สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ ^^ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดยังไงก็หลับหูหลับตาลืมๆไปเนาะ
*
แล้วฤดูกาลเดินทางก็มาถึง ครั้งนี้เราอยากจะลองไปทำในเมืองคาสิโนดู เลยตัดสินใจไปที่ Harrah’s and Harveys Lake Tahoe และทันทีที่เราเห็น Location ก็ตัดสินใจ เลือกที่นั่นอย่างไร้สติทันที
โรงแรม Harrah’s and Harveys มี tunnel เชื่อมใต้ดินด้วยนา
ใกล้ถึงวันสัมภาษณ์ละ จะรอด? หรือไม่รอด? เราใช้วิธีซ้อมตอบคำถามกับเพื่อน ไม่เป๊ะ ไม่หยุด เบอร์นี้เลย พอวันจริงมาถึงก็ เอาว่ะ! สู้ว!! ได้สัมภาษณ์คนแรกสวยๆด้วยนะเออ สรุปคือ นายจ้างให้แนะนำตัว เราก็ตามสเตปที่ซ้อมมา หลังจากนั้นนางก็ดู resume แล้วก็ถามจากในนั้นเลย ขั้นนี้เราอยากบอกเพื่อนๆว่า นายจ้างอยากเห็น
ความมั่นใจ รอยยิ้ม และทัศนคติที่ดีของเรา เราขอแนะนำว่าควร
เลี่ยงที่จะตอบ แค่ YES หรือ NO ห้วนๆ เพิ่มเหตุผลไปด้วยนิสนุงนะ (ใครมีสกิลการแถสูงก็โชคดีไป ) สำหรับใครที่พลาดก็ไม่ต้องเสียใจ เรามีเพื่อนคนนึงที่ตกสัมภาษณ์งานที่เลือก แต่งานใหม่ทีได้ดันดีกว่างานแรกซะงั้น เพราะงั้นแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาไม่ได้นะเออ
อีกอย่างคือ นายจ้างจะถามวันเริ่มงานและวันสิ้นสุดการทำงานของเราด้วย ตรงนี้ขอให้คิดไปก่อนเลย เพราะเค้าจะจดไว้ แล้วออกมาเป็น Job Offer หรือสัญญาการว่าจ้างงานของเรานั่นเอง ซึ่งการทำผิดสัญญาก็คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่ อาจจะได้บันทึกไม่ดีในประวัติการทำงานแบบงงๆ แต่ช้าแต่...ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับนายจ้างหรือ manager ของเราด้วย ถ้าเรามีเหตุผลจำเป็นที่ต้องออกก่อน ก็ต้องบอกให้นายจ้างรู้แต่เนิ่นๆ เค้าจะได้เตรียมตัวหาคนใหม่มาแทนที่เรา การออกปุ๊ปปั๊ปจะสร้างความวุ่นวายให้ทางนั้น ซึ่งจะทำให้เด็กไทยเสีย credit ได้นะเออ ทำตัวดีดีเนาะ เพื่อรุ่นต่อๆไป ^^
ตั๋วไม่ยากอย่างที่คิด
จากที่สองครั้งแรกที่ไป WAT มา เรามีโอกาสได้ซื้อและจัดการเรื่องตั๋วเองทั้งหมด =='' แต่ครั้งนี้เอเจนซีจะเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วให้ สำหรับเราเราว่าราคาไม่ต่างกันมาก แถมไม่ต้องยุ่งยากเชคราคาเอง รวมถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนตั๋วก้อเปลี่ยนได้หลายครั้ง เชื่อว่าทุกคนวางแผนวันที่ไปแน่นอนซึ่งส่วนมากก็จะอิงตามวันเริ่มงานหรือตาม job offer แต่วันกลับอาจจะกะเอา
