[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคม บอกลาการเป็นมนุษย์เงินเดือนชั่วคราว ขอออกไปใช้ชีวิตเป็น Backpacker สักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วจังหวัดสุโขทัยก็แว้บเข้ามาในหัว เปิดดูรีวิวต่าง ๆ ในพันทิป ส่วนใหญ่จะมีแต่การไปพิชิตเขาหลวง จริง ๆ ก็อยากไปนะคะ แต่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวขับรถไม่เก่งเน้นรถสาธารณะก็เอาแค่เท่าที่ทำได้แล้วกัน ในใจวาดฝันว่าอยากนั่งรถไฟไปสุโขทัย ดูเป็นชีวิตแบ็คแพ็คเกอร์ที่สวยงาม แต่เอาเข้าจริงสุโขทัยมีรถไฟผ่านแค่วันละ 2 เที่ยวและจอดที่สถานีสวรรคโลก เลยจองตั๋วบขส.แค่ขาไปอย่างเดียวกะว่าขากลับจะไปนั่งรถไฟที่พิษณุโลก แล้วเวียงจันทร์ก็โผล่เข้ามาในหัวอีกรอบ จากภาคกลางตอนบนฉีกไปอีสานเลยนะ? ไหวเหรอ? พยายามลองหาข้อมูลเท่าที่จะพอช่วยได้ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่าทั้งนั้น แล้วก็พบว่าที่สถานีขนส่งพิษณุโลกมีรถทัวร์ไปอุดร จากที่คิดจะนั่งรถไฟกลับกรุงเทพเลยเปลี่ยนเป็นจองตั๋วเครื่องบินกลับแทน โชคดีที่เจอตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพราคา 600 บาทพอให้ชื่นใจ จัดการจองตั๋วรถทัวร์-ตั๋วเครื่องบินวันที่ 2 กันยายน, 3 กันยายน หาซื้อของใช้ส่วนตัว, 4 กันยายน หาข้อมูลทั้งคืน

เช้าตรู่วันจันทร์ที่ 5 กันยายน ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 3 เพราะในเว็บขสมก.บอกว่ามีรถเมล์ไปหมอชิตทั้งคืน เลยเรียกแท็กซี่จากบางบอนไปลง BTS กรุงธนบุรี แต่... รอมา 1 ชั่วโมง ไม่มีรถเมล์สายนั้นวิ่งมาเลยสักคัน ท้ายสุดเวลาเริ่มกระชั้นเข้ามาทุกทีเลยตัดสินใจเรียกแท็กซี่ พอนั่งปุ๊บ รถเมล์สายที่ต้องการจะนั่งก็วิ่งผ่านหน้าไปแบบเก๋ๆ แต่ช่างเถอะ มีเวลาไม่มากแล้ว แถมยังไม่ได้กินข้าวด้วย ไปถึงหมอชิตตีห้าครึ่ง ไปรับตั๋วโดยสารแบบงง ๆ เพราะเพิ่งจะขึ้นรถทัวร์ครั้งแรก ได้ตั๋วแล้วรีบซื้อของกินที่ 7-11 ก่อน กะว่ากินอื่มแล้วก็หลับในรถยาว ๆ กว่าจะขึ้นสุโขทัยก็ 7 ชั่วโมง

ป.ล. เป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง ถ่ายรูปไม่สวยนะคะ ใช้กล้อง Sony HX90V และมือถือ Asus Zenfone2 Laser ค่ะ



รถคันนี้เป็นเบาะนวดไฟฟ้าค่ะ แต่กดปุ่มแล้วมันไม่ทำงาน ㅠㅠ เลยเปิดกูเกิ้ลแล้วพบว่าต้องบอกพนักงานบนรถให้เปิด ด้วยความเกรงใจเลยเอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าค่ะ ถ้าได้นั่งรถทัวร์ไปเที่ยวอีกจะบอกให้เขาเปิดระบบเบาะนวดสักหน่อย



สิ่งที่สำคัญที่สุดของการไปเที่ยวค่ะ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ใกล้ไกล ต้องพกทิชชู่เปียกไว้ตลอด และต้องเลือกทิชชู่เปียกของน้องหมาเท่านั้น เพราะใช้สำหรับเข้าห้องน้ำโดยเฉพาะ



พนักงานบนรถเสิร์ฟของว่างค่ะ เป็นเค้กกล้วยหอมกับกาแฟพร้อมครีมเทียมและน้ำตาล เราไม่ดื่มกาแฟเวลาไปเที่ยวค่ะ เพราะดื่มทีไรจู๊ด ๆ ตลอด เลยเก็บใส่กระเป๋าไว้ดื่มตอนอยู่โรงแรม



รถของบขส.ขับด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอดเส้นทางค่ะ มีมิเตอร์ความเร็วแจ้งอยู่ด้านหน้าของรถ ช่วงเวลาที่อยู่ในรถก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทางจนผ่านสะพานข้ามแม่น้ำปิงของจังหวัดกำแพงเพชร



รถบขส.วิ่งผ่านอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรด้วย ถ่ายรูปมาได้แค่นี้เอง ถ้ามีโอกาสอยากมาเที่ยวจังหวัดนี้ค่ะ



ในที่สุดก็มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารสุโขทัยเวลาบ่ายสองโมง ใจจริงอยากนั่งรถสองแถวเข้าที่พัก แต่ด้วยความเพลียและหิวเรียกตัดสินใจเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ โรงแรมชินวัฒน์ อยู่ในซอยตรงข้ามวัดราชธานี เราจองห้องแอร์กับ Agoda ไว้ในราคา 320 บาทต่อคืน



โรงแรมเก่ามากแล้วและอาจจะเป็นโรงแรมที่มีห้องแอร์ถูกที่สุดในตัวเมืองค่ะ แต่แอร์เย็นนะคะ พอถึงห้องพักก็ล้างหน้า นอนพักสายตา 10 นาที มองดูนาฬิกาในมือถือเป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง เลยตัดสินใจลุกออกไปเที่ยวค่ะ



จากหน้าโรงแรมชินวัฒน์เดินข้ามสะพานพระร่วง เลย 7-11 ไปอีกนิด จะมีรถสองแถวไปเมืองเก่าจอดอยู่ ค่าโดยสารก็อยู่ที่ 20 บาท ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร



รถสองแถวจอดหน้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเลยค่ะ สามารถเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเช่าจักรยานได้เลย เราเช่าจักรยานที่ร้านอ.ช็อป ค่าเช่า 30 บาท เจ้าของร้านใจดีมากค่ะ



แวะมาสักการะองค์พ่อขุนรามคำแหงเป็นอย่างแรก อากาศในช่วงนั้นครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่ก็ร้อนพอสมควรค่ะ



ขี่จักรยานมาจอดที่วัดชนะสงครามที่อยู่ใกล้กับองค์พ่อขุนรามคำแหง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วัดชนะสงคราม ตั้งอยู่ทางเหนือของวัดมหาธาตุ และอยู่ใกล้กับโบราณสถานที่เรียกว่าศาลหลักเมืองด้วย วัดนี้เดิมเรียกกันว่าวัดราชบูรณะ ลักษณะเด่นก็คือ มีเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่เป็นเจดีย์ประธาน ด้านตะวันออกมีวิหาร โบสถ์ และเจดีย์รายต่าง ๆ แผนผังของวัดนี้มีที่พิเศษออกไปคือ มีเจดีย์ทรงวิมานขนาดเล็กขนาบเจดีย์ประธานที่ด้านตะวันออก คล้ายที่วัดเจดีย์เจ็ดแถวเมืองศรีสัชนาลัย น่าจะเป็นเจดีย์ที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นในระยะเวลาต่อมา



วัดสระศรี - ตระพังตระกวน ถ่ายจากฝั่งวัดชนะสงคราม (ตระพังเป็นภาษาเขมรแปลว่าสระน้ำ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานสำคัญอยู่บริเวณกลางสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ ชื่อว่า ตระพังตระกวน และสิ่งสำคัญของวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงลังกา ด้านหน้าวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเจดีย์ขนาดเล็ก ศิลปศรีวิชัยผสมลังกา ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ มีซุ้มพระพุทธรูป    4  ทิศ ด้านหน้ามีเกาะกลางน้ำขนาดย่อมเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม



วัดตระพังเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นโบราณสถานสำคัญ ตั้งอยู่บริเวณขอบตระพังเงินด้านทิศตะวันตกของวัดมหาธาตุ ห่างจากวัดมหาธาตุ 300  เมตร โบราณสถานนี้ไม่มีกำแพงแก้ว ประกอบด้วยเจดีย์ทรงดอกบัวตูมเป็นประธาน ลักษณะเด่นของเจดีย์ทรงดอกบัวตูม คือ มีจระนำที่เรือนธาตุทั้งสี่ด้านประดิษฐานพระพุทธรูปยืน และพระพุทธรูปปางลีลา (จระนำ หมายถึง ชื่อซุ้มท้ายวิหาร หรือท้ายโบสถ์ มักเป็นช่องตัน) วิหารประกอบอยู่ด้านหน้า และทางด้านตะวันออกของเจดีย์เป็นเกาะมีโบสถ์ตั้งอยู่กลางน้ำ



วัดศรีสวาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของวัดมหาธาตุ ห่างออกไปประมาณ 350  เมตร โบราณสถานที่สำคัญตั้งอยู่ในกำแพงแก้ว ประกอบด้วยปรางค์ 3  องค์ รูปแบบศิลปะลพบุรี ลักษณะของปรางค์ค่อนข้างเพรียว ตั้งอยู่บนฐานเตี้ย ๆ ลวดลายปูนปั้นบางส่วนเหมือนลายบนเครื่องถ้วยจีน สมัยราชวงศ์หยวน ได้พบทับหลังสลักเป็นรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ ชิ้นส่วนของเทวรูป และศิวลึงค์ที่แสดงให้เห็นว่าเคยเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูมาก่อน แล้วแปลงเป็นพุทธสถานโดยต่อเติมวิหารขึ้นที่ด้านหน้า แล้วเป็นวัดในพุทธศาสนาภายหลัง









วัดมหาธาตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นวัดใหญ่ และวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์ทรงปราสาทก่อด้วยอิฐที่ได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา จากการสำรวจ  พบว่าบริเวณวัดมหาธาตุมีเจดีย์แบบต่าง ๆ มากถึง 200 องค์ วิหาร 10 แห่ง ซุ้มพระ (มณฑป) 8 ซุ้ม พระอุโบสถ 1  แห่ง ตระพัง 4 แห่ง  ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพมหานคร ที่ด้านเหนือ และด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า "พระอัฏฐารศ"

ออกจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยประมาณห้าโมงครึ่ง เอาจักรยานไปคืนแล้วถามเจ้าของร้านว่าแถวนี้มีก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยไหม คุณพี่เจ้าของร้านบอกว่าช่วงเย็นจะไม่ค่อยมีขายแล้ว ส่วนใหญ่จะมีแต่อาหารทั่วไปให้ลองเดินหาของกินตลาดเมืองเก่าดู



แต่ด้วยความหิวและขี้เกียจเดินไปตลาดเมืองเก่า เลยแวะกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารธาราแทน พอทานเสร็จก็รอรถสองแถวอยู่นานมาก ไม่มีผ่านมาเลยสักคันทั้ง ๆ ที่ยังเป็นเวลาแค่หกโมงครึ่ง สอบถามเจ้าหน้าที่หน้าอุทยานเขาบอกว่า รถสองแถวหมดหกโมงเย็น ถ้าจะเข้าเมืองต้องเหมาสามล้ออย่างเดียว งานเข้าค่ะ คิดว่ารถจะหมดประมาณหนึ่งทุ่มเสียด้วยซ้ำ เลยจำเป็นต้องจ่าย 200 บาทเพื่อเหมาสามล้อให้มาส่งหน้าโรงแรม



ก็เลยเดินไปดูหอนาฬิกาก่อนเข้าที่พัก ซื้อน้ำขวดและขนมนิดหน่อยไว้กินตอนดูละครพิษสวาท



ดูละครจบแต่ยังไม่ง่วง ออกมาเดินเล่นแล้วเจอบาร์ใกล้ 7-11 ก็เลยดื่มสักขวดก่อนนอน


จบไปกับการเที่ยวสุโขทัยวันแรก เดี๋ยวมาต่อวันสองค่ะ (กำลังเขียน ^^)