5G หรือเทคโนโลยีระบบเครือข่ายมือถือรุ่นที่ 5 ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็น big leap หรือพัฒนาการแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือ

เพราะ 5G ไม่ได้มีแค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่ถูกออกแบบให้รองรับ application ล้ำๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้อย่างเช่น รถยนต์ไร้คนขับ(self-driving car application), AR (Augmented Reality), Virtual Reality, Hologram Application เป็นต้น

ดังนั้น 5G จึงมีความเร็วของการเชื่อมต่อในระดับ 20Gbps , มีความล่าช้าของสัญญาณต่ำกว่า 2.5ms[ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าสัญญาณล่าช้าพวก application ข้างบนสะดุดหมด] และออกแบบมาให้รองรับการสื่อสารระหว่าง machine-2-machine (หรือ internet of things ที่เราคุ้นหูกันดี)

ด้วยความเร็วการเชื่อมต่อสูงขนาดนั้น การรับส่งสัญญาณระหว่างสถานีฐานกับตัวมือถือ จะต้องถูกเปลี่ยนเป็นแบบรับส่งข้อมูลหลายช่องสัญญาณพร้อมๆ กัน (เหมือนถนนหลายๆ เลนแบบมอเตอร์เวย์) ตอนนี้ทำได้ถึง 16 ช่องสัญญาณพร้อมกัน และความถี่ที่ใช้ในการส่งข้อมูลก็จะขยับไปใช้ความถี่ที่สูงขึ้นในช่วง 3-73 GHz (ปจบ บ้านเราใช้ความถี่ย่าน 850MHz, 900MHz, 1.9GHz, 2.1GHz ในการรับส่งข้อมูล)

ทั้งฝั่งมือถือและสถานีฐานจะถูกออกแบบใหม่ สถานีฐานจากที่มีสายอากาศไม่กี่อัน จะมีสายอากาศเพิ่มขึ้นทวีคูณ ตอนนี้ใส่เข้าไปได้ถึง 64 อันเข้าไปแล้ว ตัวมือถือก็ต้องสามารถรับสัญญาณได้พร้อมกันหลายๆ ช่องสัญญาณ

ขณะนี้เทคโนโลยีกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา ซึ่งก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง รูปที่ cap มาให้ดูเป็นเครื่องมือถือต้นแบบ ช่วงปลายปี 2014 เครื่องใหญ่มากใหญ่กว่าตู้เย็นอีก และได้ความเร็วแค่ระดับ 4-5 Gbps เมื่อต้นปี 2016 สังเกตได้ว่าเครื่องเล็กลงแล้วนะ และความเร็วขึ้นไปที่ 19Gbps

ญี่ปุ่น (์NTT Docomo) ต้ังเป้าจะเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดใช้งานเครือข่าย 5G โดยตั้งใจให้ทันช่วงโอลิมปิค 2020 เมื่อถึงตอนนั้น เครื่องต้นแบบขนาดใหญ่ที่เราเห็น จะถูกย่อให้มีขนาดเล็กจนเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของเราได้

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล Nokia,Ericsson, BBC
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=UF2c-6UW7pA
https://www.youtube.com/watch?v=ow9hIIVg7VY