เราเองปีนี้มีปัญหาบางอย่างเลยจำเป็นที่จะต้องเลื่อนตั๋วอย่างกะทันหันมากๆ เลยลองโทรไปถามสายการบินดู นางบอกต้องจ่าย $900 กว่าๆ เป็นค่าส่วนต่าง เด๋วก่อนน...!!! เราเลยบอกเอเจนซีช่วยให้ดำเนินการให้ ปรากฏว่าเสีย 2500 บาท เป็นค่าเปลี่ยนตั๋วตาม option ที่เลือกตอนแรก ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่ได้มาเพื่อโปรโมทแต่อย่างใด คือซึ้งใจพี่เอเจนซี่จริงๆ
ปล. ทุกๆปีเราเห็นว่าจะมีปัญหาเรื่องตั๋วมาก เพราะหลายๆคนอยากจะซื้อเอง เราขอแนะนำให้ศึกษารายละเอียดของโครงการดีๆก่อนว่ามีเงื่อนไขเรื่องตั๋วยังไง ถ้าตกลงจะไปกับเอเจนซี่นั้นๆแล้ว ก็ไม่ควรจะมีปัญหาทีหลังเนาะ
เสบียงครบพร้อมรบแล้ว
ว่ากันด้วยเรื่องการจัดของ เราใช้วิธีเอาพวกเสื้อผ้า เครื่องสุขภัณฑ์ ยา และของใช้จำเป็นไว้ในกระเป๋า 1 ใบ อีก 1 ใบเป็นของกินทั้งใบ เน้นมาม่าๆๆๆ คือไม่คิดจะเอาของกินกลับอยู่แล้ว หรือจะใช้วิธีแบ่งให้น้ำหนักกระเป๋าสองใบเท่าๆกันก็ได้ หากใครอยากไปซื้อประเพิ่มอีกใบที่เมกาก็ได้ ที่ TJ max หรือ Ross ก็มีทั้งดีและถูก **ขอเตือนว่าพวกเอกสารสำคัญ และ
เงิน เอาขึ้นเครื่องไปด้วย อย่าเอาใส่กระเป๋าโหลดลงใต้เครื่องเด็ดขาด อาจจะมีการสูญหายระหว่างทางแบบไม่รุสาเหตุได้ **เอกสาระสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ resume(เอาไว้สมัครงาน 2 3 4) ให้ส่งเข้า e-mail ตัวเองสำรองไว้อีกชุดนึงจะดีมาก
บินกันเลย
เอกสารพร้อม
เงินพร้อม กระเป๋าพร้อม ใจพร้อม ก็ลุยสิคะ จริงๆแล้วไปถึงสนามบินก่อนอย่างน้อยซัก 2 ชั่วโมง กำลังพอดี แต่เราไปถึงสนามบินก่อนนานมาก แทบจะเรียกว่ามานอนสนามบินได้เลย LOL เพราะเคยมีประสบการณ์ตกเครื่องบินมาแล้ว! ตกเครื่องไม่ใช่เรื่องตลก =='' กันพลาดเนาะ ยิ่งไปถึงก่อนนานยิ่งดี
การบินไปเมกาถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากสำหรับเรา อีกอย่างเวลาที่ Lake Tahoe ช้ากว่าไทยถึง 14 ชม. อาการที่อาจจะตามมาคือ Jet lag ซึ่งเราใช้วิธีคือ กินๆๆๆ จิบไวน์พอกรึ่มๆ ท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน แล้วก้อเอนตัวนอนเลยครัช zZZ…
สนามบินปลายทางคือ RNO ลงเครื่องมานี่มีกลิ่นอายความเป็นเมือง Casino มาก เครื่อง slot machine เพียบบ
ปีนี้เราได้พักที่ Rodeway Inn ซึ่งการเดินทางมาก็ไม่ยาก ขึ้นรถจากสนามบินมาลงที่ Harveys ราคา $30 แล้วก็เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ถือว่าอยู่ใกล้กับที่ทำงานมากๆ สำหรับการเข้าพัก จะมีแบบอยู่ 4 คน 5 คน และ 6 คน ราคาก็จะต่างกันไป อยู่หลายคนก็จะถูกลง ถ้าไปกับเพื่อนก็บอกพี่เอเจนเลยว่าจะอยู่ด้วยกัน ทางที่พักจะได้จัดห้องให้ ตอนไปถึงจะได้ไม่วุ่นวายเนาะ
นี่ก็เป็นที่พัก แล้วก็มีแถมรถของลุง Norman อยากไปไหนบอกลุงได้เลย
