ตัวตนของแบล๊ค ในแบบที่ผมคิด

ผมคิดว่า เรากำลังเข้าใจผิดที่ว่า ซามาส มี 2 คน และ 2 ไทม์ไลน์ ผมว่าจริง ๆ ซามาสน่าจะมี ทั้งหมด 3 คนและ 3 ไทม์ไลน์ คือ ซามาสในยุคปัจจุบัน ซามาสในยุค ทรังค์ และซามาสอีก 1 ไทม์ไลน์ ซึ่งซามาสในไทม์ไลน์นี้ ต้องเคยสู้กับโกคูและสนใจในพลังของโกคู เพราะมันเป็นไปได้ยาก ที่ซามาสในยุคทรังคซ์ จะรู้จักโกคู ถึงรู้จักก็คงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะตอนที่ตายโกคูยังมีพลังไม่มาก แค่ระดับเหนือกว่าฟรีเซอร์ เท่านั้น
ซามาสในไทม์ไลน์ ที่ 3 น่าจะฆ่าโกวาส และชิงแหวนเดินทางไปยังอนาคต ในยุคของทรังค์ โดยที่เลือกมายุคนี้ เพราะน่าจะเป็นยุคเดียว ที่มีร่างไร้วิญญาณของโกคู จากนั้นเมื่อเดินทางมาถึง ก็ได้ออกไปบอกเล่าให้ ซามาสในยุคทรังค์ฟัง ถึงพลังของโกคู และการมีอยู่ของดราก้อนบอล โดยซามาสยุคทรังซ์ อาจจะมีสถานะเป็นไคโอชินเต็มตัวแล้ว เพราะโกวาส อาจจะแก่ตายไปแล้ว จากนั้น ทั้งสองก็ร่วมมือกันตามหาดราก้อนบอล และขอพรกันคนละข้อ ซามาสในยุคทรังซ์ ขอให้ตัวเองเป็นอมตะ ส่วน ซามาส อีกคนขอให้ตัวเองได้อยู่ในร่างของโกคู

นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม โกคูแบล๊ค มันถึงมีพลังแบบเดียวกับซามาส

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมแบล๊คมันถึงดูเกรงใจ ซามาส อาจจะเป็นเพราะว่า สถานะต่างกันแล้ว ไอ้ตัวที่เป็นแบล๊คอาจจะยังเป็นแค่ไคโอชินฝึกหัด ส่วนอีกตัว นึงอาจจะเป็นไคโอชินเต็มตัวแล้ว ถึงแม้จะเป็นคนเดียวกันแต่ตำแหน่ง ต่างกัน

และที่ว่าทำไม บิลมันฆ่าซามาสในไทม์ไลน์ปัจจุบันแล้วไอ้สองตัวนี้ไม่ตาย ตัวนึงแน่นอนขอพรให้ตัวเองเป็นอมตะแล้ว ก็เลยไม่ตายส่วนอีกตัว น่าจะไม่ใช่แค่สิงร่างโกคูเฉย ๆ แต่อาจจะขอพรให้ตัวเองจุติใหม่ในร่างโกคูไปเลย คือไม่ใช่ทั้งซามาส และ โกคูอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้น การฆ่า ซามาสในปัจจุบัน ของบิล จึงไม่มีผลกับทั้งสอง

ส่วนที่ว่าทำไมมันต้องใส่ต้มหูกันคนละข้าง ผมเดาว่า ตัวนึงมันจำเป็นต้องถอดออกเพราะหากตัวนึง ใส่ไว้นึงข้าง อีกตัวใส่สองข้าง มันอาจจะรวมร่างกันได้ เพราะยังไง ซะมันก็คือต้มหูอันเดียวกัน แต่มาจากคนละช่วงเวลาเฉย ๆ

และที่น่าสนใจอีกอย่างผมคิดว่า การปรากฎตัวของแบล๊ค นั้นสาเหตุหลักมาจาก ที่ทรังซ์ไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ให้โกคูไม่ตาย เพราะถ้าหากโกคูตาย แบล๊คก็คงไม่เกิดขึ้นเพราะไม่มีโอกาสที่ ซามาสจะรุ้จักโกคู และ คนที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์จริง ๆ ไม่ใช่แค่ทรังซ์ บูลม่าก็ด้วย เพราะฉะนั้นผลการกระทำของตัวเอง มันจึงมีเอฟเฟค ส่งผลให้ตัวเองต้องตายเพราะการกระทำของตัวเอง อันนี้มโนล้วน ๆ นะครับ ส่วนจะจริงแบบที่คิดมั้ยต้องมารอดูกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่