สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพ กทนี้เป็นกทแรก ตอนนี้จขกท เผชิญมรสุมหนักเรื่องงานค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ (ในเสียงหัวเราะนี้นั้น... มีคราบน้ำตา)
เนื้อเรื่องยาว เพราะสุดจะอัดอั้นแล้วจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ อันนี้ไม่มีดราม่า เป็น fact ล้วนๆ
ขอเล่าเรื่องตามลำดับ Timeline แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ
ช่วงต้นปี 59 จขกท ได้รับการติดต่อมากจาก บ. ต่างชาติ บ.นึง ผ่านทาง Linkedin (หรือที่เรียกกันว่า Facebook ของคนหางาน) โดยผู้ที่ติดต่อเข้ามาเป็นต่างชาติแลดูมีตำแหน่งน่าเชื่อถือดูดี รวมถึง บ. ก็แลดูมีความมั่นคง และน่าร่วมงานด้วย ทาง จขกท เลยลองตัดสินใจไปสัมภาษณ์กับทาง บ. นี้ค่ะ หลังจากคุยกันประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งในการสนทนา เราคุยกันในเรื่องของงาน เคลียร์กันเรียบร้อยว่า บ. ทำอะไร ทีมเราทำหน้าที่อะไร มีกี่คนในทีม (รวมหัวหน้าตอนี่เราไปคุยนี่มี 2 คน และจะรับเพิ่ม 2 คน ซึ่งอีกคนจะมาเริ่มงานช่วง มีนาคม) พร้อมๆกับเราถ้าเราตกลงมาทำ แถมเราได้คุยกันเรื่องของรูปแบบการทำงาน เป้าหมาย จุดประสงค์ สวัสดิการ เวลาทำงาน ครบทุกประเด็นค่ะ
โดยในส่วนของสวัสดิการที่จะได้รับ และระบุไว้ในสัญญาจ้างงาน มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
> ประกันสุขภาพ (Medical and Dental) จะได้รับหลังผ่านช่วงทดลองงาน (90 Days probation)
> ค่าโทรศัพท์ และค่ารถ เบิกตามจริง (สำหรับใช้ติดต่อ หรือเดินทางในงานเท่านั้น)
> ประกันสังคม และวันลาป่วยตามกฎหมาย
> วันลาพักร้อน 20 วัน
> ทำงาน 5 วัน จันทร์ถึงศุกร์ 9:00 - 17:00 Flexible
สัญญาจ้างที่ไปเซ็น เค้าให้มา 2 ชุด โดยที่ยังไม่มีใครเซ็นเลย เราเซ็นคนแรกเเล้วเค้าก็เก็บไป บอกว่าจะเอาไปให้ CEO เซ็น เราก็โอเคๆ ไว้มารับวันเริ่มงานเนาะ
ปลายมีนาคม - เมษายน 59 จขกท ไปเริ่มงานตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทุกอย่างดูดี ทุกอย่างเตรียมพร้อม email setup เรียบร้อย นามบัตร รวมถึงเครื่องเขียน ยกเว้นสัญญาจ้างที่ยังคงไม่ได้รับคืน หัวหน้าดีค่ะ ดีจริงๆ เราเชื่อใจ มีเตรียมความพร้อมมีเทรนงาน สามารถเห็นต่างและเสนอความคิดได้ งานไม่ค่อยเหมือนตอนตกลง แต่ก็หยวนๆ เข้าใจมันก็มีปรับเปลี่ยนกันได้ เวลาทำงาน เช้า จขกท ไปถึงก่อนเวลาเริ่มงาน แต่มีบางวันที่ไป 9:15 บ้าง แต่น้อยมาก เวลาเลิกงานก็ราวๆ 18:00 หรือ บางวันก็ 18:30 ค่าโทรศัพท์และค่ารถ ไม่เคยเบิกค่ะ
