ก่อนที่ จขกท จะอธิบายเรื่องเหล่านี้ จะขอยกตัวอย่างเรื่องในอดีตชาติของโชติกเศรษฐี ที่ท่านคิดกุศโลบายวางแผน เพื่อดึงดูดให้คนเข้าวัดมาฟังธรรม
โดยการนำรัตนชาติมาโปรยรอบพระคันกุฎีสูงถึงเข่า เพื่อให้คนที่มาฟังธรรมหยิบเอารัตนชาติใส่มือกลับบ้านไปด้วยได้ จึงทำให้มีมหาชนแห่กันเข้าวัดมากมายมหาศาล ซึ่งถ้ายุคนี้มีคนทำอย่างท่านโชติกเศรษฐี ก็คงโดนโจมตีว่า ทำพุทธพาณิชย์ จ้างคนเข้าวัด ไปแล้ว
และถ้าการกระทำเช่นนี้ผิดจริง พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คงกล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่นี่พระองค์ไม่ได้ตำหนิว่าอะไรท่านเศรษฐีเลยแม้แต่น้อย
จากกรณีข้างต้น วัดพระธรรมกายยังไม่เคยทำเช่นนี้เลย แต่สิ่งที่ทำคือ มอบพระของขวัญที่ระลึกแด่ผู้ที่ทำบุญเท่านั้น
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นึกถึงบุญ เพราะเมื่อกาลเวลาผ่าไป ความจำของคนเราก็ยิ่งน้อยลง แต่ถ้ามาเห็นพระของขวัญ ก็จะนึกได้ว่า เราได้ทำบุญนี้ บุญนั้นมา ใจของเราก็จะยิ่งปลื้มปิติในบุญ และเพื่อให้เราได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าเราจะเสียชีวิตลงในเวลาไหน เราก็จะนึกถึงบุญเป็นสิ่งสุดท้าย ส่งผลให้เราไปสู่สุขคติโลกสวรรค์ ไม่พลัดไปอบายภูมิ
วัดพระธรรมกาย สอนให้ยึดติดกับวัตถุ ทำพุทธพาณิชย์ จริงหรือ???
และถ้าการกระทำเช่นนี้ผิดจริง พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คงกล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่นี่พระองค์ไม่ได้ตำหนิว่าอะไรท่านเศรษฐีเลยแม้แต่น้อย
จากกรณีข้างต้น วัดพระธรรมกายยังไม่เคยทำเช่นนี้เลย แต่สิ่งที่ทำคือ มอบพระของขวัญที่ระลึกแด่ผู้ที่ทำบุญเท่านั้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นึกถึงบุญ เพราะเมื่อกาลเวลาผ่าไป ความจำของคนเราก็ยิ่งน้อยลง แต่ถ้ามาเห็นพระของขวัญ ก็จะนึกได้ว่า เราได้ทำบุญนี้ บุญนั้นมา ใจของเราก็จะยิ่งปลื้มปิติในบุญ และเพื่อให้เราได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าเราจะเสียชีวิตลงในเวลาไหน เราก็จะนึกถึงบุญเป็นสิ่งสุดท้าย ส่งผลให้เราไปสู่สุขคติโลกสวรรค์ ไม่พลัดไปอบายภูมิ