำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียวจริง
โดยก่อนเข้าไปยื่นเอกสาร ทางสถานทูตจะให้เรียงเอกสารตามลำดับดังนี้ครับ

หมายเหตุ  
•    เอกสารลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55 ให้ไว้หลัง แบบฟอร์มคำร้องวีซ่า
•    รูป 1 ใบติดในแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า อีก 1 ใบให้กับเจ้าหน้าที่ตอนส่งเอกสารครับ

เมื่อไปถึงสถานทูต จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าอย่างละเอียด และต้องปิดมือถือ แล้วฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ข้างหน้าครับ จากนั้นก็มาอยู่ในโซนนั่งรอ หรือเตรียมเอกสาร เมื่อได้เวลานัดหมาย ให้แจ้งชื่อหรือยื่นบัตรนัดที่ได้นัดทางออนไลน์เอาไว้แล้วเข้าไปในตึกเพื่อยื่นเอกสาร  โดยจะมีบัตรคิวให้กดแล้วรอเรียกตามลำดับ (เดินทางทริปเดียวกัน มาขอพร้อมกัน กดบัตรคิวเบอร์เดียวครับ)
เท่าที่เคยรีวิวมาจากกระทู้พันทิพย์ เค้าว่ากันว่าถามละเอียดบ้าง ถามโหดบ้าง ดุบ้าง และจากประสบการณ์ตัวเองที่เคยขอมา 2 ครั้งก็ถามละเอียดกว่าที่อื่นครับ แต่ก็ไม่ได้ดุ หรือโหดอะไรนะครับ มาดูครั้งนี้กันบ้างนะครับ
การเดินทางครั้งนี้มีผมที่เป็นคนวางแผนการเดินทางทั้งหมด กับน้องผมอีกคนตามผมเที่ยวอย่างเดียวครับ 555 แต่ก็ควรอธิบายให้ผู้ร่วมทริปฟังด้วยครับว่าเราจะไปที่ไหนกีวัน วันต่อไปไปเมืองไหน
เมื่อเข้ามาถึงจะมีเคาเตอร์เจ้าหน้าที่สัมภาสณ์ประมาณ 4-5 ช่องครับ ก็รอเรียกคิวตามเบอร์ที่เรากด
พอถึงคิวเรา โชคดีเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงน่ารักพูดจาดีครับ แต่ก็เสียงเข้มบ้าง 55 (เคาเตอร์ข้าง ๆ ถามอย่างโหด)
จนท :มากี่คนคะ
ผม: 2 คนครับ
จนท: สัมภาษณ์ทีละคนค่ะ
เพราะฉะนั้น แม้เราจะเป็นคนวางแผนการเดินทาง ก่อนไปยื่นวีซ่าเราต้องอธิบายกับผู้ร่วมเดินทางไปกับเราด้วยนะครับว่าเราจะไปที่ไหนกี่วันกี่คืน คนที่เดินทางไปกับเราจะได้ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ได้
จนท: เดินทางไปทำอะไรคะ
ผม: ไปท่องเที่ยวครับ
จนท : เดินทางวันไหนกลับวันไหน เดินทางไปไหนบ้างคะ ให้เรียงลำดับประเทศ
ผม : แจ้งวันเดินทางไปกลับ และแจ้งเยอรมนี เชค ออสเตรีย ฝรั่งเศส
จนท : ชี้แจงรายละเอียดเป็นวันด้วยค่ะ ว่าวันไหนอยู่เมืองไหน
ผม: ชี้แจงรายละเอียดเป็นวันไปครับ ว่าเราอยู่ที่ไหนเมืองอะไรบ้าง ซึ่งระหว่างที่เราแจ้งไป  เจ้าหน้าที่จะคอยตรวจดู booking รร ที่เราจองว่าตรงกับที่เราบอกไปหรือไม่ และจดข้อมูลลงใส่กระดาษอีกทีครับ
เนื่องจากผมบินไปลงฝรั่งเศส แต่คืนแรกผมนอนที่เบอร์ลิน เจ้าหน้าที่จึงถามเพิ่มว่าจาก ลงปารีสแล้วจะไปนอนเบอร์ลินคืนแรกอย่างไร ผมจึงแจ้งไปว่าบินจากปารีสไปต่อเลยครับ แล้วผมเตรียมตั๋วเครื่องบินจากปารีสไปเบอร์ลินยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูเพื่อเป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่เห็นและตรวจสอบ ว่าโอเค ก็จบไปครับ