เดินจากที่พักอีก 5 นาที ก็ถึง Beach แล้ว วันว่างๆ ไปนั่งชิลๆ อาบแดดได้นาจา แต่ช่วงไปถึงประมาณปลายเดือนพฤษภาถึงเดือนมิถุนายน ก็ยังหนาวๆ อยู่ มีหิมะด้วยนะเออ
บรรยากาศเส้นทางการเดินไปทำงาน ที่ทำงานอยู่ฝั่งซ้าย Nevada ส่วนที่พักฝั่งขวา California อ่า ตะเข็บชายแดนนี่เอง 55
งานหลักของเราคือ Food host and Cashier ที่ CaBo Wabo เป็นร้าน Mexican Food เราชอบทำงานที่นี้มาก เพราะทั้ง co-worker แล้วก็ manager ใจดีและน่ารักมาก งานก็สบายมากอีกเช่นกัน ยืนอยู่หน้าร้านสวยๆ คอยแนะนำเมนู พาแขกไปนั่งโต๊ะ แล้วพอทำไปซักพัก จะรุสึกว่าตัวเองเป็น information ด้วย เพราะคนส่วนมากจะถามทาง ถามข้อมูลนุ่นนี่นั่น พูดมันส์เลยค่างานนี้
ร้านจะเปิดประมาณ 4.30 pm มี live music or DJ ทุกคืน หลัง 10pm เข้าฟรีด้วยนา แต่ต้อง 21 ปีขึ้นไป
งานแรกเราเริ่มงานเกือบเย็น เวลาช่วงเช้าจะอยู่เฉยๆก็กระไรอยู่ เราเลยไปทำ house. ที่ Rodeway Inn พลางไปก่อน จนกระทั่งเราหางานสองที่ดีกว่า และสบายกว่าได้คือ เป็น Host (อีกแล้วค่า) ที่ร้าน Fire Break, Hard rock ในตอนเช้า
นี่แหนะ อะไรจะสบายขนาดนี้ มี MV ให้ดูเล่นด้วย
ทุกอย่างแลดูสบายมากกับการเป็น Host เช้ายันเย็น ผ่านไปซักพักความสบายดันกลายเป็นความทรมานซะงั้น!! เวลาก็ช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน ...สุดท้าย เราก็ say goodbye Fire Break แล้วผันไปเป็นแรงงาน House ของ The service companies (TSC) ทำที่ Harrah’s and Harveys และแล้ว...เราก็ค้นพบว่า งานนี้แหละใช่เลย มันส์มากก มันส์ไปอีกตอนที่ต้องแย่งทิปกับ inspector กับ housemen (ปล.วิธีแย่งทิปหลังไมค์นาจา มันเป็นเคล็ดลับ อุอิ)
ในช่วงเดือนสุดท้าย เรารู้สึกลงตัวมากกับการทำ House (งานหนัก หน้าโทรม พูดน้อย เงินเยอะ) ในตอนเช้า แล้วก็ต่อ Host (งานเบา หน้าสวย พูดมาก เงินน้อย) ตอนเย็น แถมอยู่ในโรงแรมเดียวกันอีก ดีไปอีกคือการได้ทานข้าวที่ cafeteria 2 มื้อ โฮะๆ
ปล1. ขอแจงนิดนึง ถ้าใครทำงานกับ Harrah’s and Harveys จะไม่สามารถสมัครงานสองที่นั้นได้เลย แต่บางทีอาจจะได้ OT เรท 1.5 เท่า ซึ่งก็แล้วแต่ตำแหน่ง และความ busy ของงาน ส่วนเราในตอนท้ายทำ house เป็นงานสองซึ่งเป็นของ TSC ที่เป็นบริษัทรับผิดชอบด้านความสะอาดและสถานที่ให้กับหลายๆโรงแรม ถือว่าเราทำงานกับ 2 บริษัท แต่อยู่ในโรงแรมเดียวกัน สามารถทำได้ ในทางเดียวกัน คนที่ทำงานกับ TSC ก็สามารถมาสมัครงานสองที่ Harrah’s and Harveys ได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็น swing shift ก็จะมีเช่น งานล้างจาน, งาน host เหมือนเรา, งานsecurity ก็มีนะ ถ้าใครไหว