ปลายเดือน เมษา ทางหัวหน้าก็มีเรียกประชุมทีม และบอกว่า บ. จะปิด เราจะต้องย้ายไปอยู่กับอีก บ. สถานที่ทำงานช่วงแรกไกลมาก แต่ก็อะหยวนๆ ช่วงเดียวแหละ เดี๋ยวจะให้ย้ายไปอยู่อีกออฟฟิศของเค้าที่อยู่ติด BTS กลางใจเมือง ทะยอยเก็บของออกจาก ออฟฟิศ สัญญาจ้างก็ยังคงไม่ได้ แต่เงินเดือนเข้าปกติ เลยคิดว่าไม่เป็นไรมั๊ง
พฤษภา 59 ไปทำงานกับ บ. ใหม่ อยู่ไกลมาก เดินทางลำบากแต่ก็เอาวะ ไม่มีใครรู้นิ ว่า บ. จะปิด ก็ยอมๆ มาเริ่มงานแบบฉุกละหุก ยังไม่ค่อยมีอะไรเตรียมพร้อมเลยค่ะ สัญญาจ้างก็ยังไม่มีอีกเช่นเคย ค่าโทรศัพท์และค่าเดินทาง (ที่ใช้ในงาน) เริ่มเข้าเนื้อมากขึ้น เงินเดือนเข้าตามปกติ หลังจากทำงานไปเดือนนึง HR เอาสัญญาจ้างมาให้เซ็นมีทางฝั่งบริษัทเซ็นเรียบร้อย เราเซ็นต่อ แต่ช่องพยาน โบ๋ ... ไม่มีคนเซ็น พี่HR เลยเก็บไป และจะเอาไปให้พยานเซ็น (สลับกันเซ็นก็ได้นะเอาจริง) และจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้เห็นสัญญาจ้างฉบับนั้นอีกเลย ในส่วนของการทำงาน เรายังรีพอร์ตหัวหน้าคนเดิมทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ประกันสุขภาพ บ. ใหม่นี่ยังไม่มีค่ะ เราเลยต้องไม่มีไปด้วย เวลาการทำงาน เค้าขอให้เราเลิกงานกัน 18:00 ห้ามออกก่อน ก็เลยยอมก็ได้อีกแล้ว
มิถุนา - กรกฎา 59 ย้ายออฟฟิศไปออฟฟิศใหม่กลางใจเมือง สะดวกติดบีทีเอส แต่ ออฟฟิศจะเข้าได้ตามเวลาห้างเปิดคือ 10:00 เราเลยต้องเปลี่ยนเวลาทำงานตามหัวหน้าบอกอีกแล้ว ทำงาน 10:00 - 19:00 ห้ามกลับก่อน 19:00 อีกตามเคย (ทั้งที่ตอนแรกตกลงกับหัวหน้าเอาไว้ว่า 9:00-17:00 อุส่าดีใจ)
เราก็ยอมๆ เข้าใจๆ ก็ทำงานต่อไป โดยเริ่มรู้สึกว่ามันไม่เหมือนตามที่ตกลงสักอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องสิทธิพนักงาน ประกันสุขภาพ เบิกค่าโทรก็ไม่ได้ งานต้องใช้โทรศัพท์เยอะค่ะ รวมถึงเวลาการทำงาน รู้สึกจะมีหัวหน้าคนเดียวค่ะ ที่จะ Flex เวลาได้ เข้าใจแหละ เค้าหัวหน้านิ ฮือ
สิ้นเดือน กรกฎา ทั้งทีมเรา ก็ได้คำแจ้งจากหัวหน้าวันเสาร์อีกว่า เราจะย้าย บ. อีกแล้ววววววว มีอีก บ. มาซื้อทีมไป ซึ่งเราจะเริ่มที่ใหม่กันวันจันทร์ (ต้องบอกก่อนนะคะ ว่า จขกท เองและเพื่อนร่วมงาน บางคนที่เราคุยด้วย ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆเพิ่มทั้งสิ้น)
