[CR] ขอวีซ่าเยอรมัน นักท่องเที่ยว แบบละเอียดยิบ (อ้างอิง 26 กย 2559)

กระทู้รีวิว
เห็นรีวิว ของหลายๆท่านในพันทิป ก็ยังมีจุดที่ผมสงสัยอยู่ กระทั่งได้มีโอกาสไปยื่นขอวีซ่าเยอรมันด้วยตัวเอง เลยจะมาเล่าในมุมของผมครับ

วีซ่าเยอรมัน
อย่างที่หลายๆคนทราบ วีซ่าเยอรมันเป็นแบบ เชงเก้นวีซ่า ซึ่งเมื่อยื่นผ่านแล้ว จะสามารถเข้าไปในประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้ดังนี้
Austria,Belgium,Czech,Denmark,Estonia,Finland,France,Germany,Greece,Hungary,Iceland,Italy,Latvia,Lithuania,Luxembourg,Malta,Netherlands,Norway,Poland,Portugal,Slovakia,Slovenia,Spain,Sweden,Switzerland, Liechtenstein

ไปหลายประเทศในยุโรป ควรไปขอเชงเก้นประเทศไหนดี ?
พิจารณาจากแผนการเที่ยวของเราครับ เกณฑ์ง่ายๆก็คือ ให้เราไปขอเชงเก้นของประเทศที่เราจะพักนานที่สุด หรือถ้ากรณีหลายประเทศเท่าๆกัน ก็ให้เลือกประเทศที่เข้าไปแรกสุด แต่บางประเทศ บางสถานฑูต ก็มีเอเย่นรับทำให้ หรือไม่มี แล้วก็ค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันด้วย ไหนจะเวลาให้ออกวีซ่าไม่เท่ากันอีก ถ้าแผนการท่องเที่ยวเรามีเยอรมันในลิสต์ด้วย การขอวีซ่าเยอรมันก็เป็นตัวเลือกที่ผมแนะนำให้ไปทำ

แล้วขอวีซ่าเยอรมัน จะดียังไง ?
ณ ตอนนี้ วีซ่าเยอรมันไม่มีเอเย่นรับทำเหมือนเจ้าอื่น เช่นของฝรั่งเศส หรือสวิตซแลนด์ ที่มี TLS เป็นเอเย่นรับทำวีซ่า แล้วเค้าจะส่งต่อสถานฑูตอีกที เวลารับพาสปอร์ตก็ไปรับที่เอเย่น หรือให้ส่งไปที่บ้านได้เลย แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องมีค่าบริการให้เอเย่น คนละ 1,000 บาท ซึ่งจริงๆ วีซ่าเชงเก้นทุกประเทศก็สามารถติดต่อยื่นกับสถานฑูตของประเทศนั้นๆ ได้โดยตรง แต่อาจจะต้องโทรไปจองคิว หรือนัดหมายกับทางสถานฑูตเอง ก็จะยุ่งยากสำหรับบางคน
แต่ในส่วนของเยอรมันนั้น สถานฑูตมีเว็บไซต์ แล้วเราสามารถนัดหมายออนไลน์ได้เลย ก็จะสะดวก

ระยะเวลาดำเนินการ
ผมเคยทำวีซ่าของฝรั่งเศส(ยื่นผ่านเอเย่น TLS) ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ ถึงจะได้เล่มคืน
แต่สถานฑูตเยอรมัน ทำงานเร็วมาก ซึ่งระบุในเว็บไซต์ของสถานฑูตคือ ระยะเวลา 5 วันทำการ ในการตรวจสอบและส่งคืนพาสปอร์ต (ได้ ไม่ได้ ว่ากันอีกที) ต่างจากฝรั่งเศส (10 วันทำการ) หรือออสเตรีย (อย่างน้อย 15 วันทำการ)

ผมยื่นขอวีซ่าเมื่อวันที่ 26 กย 2559 โดยรับเล่มคืนผ่านไปรษณีย์ (บ้านผมอยู่หนองคาย)
วันเสาร์ที่ 1 ตค 2559 ทางไปรษณีย์ก็ส่งเล่มคืน พร้อมวีซ่าประทับในพาสปอร์ตแล้ว รวดเร็วมากครับ