ปล2. การหางานสองไม่ยากเลย แต่ต้องแย่งชิงกันนิดนึงถ้าอยากได้งานดีดี โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แถวนั้นมีเยอะมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ตัวเลือกเยอะ อยากได้งานเร็วก็ต้องรีบไปสมัคร ทิ้ง
เบอร์ติดต่อกลับให้นายจ้างด้วย คือต้องรีบสมัครก่อนที่พวกยุโรปจะมาถึง ไม่งั้นวิบัติแน่จร้า พวกยุโรปงานดีๆกันทั้งนั้น ภาษาก็ดีกว่าเรา เด๋วนายจ้างจะมีข้อเปรียบเทียบ ยอมไม่ได้นา ต้องตัดหน้าไปก่อนโลดด
ช่วง summer มี concert และ event เยอะมาก เตรียมตัวรับ OT ได้เลย
ใครทำงานที่ Harrah’s , Harveys, Lake Tahoe Resort หรือ เป็น housekeeper ของ TSC สามารถทาน buffet ที่ cafeteria ของ Harrah’s ได้ 1 มื้อ แต่เครื่องดื่ม เช่น coffee, tea, hot-choc, juice บลาๆ หรือ ice –cream สามารถกินได้ตลอด 24 ชม.
นี่ก็เป็นตัวอย่างอาหารของเรา พูดแล้วก็คิดถึงซุป ซุปที่นั่นมีให้เลือกวันละ 2 อย่างแหนะ
ใครอยู่ Harveys ก็ไม่ต้องน้อยใจ ทีนี่ก็มี break room เล็กๆ ไปแวะพักได้ เราชอบมานั่งเล่นที่ห้องนี้มาก คนน้อยดี ไม่พลุกพล่าน อยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน ^^
ร้านอาหารไทยก็มีนะ อยู่ที่ food court, Harrah’s พี่ๆคนไทยที่ร้านใจดีมาก แถมเป็นคนไทยได้ส่วนลดด้วยนา
ส่วนใครที่ชอบทำอาหารทานเอง แถวนั้นจะมี Raley’s เป็น supermarket ขนาดใหญ่ เดินไปได้ วัตถุดิบทำอาหารเยอะพอได้ แถมข้างในมีธนาคาร Wells Fargo ด้วย พอไปถึงรีบไปเปิดบัญชีที่นั่นได้เลย
งานเที่ยวก็มา
ที่ Lake Tahoe มี view point หลายที่มาก ใครที่ชอบธรรมชาติ หรือชอบ hikeเที่ยวไม่เบื่อแน่นอน
นี่ก็เป็น daily view เห็นทุกวัน เริศแค่ไหนถามใจดู๊วว
หรืออยากไปชมวิวที่สูง ก็เชิญนี่เลยจร้า Gondola ride ที่ Heavenly village ข้างๆ Harrah’s ข้างบนนี่มี adventure stuff เพียบบ
จะนั่งบัส blue go(เที่ยวละ $2 หรือเหมารายวัน $5) ชมเมืองก็ได้ แต่บัส มีแค่สาย 50 กับ 53 มีสายละคันเท่านั้น!! ถ้าพลาดนี่ก็ต้องรอรถวนกลับมาอีกรอบ ถ้าไม่อยากรอเก้อ ก็โทรไปถาม call center ได้ว่ารถจะมาอีกรอบตอนไหน ข่าวดีคือ บัสนี้นั่งฟรีตลอดเดือนกรกฎานาจา ฮิ้วววว *0*
นี่ก็เป็น road trip to LA ของเรากับเพื่อนๆ วิวข้างทางฟินเว่อร์ร์
งานเปิดเบอร์ใหม่ก็มา
เราเลือกใช้เครือข่ายของ lycamobile สัญญาณนี่สู้ของ AT&T ไม่ได้หรอก ยิ่งตอนอยู่ basement นี่แทบไม่มีสัญญาณเลย เราใช้ wifi ของโรงแรมเอา แต่ข้อดีของเครือข่ายนี้คือ โทรกลับไทยได้ฟรีไม่อั้นเลย