สิงหา 59 - ปัจจุบัน เริ่มงานที่ใหม่กับอีก บ. (อีกแล้ว) ออฟฟิศ ยังโอเค อยู่กลางใจเมืองเหมือนเดิม สบาย~~~ แต่ๆ รูปแบบการทำงาน ลักษณะงาน หรือรูปแบบธุรกิจต่างไปจากเดิม แบบแทบจะ 98.99% เงินเดือนโอนมาจาก ตปท. ไม่หักภาษีไม่หักประกันสังคม ซึ่งเช็คกับที่เก่าเค้าบอกว่าเค้ายังไม่แจ้งออกให้กับทางประกันสังคม เผื่อเกิดปัญหาอะไร ก็ขอบคุณค่ะ แต่ข้อสงสัยก็มาอีกเช่นเคย เงินที่เข้าบัญชีมาไม่มีหักค่าอะไรเลย นอกจากค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท... (จขกท ไม่ใช่คน งก 100 จ่ายได้ แต่ความจริงมันต้องเป็นทาง บ. ออกมิใช่รือออ) การทำงานเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เราเริ่มเห็นต่าง เริ่มไม่อยากทำ เริ่มงอแง เริ่มนอย แต่ก็ยังมีผลงานสร้างร้ายได้ให้ บ. อยู่นะค่ะ ในส่วนของหัวหน้าเริ่มแสดงนิสัย ทัศนคติ และคำพูด พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากขึ้น มาก มาก ซึ่งต่างไปจากเดิมชนิดฟ้าเหว เวลาทำงาน ปรับกลับมา เริ่ม 9 เหมือนเดิม ซึ่งเราไปถึงออฟฟิตก็ 8:00 - 9:00 เวลาเลิกงาน จะออกได้ก็ต่อเมื่อ 18:00 เท่านั้น ประกันสุขภาพอะไรก็ยังคงไม่มี และคิดว่าไม่มีทางมีอีกต่อไป ประกันสังคมเริ่มขาด คิดว่า บ. ที่2 คงไม่ได้ส่งให้แล้ว แต่เค้าก็บอกเค้ายังไม่แจ้งออกให้ เราเริ่มกลัวแล้วค่ะ ให้เค้าช่วยเช็คช่วยตามให้หน่อยก็ไม่ได้ เราเลยเริ่มลุยจาก สำนักงานประกันสังคม สำนักงานเขตเอง ซึ่งทางเค้าก็ยังดูให้เราไม่ได้
เงินเดือนที่โอนเข้ามาก็ต้องมานั่งลุ้นว่าจะได้มั๊ย เข้าไม่เป็นเวลา ไม่แน่นอน ต้องมีความหวาดเสียวตลอดเวลา สัญญาจ้างเพิ่งมีหลังจากที่เราทำงานไปเดือนนึง ซึ่งเราไม่อยากเซ็นแล้วค่ะ หัวหน้าเอามาให้ Template เดียวกับอันแรกที่เราเคยเซ็นแต่ไม่ได้รับคืนเป๊ะๆ รวมถึงแม้กระทั้งเวลาทำงานและสวัสดิการตามที่เคยคุยกันครั้งแรกสุด แต่ในช่องลายเซ็น ไม่ใช่ชื่อ CEO แต่เป็นชื่อหัวหน้า และยังไม่มีใครเซ็นมาอีกเช่นเลย เราเลยเก็บกลับบ้านมาและยังไม่เซ็น
วันจันทร์นี้เราว่าเราจะออกเเล้ว เราอยากรู้ว่าถ้าเราไม่แจ้ง 30 วันจะได้มั๊ย มันสุดทนแล้วจริงๆค่ะ ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นทำตัวไม่น่ารัก งอแงรึเปล่า แต่ที่ผ่านมาเราตั้งใจทำงานให้จริงๆ พยายามอยากให้งานออกมาดี งานในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำได้ และจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เราก็อาสาขอทำ แต่เรายอมค่ะตอนนี้ท้อ งานไม่ใช่อย่างที่หวัง หัวหน้าก็เริ่มออกอาการแสดงพฤติกรรมแย่ๆ พาล ขึ้นเสียง ชักสีหน้า กวน... ข้อตกลงสวัสดิการจากแรกๆเราก็หยวนๆ ยอมๆ ค่าโทรเรา Package ปกติเราโทรได้ 1200 นาที และเราใช้เ้กินต้องจ่ายอีก 400-500 ทุกเดือน เราไม่ว่า ไม่สบายเราก็พักผ่อนทานยาเองนอนอยู่บ้าน ยอมๆ ไม่หาหมอ ประกันสังคมตะก่อนเราไม่ค่อยชอบมันแต่พอตอนนี้มันขาดหรือสถานะอะไรเรายัง งงๆ เลยคิดว่า พอละคะ ออกมาว่างงานก็ได้ ไม่รอให้ได้งานก่อนแล้วค่อยออกค่ะ
ถามเพื่อนๆว่า
1. วันจันทร์เราเดินไปบอกเค้าว่าจะออก คืนสัญญาจ้างให้เค้าบอกเราไม่อยากเซ็น จะได้มั๊ย ไม่ให้เวลาแจ้งก่อน 30 วัน จะผิดรึเปล่า เพราะเราไม่ได้อยากย้ายตามมาแต่แรก อันนี้ตามกฎมายเราผิดมั๊ยคะ ? แต่ถ้าในทางมารยาทเราไม่แคร์แล้ว
2. ประกันสังคม เราอยากขอรับเงินกรณีว่างงาน แต่เราไม่รู้จริงๆ ว่าที่ บ. no.2 นั่นเค้าได้จ่ายต่อเพื่อคงสภาพเรารึเปล่า เรารู้แค่เค้าบอกว่ายังไม่แจ้งออกให้ อันนี้เราจะรับค่าชดเชยได้มั๊ย เพราะมันครอบคลุมแค่ 3 เดือน นี่หายไป 2 เดือนแล้ว
3. เรากลัวหัวหน้าให้ Reference Check ไม่ดีค่ะ เราควรทำยังไงกับกรณีนี้ดี
ขอบคุณทุกๆคนที่ทนอ่านมาจนถึงตอนนี้นะค่ะ มันยาวมาก
ระบายความอัดอั้นเรื่องงาน และ สอบถามผู้รู้เรื่องประกันสังคม กับกฏหมายแรงงาน
เนื้อเรื่องยาว เพราะสุดจะอัดอั้นแล้วจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ อันนี้ไม่มีดราม่า เป็น fact ล้วนๆ
ขอเล่าเรื่องตามลำดับ Timeline แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ
ช่วงต้นปี 59 จขกท ได้รับการติดต่อมากจาก บ. ต่างชาติ บ.นึง ผ่านทาง Linkedin (หรือที่เรียกกันว่า Facebook ของคนหางาน) โดยผู้ที่ติดต่อเข้ามาเป็นต่างชาติแลดูมีตำแหน่งน่าเชื่อถือดูดี รวมถึง บ. ก็แลดูมีความมั่นคง และน่าร่วมงานด้วย ทาง จขกท เลยลองตัดสินใจไปสัมภาษณ์กับทาง บ. นี้ค่ะ หลังจากคุยกันประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งในการสนทนา เราคุยกันในเรื่องของงาน เคลียร์กันเรียบร้อยว่า บ. ทำอะไร ทีมเราทำหน้าที่อะไร มีกี่คนในทีม (รวมหัวหน้าตอนี่เราไปคุยนี่มี 2 คน และจะรับเพิ่ม 2 คน ซึ่งอีกคนจะมาเริ่มงานช่วง มีนาคม) พร้อมๆกับเราถ้าเราตกลงมาทำ แถมเราได้คุยกันเรื่องของรูปแบบการทำงาน เป้าหมาย จุดประสงค์ สวัสดิการ เวลาทำงาน ครบทุกประเด็นค่ะ