ฉะนั้น ถ้าใครใจร้อน ไม่ชอบรอลุ้นอะไรนานๆ วีซ่าเยอรมันน่าจะเป็นคำตอบ

เตรียมตัวขอวีซ่า
ก่อนอื่นต้องทำการนัดหมายกับทางสถานฑูตก่อน ให้เราเข้าไปที่
http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/00-Visa.html
จากนั้นกดที่ลิงค์ นัดหมาย แล้วก็ตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ โดยเราจะสามารถเลือกวันที่ และช่วงเวลายื่นได้
ซึ่งต้องใช้อีเมล โดยเราจะได้รับอีเมลยืนยันการนัดหมายจากสถานฑูต ให้เราตรวจสอบเลขพาสปอร์ต ที่เราใช้จองให้ดี หากกรอกผิด ให้เรายกเลิกนัดหมาย แล้วทำการนัดหมายใหม่ ไม่เช่นนั้น วันยื่นเอกสารจะไม่สามารถยื่นได้ หากเลขไม่ตรง
**ให้เราปริ้นท์อีเมลนัดหมายนี้ไปด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบง่ายขึ้น**

เราสามารถนัดหมายทำวีซ่า ก่อนเดินทางได้ไม่เกิน 3 เดือน
หมายความว่า ถ้าเรามีกำหนดเดินทางเข้าประเทศในเขตเชงเก้น วันที่ 1 ธันวา
เราสามารถนัดหมายได้เร็วสุดเพื่อทำวีซ่า ก็คือ 1 กันยา (นับถอยหลังมา 3 เดือน)
แต่เอาจริงๆ แนะนำให้ไปซัก 3-4 กันยา หรือหลังจากนั้นนิดหน่อย กันเหนียว

จัดเตรียมเอกสาร และรูปถ่ายสำหรับยื่นขอวีซ่า

ให้เราจัดเตรียมเอกสาร พร้อมเรียงตามลำดับด้านล่างนี้เลยครับ (ทั้งหมด 6 รายการหลัก)


1. สำเนาหนังสือเดินทาง
ให้ถ่ายสำเนาเล่มพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันที่เราใช้งาน สำหรับใครที่มีเล่มเก่า จะเปลี่ยนใหม่ด้วยเหตุผลหมดอายุ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ให้ถ่ายสำเนาไปด้วย
สำหรับใครที่เคยมีวีซ่าเชงเก้นก่อนหน้านี้แล้ว ให้ถ่ายสำเนาหน้าวีซ่านั้น แนบไปด้วย
**ทั้งหมด ทั้งมวล ไม่ต้องเซ็นต์สำเนาถูกต้อง**

2. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า
ในช่วงการนัดหมาย หลังจากนัดหมายเสร็จ จะมี Link ให้เรากรอกเอกสารยื่นวีซ่าในเว็บ แล้วปริ้นท์ออกมาได้เลย
หรือถ้าไม่มี ก็ไปที่ https://videx.diplo.de/
สามารถเลือกหน้าภาษาไทยได้ (เฉพาะหน้าเพจนะครับ แต่ทั้งหมดต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ)
ในส่วนท้าย จะมีให้เราเซ็นต์ชื่อ พร้อมลงสถานที่และวันที่
สถานที่ ให้กรอก 'Bangkok' พร้อมลงวันที่ๆเราจะไปยื่นวีซ่า เช่นยื่นวันที่ 5 กันยา 2559 ก็กรอก Bangkok, 5th Sep 2016
ในส่วนของลายเซ็นต์ ให้เซ็นต์ตามแบบที่เราเซ็นต์ในพาสปอร์ต

3. หนังสือเชิญ
เฉพาะกรณีท่องเที่ยว ให้เราใช้เอกสารการจองโรงแรมแทน โดยผมแนะนำให้เราทำการสร้างแผนการเที่ยว ว่าจะพักที่ไหน กี่คืน เราก็จองโรงแรมตลอดทริป จากนั้นก็ปริ้นท์ใบจองแนบไปได้เลย
**ทั้งหมด ทั้งมวล ไม่ต้องเซ็นต์สำเนาถูกต้อง เฉพาะใบจองโรงแรมเราสามารถใช้ปากกาเน้นข้อความ ขีดชื่อเราได้ เพื่อให้สถานฑูตสะดวกในการตรวจสอบ**

4. ใบจองเที่ยวบิน
แน่นอนครับ ก็จองเที่ยวบิน แล้วปริ้นท์ตั๋วออกมาให้เรียบร้อย
ขณะนี้ บางสายการบินมีการจองแบบที่ ถ้าเรายื่นวีซ่าไม่ผ่าน สามารถรับเงินจองตั๋วเครื่องคืนได้ อันนี้ก็แล้วแต่สายการบินครับ