เราเป็นกำลังใจให้สาวกเด็ก WAT ทุกคนน๊าา โชคดีจร้า
[CR] แชร์ประสบการณ์ WAT2016 ณ เมือง Casino, Lake Tahoe
แล้วฤดูกาลเดินทางก็มาถึง ครั้งนี้เราอยากจะลองไปทำในเมืองคาสิโนดู เลยตัดสินใจไปที่ Harrah’s and Harveys Lake Tahoe และทันทีที่เราเห็น Location ก็ตัดสินใจ เลือกที่นั่นอย่างไร้สติทันที
โรงแรม Harrah’s and Harveys มี tunnel เชื่อมใต้ดินด้วยนา
วันตัดสินชะตา
ใกล้ถึงวันสัมภาษณ์ละ จะรอด? หรือไม่รอด? เราใช้วิธีซ้อมตอบคำถามกับเพื่อน ไม่เป๊ะ ไม่หยุด เบอร์นี้เลย พอวันจริงมาถึงก็ เอาว่ะ! สู้ว!! ได้สัมภาษณ์คนแรกสวยๆด้วยนะเออ สรุปคือ นายจ้างให้แนะนำตัว เราก็ตามสเตปที่ซ้อมมา หลังจากนั้นนางก็ดู resume แล้วก็ถามจากในนั้นเลย ขั้นนี้เราอยากบอกเพื่อนๆว่า นายจ้างอยากเห็น ความมั่นใจ รอยยิ้ม และทัศนคติที่ดีของเรา เราขอแนะนำว่าควรเลี่ยงที่จะตอบ แค่ YES หรือ NO ห้วนๆ เพิ่มเหตุผลไปด้วยนิสนุงนะ (ใครมีสกิลการแถสูงก็โชคดีไป ) สำหรับใครที่พลาดก็ไม่ต้องเสียใจ เรามีเพื่อนคนนึงที่ตกสัมภาษณ์งานที่เลือก แต่งานใหม่ทีได้ดันดีกว่างานแรกซะงั้น เพราะงั้นแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาไม่ได้นะเออ
อีกอย่างคือ นายจ้างจะถามวันเริ่มงานและวันสิ้นสุดการทำงานของเราด้วย ตรงนี้ขอให้คิดไปก่อนเลย เพราะเค้าจะจดไว้ แล้วออกมาเป็น Job Offer หรือสัญญาการว่าจ้างงานของเรานั่นเอง ซึ่งการทำผิดสัญญาก็คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่ อาจจะได้บันทึกไม่ดีในประวัติการทำงานแบบงงๆ แต่ช้าแต่...ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับนายจ้างหรือ manager ของเราด้วย ถ้าเรามีเหตุผลจำเป็นที่ต้องออกก่อน ก็ต้องบอกให้นายจ้างรู้แต่เนิ่นๆ เค้าจะได้เตรียมตัวหาคนใหม่มาแทนที่เรา การออกปุ๊ปปั๊ปจะสร้างความวุ่นวายให้ทางนั้น ซึ่งจะทำให้เด็กไทยเสีย credit ได้นะเออ ทำตัวดีดีเนาะ เพื่อรุ่นต่อๆไป ^^
ตั๋วไม่ยากอย่างที่คิด
จากที่สองครั้งแรกที่ไป WAT มา เรามีโอกาสได้ซื้อและจัดการเรื่องตั๋วเองทั้งหมด =='' แต่ครั้งนี้เอเจนซีจะเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วให้ สำหรับเราเราว่าราคาไม่ต่างกันมาก แถมไม่ต้องยุ่งยากเชคราคาเอง รวมถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนตั๋วก้อเปลี่ยนได้หลายครั้ง เชื่อว่าทุกคนวางแผนวันที่ไปแน่นอนซึ่งส่วนมากก็จะอิงตามวันเริ่มงานหรือตาม job offer แต่วันกลับอาจจะกะเอา