โดยในส่วนของสวัสดิการที่จะได้รับ และระบุไว้ในสัญญาจ้างงาน มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
> ประกันสุขภาพ (Medical and Dental) จะได้รับหลังผ่านช่วงทดลองงาน (90 Days probation)
> ค่าโทรศัพท์ และค่ารถ เบิกตามจริง (สำหรับใช้ติดต่อ หรือเดินทางในงานเท่านั้น)
> ประกันสังคม และวันลาป่วยตามกฎหมาย
> วันลาพักร้อน 20 วัน
> ทำงาน 5 วัน จันทร์ถึงศุกร์ 9:00 - 17:00 Flexible
สัญญาจ้างที่ไปเซ็น เค้าให้มา 2 ชุด โดยที่ยังไม่มีใครเซ็นเลย เราเซ็นคนแรกเเล้วเค้าก็เก็บไป บอกว่าจะเอาไปให้ CEO เซ็น เราก็โอเคๆ ไว้มารับวันเริ่มงานเนาะ
ปลายมีนาคม - เมษายน 59 จขกท ไปเริ่มงานตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทุกอย่างดูดี ทุกอย่างเตรียมพร้อม email setup เรียบร้อย นามบัตร รวมถึงเครื่องเขียน ยกเว้นสัญญาจ้างที่ยังคงไม่ได้รับคืน หัวหน้าดีค่ะ ดีจริงๆ เราเชื่อใจ มีเตรียมความพร้อมมีเทรนงาน สามารถเห็นต่างและเสนอความคิดได้ งานไม่ค่อยเหมือนตอนตกลง แต่ก็หยวนๆ เข้าใจมันก็มีปรับเปลี่ยนกันได้ เวลาทำงาน เช้า จขกท ไปถึงก่อนเวลาเริ่มงาน แต่มีบางวันที่ไป 9:15 บ้าง แต่น้อยมาก เวลาเลิกงานก็ราวๆ 18:00 หรือ บางวันก็ 18:30 ค่าโทรศัพท์และค่ารถ ไม่เคยเบิกค่ะ
ปลายเดือน เมษา ทางหัวหน้าก็มีเรียกประชุมทีม และบอกว่า บ. จะปิด เราจะต้องย้ายไปอยู่กับอีก บ. สถานที่ทำงานช่วงแรกไกลมาก แต่ก็อะหยวนๆ ช่วงเดียวแหละ เดี๋ยวจะให้ย้ายไปอยู่อีกออฟฟิศของเค้าที่อยู่ติด BTS กลางใจเมือง ทะยอยเก็บของออกจาก ออฟฟิศ สัญญาจ้างก็ยังคงไม่ได้ แต่เงินเดือนเข้าปกติ เลยคิดว่าไม่เป็นไรมั๊ง
พฤษภา 59 ไปทำงานกับ บ. ใหม่ อยู่ไกลมาก เดินทางลำบากแต่ก็เอาวะ ไม่มีใครรู้นิ ว่า บ. จะปิด ก็ยอมๆ มาเริ่มงานแบบฉุกละหุก ยังไม่ค่อยมีอะไรเตรียมพร้อมเลยค่ะ สัญญาจ้างก็ยังไม่มีอีกเช่นเคย ค่าโทรศัพท์และค่าเดินทาง (ที่ใช้ในงาน) เริ่มเข้าเนื้อมากขึ้น เงินเดือนเข้าตามปกติ หลังจากทำงานไปเดือนนึง HR เอาสัญญาจ้างมาให้เซ็นมีทางฝั่งบริษัทเซ็นเรียบร้อย เราเซ็นต่อ แต่ช่องพยาน โบ๋ ... ไม่มีคนเซ็น พี่HR เลยเก็บไป และจะเอาไปให้พยานเซ็น (สลับกันเซ็นก็ได้นะเอาจริง) และจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้เห็นสัญญาจ้างฉบับนั้นอีกเลย ในส่วนของการทำงาน เรายังรีพอร์ตหัวหน้าคนเดิมทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ประกันสุขภาพ บ. ใหม่นี่ยังไม่มีค่ะ เราเลยต้องไม่มีไปด้วย เวลาการทำงาน เค้าขอให้เราเลิกงานกัน 18:00 ห้ามออกก่อน ก็เลยยอมก็ได้อีกแล้ว