5. หลักฐานอื่นๆ
- เอกสารทะเบียนบ้าน ใบทะเบียนสมรส
> ถ่ายสำเนาภาษาไทย พร้อมกับแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ โดยเราสามารถแปลและรับรองการแปลด้วยตัวเอง
สำหรับฟอร์มการแปลเอกสาร สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บกงสุล https://goo.gl/zgjuox

- เอกสารการค้า เจ้าของธุรกิจ ใบรับรองพนักงาน ใบรับรองการลาพักร้อน
> ถ้าเป็นพนักงานเงินเดือน ให้ขอเอกสาร Support การขอวีซ่า พร้อมรับรองการลาพักร้อนจากบริษัท โดยเป็นภาษาอังกฤษ
> ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นหุ้นส่วน กรรมการ ของบริษัท หจก ฯลฯ ให้ถ่ายสำเนาใบจดแจ้ง จากกรมพัฒนาธุรกิจ พร้อมแปล
> ถ้าไม่มีกิจการ หรือทำงานอะไรเลย ก็ให้นำเอกสารดูเป็นภาระผูกพันธ์กับเรา แบบว่าเราจะกลับมาไทยแน่ๆ เช่น สัญญาเช่าบ้าน ใบรับรองแพทย์ต้องพบหมอทุก 3 เดือน ฯลฯ แปลด้วยนะ

- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก เอกสารการเงิน
> แนะนำให้ไปขอที่ธนาคาร แบบภาษาอังกฤษ แจ้งว่า ขอเอกสารรับรองบัญชี พร้อมแสดงยอดเงินในบัญชี เป็นภาษาอังกฤษ (100 บาท)
> รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน โดยขอไม่เกิน 7 วันก่อนยื่นขอวีซ่า เช่นจะยื่นขอวีซ่าวันที่ 8 กันยา ก็สามารถขอได้เร็วสุดวันที่ 1 กันยา (ขอก่อนหน้านั้นไม่ได้) อันนี้ก็มีค่าใช้จ่าย 100 บาท
> ถ้าเป็นพนักงานเงินเดือน ก็ให้ใช้บัญชีที่เงินเดือนเข้า แนบสลิปเงินเดือนของเราไปด้วย
> ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ ก็ให้แนบเอกสาร รายการเดินบัญชีของกิจการไปด้วย

6. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหต

ซื้อออนไลน์ พร้อมปริ้นท์ใบกรมธรรม์ที่มีภาษาอังกฤษกำกับได้เลย โดยวงเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท (ปกติถ้าไปไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็จะประมาณ 600-1200 บาท แล้วแต่เจ้า)
สามารถตรวจสอบบริษัทที่ได้รับการรับรองได้จาก
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/6864724/Krankenversicherung.pdf

รูปถ่าย

ดูตัวอย่างรูปถ่าย และหลักเกณฑ์ได้ที่
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/3431148/Daten/2062571/Fotomustertafeldownloaddatei.pdf


สำหรับใครที่อยู่กรุงเทพฯ ผมแนะนำร้านที่นี่ครับ
https://www.google.co.th/maps/@13.7284029,100.5340712,3a,75y,152.82h,87.7t/data=!3m6!1e1!3m4!1s7Gq_L5yhY2sh_FJzMU722w!2e0!7i13312!8i6656?hl=en
อยู่ BTS ศาลาแดง ลงเดินบันไดมาเจอร้านเลย ร้านแบบว่าโปรมาก ผมถ่ายที่นี่ทั้งรอบยื่น ฝรั่งเศส และเยอรมัน ผ่านฉลุย ไม่มีปัญหาครับ เดินเข้าร้านไปบอกแค่ถ่ายรูปวีซ่า แล้วระบุประเทศ ขึ้นไปชั้น 2 เจอพนักงาน เป็นคุณพี่ผู้หญิง มีอายุหน่อยตัวท้วมๆ ค่อนข้างดุนิดๆ แต่แกเป๊ะมากครับ บอกเก็บผม เชิดหน้า เอียงซ้ายขวา ทำตาโต เก็บคาง 2 ชั้น มุมกล้องแกเป๊ะ จนไม่รู้จะบรรยายยังไง เข้าใจว่าอาจเป็นพนักงานสถานฑูตเก่าของทุกประเทศมาแล้ว ๕๕๕
ค่าใช้จ่าย 6 รูป น่าจะ 160 บาท (อันนี้ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ)

หรือถ้าไม่สะดวกที่สถานฑูตมีบริการถ่ายรูป 150 บาท ถ้าไม่มั่นใจก็ให้ไปก่อนเวลานัดซัก 1 ชั่วโมง ถ่ายรูปที่นั่นได้เลยครับ