จนท : ให้ผมสรุปรวมอีกทีว่า อยู่แต่ละประเทศกี่วัน ผมซึ่งนับไว้เรียบร้อยแล้วจึงตอบเจ้าหน้าที่ได้ทันที ขณะเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ก็เชคข้อมูลที่ได้จดไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จำนวนคืนที่อยู่ในแต่ละประเทศตรงกับที่แจ้งไปหรือไม่
จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบ แบบฟอร์มวีซ่าที่ผมกรอกไป ปรากฏว่าผมกรอกผิดในส่วนของ Reference (ดูจากรูป)
ใน 2 ครั้งแรกที่ผมขอวีซ่าเชงเก้นที่เยอรมนี ผมเลือก Inviting organization/company เนื่องจากมหาวิทยาลัยที่เยอรมนีมีจดหมายเชิญมา แต่ครั้งนี้ผมไปเที่ยว ไม่มีใครเชิญ ผมเลยกด no reference person
จนท แจ้งว่าคราวหลังต้องเลือก Hotel แล้วใส่ข้อมูล รร คืนแรก ที่เรานอน ยังโชคดีครับที่เจ้าหน้าที่คนนี้แก้และพิมพ์ให้ใหม่ในระบบเลย ผมนึกว่าจะจ้องกลับไปกรอกใหม่ซะแล้ว
มาที่คำถามเรื่องงานนะครับ
จนท : เปิดดูหนังสือรับรองการทำงาน ทำงานที่ไหนคะ
ผม: ตอบชื่อบริษัท
จนท: บริษัทเกี่ยวกับอะไรคะ
ผม: อธิบายไป
จนท: ทำตำแหน่งอะไรในองค์กรคะ
ผม: ตอบไป
จนท: ทำมากี่ปีแล้วคะ
ผม : 5 ปีครับ
เนื่องจากที่ผมได้หาข้อมูลจากกระทูพันทิพย์และเพื่อนที่เคยมาขอวีซ่าที่นี่มาพบว่าสถานทูตเยอรมนีนั้น ให้วีซ่าตามจำนวนวันที่เราอยู่จริงเป๊ะ ๆ ไม่ขาดไม่เกิน ไม่เหมือนฝรั่งเศสหรือเนเธอร์แลนด์ที่เค้าว่ากันว่าให้นาน 3 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง หรือให้จนกาว่าอายุ passport จะหมด (อยากได้บ้างจัง แต่ในเมื่อเราเที่ยวเยอรมนีนานสุดก็ต้องมาขอที่นี่อะครับ) ซึ่ง 2 ครั้งที่ผมขอก็ได้ตามจำนวนวันนั้น ๆ จริง ๆ ผมจึงถามเจ้าหน้าที่ว่าถ้าขอเพิ่ม 1 วันได้มั้ยครับ เผื่อเกิดเครื่องบินดีเลย์หรือเลื่อนเที่ยวบินออกไป (ก่อนที่จะมาขอวีซ่า Qatar airways ก็แจ้งเมลล์มาเลื่อนเวลาบินเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา 2-3 รอบ ผมก็เริ่มกลัว) ทาง จนท แจ้งว่า โดยนโยบายของทางสถานทูตเยอรมนี จะออกให้ตามวันที่เดินทางเท่านั้น และก็ดูจำนวนวันประกันการเดินทางที่เราซื้อไว้ร่วมด้วย ซึ่งโชคดีที่ว่า ผมเดินทาง 15 วัน แต่ว่า ประกันเดินทางที่ผมซื้อนั้น ช่วง 13-16 วันนั้นราคาประกันเท่ากัน ผมเลยใส่ระยะเวลาเดินทางไปเป็น 16 วันในประกัน ก็รอลุ้นดูครับว่าผมจะได้วันเพิ่มมา 1 วันมั้ย
เป็นอันจบการสัมภาสณ์ครับ ให้ผมกลับไปนั่งรอเพื่อจะสัมภาสณ์ผู้ร่วมเดินทางกับผมต่อ
ตัดมาที่ผู้ที่ร่วมเดินทางไปกับผม โดนถามอย่างละเอียดเช่นกันแบบผมเลย แต่ตอบช้าหน่อย เพราะไม่ได้คนวางแผน เจ้าหน้าที่เลยดุเข้าให้ ว่าจะเดินทางก็ต้องรู้ข้อมูลทุกอย่าง แม้จะไม่ได้เป็นคนจัดทริป ไม่งั้นอาจถูกปฏิเสธการขอวีซ่าได้นะคะ
เมื่อสัมภาษณ์ ยื่นเอกสารเรียบร้อย ก็มาที่ช่องชำระเงินครับ ราคา 2300 บาท (ถูกกว่าที่คิดไว้)
passport มารับเอง หรือให้ส่งไปรษณีย์ก็ได้ (130 บาท)
ชื่อสินค้า:   Schengen visa ประเทศเยอรมนี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่