มิถุนา - กรกฎา 59 ย้ายออฟฟิศไปออฟฟิศใหม่กลางใจเมือง สะดวกติดบีทีเอส แต่ ออฟฟิศจะเข้าได้ตามเวลาห้างเปิดคือ 10:00 เราเลยต้องเปลี่ยนเวลาทำงานตามหัวหน้าบอกอีกแล้ว ทำงาน 10:00 - 19:00 ห้ามกลับก่อน 19:00 อีกตามเคย (ทั้งที่ตอนแรกตกลงกับหัวหน้าเอาไว้ว่า 9:00-17:00 อุส่าดีใจ)
เราก็ยอมๆ เข้าใจๆ ก็ทำงานต่อไป โดยเริ่มรู้สึกว่ามันไม่เหมือนตามที่ตกลงสักอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องสิทธิพนักงาน ประกันสุขภาพ เบิกค่าโทรก็ไม่ได้ งานต้องใช้โทรศัพท์เยอะค่ะ รวมถึงเวลาการทำงาน รู้สึกจะมีหัวหน้าคนเดียวค่ะ ที่จะ Flex เวลาได้ เข้าใจแหละ เค้าหัวหน้านิ ฮือ
สิ้นเดือน กรกฎา ทั้งทีมเรา ก็ได้คำแจ้งจากหัวหน้าวันเสาร์อีกว่า เราจะย้าย บ. อีกแล้ววววววว มีอีก บ. มาซื้อทีมไป ซึ่งเราจะเริ่มที่ใหม่กันวันจันทร์ (ต้องบอกก่อนนะคะ ว่า จขกท เองและเพื่อนร่วมงาน บางคนที่เราคุยด้วย ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆเพิ่มทั้งสิ้น)
สิงหา 59 - ปัจจุบัน เริ่มงานที่ใหม่กับอีก บ. (อีกแล้ว) ออฟฟิศ ยังโอเค อยู่กลางใจเมืองเหมือนเดิม สบาย~~~ แต่ๆ รูปแบบการทำงาน ลักษณะงาน หรือรูปแบบธุรกิจต่างไปจากเดิม แบบแทบจะ 98.99% เงินเดือนโอนมาจาก ตปท. ไม่หักภาษีไม่หักประกันสังคม ซึ่งเช็คกับที่เก่าเค้าบอกว่าเค้ายังไม่แจ้งออกให้กับทางประกันสังคม เผื่อเกิดปัญหาอะไร ก็ขอบคุณค่ะ แต่ข้อสงสัยก็มาอีกเช่นเคย เงินที่เข้าบัญชีมาไม่มีหักค่าอะไรเลย นอกจากค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท... (จขกท ไม่ใช่คน งก 100 จ่ายได้ แต่ความจริงมันต้องเป็นทาง บ. ออกมิใช่รือออ) การทำงานเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เราเริ่มเห็นต่าง เริ่มไม่อยากทำ เริ่มงอแง เริ่มนอย แต่ก็ยังมีผลงานสร้างร้ายได้ให้ บ. อยู่นะค่ะ ในส่วนของหัวหน้าเริ่มแสดงนิสัย ทัศนคติ และคำพูด พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากขึ้น มาก มาก ซึ่งต่างไปจากเดิมชนิดฟ้าเหว เวลาทำงาน ปรับกลับมา เริ่ม 9 เหมือนเดิม ซึ่งเราไปถึงออฟฟิตก็ 8:00 - 9:00 เวลาเลิกงาน จะออกได้ก็ต่อเมื่อ 18:00 เท่านั้น ประกันสุขภาพอะไรก็ยังคงไม่มี และคิดว่าไม่มีทางมีอีกต่อไป ประกันสังคมเริ่มขาด คิดว่า บ. ที่2 คงไม่ได้ส่งให้แล้ว แต่เค้าก็บอกเค้ายังไม่แจ้งออกให้ เราเริ่มกลัวแล้วค่ะ ให้เค้าช่วยเช็คช่วยตามให้หน่อยก็ไม่ได้ เราเลยเริ่มลุยจาก สำนักงานประกันสังคม สำนักงานเขตเอง ซึ่งทางเค้าก็ยังดูให้เราไม่ได้