ยื่นวีซ่า
การเดินทางสะดวกสุดคือ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานี 'ลุมพินี' แล้วเดินไปที่สถานฑูตเลยครับ สำหรับรถยนต์ส่วนตัวไม่มีที่จอดให้ครับ แต่สามารถจอดที่ Q-House หรือตึกเอกชนแถวนั้น แล้วจ่ายค่าจอดเอง

เมื่อไปถึงสถานฑูต จะโดนตรวจค้นกระเป๋า และให้ฝากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิค มือถือ แท็ปเลต เอาไปใช้ข้างในไม่ได้

ข้างในบริเวณรอยื่นวีซ่า จะเป็นเก้าอี้นั่งในที่โล่ง มีแค่หลังคา และพัดลม มีเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ บริการถ่ายเอกสาร ถ่ายรูป และห้องน้ำ ชาย-หญิง อย่างละห้อง

ให้เราจัดการเตรียมเอกสาร ตรวจสอบให้เรียบร้อยอีกครั้ง
**ตรงนี้ จะมีเอกสารที่เราต้องไปขอที่พี่ผู้ชาย ที่หนังโต๊ะหน้าห้องที่สัมภาษณ์ เราต้องขอมา 1 ใบ พร้อมเซ็นต์ชื่อในเอกสาร**

พอถึงเวลา ให้เราไปติดต่อพี่ผู้ชายหน้าห้องสัมภาษณ์ เพื่อเช็คชื่อ แล้วเค้าจะให้เราเข้าไปข้างใน กดบัตรคิว ซึ่งถ้าเป็นวีซ่าท่องเที่ยว ก็จะกดบัตรคิวเป็นเคาน์เตอร์ 6-10 (หน้าจอกดบัตรคิวเป็นระบบสัมผัส แบบธนาคาร)
กรณีที่ไปพร้อมกัน เช่นคู่สามี-ภรรยา เพื่อนกลุ่มเดียวกันไปด้วยกัน ก็กดบัตรคิวแค่ใบเดียว สัมภาษณ์พร้อมกันครับ

สัมภาษณ์วีซ่า
เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ เป็นคนไทย สัมภาษณ์ภาษาไทยครับ อาจจะเคร่งขรึมนิดหน่อย ตามหน้าที่เค้า เราก็ตอบคำถามไปครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ไปเที่ยวที่ไหน พักที่ไหนกี่คืน ใครออกค่าใช้จ่าย เราทำงานอะไร ไปกับใคร ก็เป็นคำถามพื้นฐานครับ

ตรงนี้ถ้าใครมีแผนการท่องเที่ยว ก็ปริ้นท์แนบไปด้วยเลย จะสบาย ดูตัวอย่างคร่าวๆ ด้านล่างครับ



สัมภาษณ์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะถามว่าจะรับเล่มพาสปอร์ตคืนยังไง ก็จะมารับเอง หรือให้ส่งไปรษณีย์
ถ้าส่งไปรษณีย์ ก็จะให้ใบข้อมูลเราไปชำระเงินค่าวีซ่าก่อน คนละ 60 ยูโร (2300 บาท) จากนั้นก็ลงไปที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ ยื่นใบข้อมูล ชำระค่าซอง (EMS + ซอง = 130 บาท) กรอกจ่าหน้าซอง ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ พร้อมที่อยู่เป็นภาษาไทย

เสร็จแล้ว นำซองไปให้เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์เรา (เช่น อยู่เคาน์เตอร์เบอร์ 7 ก็ไปให้ที่เบอร์ 7 คนเดิม)
เป็นอันเสร็จสิ้น

รอรับพาสปอร์ต ไม่ว่าจะไปรับเอง หรือรอรับทางไปรษณีย์ จะไม่มีการแจ้งว่าผ่าน หรือไม่ผ่านนะครับ เปิดซองลุ้นเองอย่างเดียว

***ส่วนตัวผม ได้ VISA พร้อมวันอนุญาตเข้า-ออก แทบจะเป๊ะๆ กับที่ขอเลยครับ คือได้เพิ่มแค่ 1 วัน เช่นขอไป 13 วัน ผมได้มา 14 วัน
ต่างจากฝรั่งเศสที่เคยได้ ผมขอไป 14 วัน ได้มา 90 วันเลยทีเดียว***
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
ชื่อสินค้า:   วีซ่าเยอรมัน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่