เราเองปีนี้มีปัญหาบางอย่างเลยจำเป็นที่จะต้องเลื่อนตั๋วอย่างกะทันหันมากๆ เลยลองโทรไปถามสายการบินดู นางบอกต้องจ่าย $900 กว่าๆ เป็นค่าส่วนต่าง เด๋วก่อนน...!!! เราเลยบอกเอเจนซีช่วยให้ดำเนินการให้ ปรากฏว่าเสีย 2500 บาท เป็นค่าเปลี่ยนตั๋วตาม option ที่เลือกตอนแรก ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่ได้มาเพื่อโปรโมทแต่อย่างใด คือซึ้งใจพี่เอเจนซี่จริงๆ
ปล. ทุกๆปีเราเห็นว่าจะมีปัญหาเรื่องตั๋วมาก เพราะหลายๆคนอยากจะซื้อเอง เราขอแนะนำให้ศึกษารายละเอียดของโครงการดีๆก่อนว่ามีเงื่อนไขเรื่องตั๋วยังไง ถ้าตกลงจะไปกับเอเจนซี่นั้นๆแล้ว ก็ไม่ควรจะมีปัญหาทีหลังเนาะ
เสบียงครบพร้อมรบแล้ว
ว่ากันด้วยเรื่องการจัดของ เราใช้วิธีเอาพวกเสื้อผ้า เครื่องสุขภัณฑ์ ยา และของใช้จำเป็นไว้ในกระเป๋า 1 ใบ อีก 1 ใบเป็นของกินทั้งใบ เน้นมาม่าๆๆๆ คือไม่คิดจะเอาของกินกลับอยู่แล้ว หรือจะใช้วิธีแบ่งให้น้ำหนักกระเป๋าสองใบเท่าๆกันก็ได้ หากใครอยากไปซื้อประเพิ่มอีกใบที่เมกาก็ได้ ที่ TJ max หรือ Ross ก็มีทั้งดีและถูก **ขอเตือนว่าพวกเอกสารสำคัญ และเงิน เอาขึ้นเครื่องไปด้วย อย่าเอาใส่กระเป๋าโหลดลงใต้เครื่องเด็ดขาด อาจจะมีการสูญหายระหว่างทางแบบไม่รุสาเหตุได้ **เอกสาระสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ resume(เอาไว้สมัครงาน 2 3 4) ให้ส่งเข้า e-mail ตัวเองสำรองไว้อีกชุดนึงจะดีมาก
บินกันเลย
เอกสารพร้อม เงินพร้อม กระเป๋าพร้อม ใจพร้อม ก็ลุยสิคะ จริงๆแล้วไปถึงสนามบินก่อนอย่างน้อยซัก 2 ชั่วโมง กำลังพอดี แต่เราไปถึงสนามบินก่อนนานมาก แทบจะเรียกว่ามานอนสนามบินได้เลย LOL เพราะเคยมีประสบการณ์ตกเครื่องบินมาแล้ว! ตกเครื่องไม่ใช่เรื่องตลก =='' กันพลาดเนาะ ยิ่งไปถึงก่อนนานยิ่งดี
การบินไปเมกาถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากสำหรับเรา อีกอย่างเวลาที่ Lake Tahoe ช้ากว่าไทยถึง 14 ชม. อาการที่อาจจะตามมาคือ Jet lag ซึ่งเราใช้วิธีคือ กินๆๆๆ จิบไวน์พอกรึ่มๆ ท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน แล้วก้อเอนตัวนอนเลยครัช zZZ…
สนามบินปลายทางคือ RNO ลงเครื่องมานี่มีกลิ่นอายความเป็นเมือง Casino มาก เครื่อง slot machine เพียบบ
ถึงแล้วที่พักหรรษา
ปีนี้เราได้พักที่ Rodeway Inn ซึ่งการเดินทางมาก็ไม่ยาก ขึ้นรถจากสนามบินมาลงที่ Harveys ราคา $30 แล้วก็เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ถือว่าอยู่ใกล้กับที่ทำงานมากๆ สำหรับการเข้าพัก จะมีแบบอยู่ 4 คน 5 คน และ 6 คน ราคาก็จะต่างกันไป อยู่หลายคนก็จะถูกลง ถ้าไปกับเพื่อนก็บอกพี่เอเจนเลยว่าจะอยู่ด้วยกัน ทางที่พักจะได้จัดห้องให้ ตอนไปถึงจะได้ไม่วุ่นวายเนาะ
นี่ก็เป็นที่พัก แล้วก็มีแถมรถของลุง Norman อยากไปไหนบอกลุงได้เลย