เงินเดือนที่โอนเข้ามาก็ต้องมานั่งลุ้นว่าจะได้มั๊ย เข้าไม่เป็นเวลา ไม่แน่นอน ต้องมีความหวาดเสียวตลอดเวลา สัญญาจ้างเพิ่งมีหลังจากที่เราทำงานไปเดือนนึง ซึ่งเราไม่อยากเซ็นแล้วค่ะ หัวหน้าเอามาให้ Template เดียวกับอันแรกที่เราเคยเซ็นแต่ไม่ได้รับคืนเป๊ะๆ รวมถึงแม้กระทั้งเวลาทำงานและสวัสดิการตามที่เคยคุยกันครั้งแรกสุด แต่ในช่องลายเซ็น ไม่ใช่ชื่อ CEO แต่เป็นชื่อหัวหน้า และยังไม่มีใครเซ็นมาอีกเช่นเลย เราเลยเก็บกลับบ้านมาและยังไม่เซ็น
วันจันทร์นี้เราว่าเราจะออกเเล้ว เราอยากรู้ว่าถ้าเราไม่แจ้ง 30 วันจะได้มั๊ย มันสุดทนแล้วจริงๆค่ะ ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นทำตัวไม่น่ารัก งอแงรึเปล่า แต่ที่ผ่านมาเราตั้งใจทำงานให้จริงๆ พยายามอยากให้งานออกมาดี งานในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำได้ และจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เราก็อาสาขอทำ แต่เรายอมค่ะตอนนี้ท้อ งานไม่ใช่อย่างที่หวัง หัวหน้าก็เริ่มออกอาการแสดงพฤติกรรมแย่ๆ พาล ขึ้นเสียง ชักสีหน้า กวน... ข้อตกลงสวัสดิการจากแรกๆเราก็หยวนๆ ยอมๆ ค่าโทรเรา Package ปกติเราโทรได้ 1200 นาที และเราใช้เ้กินต้องจ่ายอีก 400-500 ทุกเดือน เราไม่ว่า ไม่สบายเราก็พักผ่อนทานยาเองนอนอยู่บ้าน ยอมๆ ไม่หาหมอ ประกันสังคมตะก่อนเราไม่ค่อยชอบมันแต่พอตอนนี้มันขาดหรือสถานะอะไรเรายัง งงๆ เลยคิดว่า พอละคะ ออกมาว่างงานก็ได้ ไม่รอให้ได้งานก่อนแล้วค่อยออกค่ะ
ถามเพื่อนๆว่า
1. วันจันทร์เราเดินไปบอกเค้าว่าจะออก คืนสัญญาจ้างให้เค้าบอกเราไม่อยากเซ็น จะได้มั๊ย ไม่ให้เวลาแจ้งก่อน 30 วัน จะผิดรึเปล่า เพราะเราไม่ได้อยากย้ายตามมาแต่แรก อันนี้ตามกฎมายเราผิดมั๊ยคะ ? แต่ถ้าในทางมารยาทเราไม่แคร์แล้ว
2. ประกันสังคม เราอยากขอรับเงินกรณีว่างงาน แต่เราไม่รู้จริงๆ ว่าที่ บ. no.2 นั่นเค้าได้จ่ายต่อเพื่อคงสภาพเรารึเปล่า เรารู้แค่เค้าบอกว่ายังไม่แจ้งออกให้ อันนี้เราจะรับค่าชดเชยได้มั๊ย เพราะมันครอบคลุมแค่ 3 เดือน นี่หายไป 2 เดือนแล้ว
3. เรากลัวหัวหน้าให้ Reference Check ไม่ดีค่ะ เราควรทำยังไงกับกรณีนี้ดี
ขอบคุณทุกๆคนที่ทนอ่านมาจนถึงตอนนี้นะค่ะ มันยาวมาก