เดินจากที่พักอีก 5 นาที ก็ถึง Beach แล้ว วันว่างๆ ไปนั่งชิลๆ อาบแดดได้นาจา แต่ช่วงไปถึงประมาณปลายเดือนพฤษภาถึงเดือนมิถุนายน ก็ยังหนาวๆ อยู่ มีหิมะด้วยนะเออ
บรรยากาศเส้นทางการเดินไปทำงาน ที่ทำงานอยู่ฝั่งซ้าย Nevada ส่วนที่พักฝั่งขวา California อ่า ตะเข็บชายแดนนี่เอง 55
เริ่มงานกันเลย
งานหลักของเราคือ Food host and Cashier ที่ CaBo Wabo เป็นร้าน Mexican Food เราชอบทำงานที่นี้มาก เพราะทั้ง co-worker แล้วก็ manager ใจดีและน่ารักมาก งานก็สบายมากอีกเช่นกัน ยืนอยู่หน้าร้านสวยๆ คอยแนะนำเมนู พาแขกไปนั่งโต๊ะ แล้วพอทำไปซักพัก จะรุสึกว่าตัวเองเป็น information ด้วย เพราะคนส่วนมากจะถามทาง ถามข้อมูลนุ่นนี่นั่น พูดมันส์เลยค่างานนี้
ร้านจะเปิดประมาณ 4.30 pm มี live music or DJ ทุกคืน หลัง 10pm เข้าฟรีด้วยนา แต่ต้อง 21 ปีขึ้นไป
งานแรกเราเริ่มงานเกือบเย็น เวลาช่วงเช้าจะอยู่เฉยๆก็กระไรอยู่ เราเลยไปทำ house. ที่ Rodeway Inn พลางไปก่อน จนกระทั่งเราหางานสองที่ดีกว่า และสบายกว่าได้คือ เป็น Host (อีกแล้วค่า) ที่ร้าน Fire Break, Hard rock ในตอนเช้า
นี่แหนะ อะไรจะสบายขนาดนี้ มี MV ให้ดูเล่นด้วย
ทุกอย่างแลดูสบายมากกับการเป็น Host เช้ายันเย็น ผ่านไปซักพักความสบายดันกลายเป็นความทรมานซะงั้น!! เวลาก็ช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน ...สุดท้าย เราก็ say goodbye Fire Break แล้วผันไปเป็นแรงงาน House ของ The service companies (TSC) ทำที่ Harrah’s and Harveys และแล้ว...เราก็ค้นพบว่า งานนี้แหละใช่เลย มันส์มากก มันส์ไปอีกตอนที่ต้องแย่งทิปกับ inspector กับ housemen (ปล.วิธีแย่งทิปหลังไมค์นาจา มันเป็นเคล็ดลับ อุอิ)
ในช่วงเดือนสุดท้าย เรารู้สึกลงตัวมากกับการทำ House (งานหนัก หน้าโทรม พูดน้อย เงินเยอะ) ในตอนเช้า แล้วก็ต่อ Host (งานเบา หน้าสวย พูดมาก เงินน้อย) ตอนเย็น แถมอยู่ในโรงแรมเดียวกันอีก ดีไปอีกคือการได้ทานข้าวที่ cafeteria 2 มื้อ โฮะๆ
ปล1. ขอแจงนิดนึง ถ้าใครทำงานกับ Harrah’s and Harveys จะไม่สามารถสมัครงานสองที่นั้นได้เลย แต่บางทีอาจจะได้ OT เรท 1.5 เท่า ซึ่งก็แล้วแต่ตำแหน่ง และความ busy ของงาน ส่วนเราในตอนท้ายทำ house เป็นงานสองซึ่งเป็นของ TSC ที่เป็นบริษัทรับผิดชอบด้านความสะอาดและสถานที่ให้กับหลายๆโรงแรม ถือว่าเราทำงานกับ 2 บริษัท แต่อยู่ในโรงแรมเดียวกัน สามารถทำได้ ในทางเดียวกัน คนที่ทำงานกับ TSC ก็สามารถมาสมัครงานสองที่ Harrah’s and Harveys ได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็น swing shift ก็จะมีเช่น งานล้างจาน, งาน host เหมือนเรา, งานsecurity ก็มีนะ ถ้าใครไหว
ปล2. การหางานสองไม่ยากเลย แต่ต้องแย่งชิงกันนิดนึงถ้าอยากได้งานดีดี โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แถวนั้นมีเยอะมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ตัวเลือกเยอะ อยากได้งานเร็วก็ต้องรีบไปสมัคร ทิ้งเบอร์ติดต่อกลับให้นายจ้างด้วย คือต้องรีบสมัครก่อนที่พวกยุโรปจะมาถึง ไม่งั้นวิบัติแน่จร้า พวกยุโรปงานดีๆกันทั้งนั้น ภาษาก็ดีกว่าเรา เด๋วนายจ้างจะมีข้อเปรียบเทียบ ยอมไม่ได้นา ต้องตัดหน้าไปก่อนโลดด
ช่วง summer มี concert และ event เยอะมาก เตรียมตัวรับ OT ได้เลย
งานกินก็มา
ใครทำงานที่ Harrah’s , Harveys, Lake Tahoe Resort หรือ เป็น housekeeper ของ TSC สามารถทาน buffet ที่ cafeteria ของ Harrah’s ได้ 1 มื้อ แต่เครื่องดื่ม เช่น coffee, tea, hot-choc, juice บลาๆ หรือ ice –cream สามารถกินได้ตลอด 24 ชม.
นี่ก็เป็นตัวอย่างอาหารของเรา พูดแล้วก็คิดถึงซุป ซุปที่นั่นมีให้เลือกวันละ 2 อย่างแหนะ
ใครอยู่ Harveys ก็ไม่ต้องน้อยใจ ทีนี่ก็มี break room เล็กๆ ไปแวะพักได้ เราชอบมานั่งเล่นที่ห้องนี้มาก คนน้อยดี ไม่พลุกพล่าน อยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน ^^
ร้านอาหารไทยก็มีนะ อยู่ที่ food court, Harrah’s พี่ๆคนไทยที่ร้านใจดีมาก แถมเป็นคนไทยได้ส่วนลดด้วยนา
ส่วนใครที่ชอบทำอาหารทานเอง แถวนั้นจะมี Raley’s เป็น supermarket ขนาดใหญ่ เดินไปได้ วัตถุดิบทำอาหารเยอะพอได้ แถมข้างในมีธนาคาร Wells Fargo ด้วย พอไปถึงรีบไปเปิดบัญชีที่นั่นได้เลย
งานเที่ยวก็มา
ที่ Lake Tahoe มี view point หลายที่มาก ใครที่ชอบธรรมชาติ หรือชอบ hikeเที่ยวไม่เบื่อแน่นอน
นี่ก็เป็น daily view เห็นทุกวัน เริศแค่ไหนถามใจดู๊วว
หรืออยากไปชมวิวที่สูง ก็เชิญนี่เลยจร้า Gondola ride ที่ Heavenly village ข้างๆ Harrah’s ข้างบนนี่มี adventure stuff เพียบบ
จะนั่งบัส blue go(เที่ยวละ $2 หรือเหมารายวัน $5) ชมเมืองก็ได้ แต่บัส มีแค่สาย 50 กับ 53 มีสายละคันเท่านั้น!! ถ้าพลาดนี่ก็ต้องรอรถวนกลับมาอีกรอบ ถ้าไม่อยากรอเก้อ ก็โทรไปถาม call center ได้ว่ารถจะมาอีกรอบตอนไหน ข่าวดีคือ บัสนี้นั่งฟรีตลอดเดือนกรกฎานาจา ฮิ้วววว *0*
นี่ก็เป็น road trip to LA ของเรากับเพื่อนๆ วิวข้างทางฟินเว่อร์ร์
งานเปิดเบอร์ใหม่ก็มา
เราเลือกใช้เครือข่ายของ lycamobile สัญญาณนี่สู้ของ AT&T ไม่ได้หรอก ยิ่งตอนอยู่ basement นี่แทบไม่มีสัญญาณเลย เราใช้ wifi ของโรงแรมเอา แต่ข้อดีของเครือข่ายนี้คือ โทรกลับไทยได้ฟรีไม่อั้นเลย